1294 - นรกสิบแปดชั้น
1294 - นรกสิบแปดชั้น
เมื่อความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง เย่ฟ่านจึงสงบสติอารมณ์ลงและเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ค่อยๆ เข้าใกล้ซากปรักหักพังที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายปี
ทันทีที่เขาเข้าไปใกล้ ร่างกำยำของใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในสถานที่เดิม และเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ตลอดเวลาราวกับราชาผี
เมื่อเย่ฟ่านพยายามเดินไปอีกฟากหนึ่งของซากปรักหักพัง ฉากที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นก็ปรากฏขึ้น สัตว์ประหลาดโบราณขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
เย่ฟ่านไม่กลัวเมื่อเห็นฉากนี้ เมื่อเขาอยู่ในทุ่งดวงดาวเป่ยโต่วเขาอยู่กับคนอย่างต้วนเต๋อและจักรพรรดิดำเป็นเวลานาน เขารู้ว่านี่เป็นเพียงภาพที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งเกิดจากความเครียดแค้นของสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วเท่านั้น
ทั้งหมดนี้คงมีต้นกำเนิดมานรกใต้ซากปรักหักครั้งนี้ หลายปีผ่านไป บรรพชนจระเข้เป็นเพียงราชาอสูรตัวเดียวที่หลุดรอดออกจากการปิดผนึกของศากยมุนี
มีวิธีปิดผนึกใต้ดินในโลกที่ลึกลับและโหดร้ายมาก รากฐานเซียนอสูรของพวกเขาทั้งหมดล้วนถูกทำลายล้าง นั่นทำให้พลังดั้งเดิมหายสาบสูญไปมากกว่าเก้าในสิบส่วน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จึงไม่สามารถหลบหนีออกมาข้างนอกได้
มีดินแดนปีศาจอยู่ใต้วิหารต้าเล่ยหยิน มันเป็นขุมนรกสิบแปดชั้น ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างมันแขึ้นมา ไม่เช่นนั้นราชาอสูรทั้งหมดคงพังคุกออกมาตั้งแต่แรกแล้ว
เย่ฟ่านเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง โดยผลักกำแพงกรวดที่พังของวิหารต้าเล่นหยินออกไป และเผยให้เห็นรากฐานที่มืดมนทันที
“นี่คือสวรรค์ของพุทธศาสนา แต่นี่คือฉากหน้าเท่านั้น ด้านล่างแห่งนี้คือคุกที่ใช้ขังกลุ่มราชาโบราณที่โหดเหี้ยมที่สุด”
รากฐานนี้ดูพิเศษมากเมื่อมองแวบแรก หินพื้นแต่ละก้อนสลักด้วยอักษรลึกลับซึ่งเป็นสีดำและสีแดง สีที่อาบไปด้วยเลือดปีศาจทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
“นี่คือนรกสิบแปดชั้นบรรพชนจระเข้หนีออกไปจากที่นี่”
พื้นด้านล่างอักขระโบราณยังคงมีความสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครรู้ว่าบรรพชนจระเข้หนีออกจากที่นี่ไปได้อย่างไร
“ที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากโลก ถ้าสิ่งมีชีวิตโบราณที่อยู่ในนี้หลบหนีออกไปได้ทั้งหมด…”
เย่ฟ่านตัวสั่น ในยุคแห่งการสิ้นสุดอารยธรรมนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ที่ทำเรื่องนี้ก็คือสิ่งมีชีวิตโบราณที่ถูกขังอยู่ด้านล่างนั่นเอง
เย่ฟ่านเข้าไปในหลุมดำขนาดใหญ่เพียงลำพัง จิตสังหารที่เยือกเย็นแผ่ออกมาอย่างรุนแรง ใต้ดินกว้างใหญ่และลึกหลายร้อยวา การเดินเข้าไปข้างในนี้ไม่ได้ยากลำบากมากนัก
แม้ว่าจะเป็นสีดำสนิท แต่ทุกสิ่งก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน นี่คือนรกระดับแรก!
ผนังสลักด้วยรูปสลักของพุทธองค์สีทอง นี่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย(ชนะมาร) การดำรงอยู่ของรูปสลักนี้เพราะเพื่อปราบปรามสิ่งที่อยู่ข้างในอย่างแน่นอน!
ที่นี่คือจุดที่บรรพชนจระเข้ถูกปราบปรามเป็นเวลาสองพันปีโดยไม่ถูกฆ่าตายไปก่อน
นรกชั้นที่หนึ่งอันกว้างใหญ่และว่างเปล่านั้นถูกแกะสลักออกมาจากหินทั้งหมด ดูเหมือนว่ามันจะเกิดขึ้นจากการเจาะหินศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่และทำให้เป็นคุกที่สมบูรณ์แบบ
ที่มุมทั้งสี่มีเสาหินหนารองรับวิหารต้าเล่ยหยินด้านบน และดูเหมือนว่าจะกำลังปราบปรามสถานที่แห่งนี้
เสาหินทั้งสี่นี้แกะสลักด้วยภาพของจ้าวจตุโลกบาล และยังมีร่องเลือดที่ชุ่มไปด้วยเลือดสีดำแห้งๆ เหล่านี้คือโลหิตเทพที่ใช้ในการปิดผนึกปีศาจที่อยู่ข้างใน
ที่ใจกลางของห้องโถงเหลือเพียงซากศพของจระเข้ขนาดใหญ่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือบรรพชนจระเข้อย่างแน่นอน ร่างกายของมันถูกทำลายไปแล้วเหลือเพียงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ยังพยายามหาร่างกายใหม่
เย่ฟ่านหยิบเกล็ดของมันขึ้นมาชิ้นหนึ่งและพบว่าวัสดุนั้นแข็งมาก แม้ว่าจะได้รับการขัดเกลาจากพลังศักดิ์สิทธิ์อันท่วมท้นแต่มันก็ยังไม่ได้ถูกทำลายไป
“ตามที่คาดไว้ของเทพอสูรเหล่านี้ทรงพลังอย่างแท้จริง แม้แต่เกล็ดจากซากศพของพวกมันก็ยังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้!”
เย่ฟ่านกัดฟัน เขามีความเกลียดชังบรรพชนจระเข้และต้องการทำลายมันให้สิ้นซาก
ที่มุมหนึ่งมีหลุมดำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อลงไปยังนรกชั้นถัดไป
เย่ฟ่านกระโดดไปข้างหน้า เขาอยากรู้ว่านรกถูกเปิดออกกี่ชั้น ใต้ดินมืดสนิทและครั้งนี้พลังหยินที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายได้แผ่ออกมาอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็แข็งทื่อและทั้งร่างกายของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ที่นรกชั้นสองนั้นมีดวงตาสีเขียวคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโลงศพอยู่หน้าตะเกียงผี และมีชายชราตัวแห้งๆ นั่งยองๆ อยู่บนนั้น พร้อมกับยิ้มแปลกๆ ให้เขา
เส้นผมของเย่ฟ่านตั้งตรงด้วยความกลัว สถานที่แห่งนี้พังทลายไปนานแล้ว ทำไมยังมีผีเฒ่าที่น่ากลัวเช่นนี้อยู่?
เย่ฟ่านปลดปล่อยเปลวไฟเก้าสีออกมาจากหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
นี่คือไฟของเฟิ่งหวงซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะที่แข็งแกร่งมากกว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หลายเท่า ดังนั้นไฟของมันย่อมสามารถเผาผลาญความชั่วร้ายทั้งปวงได้
“จี้!”
ชายชราคนนี้ไม่ใช่ปีศาจที่แท้จริง เขาเป็นเพียงภาพที่ตะเกียงโบราณสร้างขึ้นมา เมื่อเผชิญหน้ากับเปลวไฟของเย่ฟ่านร่างของเขาก็กลายเป็นแสงไฟสีเขียวที่จมหายลงไปในตะเกียงอีกครั้ง
“นี่คือตะเกียงหน้าผี!”
เย่ฟ่านสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ เขาจะจำคำพูดของต้วนเต๋อได้อย่างรวดเร็ว
ตะเกียงหน้าผีนี้ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับต้วนเต๋อ มันเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ปราบปรามสุสานโบราณโดยใช้วิญญาณของภูตผีตัวนั้นเป็นเชื้อเพลิงให้กับตะเกียง!
ที่นี่ไม่มีผีดุร้ายอื่นใด ครั้งหนึ่ง เคยมีเทพคนหนึ่งชื่อต้าเหนียน ซึ่งเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ภูตผี เขาประสบความสำเร็จในการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์ภูต แต่สุดท้ายเขาก็ถูกปราบปรามอยู่ในตะเกียงนี้!
ไม่มีใครรู้ว่าตะเกียงผีนี้ทำขึ้นมาได้อย่างไร มันไม่ใช่สิ่งที่ศากยมุนีสร้างขึ้น แต่เป็นสมบัติโบราณที่ตกทอดมานานนับล้านปีแล้ว และศากยมุนีได้ใช้มันเพื่อสังหารจอมปีศาจที่อยู่ในชั้นสองนี้
เมื่อมองดูตะเกียงหน้าผีสีเขียวอ่อนๆ เย่ฟ่านก็ตกตะลึง เปลวไฟที่ลุกโชนออกจากตะเกียงนั้นก็คือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งมีชีวิตที่ถูกปราบปราม
สมบัติชิ้นนี้แม้จะไม่สามารถใช้ต่อสู้ได้อย่างอิสระ แต่มันมีความสามารถในการปราบปรามวิญญาณอย่างร้ายแรง และพลังของมันก็ไม่เป็นรองอาวุธเต๋าสุดขั้วอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านจ้องมองตะเกียงหน้าผีอย่างกระตือรือร้น เพราะนี่คือสมบัติที่ต้วนเต๋อปรารถนามากที่สุด
ไส้ตะเกียงคือลิ้นที่ยื่นออกมา มันชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัวอย่างบอกไม่ถูก สิ่งนี้เก่าแก่มาก แค่อายุของมันเพียงอย่างเดียวก็รับได้ว่าเป็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ของโลกแล้ว
ตะเกียงหน้าผีนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างน่าเหลือเชื่อ ถ้าต้วนเต๋ออยู่ที่นี่ เขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา
เย่ฟ่านหยิบตะเกียงหน้าผีขึ้นมาสำรวจ น้ำมันของตะเกียงเป็นสีเขียวน่าขยะแขยงอย่างมาก แม้ว่านี่จะเป็นวิญญาณของจักรพรรดิโบราณในอดีต แต่มันก็ถูกปราบปรามอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
“ถึงแม้จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย แต่เมื่ออยู่ในสุสานโบราณเช่นนี้มันเป็นของที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ตะเกียงนี้มีระดับเทียบเท่ากับอาวุธเต๋าสุดขั้วได้เลย”
เย่ฟ่านต้องการจะเอาตะเกียงออกไปด้วย แต่เขาก็กลัวว่าปีศาจร้ายที่ถูกปิดผนึกอยู่ในชั้นสองนี้จะยังไม่ได้ถูกฆ่าตาย และเมื่อเขาหยิบตะเกียงออกไปมันอาจจะหลุดพ้นจากการควบคุมได้
เย่ฟ่านปลดปล่อยเปลวเพลิงเก้าสีให้เผาผลาญไปทุกทิศทุกทาง เขาเตะฝาโลงศพออกและปลดปล่อยเปลวเพลิงให้เผาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ข้างในอย่างรุนแรง
น่าเสียดายพี่โลงศพว่างเปล่าและจะไม่เหลืออะไรเลย ดูเหมือนว่าปีศาจร้ายที่อยู่ในชั้นสองนี้จะหลบหนีออกไปพร้อมกับบรรพชนจระเข้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน
เย่ฟ่านเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่ามีปีศาจร้ายหลุดออกไปกี่ตัวแล้ว
เขาค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขุดค้นลงไปที่ซากปรักหักพังของวัดต้าเล่ยหยิน
แผ่นศิลาถูกฝังไว้ข้างศิลาฐานใต้ดิน สิ่งที่สลักไว้ ไม่ใช่ทั้งภาษาสันสกฤตและภาษาจีนโบราณ แต่เป็นจารึกศักดิ์สิทธิ์ที่แพร่หลายในโลกอำพรางสวรรค์!
แม้ว่าเย่ฟ่านจะไม่สามารถอ่านอักษรได้ทุกตัว แต่มันก็ยังพอที่จะทำให้เขารู้ความลับบางอย่าง
นรกแห่งนี้ถูกเรียกว่านรกหยินหยาง ซึ่งถูกใช้เพื่อควบคุมซึ่งกันและกัน เมื่อนรกชั้นแรกถูกทำลายนรกชั้นต่อไปก็จะถูกทำลายด้วย
ในดาวอังคารนี้มีนรกเพียงสองระดับเท่านั้น นรกแห่งอื่นๆ กระจายอยู่ในดวงดาวทั้งเก้าของระบบสุริยะจักรวาล
สิ่งมีชีวิตโบราณที่น่าสะพรึงกลัวทั้งหมดสิบแปดตัวถูกปราบปรามและกระจายอยู่ทั่วจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้!
“เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ เพราะหากถูกขังไว้ในที่เดียวเมื่อพวกมันทำลายกรงขังออกมามันจะกลายเป็นหายนะของโลกอย่างแน่นอน”
ทันใดนั้นเย่ฟ่านก็ได้ยินเสียงคลื่นดังขึ้น เสียงคลื่นนี้เหมือนดังมาจากใต้ดิน ในตอนแรกเย่ฟ่านคิดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
แต่เมื่อเขาฟังอย่างตั้งใจ เขาก็แทบไม่เชื่อหูของตัวเอง มันเป็นเรื่องจริง!
ยิ่งกว่านั้น ในขณะนี้เขาเห็นมหาสมุทรสีดำอันกว้างใหญ่ปรากฏขึ้นมาบนขอบฟ้า คลื่นที่รุนแรงซัดเข้าชายฝั่ง หินก็พุ่งขึ้นไปในอากาศ
ในมหาสมุทรสีดำ มีเรือผีหลายลำเคลื่อนไหวอยู่ โดยมีแสงสีเขียวกระจัดกระจายอยู่ในทุกบริเวณของมหาสมุทร
…………