ตอนที่แล้ว1292 - ลาแล้วเป่ยโต้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1294 - นรกสิบแปดชั้น

1293 - สวัสดีดาวอังคาร 


1293 - สวัสดีดาวอังคาร

“ข้าจะกลับสู่โลกไม่ได้หรือ?”

เย่ฟ่านมีความรู้สึกแย่มากในใจ เห็นได้ชัดว่าเขาได้เบี่ยงเบนไปจากเส้นทางเดิมและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะลงจอดบนโลก ซึ่งทำให้เกิดหมอกควันขึ้นในหัวใจของเขา

ทุกอย่างสงบลงอีกครั้ง แต่เกือบจะในทันทีทันใดก็มีแสงริบหรี่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา และเย่ฟ่านก็รู้ว่าเขากำลังจะไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว

นั่นคือทุ่งดวงดาวโบราณที่ไม่ห่างจากโลกมากนัก มีเสียงที่รุนแรงดังขึ้น และพลังของปราณปฐพีต้นกำเนิดพยายามห่อหุ้มร่างกายของเขาเพื่อไม่ให้เย่ฟ่านตกกระแทกพื้น

แต่ในขณะที่พุ่งเข้ามาในดวงดาวโบราณนี้ เย่ฟ่านก็ได้ยินเสียงของมนุษย์ตะโกนและสัตว์ร้ายคำรามก้องท้องฟ้า เมื่อมองไปรอบๆ มีสนามรบขนาดใหญ่และผู้คนจำนวนมากต่างก็กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

“สถานที่นี้คืออะไร?”

เขาประหลาดใจมาก ป่าโบราณในบริเวณใกล้เคียงมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด

มังกรเขียวตัวใหญ่เก้าตัวบินข้ามท้องฟ้า ดึงรถศึกโบราณเข้าสู่สนามรบ พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณพุ่งพล่านราวกับคลื่นในแม่น้ำสายใหญ่

“นั่นก็คือ...เซียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ อาจจะเป็นเสมือนจักรพรรดิด้วยซ้ำ?!”

เย่ฟ่านเกือบจะสงสัยว่าเขาอยู่ในความฝัน ทั้งหมดนี้ช่างเหลือเชื่อมาก

บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีต้นไม้โบราณสูงตระหง่าน พระราชวังอันงดงามในระยะไกล และสนามรบอันกว้างใหญ่ แม้แต่เซียนผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานก็เข้าร่วมในการต่อสู้ ช่างน่าทึ่งจริงๆ

ทันใดนั้น เขาก็สะดุ้งกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากแท่นบูชาห้าสี มีอักษรโบราณสองตัวสลักไว้บนนั้น ซึ่งก็คือ “อิงลั่ว(ดาวอังคาร)!”

“อะไรนะ นี่คือดาวเคราะห์โบราณอิงลั่ว มันผ่านมากี่ปีแล้ว?”

เย่ฟ่านตกใจมาก อิงลั่วคือดาวเคราะห์สีแดงที่เต็มไปด้วยทะเลทรายและไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

แต่ตอนนี้เขาเห็นอะไร? มันเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ต้นไม้เก่าแก่ทอดยาวสู่ท้องฟ้า สัตว์ป่าที่ไม่มีที่สิ้นสุด และทั่วทั้งแผ่นดินก็เขียวขจี

“ไม่ถูกต้อง!”

เย่ฟ่านกัดลิ้นแล้วทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ จิตใจเขาสับสนมากตลอดทาง จากนั้นดวงตาที่สามของเขาก็เปิดขึ้นเพื่อสำรวจสภาพโดยรอบ

เสียงตะโกนแห่งการฆ่าที่ดังกึกก้องหายไป กลิ่นอายแห่งการสังหารที่น่าตกใจหายไป โลกที่มีชีวิตชีวากลายเป็นดินสีแดง และแม้แต่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าก็ยังแดงระเรื่อไปกับพื้นดิน

ร่องรอยของความรู้สึกเย็นๆ ไหลผ่านฝ่าเท้าจากแท่นบูชาห้าสีเข้าสู่ร่างกายของเขา มันเป็นแท่นบูชาโบราณนี้ที่สะท้อนเหตุการณ์ในอดีตเข้าสู่หัวใจของเขา

“นี่คือ…ดวงดาวในยุคโบราณ!”

เย่ฟ่านรีบวิ่งออกจากแท่นบูชาห้าสีและวิ่งไปยังก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล หลังจากหันกลับมา เขาเห็นระฆังใบหนึ่งและมีอักษรสลักอยู่

“อิงลั่ว มันคือดาวโบราณนี้ โลงศพเก้ามังกรครั้งหนึ่งเคยตกลงที่นี่ วัดต้าเล่ยหยินก็อยู่ที่นี่เช่นกัน”

เย่ฟ่านคาดไว้แล้วว่าหากเขาไม่สามารถกลับสู่โลกได้อย่างน้อยก็ต้องมาถึงดวงดาวโบราณอิงลั่ว เพราะมีแท่นบูชาห้าสีที่สมบูรณ์ที่นี่

“สิ่งที่ข้าเห็นตอนนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากมาย มันถูกทำลายในยุคใด...”

เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจและไม่มั่นใจ เขาหันกลับไปมองแท่นบูชาห้าสี นตั้งอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงตระหง่าน ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วและมันได้กลายเป็นดาวมรณะโดยสิ้นเชิง

เขานึกถึงรายงานที่เขาเห็นก่อนออกจากโลก ในดาวดวงนี้อาจเคยมีแม่น้ำอยู่ และในปัจจุบันมันแห้งเหือดไปหมดแล้ว

“ปรากฎว่ามันเป็นเรื่องจริง…” เขาพึมพำกับตัวเอง

นี่คือดาวต้นกำเนิดแห่งชีวิตโบราณ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง อารยธรรมทั้งหมดได้สูญหายไป และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็สูญพันธุ์ไปจากโลก

“โลกอยู่ใกล้มากที่นี่ ประวัติศาสตร์อารยธรรมและสิ่งมีชีวิตบนโลกที่เกี่ยวข้องกับสถานที่นี้?”

มีปัจจัยภายนอกมากมายที่ทำให้โลกทั้งสองใบคล้ายคลึงกัน ดาวอังคารนี้ดูเหมือนจะขาดแคลนเพียงแค่น้ำเท่านั้น หากมีน้ำอยู่ในโลกนี้มันจะสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างแน่นอน

ตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว และดินแดนบริสุทธิ์แห่งสุดท้ายก็กลายเป็นสถานที่แห่งความตาย

หลังจากที่เย่ฟ่านประหลาดใจ ความโกรธก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเขาคิดถึงพระพุทธเจ้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความรกร้างของดินแดนแห่งนี้จะต้องเกิดขึ้นเพราะจอมอสูรอย่างจระเข้บรรพชนอย่างแน่นอน

เพื่อนร่วมชั้นหลายคนถูกฝังอยู่ที่นี่ และหลี่เสี่ยวม่านก็จบชีวิตด้วยความเศร้าโศก!

“ถ้าข้ากลายเป็นเซียน ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด”

เย่ฟ่านคำรามด้วยความโกรธ ในอดีตเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้นจึงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของโลกใบนี้

แต่เมื่อเขากลับมาที่ดังอังคารอีกครั้งเขาก็ตระหนักได้ถึงปราณอสูรอันเข้มข้นที่กระจายอยู่ทั่วทุกบริเวณ นี่เป็นโลกแห่งความตายอย่างแท้จริง

ยี่สิบปีผ่านไป ม่านแสงที่ปกคลุมไปหลายลี้ขายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย เย่ฟ่านเดินไปข้างหน้า เขาสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้วิญญาณของเพื่อนๆที่ตายในดาวดวงนี้ไปสู่สุคติ

“ในดินแดนปีศาจที่แท้จริง มีนรกอยู่สิบแปดชั้นอยู่ใต้วัดต้าเล่ยหยิน พวกมันหนีไปแล้วหรือไม่?”

เมื่อเข้าใกล้ซากปรักหักพังของวัดต้าเล่ยหยินมากขึ้นเขาก็สังเกตเห็นวิหารโบราณที่ไม่ได้จมอยู่ใต้ทราย มีแม้แต่ใบโพธิ์ที่เหลืออยู่สองสามใบท่ามกลางวัดที่ถล่มและซากปรักหักพัง!

“เป็นไปได้อย่างไร ?”

เย่ฟ่านจ้องมองอย่างว่างเปล่า ภายใต้รากฐานของวัดแห่งนี้มีนรกอยู่สิบแปดระดับ ตอนนี้กลุ่มราชาอสูรยังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?

แต่ทันใดนั้นก็มีสัญญาณเตือนขึ้นในใจ เย่ฟ่านหันกลับไปมองด้านหลังและเห็นดวงตาที่เปล่งประกายราวกับตะเกียงขนาดใหญ่คู่หนึ่ง!

แผ่นหลังของเย่ฟ่านเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ มีปีศาจอยู่ท่ามกลางซากปรักหักทางนี้ โครงร่างของมันพร่ามัวมองเห็นเพียงดวงตาที่สว่างไสว!

มีการเผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ เช่นนี้ทำให้เย่ฟ่านตกตะลึง บุคคลนี้ต้องมีพลังมาก ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวเงียบๆ แบบนี้ได้อย่างไร

“เจ้าคือบรรพชนจระเข้?”

เสียงของเย่ฟ่านดูไร้ความสุขและไร้กังวล เขาผ่านประสบการณ์มามากมาย และแม้ว่าเสมือนจักรพรรดิจะปรากฏต่อหน้าเขาก็จะไม่ตื่นตระหนก

ดวงตาที่เหมือนโคมสีเขียวทั้งสองหรี่ลงและหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้น

ความหนาวเย็นไหลลงมาตามกระดูกสันหลังของเย่ฟ่าน ความหนาวเย็นไหลลงมาตามกระดูกสันหลังของเขา มีโครงร่างที่คลุมเครือในความมืดปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

ในทำนองเดียวกัน ในเวลาต่อมา เงาลึกลับก็หายไปและปรากฏตัวขึ้นในอีกทิศทางหนึ่ง ความเร็วของมันแม้แต่ราชาสวรรค์เจียงไท่ซูยังไม่อาจเปรียบเทียบได้

มันจะเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมาก หากคนคนนี้โจมตีเขามันไม่มีทางที่เขาจะหนีรอดได้อย่างแน่นอน!

นี่เป็นบรรพชนของจระเข้หรือ? เขาไม่รู้แน่ชัด เขามองไม่เห็นร่างกายที่แท้จริงของอีกฝ่าย ไม่สามารถสังเกตรูปร่างหน้าตาหรือแม้แต่กลิ่นอายของพลังได้

คนคนนี้สามารถสังหารเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

เย่ฟ่านเคลื่อนไหวด้วยทักษะซิงจื่อและกลายเป็นลำแสงสีทองพุ่งออกห่างจากวิหารต้าเล่ยหยินและหยุดห่างออกไปสองสามลี้

ทุกอย่างเงียบมาก ขณะนี้ไม่มีพายุ และดวงดาวโบราณอิงลั่วก็กลับสู่ความสงบ มีเพียงเสียงหัวใจของเขาเองเท่านั้นที่ยังคงดังก้องอยู่

ดวงดาวบนท้องฟ้าแกว่งไกวและมีแสงสลัว ในความมืด ซากปรักหักพังของวิหารต้าเล่ยหยินที่อยู่ห่างไกลก็เหมือนสัตว์ร้ายหลับไหลไม่ตื่นขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมร่างปีศาจนั้นไม่ตามมา?”

เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ สิ่งมีชีวิตตนนั้นทำให้เขาเกิดความหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก

“มันแปลกนิดหน่อย!”

เย่ฟ่านเดินออกไปนอกซากปรักหักพังของวิหารต้าเล่ยหยินและสังเกตมันอีกครับ ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อย

……..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด