บทที่ 21 นี่เธอเอาจริงเหรอ?
บทที่ 21 นี่เธอเอาจริงเหรอ?
ร้องเพลงนี้บนเวทีเหรอ?
หลินโจวนึกขึ้นได้ว่าสาวปลอมคนนี้เคยบอกว่าเธอเป็นนักร้อง แถมยังเป็นประเภทที่คนทั่วไปจะจดจำได้ทันทีที่ได้ยินเสียง เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แล้วพิมพ์ตอบกลับไปว่า:
“นี่คุณจริงจังเหรอ?”
กู่เหม่ย: "อืม"
หลินโจวรู้สึกว่าคนๆนี้ค่อนข้างน่าสนใจ หากไม่ได้กำลังคุยโม้ ก็คงจะกำลังแหย่เขาเล่น
ตระกะง่ายๆ ถ้าเธอเป็นนักร้องดังขนาดนั้นจริง ๆ ทำไมถึงต้องมาโผล่ในแพลตฟอร์มมือสมัครเล่นด้วย?
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขายังไม่ง่วงเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงอยากตามน้ำคนๆนี้สักหน่อย หลินโจวถามอีกครั้ง:
“แล้วคุณวางแผนที่จะจ่ายค่าลิขสิทธิ์เท่าไหร่?”
อีกฝ่ายไม่พูดพร่ำทำเพลง ตอบกลับทันทีว่า: "300,000"
หลินโจวอึ้งงันไปชั่วครู่ เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไรกันแน่
นี่เธอกล้าเปิดราคาสูงขนาดนี้เลยจริงๆ เหรอ?
เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น เขาจึงตอบกับอย่างจริงจัง:
"ต้องขอโทษด้วย ฉันยังไม่ได้วางแผนขายลิขสิทธิ์ในตอนนี้ แต่ฉันสามารถขายสิทธิ์ในการคัฟเวอร์เพลงให้เธอได้"
เพลง “เสียดายที่ไม่ใช่เธอ” เป็นเพลงฮิตระดับขึ้นแท่น เพียงแต่ตอนนี้มันยังไม่แพร่หลาย ถ้าเกิดขายลิขสิทธิ์เพลงไปในตอนนี้คงจะน่าเสียดายไปหน่อย
ในความเป็นจริง 300,000 หยวนที่ “กู่เหมย” เสนอมานั้นถือว่าไม่ต่ำเลย
ลิขสิทธิ์เพลงของนักแต่งเพลงธรรมดาตกอยู่ที่หลักหมื่นหรือ 100,000 นิดๆ เท่านั้น ลิขสิทธิ์เพลงของนักแต่งเพลงชื่อดังเท่านั้นที่จะสามารถขายได้ในราคาสูง
รอให้หลินโจวมีชื่อเสียง กลายเป็นนักแต่งเพลงมือทองแล้ว ลิขสิทธิ์เพลงของเขาก็จะขายได้ในราคาหลักล้านหรืออาจจะสูงกว่านั้นด้วยซ้ำ
นั่นจึงจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขายลิขสิทธิ์เพลงออกไป
อย่างไรก็ตาม หากกู่เหม่ยต้องการร้องเพลงนี้จริงๆ สิทธิ์ในการคัฟเวอร์เพลงนี้ก็ยังสามารถขายให้เธอได้
ในดาวเคราะห์สีฟ้า หากนักร้องต้องการร้องเพลงคนอื่นบนเวที ก็จะต้องซื้อสิทธิ์ในการคัฟเวอร์ก่อน
และสิทธิ์ในการคัฟเวอร์นี้ก็จะใช้ร้องได้เพียงแค่ครั้งเดียว
แน่นอนว่าสิทธิ์ในการคัฟเวอร์ราคามักจะไม่สูงนัก ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเพลง โดยทั่วไปจะอยู่ที่หลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นหรือสองหมื่นไม่มากไปกว่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว นักร้องเหล่านี้เพียงแค่ร้องเพลงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ได้ปล่อยเพลงบนชาร์ตเพลง
หลินโจวเสนอขายลิขสิทธิ์คัพเวอร์ให้กับกู่เหม่ยนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อทดสอบว่าอีกฝ่ายจริงจังหรือไม่ หรือแค่มาล้อเล่น
ผลก็คือทันทีที่หลินโจวส่งข้อควาไป อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาทันที: "50,000"
หลินโจว: "???"
นี่พี่ชายสมองคุณลัดวงจรเหรอ? คุณเสนอค่าลิขสิทธิ์เพลง 300,000 หยวน แต่กลับยอมจ่าย 50,000 เพื่อสิทธิ์ในการคัฟเวอร์เพลงแค่ครั้งเดียว?
คุณซื้อของเป็นไหมเนี่ย!
ถ้าคุณออกไปทำธุรกิจด้วยนิสัยแบบนี้ รับรองว่าต้องเจ๊งแน่นอน?
แต่เมื่อดูจากท่าทีของอีกฝ่ายแล้ว ดูเหมือนจะไม่ได้ล้อเล่นซะด้วย ท้ายที่สุด ก่อนหน้านี้เขาก็เคยคุยเรื่องดนตรีกับคนๆนี้มาก่อน อีกฝ่ายดูเป็นมืออาชีพดี และน่าจะเป็นคนที่จริงจังพอสมควร
เมื่อเห็นว่าหลินโจวเงียบไปไม่ได้ตอบกลับ กู่เหม่ยก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง: "60000"
หลินโจว: "..."
หลินโจวรู้สึกสับสนไปหมด แต่ก็ยังรีบ: "50,000 ก็พอแล้ว"
เขาไม่ใช่คนโลภ แม้แต่ค่าลิขสิทธิ์คัฟเวอร์เพลงที่ฮิตมากๆ ยังมีราคาแค่ 30,000 ถึง 40,000 หยวนเท่านั้น นี่เป็นสิทธิ์ในการร้องเพลงแค่ครั้งเดียว ราคานี้ก็ถือว่าสูงมากแล้ว
ค่าธรรมเนียมในการคัฟเวอร์ประเภทนี้ นักแต่งเพลงต่างนอนกินได้สบายๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ควรจะโลภมากเกินไป
ในเวลาเดียวกัน กู่เหม่ยก็ถามต่อว่า: "แล้วจะจ่ายเงินให้คุณยังไง?"
หลินโจวมั่นใจแล้วว่าพี่ชายคนนี้ไม่รู้ขั้นตอนเกี่ยวกับการขายเพลงเลย สัญญาก็ยังไม่ได้เซ็น แต่กลับต้องการโอนเงินให้ฉันแล้ว นี่คุณยังสติดีอยู่หรือเปล่า?
หลินโจวส่งข้อความ "รอสักครู่" จากนั้นเขาก็เปิดโทรศัพท์ค้นหาแบบฟอร์มสัญญาข้อตกลงในการคัฟเวอร์เพลงมาแก้ไขเล็กน้อย แล้วส่งไปให้อีกฝ่าย
เขาทำงานเป็นผู้ช่วยของเซิ่นเหยามาเป็นเวลาสามปี ดังนั้นเรื่องจุกจิกแบบนี้เขาถนัดอยู่แล้ว
“คุณอ่านสัญญาแล้วลงนาม เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปส่งกลับมาให้ฉัน”
กู่เหม่ย: "ฉันจะจ่ายเงินให้คุณตอนนี้เลย"
เธอค่อนข้างรีบร้อน
หลินโจวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี พี่ชายคนนี้ดูซื่อมากจริงๆ โชคดีที่มาเจอเขา ถ้าเจอพวกต้มตุ๋นแล้วล่ะก็ คงจะโดนหลอกจนหมดตัวแน่ๆ
หลินโจวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดส่งหมายเลขบัญชีธนาคารของน้องสาวเขาไป: "คุณโอนเงินเข้าบัญชีนี้ได้เลย"
ครอบครัวของหลินโจวค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อย เขามีพี่และน้องสาว โดยพี่สาวเป็นลูกติดพ่อ ส่วนน้องสาวนั้นคือน้องแท้ๆ พ่อแม่เดียวกัน
น้องสาวของหลินโจวยังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เธอมักจะใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมไปทำงานพิเศษ เป็นสาวน้อยที่มีความรับผิดชอบมาก
หลินโจวมักจะส่งเงินให้น้องสาวของเขาอยู่บ่อยๆ จำเลขบัญชีของน้องสาวได้ขึ้นใจ
หากกู่เหม่ยต้องการซื้อสิทธิ์ในการคัฟเวอร์เพลงนี้จริงๆ เงิน 50,000 หยวนนี้จะเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพของเธอได้จนเรียนจบ
ไม่นานหลังจากนั้น กู่เหม่ยก็ส่งข้อความมากว่า: "ฉันโอนไปแล้ว"
แต่ก่อนที่หลินโจวจะได้ตอบกลับ โทรศัพท์ของเขาก็สั่น
เป็นน้องสาวของเขา หลินเสี่ยวซวงที่โทรมา
หลินโจวตกใจเล็กน้อย โชคดีที่เขาปิดเสียงโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ไม่อย่างนั้น ก็คงจะรบกวนการพักผ่อนของซูชิงเหม่ย เขารีบลุกจากโซฟา ค่อยๆ เปิดประตูเบา ๆ แล้วเดินออกไปข้างนอก
เมื่อเปิดประตูห้องออกไปแล้ว เขาจึงกดรับสาย
“พี่ชาย จู่ๆ ฉันก็ได้รับเงิน 50,000 หยวน”
ระหว่างพี่น้องไม่มีอะไรต้องสุภาพ หลินเสี่ยวซวงกล่าวขึ้นตรงๆ
เนื่องจากหลินโจวโอนเงินให้เธอเป็นประจำ จู่ๆ เธอก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี 50,000 หยวน เธอจึงนึกถึงหลินโจวเป็นคนแรก
“เอาล่ะ เสี่ยวซวงนั่นคือเงินที่พี่ได้จากธุรกิจ เงินก้อนนี้คงเพียงพอสำหรับค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเธอ”
หลินโจวกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าน เขาไม่คิดว่ากู่เหม่ยจะจ่ายเงินเร็วขนาดนี้
นี่เธอเป็นนักร้องจริงๆเหรอ?
“โอเคพี่ ฉันจะเก็บเงินนี้เอาไว้ให้”
หลินเสี่ยวซวงไม่ได้พูดอะไรมาก ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกพี่ชายเธอว่าไม่ต้องให้เงินเธอหรอก แต่หลินโจวก็ไม่ฟัง
ดังนั้นหลินเสี่ยวซวงจึงใช้จ่ายอย่างประหยัดเก็บเงินทั้งหมดที่หลินโจวโอนมาให้
แต่หลินโจวก็ยังคงกลัวว่าน้องสาวของเขาจะลำบาก เขาจึงยังคงโอนเงินให้อีกเรื่อยๆ หลินเสี่ยวซวงจึงเก็บเงินไว้มากขึ้นเรื่อยๆ
พี่น้องสองคน คนหนึ่งหาเงินและอีกคนเก็บเงิน เริ่มหมุนเวียนเหมือนระบบธนาคารภายในครอบครัว มีประโยชน์ไปอีกแบบ
พอได้ยินน้ำเสียงเรียบๆของน้องสาว หลินโจวก็ได้แต่ถอนหายใจ แม้ว่าหลินเสี่ยวซวงจะมีอายุยังไม่ถึง 20 ปี แต่เธอก็มีความคิดเป็นของตัวเองและมีความเป็นตัวเองสูง ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเธอได้
“เอาเถอะ ถ้าเธอเงินไม่พอใช้ก็ถอนออกมาใช้ได้เลย พี่ยังหาเงินได้เรื่อยๆ”
หลินโจวได้แต่ถอนหายใจ พูดย้ำอีก 2-3 ประโยคก่อนจะวางสายไป
เดินกลับเข้าห้อง ปิดประตูเบา ๆ หันไปมองเตียงที่อยู่หลังม่าน และมองกลับไปเห็นว่าซู ชิงเหม่ยเหมือนจะขยับตัวเล็กน้อย
ฉันทำให้เธอตื่นรึเปล่า?
หลินโจวเดินกลับไปยังเงียบๆ ล้มตัวลงนอน พิมพ์ส่งข้อความถึงกู่เหม่ย: "ฉันได้รับเงินแล้ว คุณมีแผนจะร้องเพลงนี้เมื่อไหร่"
เขาอยากรู้ว่าพี่ชายคนนี้จะร้องเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" ที่ไหน
"วันอังคารหน้า"
กู่เหม่ยตอบกลับมาประโยคเดียว และไม่พูดอะไรอีก
หลินโจวมองข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาอย่างจนปัญญา บอกแค่วันเวลา แต่ไม่บอกสถานที่จะรู้ได้อย่างไรว่าเธอร้องที่ไหน?
ในเวลาเดียวกัน บนเตียงหลังผ่าม่าน
ซูชิงเหม่ยขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ท้องของเธอยังคงรู้สึกไม่สบายอยู่บ้างเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่จิตใจกลับกระปรี้กระเปร่า
อาทิตย์หน้าเธอจะร้องเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" บนเวทีของรายการ "I am a Singer!”
หลังจากที่ได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรกเมื่อคืนก่อน เธอก็ชอบมันมาก และคิดว่าเพลงนี้จะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้หากร้องโดยเสียงของผู้หญิง
เดิมทีเธอตั้งใจที่จะซื้อลิขสิทธิ์เพลงนี้ แต่ตอนนี้ก็นับว่าไม่เลว ได้สิทธิ์ในการคัฟเวอร์เพลงนี้มา อย่างน้อยอาทิตย์หน้าเธอก็สามารถร้องเพลงนี้ได้
ในฐานะศิลปิน จะมีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการที่ได้ร้องเพลงที่ชอบบนเวที?
ซูชิงเหม่ยหยิบหูฟังของเธอออกมาแล้วเปิดวิดีโอเพลง "ียดายที่ไม่ใช่เธอ" ของเสวี่ยโจวฟังอีกครั้ง
ภายในความมืดมิด แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่าง ตกกระทบลงบนขอบเตียง หญิงสาวร่างผอมบนเตียงค่อยๆ หลับตาลง ขณะที่มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย