ตอนที่ 1510 นี่คือมันหมายความว่าไง?
“เรา…”
หลี่ จื่อเสีย กําลังจะอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเริ่มพูดตามความคิดของตัวเองอย่างมั่นใจว่า : “..พระเจ้า จื่อเสีย ปีที่ผ่านมานี้ เธอผ่านอะไรมาบ้าง ไหนจะเรื่องครอบครัวเธอ ฉันได้ยินมาหมดแล้ว ทั้งยังโชคไม่ดีเลยที่ ลุงหลี่ เสียชีวิต และตัวเธอเองก็หายตัวไป แล้วปีนี้ บริษัท จินอวี้ ก็ใกล้จะล้มละลาย ฉันได้ยินมาว่า จินอวี้ กรุ๊ป กําลังจะถูกประมูลขายออกไปแล้ว จื่อเสีย ฉันรู้สึกเสียใจกับเธอมากจริงๆ”
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “อืม ขอบคุณที่เป็นห่วง เสี่ยวเหวิน แต่ตอนนี้…”
ผู้หญิงคนนั้นกล่าวขัดจังหวะ หลี่ จื่อเสีย อีกครั้ง : “โอ้.. ฉันไม่กล้าจินตนาการเลยถึงประสบการณ์ของเธอ จนกระทั่งตอนนี้ที่เห็นเธอ ..อยู่ในสภาพตกอับเช่นนี้ ฉันรู้ว่าเธอประสบกับความโชคร้ายมามากมายจริงๆ เธอเองเคยเป็น ..คุณหนูตระกูลหลี่ แต่ทําไมถึงหาแฟนแบบนี้มาได้ยังไง?”
หลี่ จื่อเสีย ตกตะลึง คําพูดของเธอนี้ นี่มันคืออะไร?
หลี่ จื่อเสีย ยิ้ม แล้วพูดว่า : “เสี่ยวเหวิน ให้ฉันแนะนําพวกคุณดีกว่า พี่ฟาน เธอชื่อว่า ชุย เหวินเหวิน เป็นเพื่อนสนิทของฉัน ตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศ เราเองเป็นเพื่อนกัน พอดีเราเป็นคนหางโจวด้วยกัน ดังนั้นเราจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด”
มหาวิทยาลัยของ หลี่ จื่อเสีย อยู่ในเมืองหลวงที่ปักกิ่ง มีนักศึกษาหญิงในด้านสาขาวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์นั้นน้อยมาก ในชั้นเรียนของ หลี่ จื่อเสีย จึงมีนักศึกษาหญิงเพียงแค่สองคน นอกจาก หลี่ จื่อเสีย แล้ว อีกคนก็คือ ชุย เหวินเหวิน
ทั้งสองพักอาศัยอยู่ในหอพักเดียวกัน และเป็นนักศึกษาหญิงในชั้นเรียนเพียงสองคน ประกอบกับเป็นชาวเมืองหางโจวทั้งคู่จึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
อย่างไรก็ตาม.. ภูมิหลังของทั้งสองคนก็ค่อนข้างแตกต่างกัน ในเวลานั้น หลี่ จื่อเสีย เป็นลูกสาวคนเดียวของ หลี่ หวยซาน ซีอีโอของ จินอวี้ กรุ๊ป เธอเป็น คุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวย แม้ว่า หลี่ หวยซาน จะไม่เคยมองตัวเองว่าเป็นคนรวย แต่ด้วยสถานะของเขา และตระกูล ก็ยังนับว่าร่ำรวยได้ หลี่ จื่อเสีย จึงสามารถเรียกได้ว่าเป็น ไป๋ฟู่เหม่ย (白富美) ได้อย่างสมบูรณ์…
กลับกัน.. ฐานะทางบ้านของ ชุย เหวินเหวิน ค่อนข้างธรรมดา พ่อแม่ของเธอเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย แม้ว่าฐานะทางบ้านจะดีเมื่อเทียบกับคนธรรมดาทั่วไปแล้ว แต่เมื่อเทียบกับบุตรสาวจากตระกูลที่ร่ำรวยอย่าง หลี่ จื่อเสีย แล้ว เธอก็ไม่นับว่ามีอะไรเทียบได้..
ในอดีต ชุย เหวินเหวิน พูดต่อหน้า หลี่ จื่อเสีย มากกว่าหนึ่งครั้งว่าเธออิจฉาครอบครัวของ หลี่ จื่อเสีย มาก ถ้าเธอมีภูมิหลังครอบครัวเหมือนอย่างของ หลี่ จื่อเสีย ได้มันคงเป็นอะไรที่ดีมาก และคงจะดีถ้าเธอเป็นคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยด้วย
ทุกครั้งที่ได้ยินคําพูดแบบนี้ หลี่ จื่อเสีย จะทำเพียงยิ้มรับ แต่เมื่อเธอมักจะออกไปเที่ยว หรือออกไปกินข้าว หลี่ จื่อเสีย ก็จะเป็นคนริเริ่มที่จะจ่ายเงิน อย่างไรก็ตามในมุมมองของ ชุย เหวินเหวิน ตัวเธอเองเป็นผู้หญิงที่กล่าวได้ว่ามีเงินเล็กน้อย ทั้งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อยสําหรับคุณหนูใหญ่จากตระกูลที่ร่ำรวยอย่าง หลี่ จื่อเสีย…
หลี่ จื่อเสีย ไม่เคยคิดมากอะไรกับ ชุย เหวินเหวิน และเธอก็ไม่เคยเก็บมาใส่ใจด้วยซ้ำ
แต่ ชุย เหวินเหวิน กลับถือสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล สําหรับคุณหนูที่ร่ำรวยแล้ว นี่ไม่ได้นับว่าเป็นการใช้เงินอะไรด้วยซ้ำ!
หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย หลี่ จื่อเสีย กลับมาที่หางโจว เพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ และในขณะเดียวกันนั้นเธอก็เริ่มมีส่วนร่วมในธุรกิจของ ‘บริษัท’ ในฐานะลูกสาวคนเดียวของ หลี่ หวยซาน แล้ว ในอนาคตเธอต้องเข้าสืบทอดบริษัทนี้
สําหรับ หลี่ จื่อเสีย ในเวลานั้น อนาคตนั้นย่อมสดใส และทั้งหมดเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ท้ายที่สุดแล้วในฐานะผู้หญิงจากตระกูลที่ร่ำรวย สิ่งเหล่านี้นั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก
ส่วน ชุย เหวินเหวิน หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ไม่ได้เรียนต่อแล้ว เมื่อทั้งสองคุยกันเกี่ยวกับอนาคต ชุย เหวินเหวิน ก็บ่นกับ หลี่ จื่อเสีย ว่า พ่อแม่ของเธอต้องการให้เธอสอบใบวิชาชีพครู และเป็นครูเหมือนกับพวกเขาในอนาคต แต่ ชุย เหวินเหวิน ไม่ได้ต้องการอยากเป็นครู
ในคําพูดของ ชุย เหวินเหวิน ก็คือเธอ ‘กลัวความยากจน’ เธอไม่ได้อยากที่จะเป็นครูสอนจนๆ อีกต่อไปแล้ว เธอต้องการอยากเป็นคนรวย
ชุย เหวินเหวิน จึงเลือกที่จะไม่ยอมเชื่อฟังพ่อแม่ที่จะให้เธอเป็นครู และไม่ได้เรียนต่อ เพราะเธอมีมุมมองที่ต่างออกไปอีกประการหนึ่ง เด็กผู้หญิงอ่านหนังสือมากไปขนาดนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร.. สําหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะอ่านหนังสือมากแค่ไหนนั้น ก็ไม่ดีเท่ากับการให้กำเนิดบุตร และการแต่งงานที่ดี
ชุย เหวินเหวิน ได้ยอมแพ้แล้ว ในอนาคตเธอก็หวังว่าจะได้แต่งงานกับคนที่ดีเท่านั้น
ในอดีต เมื่อรู้ว่า หลี่ จื่อเสีย สูญเสียแม่ไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ชุย เหวินเหวิน ยังพูดติดตลก และบอกกับ หลี่ จื่อเสีย ว่าเธอจะแต่งงาน กับหลี่ หวยซาน และเป็นแม่เลี้ยงของ หลี่ จื่อเสีย เพื่อที่เธอจะได้มีอิสรภาพทางการเงิน กลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวย
ชุย เหวินเหวิน จึงมุ่งมั่นที่จะมีสามีที่ร่ำรวย หลังจากสําเร็จการศึกษา เธอก็เริ่มมองหางานในบริษัทใหญ่ๆ เพื่อเข้าทํางาน โดยเฉพาะเพื่อมองหา ลูกเขยเต่าทอง (สามีรวย)
ในขณะนั้นเธอเพิ่งจบการศึกษา ชุย เหวินเหวิน จึงหางานทำไม่ได้ หลี่ จื่อเสีย จึงเสนอแนะว่าให้เธอเข้ามาทํางานที่ จินอวี้ กรุ๊ป ได้
จริงๆ แล้ว ชุย เหวินเหวิน เคยได้ไปทํางานที่ จินอวี้ กรุ๊ป จริงๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ชุย เหวินเหวิน ก็ได้ขอลาออกโดยอ้างว่าเครียดจากงานมาก แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะเธอไม่สามารถหาลูกเขยเต่าทองได้ใน จินอวี้ กรุ๊ป
หลังจาก ชุย เหวินเหวิน ออกจาก จินอวี้ เธอก็ยังคงติดต่อกับ หลี่ จื่อเสีย อยู่..
ทาง หลี่ จื่อเสีย กลับได้พบกับ ชุย เหวินเหวิน น้อยลงเพราะยุ่งอยู่กับธุรกิจของบริษัท และการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เธอเพียงได้ยินว่าเธอเปลี่ยนแฟนมาหลายคนแล้ว โดยสําหรับเรื่องนี้แล้ว หลี่ จื่อเสีย ไม่สามารถหัวเราะ หรือร้องไห้ได้เลย..
ทั้งในตอนนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เพื่อนของเธอคนนี้หา ลูกเขยเต่าทอง ได้แล้วหรือยัง?
“เสี่ยวเหวิน เขาคือ…”
หลี่ จื่อเสีย กล่าว เธอตั้งใจจะแนะนํา หลินฟาน ให้รู้จักกับ ชุย เหวินเหวิน
ชุย เหวินเหวิน กลับขัดจังหวะ หลี่ จื่อเสีย อีกครั้ง และมอง หลินฟาน อย่างดูถูกเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “พูดตามตรงนะ จื่อเสีย ฉันไม่สนใจที่จะรู้จักเขา เอาเข้าจริงๆ แล้ว จื่อเสีย ฉันรู้สึกปวดใจแทนเธอจริงๆ เธอจากที่เคยเป็นคุณหนูตระกูลที่ร่ำรวย กลับถูกลดทอนสถานะลงจนตก อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้…”
เธอบอกว่าเธอรู้สึกปวดใจแทน หลี่ จื่อเสีย แต่ในคําพูดของเธอ ในน้ำเสียงของเธอ กลับเผยให้เห็นร่องรอยของความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
หลี่ จื่อเสีย : “......”
ในชั่วครู่หนึ่ง หลี่ จื่อเสีย เธอก็รู้สึกพูดไม่ออก
ชุย เหวินเหวิน กล่าวว่า : “ให้ฉันแนะนํานี่แฟนของฉัน เขาชื่อ เฉิน จวิ้นห่าว เป็นลูกชายของตระกูลเฉิน ในหางโจว ที่รัก เธอก็คือ หลี่ จื่อเสีย เพื่อนสนิทในมหาวิทยาลัยที่ฉันเคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ”
ชุย เหวินเหวิน หันมาพูดกับ ชายในชุดสูทที่อยู่ข้างๆ เธอ
ชายในชุดสูทตั้งตรง มอง หลี่ จื่อเสีย แวบหนึ่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มแก้มปริ แล้วพูดว่า : “คุณหลี่ ผมรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวของคุณ”
หลี่ จื่อเสีย พยักหน้ารับ : “ขอบคุณ คุณชายเฉิน ที่เป็นห่วงคะ”
ชุย เหวินเหวิน จับมือ เฉิน จวิ้นห่าว และพูดว่า : “จื่อเสีย จวิ้นห่าว ดีกับฉันมาก เรื่องราวของเรานั้นก็โรแมนติกมากๆ หากมีเวลา ฉันจะคุยกับเธอ และเธอจะต้องอิจฉาฉันอย่างแน่นอนเลย”
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “อืมม”
ชุย เหวินเหวิน กล่าวว่า : “จื่อเสีย เธออย่าได้เข้าใจผิดนะ ฉันกับ จวิ้นห่าว มาที่นี่ ไม่ได้มาเพื่อเปิดห้อง จริงๆ แล้ว โรงแรมนี้ก็คือหนึ่งในทรัพย์สินของตระกูลเฉิน เรามาที่นี่เพื่อดูทรัพย์สินของตัวเอง เธออาจยังไม่รู้ใช่ไหม ฉันกับ จวิ้นห่าว เรากำลังวางแผนที่จะแต่งงานกันแล้ว เขาบอกว่า หลังจากที่เราแต่งงานกัน เขาจะให้ของขวัญแก่ฉัน ซึ่งก็คือโรงแรมแห่งนี้ กล่าวคือทั้งโรงแรมนี้เป็นของฉัน ฮ่าฮ่าๆ จื่อเสีย อีกไม่นานฉันก็จะเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยแล้วนะ”
หลี่ จื่อเสีย ยิ้ม แล้วพูดว่า : “งั้นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับเธอด้วยแล้ว เสี่ยวเหวิน เธอเองอยากหาสามีที่ร่ำรวยมาโดยตลอด ความฝันนี้ของเธอเป็นจริงแล้วนะ”
ชุย เหวินเหวิน กล่าวว่า : “เพียงแต่น่าเสียดายที่ฉันรวยแล้ว แต่เธอกลับ... อนิจจา น่าเศร้าจริงๆ ฉันเคยบอกกับเธอว่าถ้าฉันเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยนั้นจะดีแค่ไหน เราเองจะยังเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดต่อกันอย่างแน่นอน จื่อเสีย เธออาจไม่รู้ว่าเมื่อก่อนฉันมีความฝันที่จะเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวย ด้วยวิธีนี้ฉันจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นเพื่อนสนิทของเธอได้ การที่เราได้เป็นเพื่อนสนิทกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย สถานะทางสังคมเองก็ต้องเท่าเทียมกันจึงจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทกันได้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่นับว่าเป็นอะไรได้ เมื่อก่อนฉันได้เอาแต่แหงนหน้ามองเธอ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ ถึงตาเธอที่จะต้องแหงนหน้ามองฉันบ้างแล้ว”
หลี่ จื่อเสีย พูดว่า : “ฉันแหงนหน้ามองเธอ คือนี่มันหมายความว่าไง?”
ชุย เหวินเหวิน พูดว่า : “ไม่ใช่เหรอ เธอก็ดูเธอในตอนนี้ดูสิว่า เธอยากจนแค่ไหน หาแฟนที่โทรมๆ แบบนี้มาได้ แล้วยังมาเปิดห้องกับเขาอยู่ โอ้.. พระเจ้า นี่เธอยังเป็นคุณหนูที่ร่ำรวยที่ฉันรู้จักอยู่อีกหรือ? ฉันรู้สึกเจ็บปวดใจมากจริงๆ ที่เห็นเธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้…”
หลินฟาน เขาได้ยกยิ้มขึ้นมา แล้วพูดว่า : “จื่อเสีย เธอคนนี้.. เป็นเพื่อนสนิทที่ดีของคุณจริงๆ นะเหรอ? ขอโทษนะ ไม่ว่าผมมองอย่างไร ผมก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ตอแหลได้ถึงขนาดนี้จริงๆ?”
ชุย เหวินเหวิน เหมือนราวกับถูกเหยียบหาง และเธอก็โกรธขึ้นมาทันที : “คุณพูดว่าอะไรนะ?!”