บทที่ 24 ฉันก็เป็นสาวอ่อนหวานได้!!
หลินโจว และซูชิงเหม่ยกำลังนั่งทานอาหารเย็นอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่ซูชิงเหม่ยยังคงดูอึดอัดเล็กน้อย เธอก้มหน้าตลอดเวลาราวกับว่าเธอกลัวหลินโจวจะมองเห็น
นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอทานอาหารกับชายแปลกหน้า (ครั้งแรกก็เป็นผู้ชายคนนี้) ความรู้สึกนี้ค่อนข้างแปลกสำหรับเธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคืนนั้นซูชิงเหม่ยถึงยอมหิว ไม่ยอมลงไปกินข้าวที่ชั้นล่างกับหลินโจว
และในวันนี้ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะทำตัวแปลกๆ นิดหน่อย เขาเอาแต่จ้องมองเธอตลอดเวลา
นี่เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?
ขณะที่ซูชิงเหม่ยก้มหน้าก้มตาเคี้ยวเนื้อผัดในปาก เธอก็ก้มหน้าต่ำลงเรื่อยๆ จนตอนนี้เกือบจะเอาหน้าซุกลงไปในชามแล้ว
จริงๆ แล้วหลินโจวไม่ได้ตั้งใจที่จะจ้องมองเธอ แต่เขายังอยู่ในอารมณ์ประหลาดใจเมื่อรู้ว่า "ซูชิงเหม่ยก็คือกู่เหม่ย" โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นเธอนั่งอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ทันใดนั้นเขาก็นึกสนุกขึ้นมา
ในที่สุด หลินโจวก็เอ่ยปากถาม "คุณซูครับ เมื่อกี้คุณซ้อมร้องเพลงอยู่ที่ชั้นบนเหรอครับ?"
ซูชิงเหม่ย หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยเสียงเบา: "ใช่"
หลินโจวยิ้มและถามอีกครั้ง: "เพลงนั้นเพราะดีนะครับ"
พอพูดถึงดนตรี ซูชิงเหม่ยก็เงยหน้าขึ้นมาในที่สุด “คุณเองก็คิดว่าเพลงนี้เพราะเหมือนกันเหรอ?”
หลินโจวพยักหน้า: "แน่นอนครับ แค่ได้ยินครั้งแรกก็รู้เลยว่าเป็นเพลงที่ดีมาก"
มุมปากของซูชิงเหม่ยยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย "มันเป็นเพลงที่ดีจริงๆ"
หลินโจวถามต่อว่า "ผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อนเลย เป็นเพลงใหม่เหรอครับ?"
ซูชิงเหม่ยพยักหน้า
หลินโจวกล่าวว่า "เพลงนี้ใครเป็นคนแต่งเหรอครับ? เขียนได้ดีมากเลย"
ซูชิงเหม่ย เผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมาบนใบหน้าเป็นครั้งแรก: "ใช่ค่ะ เขาเป็นนักแต่งเพลงอัจฉริยะคนหนึ่ง"
โหว ตอนนี้ฉันกลายเป็นนักแต่งเพลงอัจฉริยะไปแล้วเหรอ?
หลินโจวมองไปที่แววตาที่เปล่งประกายของซูชิงเหม่ย จู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่าง เลยลองถามหยั่งเชิงออกไป: “คุณซูครับ คุณคงไม่คิดใช้เพลงนี้ร้องในราการ I Am a Singer ตอนที่สองหรอกใช่ไหม?”
ซูชิงเหม่ยมองไปที่เขา: "ไม่ดีเหรอคะ?"
เธอวางแผนจะร้องเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" บนเวที I Am a Singer อาทิตย์หน้าจริงๆ ด้วย!
หลินโจวยิ้มแล้วพูดว่า: "คุณมีเวลาแค่สามวันเท่านั้น ผมแค่กลัวว่าคุณจะซ้อมเพลงนี้ไม่ทัน"
ซูชิงเหม่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มมองลงไปในชามข้าว มองลงไปที่ข้าวในชามของเธอ แล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า: "ฉันจะฝึกให้ได้ค่ะ"
หลินโจวกล่าวว่า: "ผมว่าคุณน่าจะลองขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากนักแต่งเพลงอัจฉริยะคนนั้นดูหน่อยนะครับ"
ซูชิงเหม่ยพยักหน้า: "ฉันถามเขาไปแล้วค่ะ"
“อ๋อ อย่างนั้นก็ดีเลย” หลินโจวพูด “งั้นเขาก็นับว่าเป็นอาจารย์ของคุณแล้วสินะครับ?”
ซูชิงเหม่ยเบิกตากว้าง จากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้น: "ค่ะ คุณพูดถูก"
อาจเป็นเพราะเธออยากรีบกลับไปฝึกซ้อมร้องเพลง เธอจึงทานอาหารเย็นเสร็จอย่าง ก่อนจะลุกยืนขึ้นเดินกลับขึ้นไปยังชั้นบน หลินโจวเรียกเธอไว้ ยิ้มให้ พร้อมยื่นแก้วนมไปตรงหน้าเธอ:
“คุณซูครับ นมแก้วที่สองของวันนี้ครับ”
ซูชิงเหม่ยมองดูนมในแก้วที่กำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่น ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว:
"ฉันอิ่มแล้วค่ะ"
“งั้นผมจะวางไว้ก่อน เดี๋ยวคุณค่อยดื่มทีหลังก็ได้ครับ”
ซูชิงเหม่ยมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะรับแก้วนมมา ยกคอขาวขึ้น ดื่มนมจนหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว ยัดแก้วกลับเข้าไปในมือของหลินโจว: “ตอนนี้พอแล้วใช่...เอิ๊ก!!!”
ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็เรอออกมา เธอดื่มนมเร็วเกินไปหน่อย
ใบหน้าอันขาวนวลของซูชิงเหม่ย เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดงลามไปถึงหูอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ใบหน้าของเธอแดงก่ำ
ทั้งคืนนั้นและวันนี้ก็เหมือนกัน เธอรู้สึกว่าความอับอายทั้งชีวิตของเธอ มากระจุกอยู่ที่สองวันนี้ทั้งหมด และทั้งหมดยังเกิดขึ้นต่อหน้าคนคนเดียว!
เธอหันหลังแล้ววิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็ว หลบเข้าไปในห้องซ้อมร้องเพลง หน้าอกของเธอเหมือนกำลังจะระเบิดเพราะความอับอาย
เธอไม่อยากจะลงไปชั้นล่างอีกต่อไปแล้ว!
ซูชิงเหม่ยทำได้เพียงหมกมุ่นอยู่กับการซ้อมร้องเพลง เพื่อหลบหนีจากความจริงที่น่าอับอายก่อนหน้านี้
เธอเริ่มซ้อมร้องเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" อีกครั้ง และพบว่ามีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ยังคงต้องปรับปรุงในท่อนคอรัส เธอจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถามเสวี่ยโจวอีกครั้ง
แต่ก่อนที่จะพิมพ์อะไรออกไป จู่ๆ เธอก็นึกถึงสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นเพิ่งพูดได้
“เขาก็นับว่าเป็นอาจารย์ของคุณแล้วสินะครับ”
พอมาคิดดูแล้ว จริงๆ เขาก็แค่ขายสิทธิ์ในการคัฟเวอร์เพลงให้เธอ เขาไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องสอนเธอฟรีๆ จึงพิมพ์ข้อความไปถึงเสวี่ยโจวอีกครั้ง: “อาจารย์เสวี่ยโจว ขอบคุณนะคะ”
จากนั้นเธอก็โอนเงิน 20,000 หยวนเข้าบัญชีของเสวี่ยโจวผ่านแอปธนาคารบนมือถือ
ที่ชั้นล่าง หลินโจวได้รับข้อความจากกู่เหม่ย เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ซูชิงเหม่ยคนนี้น่ารักจริงๆ ถึงกับเรียกเขาว่า "อาจารย์" ด้วย
จากนั้น หลินเสี่ยวซวงน้องสาวของเขาก็ส่งข้อความมาทางวีแชท: "พี่ชาย มีเงินเข้ามาอีก 20,000 หยวน"
หลินโจวตกใจมองขึ้นไปยังชั้นบนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็พิมพ์ข้อความไปหากู่เหม่ย: "คุณโอนเงินเพิ่มมาอีก 20,000 หยวนเหรอ?"
กู่เหม่ยตอบอย่างรวดเร็ว: "นั้นสำหรับคำแนะนำของอาจารย์เสวี่ยโจวค่ะ"
หลินโจวถึงกับพูดไม่ออก เขาตั้งใจแค่อยากแกล้งซูชิงเหม่ยตอนมื้อเย็น เขาแค่คิดว่ามันน่าสนุก ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น
เพียงแต่ไม่คิดว่า ซูชิงเหม่ยจะโอนเงินให้เขาอีก
นี่เธอซี่อเกินไปหรือเปล่า?
จากนั้นกู่เหม่ยก็ส่งข้อความมาหาเขาอีกหลายครั้ง ถามเกี่ยวกับรายละเอียดในการร้องเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ"
หลินโจวรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เขาไม่อาจเข้าใจวงจรสมองของซูชิงเหม่ยได้เลย อย่างไรก็ตาม ในเมื่ออีกฝ่ายเรียกเขาว่าอาจารย์ และยังจ่ายเงินให้เขาอีก เขาจึงทำได้เพียงตอบคำถามเธออย่างจริงจัง
ผลปรากฏว่าหลินโจวพบว่าตัวเองตกหลุมพรางแล้ว
เพราะตั้งแต่หลังอาหารเย็นไปจนถึงห้าทุ่ม ซูชิงเหม่ยยังคงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงถามเขาเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ อยู่ตลอดเวลา
ในท้ายที่สุด หลินโจวก็ใจข้ออ้างว่าต้องควบคุมเวลาพักผ่อนอย่างเข้มงวด บังคับให้ซูชิงเหม่ยหยุดซ้อมไปอาบน้ำและพักผ่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากการถูกรบกวนจากนักร้องเจ้าปัญหาคนนี้ได้ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว เขาเชื่อว่าคงมีศิลปินเพียงไม่กี่คนที่หลงไหลในเสียงดนตรีเหมือนกับซูชิงเหม่ย ในแวดวงวงการเพลงจีน
หลินโจวถอนหายใจออกมา ขณะที่ดึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบตะโกนขึ้นไปบนชั้นสอง:
“คุณซู อย่าอาบน้ำนานเกินไป เดี๋ยวจะหมดสติอีก!”
จากนั้น ก็มีน้ำเสียงหงุดหงิดดังมาจากชั้นสอง: "ฉันรู้แล้ว!"
...
“หยูเอ๋อร์ ดึกมากแล้วนะลูก ทำไมไม่พักอีก?”
กรุงเกียวโต ภายในวิลล่าแห่งหนึ่ง
หญิงวัยกลางคนตะโกนเรียกลูกสาวที่ยังคงกระโดดไปมาบนชั้นสอง
“แม่ หนูขอฝึกอีกหน่อย หนูทำได้แน่!”
เจียงหยูเอ๋อตอบกลับ จากนั้นเธอก็ปิดประตูและกดเล่นวิดีโอของเสวี่ยโจวเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" เริ่มฝึกเต้นตามเพลงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอลองเต้นไปเรื่อยๆ เธอก็พบจังหวะที่ไม่ถูกต้องอีกครั้ง
เจียงหยูเอ๋อมีรูปร่างทรงโปร่ง ผิวขาว หุ่นอวบอิ่ม มีนิสัยร่าเริง ปกติแล้วเธอมักจะถ่ายวิดีโอคลิปเต้นเพลงที่มีจังหวะเร็วและเร่าร้อน
แต่เพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" เป็นเพลงจังหวะช้าๆ แนวเยียวยาจิตใจ อย่างที่ หลินโจว พูดไว้ก่อนหน้านี้ เพลงเศร้าจังหวะเนิบๆ และอ่อนโยนแบบนี้ไม่เหมาะกับสไตล์ของเจียงหยูเอ๋อ
เดิมที เจียงหยูเอ๋อก็ไม่เชื่อ แต่หลังจากลองซ้อมดูสองสามครั้ง เธอก็ตระหนักได้ว่าเธอเต้นเพลงนี้ไม่ได้จริงๆ!
เป็นไปได้ยังไง???
เพลงที่อ่อนโยนแบบนี้ไม่เหมาะกับฉันจริงๆ เหรอ?
นี่ฉันดูไม่เหมือนผู้หญิงจริงๆ เหรอ?
ดังนั้น วิดีโอครีเอเตอร์ชื่อดังจากหมวดดนตรีคนนี้จึงเริ่มหงุดหงิด สาบานกับตัวเองว่าจะฝึกเต้นเพลงนี้ให้ได้
“หึ!! รอดูเลยเสวี่ยโจว ฉันจะต้องพิสูจน์ให้นายเห็นว่าฉันเองก็เป็นหญิงสาวที่อ่อนหวานได้เหมือนกัน!”