Chapter 3 : ก้าวสู่เลเวล9ขอบเขต0ใน3วัน
เหล่าผู้ประกอบอาชีพในสถานีไร้ภัยต่างก็ตื่นตระหนกกันขึ้นมา
“ราชันย์มังกรดินบนชั้นที่10เริ่มอาละวาดอีกแล้ว ทุกๆครั้งที่มันอาละวาดจะทำให้อสูรปิศาจในถ้ำหินยักษ์บ้าคลั่งก่อนเวลา”
“เร็วเข้ารีบเปิดสัญญาณเตือนภัยและเรียกพวกนักกู้ซากกลับมาก่อนกำหนดซะ พวกเราจะอยู่ข้างนอกต่อไปไม่ได้!”
ไม่นานนักเสียงประกาศเตือนของสถานีไร้ภัยก็ดังขึ้น
“ราชันย์มังกรดินอาละวาดแล้ว! เหล่านักกู้ซากแดนรกร้างทุกคนโปรดระมัดระวังและกลับมายังสถานีไร้ภัยเดี๋ยวนี้! กลับมายังสถานีไร้ภัยเดี๋ยวนี้!”
เสียงแจ้งเตือนดังกึกก้องไปทั่วถ้ำหินยักษ์ ตราบใดที่หูไม่หนวกก็ย่อมได้ยินเสียงเตือนแหลมสูงที่ดังทะลุชั้นหินไปหลายร้อยเมตรนี้ได้แน่นอน
หลินเซวียนยักไหล่
บนชั้นที่สิบของแดนลับมีราชันย์แดนลับอาศัยอยู่
ราชันย์แดนลับประจำชั้นที่สิบของแดนลับนั้นคืออสูรปิศาจขอบเขต0เลเวล9ของชั้นที่9ที่เปลี่ยนร่าง หลังจากเปลี่ยนร่างค่าสถานะทั้งหมดของพวกมันจะเพิ่มขึ้น15%และได้รับสกิลสีม่วงสุดแสนจะล้ำค่าแบบสุ่มจากถ้ำหินยักษ์
แน่นอนว่าถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ตราบใดที่นักกู้ซากร่วมมือกันตั้งทีมขึ้นมาก็ย่อมสามารถสังหารราชันย์แดนลับลงได้
ราชันย์แดนลับเก้าตัวก่อนหน้านี้ถูกสังหารและแทนที่ด้วยตัวใหม่อย่างรวดเร็ว มีเพียงราชันย์มังกรดินเท่านั้นที่ยากจะสังหาร ที่ผ่านมากว่าครึ่งปียังไม่มีใครเลยที่สามารถสังหารมันลงได้และมันก็ยังคงรั้งอยู่บนชั้นที่สิบ ในช่วงครึ่งปีนี้มีนักกู้ซากจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วที่ตกตายลงภายใต้กงเล็บของราชันย์มังกรดิน
เนื่องด้วยเหตุนี้ราชันย์มังกรดินเลยได้รับสมญาจากถ้ำหินยักษ์ว่า – ‘ราชันย์แดนลับผู้โชกโชน’ กล่าวอีกนัยหนึ่งมันก็คือราชันย์แดนลับที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มานักต่อนัก
หลังจากได้รับสมญานี้ค่าสถานะของราชันย์มังกรดินก็เพิ่มขึ้นอีก15% นอกจากนี้ยังได้สกิลสีม่วงสุดล้ำค่ามาอีกสองสกิลทำให้ยากจะสังหารขึ้นไปอีก
ด้วยเหตุนี้เองทำให้ราชันย์มังกรดินกลายเป็นจ้าวเหนือหัวประจำถ้ำหินยักษ์ เพียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของมันก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างใหญ่หลวง
หลินเซวียนเองก็เคยพบกับเหตุการณ์การอาละวาดของราชันย์มังกรดินมาแล้วหลายครั้ง ยังไงก็ตามตัวเขานั้นระวังตัวแจและมักจะหนีกลับมายังสถานีไร้ภัยก่อนเวลาเสมอ
ในเวลานี้เองเสียงย่ำเท้าฟังดูวุ่นวายพลันดังมาจากด้านหน้าทางเข้าของสถานีไร้ภัย นักสู้จำนวนมากพากันหลั่งไหลเข้ามา
“เชี่ยเอ๊ยพวกเราเกือบจะฆ่าไอ้วัวนั่นได้อยู่แล้วแท้ๆ ทำไมจู่ๆราชันย์มังกรดินถึงได้อาละวาดวะ? โชคร้ายชิบหาย!”
“พวกแกควรจะดีใจนัก ครั้งล่าสุดมีนักกู้ซากกว่า30คนที่หนีมายังสถานีไร้ภัยไม่ทันเวลาและตกอยู่ภายใต้คลื่นอสูรที่กำลังบ้าคลั่ง ครั้งนี้กลับมาก่อนเวลาก็ถือว่าไม่เลวนัก!”
นักกู้ซากต่างแสดงสีหน้าหมดหนทางหรือไม่ก็โล่งใจออกมา พวกเขาทำได้เพียงรวมกลุ่มพูดคุยกันเท่านั้น
หลินเซวียนมองไปยังคนพวกนั้นและบังเกิดความคิดขึ้นมา
ร่างของราชันย์มังกรดินใหญ่โตมากและทุกครั้งที่มันขยับตัวก็มักจะทำให้หินจำนวนมากมายหล่นลงมา ตามปกติแล้วการกระทำเช่นนี้ของมันจะทำให้แร่ใหม่ๆปรากฏและโอกาสที่แร่ระดับสูงจะโผล่มาเองก็เพิ่มขึ้นด้วย
ในวินาทีนี้เองเขาก็พลันได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาในหัว
[ข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำหินยักษ์ : ภายใต้อิทธิพลจากการอาละวาดของราชันย์มังกรดินทำให้แร่ส่วนลึกปรากฏและจะคงอยู่ในชั้นแรกๆของถ้ำเป็นระยะเวลา28ชั่วโมง]
หลินเซวียนยิ้มแต้ อย่างที่คิด!
ตอนนี้นักกู้ซากส่วนใหญ่กลับมายังสถานีไร้ภัยแล้วเนื่องจากเสียงเตือนและแทบจะไม่มีใครเลยที่ได้เห็นแร่ระดับสูงเหล่านั้น ท้ายที่สุดพวกมันก็จะถูกกิ้งก่ากลืนทองกวาดไปจนหมด!
หลินเซวียนสลับไปที่การมองเห็นของกิ้งก่ากลืนทองและเห็นว่าเจ้าตัวน้อยนี่กำลังทานอย่างเอร็ดอร่อย
มันกำลังทานแร่หายากอย่างมีความสุข
ในชั้นแรกของถ้ำหินยักษ์นั้นสถานที่ส่วนใหญ่จะมีเพียงสินแร่เลเวล1ขอบเขต0เท่านั้นและมีเพียงไม่กี่คนที่เคยพบเจอกับสินแร่เลเวล2ขอบเขต0
ยังไงก็ตามเนื่องจากการอาละวาดของราชันย์มังกรดินทำให้สินแร่เลเวล2ขอบเขต0บนชั้นที่0ของถ้ำหินยักษ์หล่นลงมายังชั้นหนึ่งนี้ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆกิ้งก่ากลืนทองจึงได้ขุดสินแร่เลเวล2ขอบเขต0ไปมากมายแล้ว
ค่าประสบการณ์ที่ได้จากสินแร่เลเวล2ขอบเขต0นั้นดียิ่งกว่า หลังจากทานไม่กี่ก้อนเลเวลของกิ้งก่ากลืนทองก็เพิ่มขึ้นจากเลเวล1กลายเป็นเลเวล2ขอบเขต0
“เยี่ยมเลย ทีนี้ก็ไปฝึกที่ชั้นสองได้แล้ว การอาละวาดของเจ้าราชันย์มังกรดินนี่เป็นโอกาสดีของฉันจริงๆ ฉันควรจะตั้งเป้าไปที่การเพิ่มเลเวลของกิ้งก่ากลืนทองให้ถึงเลเวล3ขอบเขต0ให้ได้เร็วที่สุด”
หลินเซวียนมีความสุขยิ่งนัก ตัวเขาเพียงค่าสั่งซุปเนื้อแกะมาและนั่งดูกิ้งก่ากลืนทองทานเข้าไปเรื่อยๆก็พอ
สู้ ขุดเหมือง กินแร่ สู้อีก ขับถ่าย ขุดเหมือง ผสมพันธุ์ กินแร่...
หือ? ทำไมถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ?
[พื้นที่ปัจจุบัน : ถ้ำหินยักษ์เลเวล2 (2เหรียญทั่วไป/นาที , ค่าประสบการณ์10แต้ม/นาที)]
[กิ้งก่ากลืนทองได้ฝึกฝนมาแล้ว4ช่วงโมงและถึงขีดจำกัดของระยะเวลาการฝึกฝนแล้ว : ได้รับ480เหรียญทั่วไป , ค่าประสบการณ์2,400แต้ม , หนังสือสกิลขอบเขต0สองเล่ม , ถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ1อัน , ผลกระเพาะหิน1ผล , เขาของวัวคลั่ง2ชิ้น , ดอกบำรุงวิญญาณ1ดอก , แร่เหล็ก66ก้อน , แร่เหล็กเมฆา8ก้อน , แร่ทองแดงภูเขา3ก้อน – ท่านต้องการรวบรวมหรือไม่?]
หลินเซวียนอารมณ์ดียิ่งนัก ถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ ผลกระเพาะหิน เขาของวัวคลั่งและดอกบำรุงวิญญาณเมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ไอเทมค่าสถานะ’ ซึ่งก็เป็นดังชื่อของมัน พวกมันสามารถเพิ่มค่าสถานะได้ถาวร โดยพวกมันจะเพิ่มค่าความเร็ว ความอดทน พละกำลังและพลังจิตได้1แต้มตามลำดับ
ยังไงก็ตามแต่ละคนนั้นสามารถทานได้อย่างมากสุดก็แค่10ครั้งต่อชนิดเท่านั้น ถ้าทานมากกว่านี้ไปก็ไร้ประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้นถ้านักสู้ขอบเขตที่4ยังเคยกินไม่ถึง10ถ้างั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะกินอีกต่อไป ดังนั้นนักสู้ทั้งหลายจึงมักจะพยายามขวนขวายหาไอเทมหายากเหล่านี้มาให้ได้ก่อนจะกลายเป็นนักสู้ขอบเขตที่4
ส่วนเหล็กเมฆาและทองแดงภูเขานั้นเป็นสินแร่ขอบเขต0
เขาพึมพำออกมาเบาๆ “รวบรวม”
กองไอเทมจำนวนมากปรากฏขึ้นมาในมิติส่วนตัวของเขาอีกครั้ง
หนังสือสกิลเลเวล0ที่ได้มาทั้งสองเล่มคือสกิล [อ่อนแอ]
...
[ชื่อ : อ่อนแอ]
[ระดับ : เลเวล1ขอบเขต0]
[เกรด : ขาว(ทั่วไป)]
[ข้อจำกัดในการเรียนรู้ : พลังจิต 7]
[ความสามารถ : ใช้พลังเวทย์15%เพื่อลดพลังของอีกฝ่ายลงหนึ่งเลเวลและค่าสถานะอีก5แต้มเป็นระยะเวลา5นาที]
...
หลินเซวียนตบหน้าขาอย่างมีความสุข “สกิลนี้แหละที่เรากำลังต้องการ!”
ตอนนี้เขามีค่าประสบการณ์อยู่เป็นกระบุงและยังมีของอย่างพวกถุงน้ำดีอสรพิษเกล็ดดำที่เพิ่มค่าสถานะได้แบบถาวรอีก ยังไงก็ตามตัวเขาไม่อาจเลเวลอัพเร็วเกินไปนักดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงค่าสถานะเลย
นี่ก็เป็นเพราะว่าผู้สังเกตุสามารถมองเห็นเลเวลและค่าสถานะของเขาผ่านทางปลอกคอนักกู้ซากได้!
[อ่อนแอ] อาจจะไร้ประโยชน์สำหรับนักสู้คนอื่น มันมีประโยชน์เพียงแค่ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรปิศาจที่ทรงพลังกว่ามากๆต่อให้ใช้ [อ่อนแอ] ไปพวกมันก็สามารถจัดการกับคนใช้ได้ไม่ต่างจากขยะอยู่ดี
ยังไงก็ตามสำหรับหลินเซวียนแล้วนี่เป็นสกิลที่ดีที่สุดที่เขามีเลยก็ว่าได้!
“แร่พวกนี้ทิ้งไว้ให้กิ้งก่ากลืนทองกินแล้วกัน เมื่อไหร่ที่มันแข็งแกร่งขึ้นมันก็สามารถเข้าไปฝึกลึกกว่านี้ได้”
“ส่วนพวกถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำเราจะเก็บเอาไว้กินเอง”
สามวันผ่านพ้นไปในพริบตา
[พื้นที่ปัจจุบัน : ถ้ำหินยักษ์ชั้นที่3 (3เหรียญทั่วไป/นาที , ค่าประสบการณ์15แต้ม/นาที)]
[กิ้งก่ากลืนทองได้ฝึกฝนมาแล้ว5ชั่วโมงและถึงขีดจำกัดระยะเวลาการฝึกฝนแล้ว : ได้รับ900เหรียญทั่วไป , ค่าประสบการณ์4,500แต้ม , หนังสือสกิลขอบเขต0แปดเล่ม , อุปกรณ์สวมใส่ขอบเขต0สิบเอ็ดชิ้น , ถุงน้ำดีอสรพิษเกล็ดดำ16อัน , เขาวัวคลั่ง20อัน...แร่เหล็ก189ก้อน , ทองแดง78ก้อน , เหล็กเมฆา28ก้อน , ทองแดงภูเขา13ก้อน...ท่านต้องการรวบรวมหรือไม่?]
หลินเซวียนพึมพำคำว่า ‘รวบรวม’ และเมื่อพบว่าภายในมิติส่วนตัวของเขาพลันเต็มไปด้วยไอเทมมากมายและเหรียญทั่วไปอีกกว่าหมื่นเหรียญเขาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างหาที่สุดไม่ได้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็ชอบสูตรโกง ความรู้สึกเวลาเก็บเกี่ยวเช่นนี้มันสดชื่นจริงๆ
ในช่วงสามวันที่ผ่านมาเขาได้หนังสือสกิลแบบเดียวกันมาเป็นจำนวนมากยกตัวอย่างเช่น [พลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุด] ซึ่งเพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตของผู้ใช้ สกิลติดตัว [กายาเหล็ก] ที่จะเพิ่มพลังป้องกันกายภาพ สกิลติดตัว [กายาหนาม] ซึ่งเพิ่มค่าความเสียหายสะท้อนกลับ [สังเกตุ] ซึ่งจะสามารถตรวจสอบค่าสถานะของอสูรและนักสู้คนอื่นๆได้และ [ซ่อนเร้น] ซึ่งสามารถซ่อนค่าสถานะไม่ให้ดูตรวจสอบได้...
หนังสือสกิลแบบเดียวกันสีขาว5เล่มสามารถผสมกันเป็นหนังสือสกิลสีเขียวได้และสีเขียว5เล่มก็สามารถผสมเป็นสีฟ้าได้ ฟ้า5เล่มก็ผสมเป็นม่วงได้
ดังนั้นสกิล [อ่อนแอ] [เท้ามันเยิ้ม] [กำแพงเหล็ก] [ลอบโจมตี] [พลังชีวิตไร้สิ้นสุด] และ [กายาหนาม] ทั้งหมดจึงได้รับการอัพเกรดเป็นเกรดแรร์สีฟ้าทั้งสิ้น
ในทำนองเดียวกันหลินเซวียนยังได้ยัดค่าประสบการณ์จำนวนมากลงไปกับสกิล [อ่อนแอ] ทำให้สกิลนี้มีเลเวลสูงถึงเลเวล9ขอบเขต0ไปแล้ว
...
[ชื่อ : อ่อนแอ]
[ระดับ : เลเวล9ขอบเขต0]
[เกรด : สีฟ้า(หายาก)]
[ข้อจำกัดในการเรียนรู้ : พลังจิต 7]
[ความสามารถ : ใช้พลังเวทย์5%เพื่อลดระดับของเป้าหมายลง6เลเวลและค่าสถานะอีก20แต้ม ลดสัมผัสการรับรู้และสามารถใช้เพื่อขัดจังหวะการฟื้นฟูพลังของเป้าหมายได้]
...
ด้วยสกิลนี้หลินเซวียนก็สามารถอัพเลเวล ทานไอเทมหายากอย่างถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำและเรียนรู้สกิลมากมายได้โดยไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกองค์กรเจอมินอลรู้เข้าและถูกจับตัวไปทดลอง (ใช้สกิลใส่ลดเลเวลตัวเอง)
เมื่อเห็นหลอดค่าประสบการณ์ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลินเซวียนก็พลันรู้สึกสบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
พริบตาต่อมาค่าสถานะของเขาก็เป็นดังนี้
...
[ชื่อ : หลินเซวียน]
[ระดับ : เลเวล9ขอบเขต0]
[ค่าประสบการณ์ : 2388/9000]
[ค่าสถานะ : อดทน 35 , พละกำลัง 17 , พลังจิต 18 , ความเร็ว 13]
[สกิล : อ่อนแอ , กำแพงเหล็ก , ลอบโจมตี , เท้ามันเยิ้ม , พลังชีวิตไร้ที่สิ้นสุด , กายาหนาม....]
[อุปกรณ์สวมใส่ : ปลอกคอนักกู้ซากแดกรกร้าง , มีดเหล็ก , ชุดเกราะวัวคลั่ง , แหวนอารักษ์]
...
หลังจากเลเวลอัพจากเลเวลหนึ่งเป็นเลเวล9ขอบเขต0เขาก็ได้ค่าสถานะโดยรวมมาถึง18แต้มและหลินเซวียนก็ลงพวกมันทั้งหมดไปกับค่าความอดทน
“การอัพเลเวลจากเลเวล9ขอบเขต0ไปเลเวล1ขอบเขต1จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบยกระดับ ต้องไปที่ชั้นเก้าของถ้ำหินยักษ์เพื่อท้าทายราชันย์แดนลับ”
หลินเซวียนไม่คิดจะคบค้าสมาคมกับใครทั้งนั้น “ต่อไปก็เพิ่มความจุของมิติส่วนตัว”
หลังจากใช้เหรียญทั่วไปไป1,000เหรียญ มิติส่วนตัวที่เดิมทีเลเวล1ก็พลันกลายเป็นเลเวล2 ความจุจาก10ลูกบาศก์เมตรก็กลายเป็น20ลูกบาศก์เมตร
โต๊ะหลอมอุปกรณ์ที่เดิมทีเป็นสีเทาก็เปิดออกด้วยตัวเองและปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลินเซวียน
[โต๊ะหลอมอุปกรณ์นี้สามารถหลอมอุปกรณ์ สินแร่ รูรและอื่นๆได้ โปรดใส่ไอเทมที่ต้องการลงในเบ้าหลอม]
หลินเซวียนลองค้นหาคำว่า ‘สินแร่’ และพบว่ามันหลอมได้เพียงสินแร่เท่านั้น
“แล้วถ้าอยากจะหลอมอย่างอื่นล่ะ?” หลินเซวียนคิดกับตัวเองและพบว่ามีแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา
[ใช้เหรียญทั่วไป5,000เหรียญเพื่อปลดล็อคโต๊ะหลอมตัวที่2 10,000เหรียญเพื่อปลดล็อคตัวที่3...]
หลินเซวียนตบปากตัวเอง เชี่ยเอ๊ยไอ้ตัวหิวเงิน
“ถ้างั้นปลดล็อคตัวที่2เพื่อหลอมอุปกรณ์”
เคร้ง!
โต๊ะหลอมอีกตัวหนึ่งปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า
โต๊ะหลอมตัวนี้ถูกตั้งค่าให้หลอมได้เฉพาะอุปกรณ์สวมใส่เท่านั้น
ในช่วงสามวันที่ผ่านมาเขาได้อุปกรณ์สวมใส่มาเกือบร้อยชิ้น ยังไงก็ตามพวกมันส่วนใหญ่นั้นเป็นเพียงระดับสีขาวเท่านั้น
มีเพียงแหวนอารักษ์ที่ได้มาตอนแรกสุดเท่านั้นที่เป็นสีเขียว
เขามีอุปกรณ์สีขาวและแร่มูลค่าต่ำอยู่เยอะมากซึ่งเปลืองที่เก็บของดังนั้นจึงต้องนำออกมาใช้ซักหน่อย
โต๊ะหลอมนี่แหละคือหนทางที่ดีที่สุด
โต๊ะหลอมสองตัวเริ่มทำงานทันทีและสร้างไอเทมออกมาอย่างรวดเร็ว
แร่เหล็กที่ถูกถลุงจากโต๊ะหลอมตัวแรกจะถูกหลอมต่อจนกลายเป็นแท่งเหล็ก
โต๊ะหลอมตัวที่สองจะหลอมอุปกรณ์สวมใส่สีขาวเพื่อสกัดออกมาเป็นแก่นอุปกรณ์เกรดสีขาวที่ใช้สำหรับอัพเลเวลอุปกรณ์
“สะดวกมากเลยนะเนี่ย ถ้านักสู้คนอื่นอยากได้แท่งเหล็กพวกนั้นต้องซื้อเอาหรือไม่ก็เรียนรู้ทักษะการหลอมเพื่อสร้างขึ้นมาเอง”
“และเพื่อให้ได้แก่นอุปกรณ์ก็จำเป็นต้องเรียนรู้เทคนิคและพื้นฐานการหลอมอุปกรณ์เสียก่อนซึ่งไม่ใช่อะไรที่สามารถทำได้ในเวลาเพียงวันหรือสองวันแน่ๆ”
หลินเซวียนมีความทรงจำที่ได้รับการสืบทอดมาอยู่
ไม่เหมือนกับสกิลต่อสู้ สกิลชีวิตประจำวันนั้นไม่อาจได้มาจากการสังหารอสูรปิศาจ มันจำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองและใช้ค่าประสบการณ์มากกว่าสกิลต่อสู้นับสิบเท่า
สกิลชีวิตประจำวันบางสกิลจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบมากมายในการเรียนรู้ เช่นสกิลปรุงยาและสกิลทำอาหาร
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนถึงได้สนใจในสกิลชีวิตประจำวันน้อยนัก
ในพริบตานี้เองหลินเซวียนก็บังเอิญหันไปเห็นอุปกรณ์ใหม่ๆที่ยังอยู่ในสภาพสีเทา
อุปกรณ์พวกนี้ประกอบไปด้วยที่เป่าลม ทั่งตีเหล็กและถังน้ำ ดูราวกับจุดที่เอาไว้ใช้สำหรับสร้างอุปกรณ์
[โต๊ะสร้างอุปกรณ์ตัวแรกจะปลดล็อคได้ฟรีหลังจากมิติส่วนตัวอัพเกรดถึงเลเวล3]
[ใช้เหรียญทั่วไป10,000เหรียญสามารถเพิ่มระดับมิติส่วนตัวจากเลเวล2เป็นเลเวล3ได้]
หลินเซวียนตื่นเต้นยิ่งนัก
สูตรโกงนี่มันจะสารพัดประโยชนืเกินไปหน่อยแล้ว ตอนนี้กระทั่งอาวุธเขาก็ยังสร้างขึ้นมาเองได้
ยังไงก็ตามตัวเขาใช้เหรียญทั่วไปไปจนหมดแล้วจึงยังไม่มีแผนจะอัพเกรดมิติส่วนตัวไปยังเลเวล3ในตอนนี้
“เวลาสามวันหมดลงแล้ว ได้เวลากลับซักที” หลินเซวียนพอใจยิ่งนัก เขากลับขึ้นไปยังพื้นดินของถ้ำหินยักษ์และเดินตรงไปยังประตูแสง