ตอนที่ 10 แสดงวิชาให้ดูจนซู ชางหยูต้องตกตะลึง

ซูชางหยูสับสน

'ข้าบังเอิญทำรอยรอยกระบี่แบบมั่วๆไป แล้วเจ้าเข้าใจกระบวนท่าของกระบี่นั่นจริงๆ น่ะนะ?'

'เจ้าโกหกข้าเหรอ?'

'เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหลอกข้าได้เพราะข้าไม่เคยฝึกวิชากระบี่มาก่อนเลยเหรอ?'

ซูชางหยูไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อเย่ปิง แต่เขาไม่เชื่อในสิ่งที่เขาทำลงไปต่างหาก.

เขาเพิ่งวาดรอยกระบี่แบบมั่วๆไปนะ.

ทว่า มันก็ทำให้เย่ปิงเข้าใจ.

ถ้าเขาสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหวของกระบี่แบบนั้นได้ มันยังจำเป็นต้องมีคัมภีร์ลับอีกเหรอ?

ทว่าแม้ว่าเขาจะสับสน แต่ซู ชางหยู ก็ยังคงพยายามรักษาภาพลักษณ์ของเขาไว้.

“เจ้าเข้าใจท่ากระบี่กี่ท่าจากรอยกระบี่นี้?”

ซู ชางหยู ถามอย่างใจเย็น

“พี่ใหญ่ รวมทั้งจากที่ข้าคิดเมื่อกี้นี้ด้วยแล้ว ข้าเข้าใจกระบวนท่ากระบี่ไปแล้วทั้งหมด 400 กระบวนท่าขอรับ.”

เย่ปิงตอบอย่างจริงจัง

ทว่าซู ชางหยู ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด

เขาไม่พยายามรักษาภาพลักษณ์อีกต่อไปและเริ่มหัวเราะ

ถ้าเป็นแต่ก่อน เขาจะเชื่อเย่ปิง และคิดว่าบางทีเย่ปิงอาจมีพรสวรรค์ในเต๋ากระบี่จริงๆ และสามารถระบุการเคลื่อนไหวบางอย่างได้.

ทว่าหลังจากที่ได้ยินว่าเย่ปิงเข้าใจกระบวนท่ากระบี่ถึง 400 กระบวนท่าแล้ว ซูชางหยูก็ไม่เชื่อเลย.

เขาไม่เชื่อซักนิดเลยด้วยซ้ำ.

ก็ไม่ใช่ว่าเย่ปิงจะเข้าใจมันไม่ได้.

แต่เขาไม่เชื่อว่าเย่ปิงสามารถเข้าใจกระบวนท่าได้ถึง 400 กระบวนท่าหรอก.

วิชาสี่กระบี่อัสนี?

นักพรตเต๋าสี้จือ มือกระบี่ที่เก่งที่สุดของ ชิงโจว และผู้สร้างวิชากระบี่อัสนีสี่ฤดูกาล มีกระบวนท่ากระบี่เพียง 1,460 กระบวนท่าเท่านั้น.

ซู ชางหยู ผู้ฝึกตนมาสิบปี มีความเข้าใจกระบวนท่ากระบี่เพียง 18 กระบวนท่าเท่านั้น.

แต่เย่ปิงสามารถเข้าใจกระบวนท่ากระบี่ได้ 400 กระบวนท่าภายในวันเดียวนี่นะ?

'เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?'

'เจ้าคิดว่าข้าเป็นพี่ใหญ่หน้าโง่หรือไง?'

'หรือเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ เต๋ากระบี่?'

ซูชางหยูไม่เชื่อเขาเลย

ทว่าซูชางหยูขมวดคิ้วและรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ไม่ง่ายอย่างนั้นอย่างแน่นอน เขาคิดว่า 'เป็นไปได้ไหมที่น้องชายตัวน้อยคนนี้ต้องการแข่งขันกับเขาเพื่อชิงบัลลังก์แห่งการโอ้อวดที่ดีที่สุดในสำนักชิงหยุนเต๋า?'

เย่ปิงตื่นตระหนกเล็กน้อย

เขาตระหนักว่าซูชางหยูยังคงมองเขาโดยไม่พูดอะไร และยังมีแววตาเยาะเย้ยอีกด้วย

“พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าข้าเป็นคนไร้ค่าเพราะข้าเข้าใจน้อยเกินไปหรือเปล่า?”

“กระบี่ 400 กระบวนท่าในหนึ่งวันถือว่าเยอะมาก”

"อ้อ! ข้าเข้าใจแล้ว. พี่ใหญ่ต้องเชี่ยวชาญวิชากระบี่อย่างน้อยหมื่นครั้งแน่ๆ. และว่าก็ว่าเถอะ แม้แต่ผู้ที่มีความสามารถต่ำก็ควรจะสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหวของกระบี่จำนวนมากจากรอยกระบี่เดียว”

“อา ข้ามันพวกอ่อนประสบการณ์จริงๆด้วย.”

เย่ปิงค่อนข้างหดหู่ใจ.

“พี่ใหญ่ ข้าไร้ความสามารถมากหรือเปล่าขอรับ?”

เสียงของเย่ปิงดังขึ้นอีกครั้ง

ซูชางหยูที่คิดในใจอยู่ ในที่สุดก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง

'ไร้ความสามารถ?'

'เจ้าใช้เวลาหนึ่งวันในการทำความเข้าใจวิชาสี่กระบี่อัสนีจนไปถึงขั้นชำนาญแต่เจ้ากำลังบอกว่าเจ้าไร้ความสามารถงั้นเหรอ'

'หลังจากผ่านไปสิบปี ข้ายังไม่ถึงขอบเขตของขั้นเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์ด้วยซ้ำ ข้าควรจะละอายใจไม่ใช่หรือ?'

'อา น้องชายตัวน้อย เจ้าเป็นคนที่เริ่มคุยโวก่อนนะ'

'อย่าตำหนิข้าที่ทำให้เจ้าต้องอับอายล่ะ'

ซู ชางหยู รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อยเมื่อเขารู้สึกว่าเย่ปิงขี้คุยเกินไป

หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ซูชางหยูก็โยนกระบี่ยาวออกไป.

เขากล่าวว่า “น้องชายตัวน้อย แสดงกระบวนท่ากระบี่ที่เจ้าเข้าใจให้ข้าดู และข้าจะดูว่าเจ้ามีพรสวรรค์ในเต๋ากระบี่หรือไม่”

เขาแค่ไม่เชื่อมัน.

เขาไม่เชื่อว่าเย่ปิงเข้าใจกระบวนท่ากระบี่ถึง 400 กระบวนท่าจริงๆ.

'ถ้าเย่ปิงเข้าใจกระบวนท่ากระบี่ถึง 400 กระบวนท่าจริงๆ ข้าจะกลืนกระบี่พร้อมกับฝักทันที'

เย่ปิงหยิบกระบี่ขึ้นมา.

เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย

มันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย.

ถ้าเขาไม่รู้มาก่อนว่าซูชางหยูเป็นเซียนกระบี่ที่ยอดเยี่ยมหาเทียบได้ เขาอาจจะกล้า แต่หลังจากเดาได้ว่าซูชางหยูอาจเป็นยอดฝีมือที่ไม่ธรรมดา เขาก็กลัวเกินกว่าที่จะแสดงกระบวนท่ากระบี่ของเขา.

เขาจะไม่ทำตัวเองให้ดูโง่เหรอ?

ทว่าหลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เย่ปิงก็รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรมากเพราะเขาต้องลองไม่ช้าก็เร็ว เขาไม่สามารถใช้ชีวิตที่เหลือโดยเอาแต่คิดได้.

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่ปิงก็อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก ๆ

ในทางกลับกัน ซู ชางหยู่ถอยหลังไป 20 ก้าวอย่างเงียบๆ ด้วยความกลัวว่าเขาจะถูกกระบี่แทง .

“กรุณาสั่งสอนข้าด้วยขอรับ พี่ใหญ่”

เย่ปิงหายใจเข้าลึก ๆ แล้วชักกระบี่ออกมา

ชิ้ง!

กระบี่ถูกดึงออกจากฝัก

ในช่วงเวลาต่อมา ออร่าของ เย่ ปิงก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน.

เย่ปิงรวบรวมความคิดทั้งหมดของเขาได้ในทันที และกระบวนท่ากระบี่ 400 กระบวนท่าก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา.

ไม่ไกลนัก ซูชางหยูก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะยังไงเสียออร่าของเย่ปิงก็เปลี่ยนไปจริงๆ.

ทว่าเขายังไม่เชื่อว่าเย่ปิงเข้าใจกระบวนท่ากระบี่ถึง 400 กระบวนท่า.

ชิ๊ง!

วิชากระบี่ของเขาปรากฏขึ้นมา.

เย่ปิงแทงกระบี่ไปข้างหน้าก่อนที่จะเริ่มฝึกฝนวิชากระบี่ที่ปรากฏอยู่ในใจของเขา.

“วิชาสี่กระบี่อัสนี?”

ดวงตาของซูชางหยูเบิกกว้าง และเขามองเย่ปิงด้วยความประหลาดใจ.

หลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของเขา ซู ชางหยู่ก็รู้ว่ามันเป็นวิชาสี่กระบี่อัสนีแน่ๆ.

เขาฝึกฝนวิชากระบี่มาสิบปีแล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?

ไม่ไกลนัก เย่ปิงก็เริ่มไฟติดอย่างสมบูรณ์หลังจากทำการเคลื่อนไหวครั้งแรก.

เขารวดเร็วและมีทักษะอย่างมาก มากกว่าความเร็วของซูชางหยูอย่างน้อยสิบเท่า.

ในชั่วพริบตา เย่ปิงก็แสดงได้ถึงกระบวนท่าที่ 36.

ซู ชางหยู ตกตะลึงอย่างมาก.

หลังจากฝึกตนและฝึกฝนมาสิบปี เขาก็เข้าใจจนถึงกระบวนท่าที่สิบแปดเท่านั้น ซึ่งเป็นขอบเขตเริ่มต้นของวิชากระบี่อัสนีฤดูใบไม้ผลิ.

ทว่าในชั่วพริบตา เย่ปิงกลับเข้าใจได้ถึงกระบวนท่าที่ 36 ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อ.

ทว่ามีบางสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นเกิดขึ้นหลังจากนั้น.

ไม่ไกลนัก เย่ปิงก็เริ่มเคลื่อนไหวกระบี่เร็วขึ้นเรื่อยๆ และเขาก็ดุร้ายมากขึ้นเช่นกัน มากจนน่าตื่นตา.

เมื่อเย่ปิงทำท่าที่ 108 เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นในทันที.

โครม.

มันเป็นเสียงสายฟ้า

ทันใดนั้น ซู ชางหยู ก็ประหลาดใจอย่างสิ้นเชิง.

เขาตกตะลึงมากๆ.

เขายืนหยั่งรากอยู่กับพื้น ตกใจจนหายใจไม่ออก.

สายฟ้า!

สายฟ้า!

สายฟ้า!

มันเป็นสายฟ้า

หลังจากที่ฝึกฝนวิชากระบี่อัสนีทั้งสี่ชุดแล้ว เสียงสายฟ้าก็จะตามมา.

หากมีใครมีพลังวิญญาณ เขาจะสามารถควบคุมสายฟ้าและให้มันสังหารศัตรูได้ แต่ถ้าไม่มีก็สามารถสร้างเสียงสายฟ้าเพื่อเสริมพลังกระบี่ได้.

การจะสร้างสายฟ้า อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องไปถึงขั้นชำนาญเสียก่อน.

ความฝันตลอดชีวิตของ ซูชางหยูคือการไปถึงขั้นชำนาญของวิชาสี่กระบี่อัสนี.

ทว่าเขาไม่คิดเลยว่าน้องชายคนเล็กของเขาจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ภายในวันเดียว.

'มันเป็นไปไม่ได้!'

'มันเป็นไปไม่ได้!'

'เป็นไปไม่ได้! อ๊ากกก!!'

ภายนอก ซู ชางหยู ดูสงบมาก แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้สึกปั่นป่วนอย่างมาก และหัวใจของเขาก็สับสนวุ่นวาย.

ทว่าภายในเวลาเพียงห้าลมหายใจ ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งนาที เสียงสายฟ้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง.

ซู ชางหยู ประหลาดใจอีกครั้ง

มันคือสัญลักษณ์ของวิชากระบี่อัสนีฤดูร้อนขั้นชำนาญ.

อีกห้าลมหายใจต่อมา

เสียงสายฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง

มันคือสัญลักษณ์ของวิชากระบี่อัสนีฤดูใบไม้ร่วงขั้นชำนาญ.

ในตอนนั้นเอง เย่ปิงก็เร็วขึ้นอีก.

วิชากระบี่ของเขาดูราวกับพายุ และเป็นวิชาสี่กระบี่อัสนีชุดสุดท้าย.

วิชากระบี่อัสนีฤดูหนาว

มันคือท่าไม้ตายที่แกร่งที่สุด.

ฤดูหนาวใกล้เข้ามาและทุกสิ่งก็จะเหี่ยวเฉา.

ก่อนหน้านี้ เย่ปิงมีกระบวนท่ากระบี่ถึง 400 กระบวนท่า

ทว่ารอยกระบี่ของซู ชางหยู ปรากฏขึ้นในใจของเย่ปิงอีกครั้ง

ทันใดนั้น กระบวนท่ากระบี่อีก 32 กระบวนท่าก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา.

มีกระบวนท่ากระบี่ทั้งหมด 432 กระบวนท่า.

เย่ปิงหลับตาลง

ในตอนนั้นเอง เขาก็เคลื่อนไหวไปด้วยกระบี่.

กระบี่นั้นดุดันมาก.

เขารวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

เขาทำท่า 32 ท่าสุดท้าย.

โครม.

เสียงสายฟ้าดังขึ้นอีกครั้งทันที

มันทำให้หูหนวก.

ห่างออกไปสิบเมตร ก้อนหินที่สูงหลายโยชน์ก็ถูกแยกออกเป็นสี่ส่วนทันที.

ซู ชางหยู อยู่ในอาการงุนงง

เขาตกใจจนพูดไม่ออก

เป็นเพราะ เย่ปิงไม่เพียงแต่เข้าถึงขั้นชำนาญแล้วเท่านั้น แต่ยังเข้าใจวิชาสี่กระบี่อัสนีอย่างถ่องแท้อีกด้วย.

'เจ้านี่.....มันบ้าไปแล้ว..'

ติดตามข่าวสารของเรื่องนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/SharkTran