บทที่ 25 เทพธิดาน้อยผู้เคารพอาจารย์

เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซูชิงเหม่ยฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งตลอด

พรุ่งนี้จะเป็นการบันทึกตอนที่ 2 ของรายการ "I Am a Singer" วันนี้หลินโจวต้องติดตามซูชิงเหม่ยไปที่สตาร์ซิตี้อีกครั้ง

จางหง และโจวหยุนขับรถไปที่สวนเหมยหิมะเพื่อรับพวกเขาตั้งแต่เช้าตรู่

“ชิงเหม่ย สีหน้าเธอดูสดใสขึ้นนะ!”

“ใช่แล้ว พี่ชิงเหม่ย ฉันไม่ได้เจอพี่แค่สองสามวัน พี่ดูอ้วนขึ้นนะ ใบหน้าของพี่เริ่มเป็นสีชมพูแล้ว!”

เมื่อเห็นซูชิงเหม่ย, จางหง และโจวหยุนต่างก็มองดูเธอด้วยความประหลาดใจ

ในช่วงสองสามวันมานี้ ทั้งสองคนต่างยุ่งอยู่กับการหาเพลง และติดต่องานที่ต่างๆ พวกเธอเห็นว่ามีหลินโจวอยู่ที่บ้านแล้วจึงไม่ได้แวะมา

แต่ไม่นึกเลยว่า ไม่ได้เจอเพียงแค่ 3 วัน ซูชิงเหม่ยกลับดูดีขึ้นมาก!

ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ หลินโจวคอยควบคุมให้ซูชิงเหม่ยปฏิบัติตามตลอดชีวิตประจำวันอย่างเคร่งครัด เขาเรียกซูชิงเหม่ยให้ทานอาหารตรงเวลา กระตุ้นให้เธอรีบพักผ่อน ไม่ยอมให้เธอฝึกซ้อมจนดึกดื่นเหมือนเมื่อก่อน นอกจากนี้ เขายังเน้นมื้ออาหารที่มีนม ไข่ และอาหารเสริมต่างๆ อีกด้วย

หลังจากปรับกิจวัตรประจำวันและการรับประทานอาหารของเธอแล้ว ร่างกายของซูชิงเหม่ยก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด

"อ้วนขึ้นเหรอ?"

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินคำพูดของโจวหยุน ซูชิงเหม่ยที่กำลังจะตามเธอออกไป ก็พลันรู้สึกกังวล หันหลังกลับ เดินขึ้นบันไดไปอย่างรีบร้อน

“คุณเป็นอะไรไปครับ?” หลินโจวรู้สึกสับสน

จางหง ตบโจวหยุนไปทีหนึ่งแล้วพูดว่า "พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!"

โจวหยุนแลบลิ้นออกมา ยิ้มและกระซิบกับหลินโจวเบาๆ: " ห้องนอนของพี่ชิงเหม่ยมีเครื่องชั่งน้ำหนักอยู่"

ในที่สุดหลินโจวก็ถึงบางอ้อ ซูชิงเหม่ยได้ยินโจวหยุนพูดว่าเธออ้วนขึ้นจึงรู้สึกกังวลรีบขึ้นไปชั่งน้ำหนัก

อันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เย็นชามากแค่ไหน พวกเธอก็ยังคงใส่ใจเรื่องน้ำหนักของตัวเองอยู่ดี

ไม่นาน ซูชิงเหม่ยก็เดินลงมาจากชั้นบนด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก โจวหยุนผู้ช่วยตัวแสบ เดินเข้ามาถามด้วยเสียงเบา: “พี่ชิงเหม่ย น้ำหนักพี่ไม่ได้เพิ่มขึ้นจริงๆ ใช่ไหม?”

ซูชิงเหม่ยถลึงตามองโจวหยุน จากนั้นก็เหลือบมองไปที่หลินโจว ก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

โจวหยุนรีบเดินตามไป ขณะที่กำลังเดินผ่านหน้าหลินโจว เธอก็หัวเราะคิกคัก พร้อมกล่าวด้วยเสียงกระซิบ: “ดูท่าพี่ชิงเหม่ยจะน้ำหนักขึ้นจริงๆ พี่หลิน พี่นี่สุดยอดมากจริงๆ แค่สามวันพี่ก็ขุนพี่ชิงเหม่ยจนอ้วนแล้ว โอ้ย!!”

จากนั้น จางหงก็เคาะหัวเธออย่างไม่พอใจ ผู้ช่วยตัวแสบทำหน้ามุ่ย ลากกระเป๋าเดินทางออกไปด้วยท่าทีหน้าสงสาร

หลินโจวส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นเขาก็มองไปยังด้านหลังของซูชิงเหม่ยขณะที่เธอกำลังเดินเข้าไปในลิฟต์ เพียงมองด้วยสายตาคร่าวๆ ส่วนโค้งที่เพรียวบางและเรียวขาที่ได้สัดส่วนนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

แบบนี้ยังคิดว่าตัวเองอ้วนขึ้นอยู่อีกเหรอ?

ผู้หญิงนี่……

ทั้งสี่คนมาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน ขึ้นรถตู้ โจวหยุนขับรถมุ่งหน้าไปยังสนามบินหลินเจียง

รายการ "I Am a Singer" ตอนที่สองจะเริ่มถ่ายทำในวันพรุ่งนี้ วันนี้ตามปกติแล้วซูชิงเหม่ยต้องไปก่อนเพื่อทำความคุ้นเคยกับเวที ฝึกซ้อมกับวงดนตรีครั้งสองครั้ง

“ชิงเหม่ย เธอตัดสินใจร้องเพลงนั้นจริงๆ เหรอ? จริงๆ แล้ว หากเธออยากจะเปลี่ยนตอนนี้ก็ยังทันนะ”

บนรถ จางหงถามขึ้นอย่างไม่สบายใจ

เมื่อวานนี้ ซูชิงเหม่ยได้ส่งเดโมเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" ที่เธอบันทึกไว้ให้จางหงแล้ว บอกกับบริษัทว่าเธอตัดสินใจใช้เพลงนี้ร้องในตอนที่สองของราการ "I Am a Singer"

ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นศิลปินที่เซ็นสัญญากับเทียนหยุน เอนเตอร์เทนเมนท์ หลายเรื่องเธอก็ต้องแจ้งให้ต้นสังกัดทราบล่วงหน้า

เทียนหยุน เอนเตอร์เทนเมนท์ ยังมีนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และผู้อำนวยการอีกหลายคน หลังจากฟังเดโมแล้ว พวกเขาต่างก็มองเพลงนี้ในแง่ดี

แต่จางหงก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลอยู่นิดหน่อย เพราะนักแต่งเพลงที่ชื่อว่า "เสวี่ยโจว"  คนนี้มาจากแพลตฟอร์มมือสมัครเล่น!

และยังเป็นหน้าใหม่ถอดด้ามในวงการอีกด้วย

ต้องรู้ก่อนว่า ในสายตานักดนตรีมืออาชีพในวงการบันเทิง พวกวิดีโอครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์มมือสมัครเล่น คนเหล่านี้ต่างก็เป็นมือสมัครเล่นจริงๆ ส่วนใหญ่นอกจากเขียนเพลงตามอารมณ์แล้ว พวกเขาก็ไม่มีทักษะอะไรเลย

“เสวี่ยโจว” คนนี้ไม่ใช่ปรมาจารย์มือสมัครเล่นด้วยซ้ำ ความเป็นมืออาชีพของคนๆ นี้น่าสงสัยนิดหน่อย

เพียงแต่คุณภาพของเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" นั้นอยู่ในระดับที่สูงมากจริงๆ สุดท้ายจางหง ก็ยังไปพบผู้กำกับเพลงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นบริษัทก็ตกลงที่จะให้ซูชิงเหม่ย ร้องเพลงนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีเงื่อนไขว่าหากตอนที่สอง ซูชิงเหม่ยถูกคัดออก เธอก็จะต้องรับงานวาไรตี้ และงานแสดงเพิ่มเพื่อชดเชยความสูญเสียของบริษัท

ท้ายที่สุดแล้ว หากเทพธิดาดาวรุ่งอย่างซูชิงเหม่อยตกรอบตั้งแต่เนิ่นๆ มันจะส่งผลกระทบต่อต้นสังกัดอย่างมาก บริษัทเองก็จะสูญเสียรายได้ไปมากเช่นกัน

ตอนนี้ แม้ว่าจางหงจะช่วยโน้มน้าวบริษัทสำเร็จ แต่ใจจริงเธอก็ยังคงรู้สึกไม่แน่ใจอยู่บ้าง

ในเมื่อเพลงยังไม่เคยติดชาร์ตหรือแสดงบนเวที การจะคาดเดาระดับความนิยมนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก

ไม่ได้ยินคำพูดของจางหง ซูชิงเหม่ยก็พูดขึ้นอย่างหนักแน่น: "ไม่ต้องเปลี่ยนแล้วค่ะ"

เมื่อเห็เธอพูดแบบนั้น จางหงก็ไม่ไม่คิดที่จะโน้มน้าวเธออีก

หลินโจวนั่งเงียบๆ มองทิวทัศน์นอกหน้าต่าง หลังจากนั้นสักพัก โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะมองซูชิงเหม่ยแวบหนึ่ง

เป็นข้อความส่วนตัวจาก "กู่เหม่ย" ที่ส่งถึงเขาในแพลตฟอร์มมือสมัครเล่น: “อาจารย์เสวี่ยโจวคะ ฉันจะต้องร้องเพลงบนเวทีพรุ่งนี้แล้ว”

หลังจากที่หลินโจวเตือนเธอในคืนนั้นว่าให้ "เคารพอาจารย์" ซูชิงเหม่ยก็เริ่มเรียกเขาว่า "อาจารย์เสวี่ยโจว" ได้คล่องมากขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา

หลินโจวยังคงรู้สึกเก้อเขินอยู่เล็กน้อย ตอนนี้นั่งใกล้กันมากขนาดนี้ ซูชิงเหม่ยจะรู้ไหมว่าเขาคือเสวี่ยโจว?

จริงๆ หลินโจวเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จังปิดบัง ตอนแรกเขาก็ไม่รู้ว่า "กู่เหม่ย" คือซูชิงเหม่ย  หลังจากนั้นเขาก็คิดแค่อยากแกล้งเธอเล่น

แต่ก็คิดไม่ถึงว่าซูชิงเหม่ยจะเริ่มเรียกเขาว่า "อาจารย์เสวี่ยโจว" จริงๆ แถมยังเรียกบ่อยขนาดนี้

ถ้าซูชิงเหม่ยรู้ว่าเขาคือ "อาจารย์เสวี่ยโจว" จะเกิดอะไรขึ้น?

เทพธิดาผู้เย็นชาจะไม่คว้ามีดทำครัวมาไล่สับเขาเลยงั้นเหรอ?

ช่างเถอะ เรื่องนี้เอาไว้ก่อน รอให้ครบกำหนดสัญญาสามเดือนแล้วค่อยหนีก็ได้

หลินโจวแอบมองไปที่ซูชิงเหม่ยอย่างลับๆ เห็นว่าเธอถือโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือมองออกไปนอกหน้าต่าง

เขาส่งข้อความส่วนตัวตอบกลับไปหาเธออย่างรวดเร็ว: "ใส่ใจในรายละเอียดและขอให้เธอประสบความสำเร็จ"

ขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือของซูชิงเหม่ยก็ดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดู มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย นิ้วมือเรียวยาวของเธอกดลงบนโทรศัพท์หลายครั้ง ในไม่ช้า หลินโจวก็ได้รับข้อความส่วนตัวจากกู่เหม่ย: "ขอบคุณค่ะอาจารย์."

หลินโจวพูดไม่ออก ภาพลักษณ์ในความเป็นจริงของเธอนั้นเย็นชามาก แต่บนโลกออนไลน์กลับดูน่ารักน่าเอ็นดูมากขนาดนี้ แท้จริงแล้วเธอไม่ใช่เทพธิดาที่เย็นชา แต่เป็นเทพธิดาที่เปลี่ยนแปลงได้สินะ?

เที่ยงวัน ทั้งสี่คนมาถึงสตาร์ซิตี้ หลังจากทานอาหารกลางวันกันแล้ว ก็เร่งรีบไปยังสตาร์ซิตี้ทีวีทันที

เนื่องจากรอบนี้เกี่ยวข้องกับการคัดออก ทีมงานรายการจึงสับเปลี่ยนเวลาฝึกซ้อมของนักร้องทั้ง 7 คนเพื่อความเป็นธรรม ดังนั้น เมื่อซูชิงเหม่ยมาถึงสตาร์ซิตี้ทีวี เธอจึงไม่พบนักร้องคนอื่นๆ

ผู้กำกับจางเหล่ยรู้สึกประหลาดใจมาก หลังจากได้ดูซูชิงเหม่ยซ้อมอยู่บนเวที นอกจากรู้สึกประทับใจกับเพลงใหม่แล้ว เขายังรู้สึกว่าซูชิงเหม่ยในตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นมาก เสียงของเธอกลับมาใส่กังวาลเหมือนในช่วงที่อยู่จุดสูงสุดอีกครั้ง

เนื่องจากยังมีนักร้องคนอื่นๆ ที่ต้องเข้ามาซ้อมต่อ ดังนั้น ซูชิงเหม่ยจึงฝึกซ้อมไปแค่สองรอบก่อนจะกลับไปยังโรงแรม

สำหรับนักร้องทุกคนแล้ว วันนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นการเตรียมการสำหรับรอบที่ 2 ของการบันทึกรายการ

แต่สำหรับผู้ชมและแฟนเพลง วันนี้ถือเป็นวันสำคัญเช่นกัน เนื่องจากเป็นการออกอากาศตอนแรกของรายการ "I Am a Singer" ซีซั่นที่ 3

เวลา 20.00 น. ตอนแรกของรายการวาไรตี้ยอดนิยมของจีน "I Am a Singer" ซีซั่น 3 ก็ถูกถ่ายทอดสู่สายตาสาธารณชนในที่สุด