ตอนที่แล้วตอนที่ 27 นางเอกคุยกับน้องสาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29 ศิษย์พี่ไป่กำลังจะร้องไห้

ตอนที่ 28 นางเอกอยากให้แม่ประทับใจ


ติ้ง

บูม

บนลานทดสอบกระบี่ หญิงสาวในชุดผ้าถูกศิษย์ชายของสำนักดาวดำฟาดหน้าอกด้วยด้ามกระบี่และกระเด็นออกลานไป

“ท่ายังไม่มั่นคง ขาดรากฐาน”

ชายคนนั้นเดินไปขอบลานและพูดอย่างเย็นชากับผู้บ่มเพาะหญิงที่เขาซัดตกลาน หลังจากนั้นก็กลับไปกลางลานและบอกศิษย์ที่ทำหน้าที่จดบันทึกให้เรียกคนต่อไป

“ต่อไป หยางกั๋ว ลานทดสอบกระบี่ยอดเขาเมฆาสวรรค์!”

ตอนผู้ทดสอบชื่อหยางกั๋วได้ยินชื่อเขา รูม่านตาเขาก็หดลงเหมือนเห็นผี ใบหน้าขาวซีด

ผู้สมัครรอบเขาตบไหล่เขา“สหาย ไม่ต้องห่วง เราจะแบกเจ้าไปห้องรักษาเอง”

ในเวลาเดียวกัน ลานทดสอบกระบี่อื่นก็ถูกเรียก“ต่อไป หยุนหลิง ลานทดสอบกระยี่ยอดเขาน้ำพุจันทร์!”

ผู้สมัครชื่อหยุนหลิงโล่งใจหลังได้ยิน เขาเกือบจะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจและวิ่งไปลานทดสอบกระบี่อีกฝั่ง

เพ่ยเหลียนเสวี่ยที่กำลังรอในพื้นที่พักสังเกตเห็นปฏิกริยาที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง นางถามเสี่ยวอวิ๋นหลัวที่นั่งข้างๆ“สหายเสี่ยว ทำไมตอนเรียกชื่อ คนหนึ่งถึงเศร้า คนหนึ่งถึงดีใจละ?”

เสี่ยวอวิ๋นหลัวมองนางและอธิบาย“การทดสอบกระบี่จะให้คะแนนตามการทนได้นาน บนลานยอดเขาเมฆาสวรรค์ ศิษย์สายกระบี่ทุกคนจะอยู่ในอาณาจักรก่อตั้งรากฐาน ส่วนลานยอดเขาน้ำพุจันทร์ ไม่ค่อยมีศิษย์สายกระบี่นัก เจ้าคิดว่าลานไหนจะยื้อได้นานกว่าละ?”

“โอ้..”เพ่ยเหลียนเสวี่ยพยัหกน้า“ไม่แปลก งั้น ทุกคนควรอยากไปลานยอดเขาน้ำพุจันทร์ใช่ไหม?”

“แน่นอน มีทั้งหมด12ลานที่นี่ ไม่มีใครอยากไปลานยอดเขาเมฆาสวรรค์”

เสี่ยวอวิ๋นหลัวกุมกระบี่ในมือแน่น ลังเลและถาม“เจ้าอยากไปลานทดสอบกระบี่ไหน?”

“ข้า..”

เวลานี้ ชายชื่อหยางกั๋วกระเด็นออกจากลานทดสอบกระบี่เมฆาสวรรค์และพ่นเลือดเป็นฝอย ดูเหมือนจะกระดูกซี่โครงหัก

ตอนเพ่ยเหลียนเสวี่ยเห็น นางก็หดหัวและรีบพูด“ข้าไม่มีทางอยากไปยอดเขาเมฆาสวรรค์”

เสี่ยวอวิ๋นหลัวมองหยางกั๋วและแค่นเสียงขะยแขยง“ฮึ่ม!มันเป็นลานยอดเขาเมฆาสวรรค์ที่ผู้อาวุโสให้ความสนใจสุด”

เพ่ยเหลียนเสวี่ยพูด“แต่การไม่เจ็บตัวก็ดีกว่า พี่ชายข้าสอนข้าว่าข้าไม่ควรทำตัวเสียภาพลักษณ์”

“..”

อวิ๋นหลัวมองนางอย่างรังเกียจแต่ไม่พูดเพิ่ม

พอเห็นสายตาดูหมิ่นของนาง เพ่ยเหลียนเสวี่ยก็หยุดพูด

เสี่ยวอวิ๋นหลัวขมวดคิ้ว ตอนนางมองการฝึกกระบี่ของเพ่ยเหลียนเสวี่ย นางคิดว่าจะเป็นคนที่ทรงพลังมาก แต่ตอนนี้ พอเห็นว่านางไร้กระดูกสันหลัง นางก็ผิดหวัง

“ฮึ่ม!”

เวลานี้ ชื่อนางถูกประกาศ

“ต่อไป เสี่ยวอวิ๋นหลัว ลานทดสอบกระบี่ยอดเขาเมฆาสวรรค์”

พอได้ยินว่านางถูกมอบไปยังลานทดสอบยอดเขาเมฆาสวรรค์ ดวงตาของเสี่ยวอวิ๋นหลัวก็เป็นประกายขณะตะโกนในใจ

นางรีบชักกระบี่และโยนฝักให้เพ่ยเหลียนเสวี่ย

“ถือไว้ให้ข้า ข้าจะกลับมาเอา”

เพ่ยเหลียนเสวี่ยพยักหน้า“อืม..ได้”

หลังจากนั้น เสี่ยวอวิ๋นหลัวก็เหยียบขึ้นลานสูงหนึ่งเมตร เดินไปตรงกลาง มองศิษย์หญิงยอดเขาเมฆาสวรรค์ที่เป็นคู่ต่อสู้

นางจำได้ว่าศิษย์พี่หญิงคนนี้ชื่อไป่เยวี่ยซิน นางเป็นศิษย์ก่อตั้งรากฐานขั้นกลางถึงสูงในยอดเขาเมฆาสวรรค์ นางยิ้มพอใจ จากนั้นก็ประสานมือคารวะ“ศิษย์พี่ไป โปรดชี้แนะด้วย”

พอนางคารวะ นางก็หันไปมองที่นั่งของผู้อาวุโสใหญ่ด้านบน

ห้าผู้อาวุโสใหญ่ของดาวดำจะมาดูการทดสอบกระบี่เอง และถ้ามีคนเข้าตา พวกเขาจะรับเป็นศิษย์ส่วนตัวเลย

แต่ จุดสนใจของนางไม่ใช่ห้าผู้อาวุโส แต่เป็นนกแก้วมงกุฏทองหน้าตาตลกที่เกาะบนราวด้านหลังพวกเขา

แม่ของนางคือผู้บ่มเพาะตัดวิญญาณ มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะมาดูเอง ไม่งัน้น แม้กระทั่งก่อนการทดสอบเริ่ม หลายคนคงหมดสติเพราะแรงกดดันของนาง ดังนั้น นกแก้วจึงเป็นตาของแม่นาง

เสี่ยวอวิ๋นหลัวไม่คิดว่าแม่นางจะมาดูการทดสอบกระบี่ ตอนนางเห็นนกแก้ว นางก็ประหม่าเล็กน้อย แต่ก็รวบรวมความกล้าและพูดกับไป่เยวี่ยซิน“ศิษย์พี่ไป่ ท่านไม่ต้องใช้กระบี่ไม้ ใช้กระบี่ของท่านเลย”

ไป่เยวี่ยซินที่กำลังจะหยิบกระบี่ไม้ผงะ กังวลเล็กน้อย นางถามศิษย์ที่จดบันทึก

ศิษย์คนนั้นส่ายหัว

ไป่เยวี่ยซินโน้มน้าว“คุณหนู กฎคือใช้กระบี่ไม้ แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่อ่อนข้อ”

เสี่ยวอวิ๋นหลัวผิดหวังแต่ไม่พูดอีก

“งั้น โปรดชี้แนะข้าด้วย”

“ฮึ่ม!”

บนลานทดสอบกระบี่ยอดเขาเมฆาสวรรค์ ประกายไฟปลิวว่อน

ห้าผู้อุวโสใหญ่มองจากด้านบน พยักหน้าพอใจและชมนาง“นางสมกับเป็นคุณหนู นางสู้กับศิษย์ยอดเขาเมฆาสวรรค์ได้ถึงห้ากระบวนท่าแล้ว?”

“จริง คุณหนูเพิ่งอายุ15ในปีนี้ นางต้องกลายเป็นรุ่นเยาว์ที่น่าภาคภูมิใจในอนาคต”

จากวินาทีที่เสี่ยวอวิ๋นหลัวก้าวขึ้นลาน ห้าผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่หยุดชม

แต่ นกแก้วด้านหลังพวกเขาดูไม่พอใจและพลันเปิดปาก“หุบปาก หุบปาก!หนวกหู หนวกหู หนวกหู!!!”

ตอนห้าผู้อาวุโสใหญ่ได้ยิน พวกเขาก็รีบปิดปาก

เวลานี้ บนลาน เสี่ยวอวิ๋นหลัวทนไม่ไหวอีก ไป่เยวี่ยซินจับจุดผิดพลาดในท่าเท้านางได้และฟาดไหล่ขวานางด้วยกระบี่ไม้ โยนนางออกจากลาน

แต่ แทนที่จะนอนบนพื้นเหมือนคนอื่น นางรีบยืนขึ้น กัดฟัน“ขอบคุณ ศิษย์พี่ไป่”

หลังพูด เสี่ยวอวิ๋นหลัวก็ประสานมือและก้มหัวให้ไป่เยวี่ยซินบนลาน จากนั้นก็ตรงกลับไปที่พักผ่อน มีศิษย์สายในบางคนที่อยากไปช่วย แต่นางไล่ด้วยสายตา

“ไม่ต้อง ข้าเดินเองได้”

หลังกลับจุดพัก นางก็นั่งข้างเพ่ยเหลียนเสวี่ยและถาม“ข้าทนได้นานแค่ไหน?”

“เกือบสิบนาที?”เพ่ยเหลียนเสวี่ยตอบ

“นั่นควรเป็นคะแนนเต็ม”เสี่ยวอวิ๋นหลัวยิ้มและพึมพำ“ข้าสงสัยว่าท่านแม่จะเห็นไหมนะ”

“แม่?”

“อา..”พอรู้ตัวว่านางคิดดังไป เสี่ยวอวิ๋นหลัวก็หน้าแดง นางขมวดคิ้ว“ฮึ่ม!!!ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้าควรภาวนาให้ตัวเองไปลานทดสอบกระบี่ยอดเขาน้ำพุจันทร์จะดีกว่า”

ไม่รู้ว่านางไปทำอะไรให้โกรธ เพ่ยเหลียนเสวี่ยจึงหน้าเสีย แต่พอมองแผลที่ไหล่ นางก็เป็นห่วง“เจ้าไปทำแผลก่อนสิ มันบวมหมดแล้ว”

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า นี่แค่แผลเล็กน้อย!”

“โอ้..”

เวลานี้ ผู้เข้าแข่งคนต่อไปถูกประกาศให้ขึ้นลานทดสอบกระบี่ยอดเขาเมฆาสวรรค์

“ต่อไป เฟิงหยูเตี๋ย ลานทดสอบกระบี่ยอดเขาเมฆาสวรรค์!”

หลังรออยู่นาน ก็ยังไม่มีใครเผยตัว ผู้ประกาศจึงเรียกใหม่

“เฟิงหยูเตี๋ย!!เฟิงหยูเตี๋ยอยู่ไหม?!”

พอพวกเขาเรียกครั้งที่สอง เพ่ยเหลียนเสวี่ยถึงได้สติ นางมองเฟิงหยูเตี๋ยทางซ้ายมือ

ไม่รู้ว่านางทำอะไรเมื่อคืน แต่หลังมาที่นี่ เฟิงหยูเตี๋ยก็นอนพิงไหล่นาง แถมยังน้ำลายยืด

ด้วยสีหน้าขยะแขยง เพ่ยเหลียนเสวี่ยใช้นิ้วผลักหัวนาง

“อะ?!”เฟิงหยูเตี๋ยสะดุ้งตื่น มองซ้ายมองขวา“อะไร?เกิดอะไรขึ้น?”

“ตาเจ้าแล้ว ขึ้นไปลานยอดเขาเมฆาสวรรค์”

“โอ้..”เฟิงหยูเตี๋ยหัวเราะ จากนั้นก็มองเสี่ยวอวิ๋นหลัว พอเห็นว่านางดูบาดเจ็บ นางก็ถามอย่างเป็นห่วง“เจ้าบาดเจ็บเหรอ?”

เสี่ยวอวิ๋นหลัวเบือนหน้าหนี ไม่อยากคุยด้วย

เวลานี้ นางถูกเรียกขึ้นอีก“เฟิงหยูเตี๋ย!นี่คือการเรียกครั้งสุดท้าย ไม่งั้น เจ้าจะโดนตัดสิทธิ์!”

“อา!ข้าอยู่นี่!”เฟิงหยูเตี่ยรีบลุก โบกมือ จากนั้นก็มองเพ่ยเหลียนเสวี่ยอายๆและถาม“แม่นางเพ่ย ถ้าข้าได้คะแนนเต็ม จะมีรางวัลไหม?เช่น..กอดหรืออะไรทำนองนั้น..”

เพ้ยเหลียนเสวี่ยถอนหายใจ ลุกขึ้น คว้าคอเสื้อนาง เหวี่ยงนางขึ้นลานทดสอบกระบี่โดยตรง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด