บทที่ 1405 : มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! (ตอนฟรี)
บทที่ 1405 : มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! (ตอนฟรี)
เธอมองไปด้านข้าง หวังเต็งกำลังจัดการกับผู้พิทักษ์อีกสี่คน
หวังเต็งใช้หมัดห้าธาตุเพื่อจัดการกับพวกมัน พวกเขาแลกหมัดกันหลายครั้ง
“ฮึ่ม!” เฟอย่าพ่นลมหายใจออกมา การจ้องมองของเธอกลายเป็นการแข่งขัน เธอไม่อยากแพ้ใคร ดังนั้นเธอจึงต้องจัดการกับพวกมันอย่างรวดเร็ว
บู้มมม!
เฟอย่าปล่อยแสงสีขาวออกมาและความเร็วของเธอก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เธอปล่อยหมัดแสงของเธอออกมา
ในอีกด้านหนึ่ง การต่อสู้อันดุเดือดระหว่างมนุษย์กับผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็ได้ปะทุขึ้น เขาประเมินการโจมตีของพวกมันและสังเกตเห็นว่าพวกมันใช้การโจมตีด้วยธาตุแสงเท่านั้น เขามีวิธีปราบปรามพวกเขาแล้ว
เขาเปิดใช้งานเนตรมังกรสุริยะโดยทันที
เปิดกลางวัน ปิดกลางคืน!
ม่านตาของเขากลายเป็นสีดำสนิทหลังจากกะพริบตาหนึ่งครั้ง แสงทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาถูกดูดซับหายไป
ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ พื้นที่โดยรอบเขาก็มืดลง และผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็ถูกกลืนหายไปในความมืด
ชาวไลท์เวลเว็ทที่กังวลกำลังเฝ้าดูการต่อสู้อยู่ ทันใดนั้นมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันและทำให้พวกเขาตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“แสงรอบๆ หวังเต็งหายไปแล้ว!”
“ฉันคิดว่ามันเป็นเทคนิคการต่อสู้อย่างหนึ่งในการปราบปรามทักษะธาตุแสงนะ!”
“ห้ะ!”
…
ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นผู้คาดเดา ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
ชาวไลท์เวลเว็ทคนอื่นๆ ต่างจ้องมองกันเมื่อได้ยินการคาดเดา พวกเขาพบว่ามันน่าเหลือเชื่อที่จะมีทักษะเช่นนี้อยู่จริง!
พวกเขาไม่ใช่คนเดียวที่งุนงง แม้แต่เฟอย่าก็ยังถูกดึงดูดโดยสถานการณ์ฝั่งหวังเต็ง เธอไม่สามารถซ่อนความสับสนของเธอได้เมื่อเห็นทักษะนี้เริ่มทำงาน
ชายคนนี้… เขาไม่ได้ใช้ทักษะนี้เมื่อเขาต่อสู้กับฉัน!
เฟอย่านึกถึงการปะทะครั้งก่อนและสงสัยว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรหากเธอเผชิญหน้ากับการโจมตีนั้น
บู้มมมม!
ทันใดนั้น เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้น และมีร่างสองสามร่างถูกโยนออกมาจากพื้นที่มืดสนิท
จริงๆ แล้ว พวกมันก็คือผู้พิทักษ์ทั้งสี่คน!
พวกมันพ่นเลือดสีทองออกมาขณะที่พวกมันกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ฝุ่นปลิวไปในอากาศ
เมื่อฝุ่นจางลง สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ก็นอนนิ่งอยู่ในหลุมลึกโดยไม่เคลื่อนไหว ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เฟอย่าหรี่ตามอง
การต่อสู้ของพวกเขาจบลงแล้ว!
ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับจักรวาลได้พ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดาย!
เฟอย่าตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ
เธอหันกลับมาสังเกตเห็นว่าพื้นที่สีดำได้หายไปแล้ว หวังเต็งลอยอยู่ในอากาศ ท่าทางสงบของเขาทำให้ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะปิดงานง่ายๆ ลง
ฝ่ายหลังสังเกตเห็นการจ้องมองของเธอและมองกลับมาที่เธอ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
เฟอย่ากัดฟันของเธอ เธอไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
บู้มม บู้มม บู้มม…
การโจมตีของเธอรุนแรงขึ้น และผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่เหลือก็เริ่มล่าถอย พวกมันไม่สามารถตามความเร็วของเธอได้ทัน
พวกมันแข็งแกร่ง แต่พวกมันก็ขาดประสบการณ์การต่อสู้ พวกมันเคลื่อนไหวเหมือนหุ่นเชิด แข็งทื่อและชักช้า พวกมันไม่คู่ควรกับเธอเลย
ในที่สุดพวกมันก็พ่ายแพ้และลงไปนอนกองกับอีกสี่ตัวแรก
ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เลว หวังเต็งเลิกคิ้วขึ้น
ใบหน้าของเฟอย่าเป็นสีดำ เธอไม่มีความสุขเพราะเธอใช้เวลานานกว่าหวังเต็ง เธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับหวังเต็งได้
เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงที่มีความภาคภูมิใจในตนเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ
ชายคนนี้เคยทนทุกข์อยู่ในเงื้อมมือของเธอมาก่อน(?) ดังนั้นเธอจึงดูถูกเขา
ความแตกต่างนั้นน่าโมโหมาก
หวังเต็งและเฟอย่าลงจอด ฝ่ายหลังมีสีหน้าเศร้าหมอง เธอไม่ยอมพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ผู้อาวุโสสูงสุดและหัวหน้าเผ่ายังไม่ฟื้นความสงบ ความสามารถของทั้งสองนั้นเกินจินตนาการของพวกเขา พวกเขาเป็นเพียงวัยรุ่นจริงๆ หรอ?
“ผู้พิทักษ์เหล่านี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ผู้อาวุโสสูงสุด เราจะทำอย่างไรกับพวกเขาดี?” หวังเต็งถาม
“ล็อคพวกเขาไว้” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นก่อนที่หวังเต็งจะตอบสนอง เขาก็กล่าวอย่างขอบคุณว่า “ขอบคุณ เราคงตกอยู่ในอันตรายแล้วหากไม่ใช่เพราะพวกเธอสองคน”
“ด้วยความยินดี มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” หวังเต็งยิ้ม
เฟอย่าต้องการจะทำตัวสุภาพเช่นกัน แต่คำพูดของเธอก็กลับติดอยู่ในลำคอเมื่อได้ยินคำตอบของเขา
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่งั้นหรอ!