147. หนึ่งหมัดต่อหนึ่งคน (ตอนที่ 2/3) (ฟรี)
เมื่อการจับสลากสิ้นสุดลงแล้ว หนิงซีได้เรียงลำดับของผู้เข้าแข่งขัน
โดยให้ลั่วเหยาเป็นคนแรก เจียงปีเฉาเป็นคนที่สองและจงซางเหรินเป็นคนที่สาม
ส่วนเมี่ยวซินเย่วเนื่องจากอายุเกิน 18ปีแล้ว จึงถูกกำหนดให้ไม่ถูกคัดเลือกเข้าทีมชาติ
เธอจึงมาเพื่อสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้จริงในการแข่งขันเท่านั้น
และลำดับการแข่งขันของเธอจะอยู่หลังสุด
เมื่อเห็นการจัดลำดับของ หนิงซี แม้ว่าเจียงปีเฉาและจงซางเหรินจะไม่พูดอะไร
แต่ก็ไม่พอใจอยู่บ้าง พวกเขาบ่มเพาะอย่างหนักมาเป็นระยะเวลานาน
ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและความทรมานของวิชาหลอมกายขั้นสูงสุด
จึงเป็นธรรมดาที่ทุกคนอยากขึ้นแข่งขัน
ด้วยความแข็งแกร่งของลั่วเหยา คงทำให้เจียงปีเฉาและจงซางเหรินไม่มีโอกาสได้ต่อสู้
หนิงซีกล่าวว่า
“ลั่วเหยาจะไปสู้เป็นคนแรกในรอบแรกนี้ หลังจากนั้นรอบต่อไปซงชางเหรินจะเป็นคนแรก จากนั้น เจียงปีเฉาเป็นคนแรก เราจะผลัดกัน พวกคุณต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะแบบหนึ่งต่อสามและสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนของเรา!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหนิงซี ทั้งสองก็ระงับความกระสับกระส่ายในใจลง
บนเวทีแสดงความคิดเห็น จากผลลัพธ์ของโปรแกรมที่ผ่านมานั้นไม่เลวเลย
ทำให้ทั้งสี่คนคือ ฮวางเจี้ยน, หลิวอวิ๋นซือ, โหมวเจิ้นเจียงและ หลานลี่เหมย
ก็ยังคงเป็นผู้ให้ความคิดเห็นในการแข่งขันครั้งนี้
ฮวางเจี้ยนเริ่มกล่าวเป็นคนแรกว่า
“ผลการจับฉลากออกมาแล้ว การแข่งขันนัดแรกจะเริ่มขึ้นเร็วๆนี้ มันเป็นการแข่งขันระหว่างโรงเรียนผู้ปลุกพลังแห่งแรกและโรงเรียนผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังแห่งแรก ช่างบังเอิญที่ชื่อของทั้งสองโรงเรียนนี้คล้ายกันมาก”
“อวิ๋นซือ คุณเชียร์ฝ่ายไหน?”
วันนี้หลิวอวิ๋นซือสวมเดรสเปลือยไหล่ทรงต่ำ น่าเสียดายที่หน้าอกเธอเล็กเกินไป
แต่เธอยังคงใช้ผ้าปิดหน้าอกเพื่อป้องกันไม่ให้โป๊เกินไป
เมื่อยินฮวางเจี้ยนพูด เธอก็เริ่มบทบาทผู้สนับสนุน
“ฉันเห็นข่าวบอกว่าโรงเรียนผู้ปลุกพลังแห่งแรกทรงพลังมาก ฉันชอบความแข็งแกร่ง ดังนั้นฉันจึงเชียร์โรงเรียนผู้ปลุกพลังแห่งแรก”
“เราใจตรงกันจริงๆ”
ฮวางเจี้ยนหัวเราะ
“ผลงานของผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังในการแข่งขันผู้ปลุกพลังระดับชาตินั้นแย่เกินไป ฉันคิดว่าโรงเรียนผู้ปลุกพลังแห่งแรกน่าจะดีกว่า”
มีเสียงประกาศการจับคู่สำหรับนัดแรกแล้ว
ลั่วเหยาปรากฏตัวขึ้น
เธอสูง 1.5 เมตร ด้วยใบหน้าที่ประณีตและน่ารัก มันยากที่จะเชื่อมโยงเธอกับประเภทพละกำลัง
บนหลังเธอมีดาบยาวที่สูงกว่าเธอ ด้ามดาบเลยศีรษะของเธอไปหนึ่งฟุต
ลั่วเหยาดูเล็กกระทัดรัดและน่ารักยิ่งขึ้นภายใต้การขับเน้นของดาบยาว
ฮวางเจี้ยนหยิบข้อมูลของผู้เข้าแข่งขันออกมาและเริ่มแนะนำ
“ผู้เข้าแข่งขันคนแรกที่โรงเรียนผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังแห่งแรกส่งมาเรียกว่า ลั่วเหยา ปีนี้เธออายุ 16 ปี เป็นผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลังมาเพียงสองเดือนเท่านั้น”
“ฉันกำลังประกาศว่าฉันขอเปลี่ยนจุดยืนของตัวเอง ฉันขอสนับสนุนโรงเรียนผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลัง ท่านผู้ชมที่รัก ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีจุดยืน แต่ผู้เข้าแข่งลั่วเหยาน่ารักเกินไป”
ผู้ชมในสนามและผู้ชมสตรีมสดรู้สึกขบขันกับคำบรรยายที่ตลกของฮวางเจี้ยน
แต่ทุกคนก็เห็นด้วยกับคำพูดของฮวางเจี้ยน ที่ว่าลั่วเหยาน่ารักมากจริงๆ
ฮวางเจี้ยนกล่าวต่อว่า
“คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับลั่วเหยา เป็นหนึ่งในดวงดาวคู่จากโรงเรียนผู้ปลุกพลังแห่งแรก หยานกวางสวิน”
“ปีนี้หยานกวางสวินมีอายุ 17 ปี ตามข้อมูลที่ได้รับ เขาเป็นผู้ปลุกพลังประเภทความสามารถประเภทไฟ คุณสมบัติของเขาแตะถึงระดับ A+ อย่างน่าอัศจรรย์ เขาก้าวขึ้นเป็นผู้ปลุกพลังระดับ 3 ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน”
“ศาสตราจารย์โหมว คุณช่วยแนะนำเราให้รู้จักกับความสามารถและลักษณะของผู้ปลุกพลังธาตุระดับ 3 ได้ไหม”
“หลังจากผู้ปลุกพลังธาตุอยู่ระดับ 3 แล้ว เขาไม่เพียงแต่จะสามารถปลดปล่อยความสามารถพิเศษของเขาได้หลายครั้งติดต่อกัน แต่เขายังเชี่ยวชาญทักษะอย่างน้อยหนึ่งทักษะ”
โหมวเจิ้นเจียงกล่าว
“สิ่งที่เรียกว่าทักษะนั้นเป็นการใช้ความสามารถในระดับสูง ยกตัวอย่างเช่น หยานกวางสวินเป็นผู้ปลุกพลังประเภทไฟ เมื่อเขาอยู่ที่ระดับ 2 เขาทำได้แค่ใช้ความสามารถของไฟขว้างบอลไฟอย่างหยาบๆง่ายๆ เมื่อขึ้นมาถึงระดับ 3 เขาจะสามารถปลดปล่อยธาตุไฟในลักษณะเฉพาะเพื่อสร้างทักษะอันทรงพลัง เช่น บอลไฟลูกโซ่ ผลกระทบของฟีนิกซ์ไฟ และแม้กระทั่งทักษะการป้องกัน เช่น เกราะตะวันเพลิง จุดแข็งของผู้ใช้ความสามารถพิเศษระดับ 3 กำหนดโดยความเร็วที่สามารถปลดปล่อยทักษะได้ ความสามารถในการดัดแปลง และจำนวนทักษะที่เชี่ยวชาญ ยิ่งมีทักษะมากเท่าไร ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นอย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ทักษะต้องใช้พลังงานมาก การเรียนรู้ทักษะมากเกินไปไม่เอื้อต่อการพัฒนาระดับของผู้ปลุกพลัง นักเรียนต้องเข้าใจขีดจำกัดของตนเองเป็นอย่างดี”
“ถ้าจะว่าไปแล้ว ผู้ใช้ความสามารถพิเศษระดับ 3 ที่เชี่ยวชาญ 3 ทักษะนั้นทรงพลังมาก”
“เท่าที่ฉันรู้ หยานกวางสวินมีสี่ทักษะ”
โหมวเจิ้นเจียงกล่าวเสริม
“เขาแข็งแกร่งที่สุดในผู้ปลุกพลังระดับ 3”
ก่อนที่จะได้ฟังความคิดเห็น ผู้ชมแค่รู้จากสื่อว่า หยานกวางสวินเก่งมาก แต่ไม่รู้ว่าเก่งยังไง
เมื่อได้ฟังฟังคำอธิบายของโหมวเจิ้นเจียง ทุกคนก็เข้าใจทันทีว่าหยานกวางสวินนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ
ฮวางเจี้ยนเป็นคนเก่งในการหาหัวข้อมาคุย เมื่อได้ยินโหมวเจิ้นเจียงชมหยานกวางสวิน เขาก็พูดทันทีว่า
“ศาสตราจารย์โหมว ระหว่างลั่วเหยากับหยานกวางสวิน คุณคิดว่าใครจะชนะ”
โหมวเจิ้นเจียงและหลานลี่เหมย หันมามองหน้ากันและพูดพร้อมกันว่า
"ลั่วเหยา!"
ฮวางเจี้ยนตกใจกับคำตอบ เขานิ่งไปครู่ใหญ่ๆ
ผู้ชมในสนามก็ก็ตกตะลึงเช่นกัน
ผู้ชมจำนวนมากได้ดูการแข่งขันผู้ปลุกพลังระดับชาติมาแล้ว
และมีความฝังใจอย่างลึกซึ้งต่อผลงานโดยรวมที่ต่ำของผู้ปลุกพลังประเภทพละกำลัง
แต่ภายใต้สภาพแบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองกลับมองในแง่ดีว่า
ลั่วเหยามีโอกาสเอาชนะอัจฉริยะระดับสูงในประเภทธาตุ
หลิวอวิ๋นซือช่วยฮวางเจี้ยนให้พ้นจากสภาพกลืนม่เข้าคายออกด้วยการถามคำถามที่ผู้ชมต้องการถาม
"เพราะเหตุใด"
“เพราะเธอเป็นศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์ใหญ่หนิงซี” หลานลี่เหมยกล่าว
ผลลัพธ์ของหนิงซีในการต่อสู้ในตระกูลจง อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับของผู้ปลุกพลังระดับ 9
ในฐานะบุคลากรทางทหาร จินหรงจือได้รายงานเรื่องนี้ให้ผู้บัญชาการอู๋ทราบแล้ว