1287 - การร่ำลา
1287 - การร่ำลา
“มันไปได้อย่างไร? ใครเป็นคนตัดแท่นบูชาห้าสีออกแล้ววางไว้ด้านบนของหุบเหว?”
ผู้คนจำนวนมากที่ไม่เคยมาที่นี่ต่างรู้สึกสงสัย แท่นบูชาห้าสีลอยอยู่เหนือหุบเหวลึกและมีพลังแห่งความรกร้างแผ่ออกมาอย่างเข้มข้น ไม่ว่าใครเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้จะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยทันที
“มันเป็นดินแดนต้องห้ามโบราณจริงๆ!”
ผู้คนต่างพบว่ามันน่าเหลือเชื่อที่พื้นที่ที่อยู่ห่างไกลกันนับล้านลี้กลับเชื่อมต่อกันด้วยวิธีการนี้
ในปัจจุบันผู้คนส่วนมากยังคงอยู่ในจงโจว และต่อให้พวกเขาใช้เวลาเดินชั่วชีวิตก็ไม่มีทางไปถึงภาคใต้ของตงหวงได้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับมองเห็นดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิตอย่างชัดเจน
ทันใดนั้นเมื่อเห็นภูเขาซึ่งมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่สิ่งมีชีวิตโบราณจำนวนมากต่างก็วิ่งขึ้นไปบนเขาเหล่านั้นด้วยความกระตือรือร้น
ต่อให้รู้ว่าที่นี่มีพลังแห่งความรกร้างปกคลุมอย่างแน่นหนา แต่พวกเขาเชื่อมั่นว่าขอเพียงได้รับยาศักดิ์สิทธิ์สักต้นพวกเขาก็สามารถฟื้นฟูสภาพของตัวเองกลับคืนมาได้อย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นไม่นานบนภูเขาทั้งเก้าลูกก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้าสู่บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
โดยเฉพาะกลุ่มราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์โบราณที่มีความกระตือรือร้นมากที่สุด พวกเขามีทั้งอาวุธศักดิ์สิทธิ์และอย่าล้ำค่า ในขณะที่ร่างกายก็ทรงพลังอย่างมาก
ในยุคที่พวกเขาเกิดขึ้นมานั้นมีเพียงเหมืองโบราณต้นกำเนิดเพียงแห่งเดียวที่เป็นดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิต พวกเขายังไม่รู้ถึงความอันตรายของสถานที่แห่งนี้
เย่ฟ่านและผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์เพียงเฝ้ามองอย่างเงียบๆ
ในเวลาเดียวกันก็มีผู้คนไม่น้อยที่วิ่งไปทิศทางของแท่นบูชาห้าสี พวกเขาต้องการรื้อถอนแท่นบูชานี้ออกมาเพื่อนำไปติดตั้งในดินแดนบรรพชนของตัวเอง
แต่แล้วเมื่อคนจำนวนมากกระโดดลงไปในหุบเหวใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
นั่นก็เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของพวกเขาดูเหมือนจะถูกปิดผนึกไว้ ไม่มีใครสามารถใช้ทักษะเต๋าได้ เมื่อร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อตกลงไปบนแท่นบูชาห้าสีซึ่งอยู่ห่างจากปากเหวหลายร้อยวา ร่างของพวกเขาก็แหลกละเอียดกลายเป็นเนื้อบดทันที
สำหรับผู้ที่ยังรอดชีวิตยิ่งมีชะตากรรมเลวร้ายยิ่งกว่า นั่นก็เพราะด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สูญหายไป มันไม่มีทางที่พวกเขาจะบินกลับขึ้นมาบนปากหิวได้อีกแล้ว
ในขณะนี้มีผู้คนจำนวนมากเริ่มแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว ในหุบเหวลึกนี้เป็นสถานที่ที่มีพลังแห่งความรกร้างหนาแน่นมากที่สุด ดังนั้นร่างกายของราชาผู้ยิ่งใหญ่หลายคนจึงแห้งเหี่ยวราวกับเปลือกไม้ทันที
ดินแดนปีศาจ!
ผู้คนจำนวนมากตระหนักได้เช่นนั้น
“ปรากฎว่าต้องตั้งพิกัดให้แท่นบูชาห้าสีก่อน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้าไม่สามารถกลับสู่โลกมนุษย์ได้!” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง
“เสี่ยวเย่อย่าไปเลย มันอันตรายเกินไป” จี้จื่อเยว่น้ำตาไหล
“ไม่มีเวลาแล้ว บางทีแท่นบูชาห้าสีอาจจะจมลงในเหวในไม่ช้า แม้ว่าข้าจะรอได้หลายร้อยปี แต่บิดามารดาของข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว” เย่ฟ่านตัดสินใจ
“มีคนข้ามไปได้สำเร็จแล้ว!” ผู้คนอุทาน
ในขณะนี้สิ่งมีชีวิตโบราณที่มีปีกสีดำขนาดใหญ่ได้บินลงไปที่แท่นบูชาห้าสี พวกเขาคือสิ่งมีชีวิตโบราณจากภูเขาหงส์ร่วงนั่นเอง
“เขาทำสำเร็จ !”
หลายคนโห่ร้องเสียงดัง แต่ในไม่ช้าร่างกายของผู้ยิ่งใหญ่จากภูเขาหงส์ร่วงก็เริ่มแห้งเหี่ยวและกลายเป็นฝุ่นผงภายในเวลาไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะล้มเหลว แต่เผ่าพันธุ์โบราณจำนวนมากก็เกิดความกระตือรือร้นอย่างถึงที่สุด พวกเขามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถคุ้มครองพลังชีวิตของตัวเองได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการทดลองอีกครั้ง!
“ข้ารอไม่ไหวแล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะต้องออกเดินทาง หากปล่อยให้พวกเขายังทำแบบนี้ต่อไปเกรงว่าคนเรานั้นอาจทำสำเร็จจริงๆ” เย่ฟ่านกล่าว
“เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ ระดับของดินแดนต้องห้ามโบราณนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ต่อให้เจ้าออกไปได้ก็ไม่แน่ว่าจะไปถึงโลกของเจ้าได้จริงๆ?” วานรศักดิ์สิทธิ์เตือนสติ
“บางทีมันอาจจะไร้ประโยชน์ แม้ว่าข้าจะกลับบ้านได้สำเร็จแต่บิดามารดาของข้าอาจจะตายไปแล้ว อย่างไรก็ตามต่อให้มีความหวังเพียงน้อยนิดข้าก็ยังต้องกลับไป” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง
ถ้าลองคิดดูดีๆ เขาจากโลกนี้ไปมากกว่ายี่สิบปีแล้ว ในปัจจุบันบิดามารดาของเขามีอายุไม่ต่ำกว่าเจ็ดสิบปี หากเขายังปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเช่นนี้เกรงว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้พบบิดามารดาอีก
เย่ฟ่านอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ต่อให้รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้อาจนำเขาไปสู่ความตาย แต่เขายังคงจะมุ่งหน้ากลับบ้านโดยไม่มีความลังเล
“ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรข้าก็ต้องกลับไป ไม่อย่างนั้นชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าจะต้องจมอยู่ในความเสียใจไปตลอดกาล”
“เจ้า...ดูแลตัวเองด้วย ข้าจะสวดภาวนาให้เจ้าทุกวัน”
ดวงตาของจี้จื่อเยว่เต็มไปด้วยหมอก นางชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อบอกเขาว่าถ้าเขาคิดถึงเพื่อนเก่าทุกคนขอให้เขามองไปที่ดวงดาว พวกนางก็จะทำเช่นเดียวกัน
“ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ หากทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าก็แวะกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง” ฉีลั่วถอนหายใจและตบไหล่เย่ฟ่าน
ทุกคนรู้ดีว่านี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่มีอะไรผิดพลาด นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบกับเย่ฟ่าน เพราะเขาไม่มีพิกัดของดาวดวงนี้ ต่อให้โลกของเย่ฟ่านจะมีแท่นบูชาห้าสีมันก็ยังเป็นเรื่องยากที่เขาจะกลับมาที่นี่ได้
“จริงๆโลกของเจ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่ค่อนข้างลึกลับ ข้าอยากไปที่นั่นเพื่อสำรวจบางอย่าง แต่น่าเสียดายที่โลกใบนั้นการบ่มเพาะเป็นไปด้วยยากเกินไป” ต้วนเต๋อก้าวไปข้างหน้าเพื่อกล่าวคำอำลา
“เจ้าจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้”
สุนัขสีดำตัวใหญ่อ้าปากแล้วคายน้ำเต้าหยกสีม่วงตัวเล็กๆ ขนาดออกมา น้ำเต้าใบนี้บรรจุไว้ด้วยน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งความเป็นอมตะนั่นเอง
ทุกคนตกใจอย่างมากพวกเขาไม่คิดว่าจักรพรรดิดำจะเก็บสมบัติอันล้ำค่าชิ้นนี้ไว้
“ไปเอามาจากไหน?” หลายคนแทบไม่เชื่อ
จากนั้นเสียงกรีดร้องของเฟิ่งหวงก็ดังขึ้น จักรพรรดิดำคายขวดหยกออกมาอีกชิ้น ทันทีที่ขวดหยกนี้ปรากฏขึ้นเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวก็กวาดออกไปรอบทิศทาง
“นี่คือยาเฟิ่งหวงอมตะของจักรพรรดิอู่ซือ!” จักรพรรดิดำกล่าว
ของเหลวจากอย่าเซียนเฟิ่งหวงนั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงส่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้วิญญาณของเย่ฟ่านเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว แต่ขอเพียงดื่มมันลงไปสักหยดร่างกายของเขาก็จะฟื้นฟูกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว
“นกเวรตัวนั้นกลายเป็นวิญญาณบริสุทธิ์ไปแล้ว เห็นแก่ที่พวกเราเป็นสหายเก่ามันจึงมอบโลหิตให้ข้าสี่หยด หวังว่าเจ้าจะใช้มันให้ดี”
ไม่มีใครคาดคิดว่าจู่ๆ จักรพรรดิดำจะใจกว้างถึงขนาดนี้
เย่ฟ่านไม่ปฏิเสธและกำลังจะเดินจากไป เขาต้องการสิ่งนี้จริงๆ ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้พี่น้องทุกคนไปมาก ดังนั้นยาศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองเขาแทบจะไม่เหลืออยู่เลย
กลิ่นหอมของยาทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงตื่นตัว และหลายคนก็มองมันด้วยสายตาละโมบ แต่เมื่อพวกเขาเห็นสมบัติเหล่านั้นอยู่ในมือของเย่ฟ่านพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวโดยพละการ
“เดินทางโดยสวัสดิภาพ!”
สหายทุกคนรู้ดีว่าไม่มีทางรั้งตัวเย่ฟ่านไว้ที่นี่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงสวดภาวนาให้เย่ฟ่านเดินทางอย่างปลอดภัย
“พวกเจ้าควรดูแลด้วย!”
เย่ฟ่านมองดูพวกเขาอย่างลึกซึ้งเพื่อพยายามประทับห้วงของความทรงจำในช่วงเวลานี้ไปตราบนานเท่านาน
จากนั้น เขาก็หันหันหลังอย่างเด็ดเดี่ยวและพุ่งเข้าไปในดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิตโดยไม่ลังเล
สิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์โบราณจำนวนมากต้องการที่จะไล่ล่าเย่ฟ่าน แต่สุดท้ายพวกเขารู้ดีว่าไม่อาจต้านทานพลังแห่งความรกร้างนี้ได้ ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่มองเย่ฟ่านกระโดดลงไปในหุบเหว
“เย่จื่อ!”
จี้จื่อเยว่ร้องไห้เสียงดัง น้ำตาของนางไหลอาบใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าโศกอย่างถึงที่สุด
“อย่าลืมว่ายังมีเพื่อนเก่ากลุ่มหนึ่งรอการกลับมาของเจ้าเสมอ”
แม้ว่านางจะกล่าวเช่นนั้น แต่ทุกคนรู้ดีว่าไม่มีทางที่เย่ฟ่านจะสามารถกลับมาได้อีกแล้ว
“ลาก่อน!”
เย่ฟ่านหันกลับไปมองทุกคนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะ
เย่ฟ่านดึงจี้หยกออกมาและขว้างมันไปที่มือของจี้จื่อเยว่
…….
ค้าง 1 ตอน