Chapter 4 : ผู้ดูแลเขตCลู่หลัว
หลังจากเผชิญกับความรู้สึกไม่สบายตัวอีกครั้งหลินเซวียนที่ย่างผ่านประตูแสงก็ได้กลับมายังฐานขององค์กรเจอร์มินอล
เขาใช้สกิล [อ่อนแอ] เพื่อกดเลเวลลงจากเลเวล9ขอบเขต0เหลือเพียงเลเวล3ขอบเขต0และค่าสถานะเองก็ถูกกดเอาไว้กว่า20แต้ม
เบื้องหน้าเขา เหล่านักกู้ซากแดนรกร้างจำนวนมากได้ตั้งแถวและส่งมอบไอเทมออกไปทีละคนๆ
ถ้ำหินยักษ์นั้นมีไอเทมอยู่หลากหลาย ตั้งแต่สินแร่และชิ้นส่วนอสูรปิศาจ ภารกิจในการให้หาไอเทมกลับมาสิบชิ้นจึงไม่ถือว่าง่ายหรือยากจนเกินไป
ถ้าโชคไม่ดีก็อาจจะทำภารกิจไม่สำเร็จ
ยกตัวอย่างเช่นครั้งนี้ราชันย์มังกรดินเกิดอาละวาดขึ้นมาถึง28ชั่วโงมทำให้หลายๆไม่ได้หาไอเทมไปร่วมวัน
หลินเซวียนปรายตามองไปรอบๆและพบว่ามีนักกู้ซากจำนวนมากที่ดูหดหู่และกังวล เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาทำภารกิจไม่สำเร็จ
ผู้ดูแลเขตCอย่างหยางเว่ยเองก็กำลังตำหนิอยู่
“หลิวเจี่ย! วัตถุดิบเจ็ดชิ้น นายทำภารกิจล้มเหลว!”
“จางซาน! วัตถุดิบหกชิ้น ล้มเหลว!”
“จ้าวกง! วัตถุดิบ19ชิ้นและได้มากระทั่งถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ ดีมาก!”
จ้าวกงยิ้มประจบประแจง “ทั้งหมดต้องขอบคุณคำแนะนำดีๆของพี่หยางครับ ผมนำถุงน้ำดีของงูนี่กลับมาให้พี่หยางโดยเฉพาะเลย!”
ผู้ดูแลนามหยางเว่ยหัวเราะเสียงดังสนั่นและเอ่ยขึ้น “ดาบเกรดสีเขียว(ไม่ธรรมดา)นี่เป็นของนายแล้ว!”
เหล่านักกู้ซากคนอื่นๆแสดงสีหน้าอิจฉาออกมา
การทานถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำจะเพิ่มค่าความว่องไวได้หนึ่งแต้มอย่างถาวร ไอเทมที่สามารถเพิ่มค่าสถานะได้อย่างถาวรเช่นนี้ถือว่าหาได้ยากมาก ไม่แปลกใจเลยที่หยางเว่ยจะดูมีความสุขขนาดนั้น
“ถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ?”
หลินเซวียนอดหัวเราะไม่ได้
เขายังมีถุงน้ำดีนี่อยู่ในมิติส่วนตัวอีก13ถุงแถมยังกินไปแล้ว10ถุงด้วย
หยางเว่ยตบไหล่ของจ้าวกงด้วยความพึงพอใจและส่งสัญญาณให้นักกู้ซากคนถัดไปเดินเข้ามา
เมื่อเห็นวัตถุดิบที่อีกฝ่ายส่งมาหยางเว่ยก็เปลี่ยนสีหน้าจากหน้ามือเป็นหลังเท้า กลับกลายเป็นสีหน้าปรปักษ์และกราดเกรี้ยวขึ้นมาทันใด
“หลี่เฉียงมีวัตถุดิบมาแค่3ชิ้น นี่แกไปทำอะไรมา?! นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่แกทำภารกิจล้มเหลว!”
หยางเว่ยเดินเข้าไปเตะนักกู้ซากนามหลี่เฉียงคนนั้นอย่างแรง
สีหน้าของอีกฝ่ายแสดงความเจ็บปวดสุดแสนออกมาจากการถูกเตะจนตัวงอราวกับกุ้งต้ม
ยังไงก็ตามถึงกระนั้นแล้วเขาก็ยังคงฝืนลุกขึ้นและกอดขาของผู้ดูแลหยางเว่ยเอาไว้ “พี่หยาง ผม...”
“ไสหัวไป! แกทำพลาดสามครั้งติดต่อกันแล้ว ทางองค์กรสามารถบีบยกเลิกสัญญาณกับแกได้แล้ว ไสหัวไปซะ!”
หยางเว่ยเตะอีกฝ่ายกระเด็นออกไปด้วยสีหน้าขยะแขยง
“พี่หยางให้โอกาสผมเถอะ ผมยังมีลูกต้องดูและผมจะเสีย...” หลี่เฉียงฝืนลุกขึ้นอีกครั้ง
ยังไงก็ตามหนนี้เขาไม่ทันได้เข้าไปแตะขาของหยางเว่ยก็ถูกลูกน้องสองคนของอีกฝ่ายหิ้วปีกออกไปเสียก่อน
“เห็นนี่ไหม? นี่คือตัวอย่างของพวกที่ทำภารกิจไม่สำเร็จ!”
“ด้านนอกนั่นยังมีพวกผู้อพยพรออยู่อีกมาก ในเมื่อพวกแกทำภารกิจไม่สำเร็จก็จะต้องมีคนอื่นมาแทนที่พวกแก!”
“การที่ทางองค์กรเซ็นสัญญากับพวกแกนับว่าเป็นลาภอันประเสริฐแล้ว! อย่าได้โง่นัก!”
หยางเว่ยมองไปรอบๆและเอ่ยด่ากราด
เหล่านักกู้ซากทุกคนก้มตามองต่ำอย่างกังวลและไม่กล้าแม้แต่จะแสดงท่าทีไม่พอใจ
สำหรับนักกู้ซากแดนร้างแล้วผู้ดูแลคือผู้มีอำนาจสูงสุดและไม่อาจต่อต้านได้
หลินเซวียนถอนหายใจ
เขาเองก็ถือว่าโชคไม่ดีเหมือนกันที่มีผู้ดูแลเป็นคนอย่างหยางเว่ย
เมื่อครู่นี้จ้าวกงมอบถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำให้แต่หยางเว่ยกลับตอบแทนอีกฝ่ายเพียงดาบเกรดสีเขียว
และต่อให้เขาให้ถุงน้ำดีมากกว่านี้อีกฝ่ายก็คงไม่ได้รางวัลอะไรมากไปกว่านี้จากผู้ดูแลขี้งกคนนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สถานะและตัวตนเลย
ถ้าเพียงแต่เขามีผู้ดูแลคนอื่นล่ะก็...
ไม่นานนักก็ถึงตาของหลินเซวียน
หลินเซวียนเองก็แสร้งแสดงท่าทีกังวลไม่กล้าทำตัวสูงส่งนัก
หยางเว่ยเห็นว่าเป็นเขาจึงเอ่ยดูถูกออกมา “แกเองก็เหมือนกับหลี่เฉียงนั่นแหละ แกทำภารกิจพลาดมาสองครั้งแล้ว ถ้าหนนี้พลาดอีกทางองค์กรก็จะสามารถบังคับฉีกสัญญากับแกได้เหมือนกัน”
หลังจากกล่าวจบหยางเว่ยก็หยิบเครื่องสแกนออกมาและเตรียมจะทำการสแกนปลอกคอของหลินเซวียน
หากแต่ในวินาทีนั้นเองเสียงย่ำเก้าก็ได้ดังขึ้นมาจากอีกฝากหนึ่งของห้อง
“หยางเว่ยนายมีถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำรึเปล่า? เอามาให้ฉัน7ถุงสิ”
เสียงใสกระจ่างดังขึ้นขัดจังหวะของหยางเว่ย
ทันทีหลังจากนั้นโลลิสุดน่ารักหากแต่เย็นชาเหลือร้ายพร้อมด้วยผมทรงหางม้าและชุดสูทตัวน้อยก็ได้เดินเข้ามา เจ้าหล่อนดูมีอายุเพียง13ถึง14ปีเท่านั้น
หลินเซวียนชะงักไปชั่วครู่ เขารู้จักตัวตนของคนผู้นี้ดี
โลลิตัวน้อยผู้นี้มีชื่อว่าลู่หลัว เธอแม้จะดูไม่มีพิษมีภัยแต่แท้จริงนั้นเป็นถึงผู้ดูแลเขตCและยังมีเลเวลเดียวกับหยางเว่ยอีกด้วย
เขายังได้ยินมาอีกด้วยว่าเดิมทีแล้วลู่หลัวไม่ได้มีลักษณะเช่นนี้แต่เจ้าหล่อนดันไปเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดเข้าเลยจบลงแบบนี้
ยังไงก็ตามฟังจากน้ำเสียงของลู่หลัวแล้วเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าหล่อนไม่ได้มีความเกรงใจต่อหยางเว่ยเลยซักนิดเดียว มาถึงเจ้าหล่อนก็เปิดปากเลยว่า ‘เอามาให้ฉันสิ’ ซึ่งแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องการให้หยางเว่ยมอบถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ7ถุงให้กับเธอแบบฟรีๆ
ต่อให้หยางเว่ยมีพวกมันเขาก็ไม่ยินดีจะมอบให้
สีหน้าของหยางเว่ยมืดครึ้มขึ้นมาทันที “ลู่หลัวเธอรับหน้าที่จัดการเขตCส่วนเขตBเป็นหน้าที่รับผิดชอบของฉัน ถ้าอยากได้ถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำก็ให้นักกู้ซากของเธอหามาซะ ทำไมฉันต้องเอาของฉันให้เธอด้วย?”
ลู่หลัวจ้องไปที่หยางเว่ยด้วยสายตาเย็นชา
จากนั้นเจ้าหล่อนก็คว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยมือเดียวและทุ่มร่างของอีกฝ่ายลงพื้น
ปัง!
หัวของหยางเว่ยกระแดกกับพื้นอย่างแรงจนเลือดกำเดาไหล
“นี่ไงเหตุผล” ลู่หลัวกล่าวด้วยท่าทีไม่แยแส
หยางเว่ยม้วนตัวลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกตะลึงปนโกรธเคือง “เธอเลเวล9ขอบเขต3แล้วงั้นหรอ?”
ลู่หลัวขมวดคิ้ว “เลิกไร้สาระซักที ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ทำไมฉันจะต้องมาวิ่งวุ่นหาของพวกนี้เพื่อเพิ่มค่าสถานด้วยล่ะ*?” (*ถ้าขึ้นขอบเขต4แล้วจะใช้ไม่ได้แล้ว)
หลินเซวียนกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันใด
คนคนหนึ่งสามารถทานไอเทมหายากขอบเขต0อย่างถุงน้ำดีอสรพิษเกล็ดดำและเขาวัวคลั่งได้เพียง10ชิ้นเท่านั้นก่อนจะถึงขอบเขตที่4 นี่คือการเตรียมตัวของลู่หลัวที่มีเลเวล9ขอบเขต3และเห็นได้ชัดเลยว่ากำลังจะเตรียมยกระดับสู่ขอบเขตที่4 ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าหล่อนถึงรีบหาถุงน้ำดีนัก
หยางเว่ยกัดฟันแน่นและเอ่ยออกมาได้เพียงว่า “...ฉันไม่ได้กลัวเธอหรอกนะแต่แค่เห็นแค่มิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมงานเท่านั้น...ฉันจะให้เธอฟรีๆอันนึง...แล้วพวกแกล่ะ! ใครยังมีถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำบ้าง? เอาออกมา!”
นักกู้ซากกัดปากแน่น ถ้าคิดจะยอมแพ้ก็ยอมไปคนเดียวสิจะมาลากพวกเขาไปด้วยเพื่ออะไร?
นักกู้ซากพากันเงียบงันและก้มหน้ามองต่ำ
“ไม่มีเลย?” หยางเว่ยหันไปหาลู่หลัว “ดูเอาสิพวกนี้ก็ไม่มีเหมือนกัน”
ลูหลัวขมวดคิ้ว “ฉันรู้นะว่าพวกนายหลายคนน่าจะซ่อนมันเอาไว้เพื่อแสดงความภักดีต่อหยางเว่ย ฉันจะยื่นข้อเสนอให้แล้วกัน ตราบใดที่พวกนายส่งถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำมาก็เข้าร่วมเขตCของฉันได้เลย นอกจากนี้ฉันยังจะลบบันทึกโทษในปลอกคอให้ด้วย”
ทันทีที่เจ้าหล่อนกล่าวจบเหล่านักกู้ซากของเขตBก็เริ่มมีความคิดบางอย่างกันขึ้นมา
หลินเซวียนเองก็เช่นเดียวกัน
หยางเว่ยเองก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความคิดของพวกเขาและส่งสายตาดุร้ายไปยังนักกู้ซากเหล่านี้ทันที แววตาปรปักษ์นั่นเห็นได้อย่างชัดเจน
ยังไงซะต่อให้จัดการกับลู่หลัวไม่ได้เขาก็ยังจัดการกับคนพวกนี้ได้
เหล่านักกู้ซากที่เห็นสายตานี้ก็พากันสะดุ้ง
ต่อให้พวกเขาจะหนีจากเขตBไปเขตCหยางเว่ยก็ยังถือว่าเป็นหัวหน้าอยู่ดี ถ้าอีกฝ่ายคิดจะสร้างปัญหาให้พวกเขาพวกเขาย่อมแบกรับผลที่ตามมาไม่ไหว
หยางเว่ยแค่นเสียงในลำคอและเชิดหัวขึ้นด้วยท่าทีจองหอง
เหล่าพวกที่หาถุงน้ำดีจากถ้ำหินยักษ์มาได้อย่างน้อยก็ต้องเป็นขอบเขต0เลเวล4
ก่อนหน้านี้หยางเว่ยกล่าวว่ามีผู้อพยพอยู่อีกมากด้านนอก เขาหมายถึงนักสู้เลเวล1-3ในขอบเขต0เท่านั้น ยังไงก็ตามหลังจากก้าวถึงเลเวล4ขอบเขตที่0แล้วก็จะนับได้ว่าเป็นนักสู้ขอบเขต0ที่ทรงพลังคนหนึ่ง
ลู่หลัวพยายามแย่งคนของเขาอย่างโจ่งแจ้ง นี่มันเกินจะทนแล้ว!
ลู่หลัวที่เห็นท่าทีเช่นนั้นก็ปรายตามองมาที่เขา “คั่นเนื้อคั่นตัวอยากโดนกระทืบรึไง?”
ขนบนร่างของหยางเว่ยลุกชันพร้อมกันหันหน้าหนีก่อนจะพึมพำออกมาในใจ ‘ผู้ชายเราบางครั้งก็ต้องยอมบ้างถอยบ้าง’ เขาพยายามปลอบตัวเองว่าอย่าเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับสาวน้อย
ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมนั่นเองหลินเซวียนจู่ๆก็ยกมือขึ้น
“ผมมีถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ”