ตอนที่แล้วบทที่ 26 ออกอากาศตอนแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 ต่อให้ใช้เพลงใหม่ก็ไร้ประโยชน์!!

บทที่ 27 คุณคิดว่าฉันมาที่นี่เพื่อเข้าใกล้เซิ่นเหยาจริงๆ เหรอ?


วันรุ่งขึ้น หลินโจว, ซูชิงเหม่ย, จางหง และโจวหยุน มาที่สตาร์ซิตี้ทีวีก่อนเวลา

วันนี้จะเริ่มถ่ายทำรายการ "I Am a Singer" ตอนที่ 2 ตั้งแต่เช้า

พวกเขาขึ้นลิฟต์ไปยังห้องถ่ายทำรายการที่ชั้น 5 ทันที เมื่อก้าวออกมาจากลิฟต์ เซิ่นเหยาก็เดินออกมาจากลิฟต์อีกตัว

ครั้งนี้ขบวนผู้ติดตามของเธอยิ่งใหญ่กว่าครั้งที่แล้วมาก นอกจาก เฉินจื่อผู้จัดการของเธอแล้ว เธอยังพาผู้ช่วยอีกห้าคนมาด้วย

ใบหน้าของเซิ่นเหยาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ไม่สามารถเก็บซ่อนรอยยิ้มของเธอไว้ได้เลย ยิ่งเมื่อเธอเห็นซูชิงเหม่ยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันก็เดินเข้ามาทักทายซูชิงเหม่ยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร: “ชิงเหม่ย เธอมาเร็วจังนะ?”

โจวหยุนที่อยู่ด้านหลังเบะปาก หันไปกระซิบกับหลินโจว: “เมื่อก่อนเรียกพี่ชิงเหม่ยว่าพี่ซู พี่ซูตลอด แต่ตอนนี้ฉันเรียกชิงเหม่ยเฉยๆ ใจแคบจริงๆ!”

หลินโจวยิ้มน้อยๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร เซิ่นเหยาในสายตาเขาตอนนี้ก็เหมือนกับคนแปลกหน้าไม่ต่างกัน ในตอนที่ยังคบกันอยู่ เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่บริสุทธิ์น่าทะนุถนอม คู่ควรให้เขาดูแลไปตลอดชีวิต

ตอนนี้เขาเพิ่งจะเข้าใจว่า เซิ่นเหยาได้กลายเป็นคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จักมานานแล้ว

แค่เรื่องที่ซื้อกองทัพน้ำเพื่อเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับซูชิงเหม่ย นั้นก็เกินกว่าความเข้าใจของหลินโจวที่มีต่อเซิ่นเหยาในอดีตแล้ว

ในเวลานี้ ซูชิงเหม่ยเพียงมองไปที่เซิ่นเหยาด้วยสีหน้าเรียบเฉย พยักหน้าเล็กน้อย: "คุณก็มาเร็วเหมือนกัน"

จากนั้นเธอก็เดินไปยังห้องแต่งตัว หลินโจวเดินตามเธอไป เดินผ่านเซิ่นเหยาโดยไม่ได้มองเธอแม้แต่น้อย

เมื่อพวกเขาเดินห่างออกไป เซิ่นเหยาก็มองไปที่แผ่นหลังของหลินโจว ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพึมพำว่า: “เขาไม่ยอมไปไหนจริงๆ”

เฉินจื่อพูดขึ้นว่า: "เธอตั้งใจเตรียมตัวสำหรับแข่งขันเถอะ ฉันจะหาโอกาสคุยกับเขาเอง"

รายการจะเริ่มถ่ายทำตอนเก้าโมงเช้า ซูชิงเหม่ยรีบเข้าไปในห้องแต่งตัวทันทีเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีที่มาถึง หลินโจวรอเธออยู่ที่ทางเดินด้านนอกตามปกติ

ในเวลานี้ นักร้องอีกห้าคนก็ทยอยกันมาถึง บริเวณทางเดินก็กลับมาคึกคักอีกครั้งเต็มไปด้วยทีมงานและผู้ติดตามของศิลปินแต่ละคน

หลินโจวมองดูคร่าวๆ เขาพบว่าศิลปินรุ่นใหม่แต่ละคน ต่างก็มีผู้ติดตามอย่างน้อย 3-4 คน ตรงกันข้าม 2 ศิลปินรุ่นใหญ่อยากจางหัวและหยูซินกลับมีผู้ช่วยแค่คนเดียวเท่านั้น

แม้แต่ผู้ช่วยของจางหัวก็ยังเป็นภรรยาของเขาเอง

เหตุการณ์แบบนี้จริงๆ แล้วเป็นเรื่องปกติมากในวงการบันเทิงบนดาวเคราห์โลกเช่นกัน  ศิลปินรุ่นใหญ่ออกจากบ้านโดยมีผู้ติดตามแค่เพียงคนเดียว ในขณะที่นักร้องรุ่นใหม่อาจมีผู้ติดตามมากเกิน 7, 8 คน คนที่ไม่รู้อาจคิดว่าพวกเขาอาจคิดว่าเป็นนิทรรศการการจัดแสดงแพนด้ายักษ์

จากมุมมองนี้ ซูชิงเหม่ยกลับดูดีทีเดียว เธอมีเพียงจางหงและโจวหยุนที่คอยติดตาม สำหรับการว่าจ้างผู้ช่วยส่วนตัวเช่นเขานั้นถือว่าเป็นกรณีพิเศษ นั้นก็เพราะซูชิงเหม่ยถูกคุกคาม

“คุณหลิน มีเวลาคุยกันหน่อยไหม?”

ในเวลานี้ จู่ๆ เฉินจื่อก็เดินเข้ามาหลินโจวพร้อมรอยยิ้ม

หลินโจวมองไปที่ห้องแต่งตัวของซูชิงเหม่ย ชุดที่เธอจะใส่ในการแสดงวันนี้ของเธอนั้นค่อนข้างซับซ้อน คาดว่าคงต้องใช้เวลาแต่งตัวอีกสักพักกว่าที่เธอจะออกมา หลินโจวจึงพยักหน้าเดินตามเฉินจื่อไปที่บันไดหนีไฟ

เฉินจื่อระมัดระวังมากเธอมองซ้ายมองขวา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ จากนั้นก็หันไปพูดกับหลินโจว: “คุณหลิน ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดีมากๆ อย่าจมอยู่กับอดีตเลย จริงๆแล้วเซิ่นเหยาเองก็หวังให้คุณมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ถ้าคุณมีเงื่อนไขอะไร คุณก็พูดออกมาได้เลย”

หลินโจวถามด้วยความประหลาดใจ: “คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”

เฉินจื่อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหมดหนทางว่า "คุณหลิน เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนหรอก ไม่ใช่ว่าทุกความสัมพันธ์จะลงเอยด้วยดีเสมอไป เก็บความทรงจำไว้ให้เกียรติซึ่งกันและกันแยกจากกันด้วยดีไม่ดีกว่าเหรอ?"

หลินโจวเองก็รู้สึกหมดหนทางยิ่งกว่า: "ไม่ใช่ตกลงกันแล้วเหรอว่า รอให้ครบกำหนด 30 วัน ก็ค่อยไปเซ็นใบหย่ากัน มันยังมีปัญหาอะไรอีก?"

เฉินจื่อสังเกตสีหน้าของหลินโจวอย่างระมัดระวัง จะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง: "นี่คุณพูดจริงใช่ไหม ไม่เปลี่ยนใจแล้วใช่ไหม?"

หลินโจวพูดไม่ออกเล็กน้อย เขาถอนหายใจ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความหนักแน่น: "ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนใจ ฉันเองก็หวังให้เรื่องนี้จบโดยเร็วที่สุดเหมือนกัน"

เฉินจื่อพูดว่า: "แบบนั้นก็ดีแล้ว คุณหลิน ในเมื่อคุณยอมที่จะหย่าแล้ว ก็อย่าตามติดเซิ่นเหยาอีกเลย ถ้าคุณอยากได้งานดีๆ แล้วล่ะก็ ฉันสามารถช่วยแนะนำให้คุณได้"

หลินโจวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เข้าใจ: "พวกคุณคิดว่าฉันมาเป็นผู้ช่วยของซูชิงเหม่ยเพื่อที่จะเข้าใกล้เซิ่นเหยางั้นเหรอ?"

เขาประหลาดใจมาก รู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างไร้สาระจริงๆ

ท้ายที่สุดแล้ว เขาและเซิ่นเหยาก็แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันมาถึง 3 ปี ไม่ว่ายังไง เซิ่นเหยาก็ ควรจะเข้าใจนิสัยของเขาบ้าง เขาเหมือนคนที่ชอบตามรังควานคนอื่นมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

ตกลงแล้ว เป็นเซิ่นเหยาที่เปลี่ยนไป หรือเขาไม่เคยรู้จักเธอเลยกันแน่?

เฉินจื่อพูดต่อว่า: "คุณหลิน ไม่ว่าคุณคิดจะเข้าหาเซิ่นเหยาหรือไม่ก็ตาม ฉันคิดว่าในเมื่อคุณทั้งคู่กำลังจะหย่ากันแล้ว ทางที่ดีก็ควรรักษาระยะห่างกันเอาไว้ งานของคุณก็เป็นแค่ผู้ช่วยอนาคตมันไม่แน่นอน ฉันมีเพื่อนที่เปิดค่ายเพลงแห่งหนึ่ง ฉันสามารถแนะนำคุณได้”

"เพียงแต่ว่า......" เฉินจื่อหยุดพูดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า: “มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องตกลงตามข้อตกลง อย่าเข้าใกล้เซิ่นเหยาอีก”

หลินโจวยิ้ม "คุณเฉิน ฉันมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้เท่าที่ฉันต้องการ ตั้งแต่วันที่ยื่นคำร้องขอหย่า ฉันก็ไม่เคยติดต่อเซิ่นเหยาอีกเลย กลับกัน คุณและเซิ่นเหยาต่างหางที่ตามรังควานฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันถามคุณหน่อยตกลงนี่มันใช่ความผิดฉันเหรอ"

เฉินจื่อยังคงอยากจะพูดต่อ แต่หลินโจวหันหน้ามองออกไปเห็นร่างที่คุ้นเคย ไปและเห็นร่างที่คุ้นเคย หัวใจของเขาสั่นไหว หันไปกล่าวกับเฉินจื่อว่า: “ขอโทษนะ ฉันมีเรื่องต้องทำ ลาก่อน”

พูดจบก็หันหลังกลับ โดยไม่สนใจเฉินจื่ออีก รีบเดินตามสาวน้อยร่างเล็กไปอย่างรวดเร็ว พร้อมตะโกนเรียก: “ผู้ช่วยหลิวครับ”

เมื่อร่างนั้นได้ยินเสียงตะโกนเรียก เธอก็หันกลับมายังต้นเสียงเผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่แดงระเรื่อ บนหน้าผากมีเหงื่อเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าผู้ช่วยผู้กำกับน้อยคนนี้คงจะวิ่งวุ่นไปมาอีกแล้ว

“ผู้ช่วยหลิน คุณนี่เอง มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

เมื่อผู้ช่วยหลิวเห็นว่าเป็นหลินโจว เธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย พวกเขาทั้งสองนับว่าคุ้นเคยกันบ้างแล้วจากการถ่ายทำครั้งก่อน

ครั้งนี้ ผู้ช่วยผู้กำกับน้อย ห้อยป้ายชื่อไว้บนหน้าอก เขียนชื่อของเธอไว้ว่า: “หลิวหยวนหยวน”

เมื่อมองไปยังใบหน้ากลมของเธอแล้ว ชื่อนี้นับว่าเหมาะสมจริงๆ

หลินโจวยิ้มและพูดว่า: "ขอโทษนะครับ ผมขอรบกวนเวลาของคุณสักครู่ ผมอยากจะถามหน่อยว่า ผมจะติดต่อฝ่ายที่รับผิดชอบแผนกรายการของสถานีของคุณทางไหนได้บ้างครับ?"

เมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะที่กำลังฟังการซ้อมร้องเพลงของซูชิงเหม่ย รายการวาไรตี้ของโลกคู่ขนานที่ชื่อว่า "เอ็กซ์ตรีมชาเลนจ์" ก็ปรากฏขึ้นในการคัดลอกความทรงจำ หลินโจวยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ประโยชน์จากแผนการผลิตรายการวาไรตี้นี้อย่างไรดี

ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันของเขาแล้ว การขายลิขสิทธิ์ดูเหมือนจะเป็นวิธีจัดการที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทีวีดาวเทียมสตาร์ซิตี้มีแผนกรายการ หลินโจววางแผนที่จะสอบถามจากผู้ช่วยหลิว เพราะหากเขาต้องการขายลิขสิทธิ์รายการจริงๆ เขาก็ย่อมต้องการคุยกับคนที่สามารถตัดสินใจได้

“แผนกรายการเหรอคะ? คุณต้องติดต่อผู้อำนวยการหวังซิน เขาเป็นผู้อำนวยการของแผนกรายการเราค่ะ”

หลิวหยวนหยวนถามต่อว่า: "คุณซูอยากจะเข้าร่วมรายการวาไรตี้อื่น ๆ ในสถานีของเราเหรอคะ? ฉันสามารถคุยกับลุงหวังให้ได้"

ผู้ช่วยน้อยคนนี้ดูค่อนข้างกระตือรือร้น แต่เมื่อดูจากท่าทางที่เธอวิ่งวุ่นไปมาทั้งวันแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะสามารถคุยกับผู้อำนวยการแผนกรายการได้ แถมยังเรียกเขาว่าลุงอีก?

หลินโจวรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าน แต่ตอนนี้ตรงทางเดินเต็มไปด้วยผู้คน เสียงค่อนข้างดัง เขาจึงไม่อยากจะพูดอะไรมากนัก กล่าวถามอีกครั้ง: “แล้วคุณมีข้อมูลติดต่อของผู้อำนวยการหวังไหมครับ?”

“มีคะ เดี๋ยวฉันจะส่งให้คุณ”

ผู้ช่วยหลิวคนนี้ทั้งซื่อและกระตือรือร้น เธอรีบเพิ่มเพื่อนในวีแชทของหลินโจว และส่งข้อมูลติดต่อของผู้อำนวยการหวังไปให้เขา

จากนั้นหลินโจวก็พูดคุยกับเธออีกเล็กน้อย บอกเธอว่าถ้ามีเรื่องเกี่ยวกับรายการวาไรตี้เขาจะขอให้เธอออกหน้ารบกวนนัดหมายกับผู้อำนวยการหวัง ผู้ช่วยน้อยตบหน้าอกของเธอรับปากเขาโดยไม่ลังเล

ทันใดนั้น ประตูห้องแต่งตัวของซูชิงเหม่ยก็เปิดออก ร่างหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน

จู่ๆ ทางเดินอันพลุกพล่านก็พลันเงียบลงทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด