ตอนที่แล้วChapter 1 : ร่างอวตารร่างแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 3 : ก้าวสู่เลเวล9ขอบเขต0ใน3วัน

Chapter 2 : เก็บเกี่ยว! นักสู้ขอบเขต0เลเวล2


เมื่อเวลาผันผ่านการเก็บเกี่ยวของเขาก็เพิ่มมากขึ้น

หลินเซวียนดีใจยิ่งนัก ไม่ใช่ว่าการโกงเกมแบบนี้เขาเคยเห็นมาตั้งแต่ก่อนข้ามมิติหรอกหรือ?

เขาเข้าใจได้ทันที เขาใจได้อย่างสมบูรณ์

เขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเข้าสู่แดนลับเลยซักนิด ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็แค่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากร่างอวตารฝึกฝนเป็นระยะๆ

เขาพึมพำเสียงแผ่วเบา ‘เก็บรวบรวม’

จากนั้นก็ราวกับว่ามิติประหลาดส่วนตัวของเขาที่มีขนาดราวๆ10ลูกบาศก์เมตรถูกเปิดออก ภายในนั้นมีเหรียญทั่วไปและจุดแสงห้าจุดปรากฏขึ้นมา ส่วนที่เหลือคือค่าประสบการณ์

บริเวณชายขอบของมิติส่วนตัวของเขามีเตาหลอมหน้าตาประหลาดที่อยู่ในสภาวะสีเทาซีดตั้งอยู่

หลินเซวียนทำการเชื่อมต่อข้อมูลในทันที

[มิติส่วนตัว]

[ความจุ : 10 ลูกบาศก์เมตร]

[โต๊ะหลอมอุปกรณ์ : ล็อค]

เมื่อเห็นเช่นนี้หลินเซวียนก็ดีใจยิ่งนัก

ปลอกคอของผู้กู้ซากแดนรกร้างนั้นจะบันทึกทุกอย่างที่เขาได้มาจากกระเป๋าเก็บของ หากแต่สิ่งที่เขาได้มาจากร่างอวตารฝึกฝนนั้นจะปรากฏออกมาในมิติส่วนตัวของเขาโดยตรง เช่นนี้แล้วเขาจึงสามารถหลีกเลี่ยงการถูกบันทึกโดยปลอกคอผู้กู้ซากได้

เขาตรวจสอบทิศทางและมุ่งหน้าตรงไปยังสถานีไร้ภัย

สถานีไร้ภัยคือจุดที่ผู้เชี่ยวชาญขององค์กรเจอร์มินอลสร้างเอาไว้ ภายในถ้ำหินยักษ์นี้มีสถานีไร้ภัยอยู่ทุกชั้น กล่าวกันว่าภายในแดนลับที่องค์กรเจอร์มินอลควบคุมอยู่ล้วนมีสถานีไร้ภัยที่ถูกผู้เชี่ยวชาญขององค์กรสร้างเอาไว้ทุกแดนลับ ยังไงก็ตามเรื่องนี้จริงหรือไม่นั้นไม่มีใครรู้

สถานีไร้ภัยมีรูนสลักเอาไว้โดยนักสู้ที่ทรงพลังซึ่งสามารถไล่และต้านทานการโจมตีจากอสูรปิศาจได้ ยิ่งไปกว่านั้นสถานีไร้ภัยยังไม่อนุญาติให้นักสู้สู้กันเองอีกด้วย ดังนั้นจึงถือได้ว่าปลอดภัยมาก

หลินเซวียนเดินเข้าสู่สถานีไร้ภัยและพบกับมุมๆหนึ่งจึงหย่อนตัวนั่งลงเพื่อพักผ่อน

การเข้าไปเสี่ยงในดันเจี้ยนมันอันตรายเกินไป

รั้งอยู่ที่สถานีไร้ภัยและคอยรับรางวัลจากร่างอวตารต่างหากคือหนทางที่ดีที่สุด

“ตั้งเป้าหมายเล็กๆเอาไว้แล้วกัน เราจะต้องไปถึงเลเวล9ขอบเขต0ให้ได้ก่อนออกจากถ้ำ”

หลินเซวียนพยักหน้าเล็กน้อยและเอนกายพิงกำแพง

ร่างกายนี้ยังไม่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับมาเมื่อวาน ยิ่งไปกว่านั้นตัวเขาเองก็พึ่งจะข้ามมิติมาและได้รับข้อมูลจำนวนมากในครั้งเดียว มันทำให้เขาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจดังนั้นไม่นานนักเขาจึงผล็อยหลับไป

...

หลังจากตื่นขึ้นมาหลินเซวียนก็ยืดตัวเล็กน้อยจนกระดูกส่งเสียงลั่นดังสนั่น

เขารีบทำการเช็คผลประกอบการในทันที

[กิ้งก่ากลืนทองได้ทำการฝึกฝนมาแล้ว3ชั่วโมงและเวลาในการฝึกฝนถึงขีดจำกัดแล้ว ท่านได้รับเหรียญทั่วไป180เหรียญ , ค่าประสบการณ์900แต้ม , หนังสือสกิลขอบเขต0หนึ่งเล่ม , อุปกรณ์สวมใส่ขอบเขต0หนึ่งชิ้น , แร่เหล็ก25ก้อน , แร่ทองแดง6ก้อน - ต้องการรวบรวมเลยหรือไม่?]

หลินเซวียนพึมพำกับตัวเอง ‘มีขีดจำกัดในการฝึกฝนอย่างที่คาด’ จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาเบาๆ “รวบรวม”

แคร่ก

ไอเทมกองใหญ่ปรากฏขึ้นมาในมิติส่วนตัวของเขา

แน่นอนว่าค่าประสบการณ์คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ค่าประสบการณ์นั้นคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้นักสู้แข็งแกร่งขึ้น

นักสู้สามารถได้รับค่าประสบการณ์จากการต่อสู้ สร้างสิ่งของและอ่านหนังสือ

หลังจากเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์เลเวลของเขาก็จะเพิม่ขึ้น ไม่เพียงแต่เลเวลฝึกฝนเท่านั้นแต่เลเวลสกิลเองก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

หลินเซวียนทำการสกัดค่าประสบการณ์ทั้งหมดและใช้พวกมันเพื่อเพิ่มเลเวลฝึกฝนในทันที

ปัง!

หลอดค่าประสบการณ์ของเขาพุ่งทะยานและยกระดับเขาจากขอบเขต0เลเวล1ไปเป็นเลเวลสอง ในเวลาเดียวกันตัวเขาเองก็ได้ค่าสถานะมาสองแต้มอีกด้วย

นักสู้ขอบเขต0นั้นจะได้ค่าสถานะ2แต้มต่อเลเวล นักสู้ขอบเขต1จะได้3แต้มต่อเลเวล

“เอาหนังสือสกิลออกมาดูก่อนแล้วกัน”

หลินเซวียนหยิบหนังสือสกิลและอุปกรณ์อีกชิ้นที่ได้มาออกมาดู

...

[ชื่อ : กำแพงเหล็ก]

[ระดับ : ขอบเขต0เลเวล1]

[เกรด : ขาว (ทั่วไป)]

[ข้อจำกัดในการเรียนรู้ : ความอดทน 8 , พลังจิต 5]

[ความสามารถสกิล : ใช้พลังเวทย์30%เพื่อเพิ่มค่าความอดทน2หน่วยและค่าความต้านทานกายภาพ10%เป็นเวลา3นาที]

...

[ชื่อ : แหวนอารักษ์]

[ระดับ : ขอบเขต0เลเวล1]

[เกรด : เขียว (ไม่ธรรมดา)]

[ข้อจำกัดในการสวมใส่ : ไม่มี]

[ความสามารถ : ความอดทน+1 , ต้านทานกายภาพ+5%]

...

หลินเซวียนยิ้มแต้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของดีทั้งสิ้น

ในเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องเข้าดันเจี้ยนด้วยตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการโจมตี ทั้งหมดที่เขาต้องการมีแค่การป้องกันเท่านั้น

ค่าการป้องกันนั้นจะขึ้นอยู่กับค่าความอดทนของคนนั้นๆ ยิ่งค่าความอดทนสูงก็ยิ่งสามารถลดทอนความเสียหายจากการโจมตีกายภาพและเวทย์มนตร์ได้มาก นอกจากนี้ยังเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตอีกด้วย

เขาทำการเรียนรู้ [กำแพงเหล็ก] และสวมใส่แหวนอารักษ์ในทันที เมื่อเขากลับไปยังองค์กรเจอมินอลก็เพียงแต่ถอนแหวนออกและยัดมันเอาไว้ในมิติส่วนตัวก็จบแล้ว

“ค่าสถานะสองแต้มก็ลงไปที่ค่าความอดทนแล้วกัน”

ค่าความอดทนของเขาดีดจาก8เป็น10หน่วย บวกกับความสามารถจากแหวนอารักษ์ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกทรงพลังขึ้นมาในชั่วพริบตา

ถ้าเขาใช้ [กำแพงเหล็ก] ค่าความอดทนก็จะพุ่งขึ้นไปถึง13หน่วย

เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและวาดหวังถึงชีวิตในอนาคตขึ้นมา

“ทำยังไงถึงจะเพิ่มขีดจำกัดระยะเวลาการฝึกฝนได้ล่ะเนี่ย?”

ทันใดนั้นเองแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมา

[ท่านต้องการใช้เหรียญทั่วไป1,000เหรียญเพื่อเพิ่มขีดจำกัดของระยะเวลาในการฝึกฝนเป็น4ชั่วโมงหรือไม่?]

“เหรียญทั่วไป1,000เหรียญ? โชคดีที่ไม่มากเท่าไหร่ ยังไงเราก็โกงเกมได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว” หลินเซวียนพยักหน้ารับและตัดสินใจเดินไปเดินมาอยู่ในสถานีไร้ภัย

หลังจากเดินไปมารอบๆเขาก็พบว่าภายในสถานีไร้ภัยนั้นมีนักสู้อยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะมีแค่พวกที่รับหน้าที่รักษาพยาบาล อาหารและการแลกเปลี่ยนเท่านั้น ในเวลานี้พวกเขาก็กำลังทำงานกันอย่างขันแข็ง ส่วนนักสู้ที่หนีไปหลับอยู่ตรงมุมอย่างเขานั้นเป็นข้อยกเว้น

เพื่อไม่ให้รู้สึกกระอักกระอ่วนจนเกินไปนัก หลินเซวียนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับคนที่รับหน้าที่หลอมอุปกรณ์ผู้หนึ่ง

นักสู้ประเภทนี้ไม่ได้เชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้ซักเท่าไหร่แต่พวกเขามีทักษะจำพวกปลูกพืช ทำอาหารและหลอมสร้าง ดังนั้นพวกเขาจึงถูกว่าจ้างให้ทำงานในฐานะพนักงานภายในสถานีไร้ภัยแทน องค์กรเจอร์มินอลเองก็ดูแลพวกเขาดีกว่าหลินเซวียนและพวกกู้ซากคนอื่นๆมากนัก

“พี่ชายทำไมที่นี่มีคนอยู่นิดเดียวเองล่ะ?”

“ก็ยังไม่กลางคืนนี่ ตกกลางคืนเมื่อไหร่พวกกู้ซากแดนรกร้างก็จะโผล่กันมาเอง เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะยุ่งยิ่งกว่านี้อีก”

หลินเซวียนพยักหน้ารับ

พออีกฝ่ายเอ่ยถึงเขาก็นึกขึ้นได้

แม้ว่ากลางวันและกลางคืนภายในถ้ำหินยักษ์จะไม่มีความแตกต่างแต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ทุกๆครั้งที่กลางคืนมาเยือน เหล่าอสูรปิศาจทั้งหมดจะพากันบ้าคลั่งและกระหายเลือดมากขึ้น

นักสู้จำนวนนับไม่ถ้วนใช้ชีวิตของพวกเขาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้บทเรียนสำคัญพวกนี้ เมื่อออกสำรวจถ้ำหินยักษ์พวกเขาจะต้องให้ความสนใจกับเวลาให้ดี เมื่อไหร่ที่ถึงเวลากลางคืนพวกเขาจะต้องกลับมายังสถานีไร้ภัยอย่างเชื่อฟังและอย่าได้พยายามยั่วยุอสูรปิศาจที่อยู่ใกล้ๆในระหว่างที่มันกำลังคลั่งโดยเด็ดขาด

หัวใจของหลินเซวียนพลันเต้นไม่เป็นส่ำ บางทีเขาอาจจะขายแร่ที่ได้มาแลกเงินได้ก็ได้

“พี่ชายที่นี่รับซื้อแร่เหล็กกับทองแดงไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

คุณลุงช่างตีเหล็กกระแอมเบาๆ “ตามกฏแล้วทำแบบนั้นไม่ได้ แร่ของนายมัน...ถูกปลอกคอบันทึกไว้ไหมล่ะ?”

ปลอกคอของนักกู้ซากแดกรกร้างจะทำการบันทึกไอเทมภายในกระเป๋าเก็บของทั้งตอนขาเข้าและขาออกเอาไว้ ยังไงก็ตามเหล่านักกู้ซากเองก็คิดหาวิธีในการรับมือเอาไว้ได้เหมือนกัน ในเมื่อปลอกคอมันจะบันทึกเพียงแค่ไอเทมที่ถูกเก็บเข้าไปในกระเป๋าเก็บของถ้างั้นตราบใดที่ไม่เก็บพวกมันเข้ากระเป๋าก็จบเรื่อง!

ผลลัพธ์นั้นทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนลับๆเช่นนี้อยู่บ่อยๆ พวกระดับสูงขององค์กรเองก็ทราบแต่ก็ไม่ได้ลงโทษอะไรหนักหนาและทำได้เพียงปิดตาข้างนึง

สำหรับพวกเขาถ้านักกู้ซากแลกเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้มันก็จะถูกนำไปเปลี่ยนเป็นความแข็งแกร่งของนักกู้ซากเอง กล่าวอีกอย่างก็คือเทียบได้กับการเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่องค์กร

หลินเซวียนเองก็ยิ้มอย่างรู้กัน “แน่นอนว่าไม่ ผมเก็บมันเอาไว้บางที่ที่ค่อนข้างปลอดภัยด้านนอกสถานีไร้ภัย”

ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับ “ถ้างั้นก็รับแน่นอน”

หลินเซวียนเดินออกไปด้านนอกสถานีไร้ภัยและพบกับทะเลทรายแห่งหนึ่งอยู่ใกล้ๆ เขาหยิบแร่เหล็กออกมาจากมิติส่วนตัวและมุ่งหน้ากลับไปยังสถานีไร้ภัยอีกครั้ง

“พวกนี้ราคาเท่าไหร่?”

ลุงช่างตีเหล็กมองแร่พวกนี้อย่างระมัดระวังและเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ “แร่เหล็กพวกนี้บริสุทธิ์มาก ด้วยความลึกเพียงชั้นนื้ถือว่าหาได้ยาก ฉันจะรับซื้อที่30เหรียญทั่วไปแล้วกัน”

พอกล่าวจบเขาก็เอ่ยออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้านายมีแร่เหล็กแบบนี้อีกฉันอาจจะเพิ่มราคาให้ได้นิดหน่อย”

หลินเซวียนที่ได้ยินก็ยิ้มกริ่ม

ความบริสุทธิ์ของแร่เหล็กและแร่ทองแดงที่กิ้งก่ากลืนทองขุดมาได้สูงมากอย่างที่คาดเอาไว้

เหตุผลนั้นก็เรียบง่ายมาก แร่ระดับสูงภายในเหมืองที่เหล่านักสู้ไปเจอนั้นส่วนใหญ่จะถูกขุดออกไปจนหมดแล้ว

ส่วนกิ้งก่ากลืนทองพวกมันไม่ได้ใช้เส้นทางปกติ พวกมันใช้วิธีการขุดดินในการเดินทาง พวกมันสามารถไปยังที่ที่นักสู้ไปไม่ได้ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่พวกมันจะหาแร่เกรดสูงมาได้เป็นจำนวนมาก

หลินเซวียนพยักหน้ารับคำ “รอก่อนแล้วกัน”

เขาทำดังที่กล่าวโดยการเดินออกไปจากสถานีไร้ภัยและนำแร่เหล็ก25ก้อนกับแร่ทองแดง6ก้อนออกมาจากมิติส่วนตัวและรวบรวมมันเอาไว้ข้างหน้าก่อนจะแบกกลับไปหาลุงช่างตีเหล็ก

ลุงช่างตีเหล็กกล่าวออกมาด้วยความริษยา “นายต้องไปเจอกับเหมืองขนาดเล็กที่ยังไม่ถูกค้นพบมาแน่ๆ”

หลินเซวียนยิ้มแต่ไม่ได้กล่าวอะไร

“ความบริสุทธิ์ของแร่เหล็กและทองแดงเหล่านี้เกินกว่า40% เอาแบบนี้เป็นไง? ฉันจะให้นาย38เหรียญทั่วไปสำหรับแร่เหล็กแต่ละก้อนและ58เหรียญทั่วไปสำหรับแร่ทองแดง! ราคานี้ถือได้ว่าสำหรับมิตรภาพของเราแล้วนะ!”

ลุงช่างตีเหล็กเอ่ยเสียงเครียด

หลินเซวียนพยักหน้ารับคำซ้ำๆและยัดเหรียญทั่วไปที่ได้มาจากการแลกเปลี่ยนเอาไว้ในมิติเก็บของโดยไม่ผ่านกระเป๋าเก็บของ ด้วยวิธีนี้พวกมันก็จะไม่ถูกปลอกคอนักกู้ซากแดนรกร้างบันทึกเอาไว้

เช่นนี้แล้วเหรียญทั่วไปของเขาจึงเพิ่มขึ้นเป็น1478เหรียญในชั่วพริบตาซึ่งก็มากพอจะใช้เพิ่มขีดจำกัดระยะเวลาฝึกฝนได้แล้ว

หลังจากเพิ่มขีดจำกัดระยะเวลาการฝึกฝนเป็น4ชั่วโมง หลินเซวียนก็ใช้เหรียญทั่วไปอีกจำนวนหนึ่งเพื่อซื้ออาหารจากภายในสถานีไร้ภัยมากิน

ตอนนี้เวลาก็ได้ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงกลางคืนแล้ว คิดๆดูแล้วก็น่าจะถึงเวลาที่คลื่นฝูงชนนักกู้ซากแดนร้างจะไหลหลั่งมายังสถานีไร้ภัยแล้ว

พริบตานั้นเองจู่ๆหลินเซวียนก็พลันสัมผัสได้ว่าใต้เท้าของเขาเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับทั่วทั้งถ้ำหินยักษ์กำลังสั่นสะเทือน

เสียงมังกรที่ทั้งทุ้มและสูงส่งดังขึ้นมาให้ได้ยินจากไกลๆ

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด