ตอนที่ 23 เต๋าหัวใจ
ผู้อาวุโสหวังมองเฟิงหยูเตี๋ย
“เฟิงหยูเตี๋ย มัดผมเจ้าใหม่ก่อนเข้าโถง สภาพเจ้าจะส่งผลต่อคะแนน”
หลังเตือนนาง ผู้อาวุโสหวังก็มองเพ่ยเหลียนเสวี่ยอีก ตอนเขาไปสำนักร้อยดอกบัว เขาไม่เห็นนาง เขาจึงถามอย่างสับสน“เจ้ามากับเฟิงหยูเตี่ยรึ?”
“เจ้าค่ะ”เพ่ยเหลียนเสวี่ยประสานมือ“ข้าชื่อเพ่ยเหลียนเสวี่ย เป็นนายน้อยเย่ที่ให้ข้ามากับแม่นางเฟิง”
“ศิษย์สำนักร้อยดอกบัว”ผู้อาวุโสหวังลูบเคราและถาม“ผู้ติดตามของนางไม่ใช่นายน้อยเย่ แต่เป็นเจ้า?”
“เจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสหวังอึ้ง ตอนเขาไปสำนักร้อยดอกบัว เขารู้สึกว่าเย่อาวอยากให้เย่อันผิงกลายเป็นศิษย์สายในของดาวดำ ดังนั้น หลังรู้เรื่องเฟิงหยูเตี๋ย เขาก็คิดว่าเย่อาวจะจัดเตรียมให้เย่อันผิงเป็นผู้ติดตามนาง
แต่ตอนนี้ เด็กสาวที่มีสามรากปราณดันถูกส่งมา และเขาก็ไม่รู้ว่าเย่อาวคิดอะไร
หลังลังเล เขาก็โบกมือ”ช่างมัน มาตรฐานขอ งดาวดำสำหรับผู้ติดตามศิษยืไม่ได้เข้มงวดมาก แต่ก็ยังต้องผ่านการทดสอบ ข้าขอเตือนเจ้าว่าในฐานะผู้ติดตามของเฟิงหยูเตี๋ย เจ้าต้องเข้าร่วมในการทดสอบกับนาง มาตรฐานจะไม่ต่ำ ถ้าเจ้าไม่ผ่าน เจ้าก็อดเข้าสำนักดาวดำ’
เพ่ยเหลียนเสวี่ยคารวะ“ข้าเข้าใจ”
“ได้ งั้นก็มากับข้า รอบแรกคือการทดสอบเขียน”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยกลืนน้ำลาย รีบตามเขาไป เมินเฟิงหยูเตี๋ย ในความเป็นจริง นางไม่รู้สึกประหม่าเลยตอนมาถึง คิดว่าการสอบคัดเลือกเข้าสำนักดาวดำคงเหมือนสำนักร้อยดอกบัว มากสุดการแข่งขันคงดุเดือดกว่าก็เท่านั้น
แต่ตอนผู้อาวุโสหวังบอกว่าจะไปทดสอบข้อเขียน นางก็ตื่นตระหนก นางมั่นใจมากในวิชากระบี่ อาคม หรือการหมุนเวียนลมปราณ แต่การเขียนนั้นไม่ถนัด
ถ้านางไม่ผ่าน นั่นหมายความว่าพี่ชายจะส่งนางมาโดยสูญเปล่า?
พอสัมผัสได้ว่านางวิตก เฟิงหยูเตี๋ยก็เดินมาและถาม“เจ้าประหม่าเหรอ?”
“เปล่า”เพ่ยเหลียนเสวี่ยเบือนหน้าหนี แต่ก็พูดเสริม“ข้าเขียนไม่ค่อยเก่ง พี่ชายข้าไม่ค่อยสอนเรื่องพวกนี้..”
“ข้าจะหาทางส่งคำตอบให้เจ้า”
“..เจ้าอ่านตำรามาเยอะเหรอ?”
เฟิงหยูเตี๋ยรีบคุย“ข้าอ่านมาแทบจะทั่ว”
พอผู้อาวุโสหวังได้ยิน เขาก็ถอนหายใจและเตือน”เฟิงหยูเตี๋ย ถ้าเจ้าช่วยนางโกง พวกเจ้าสองคนจะโดนตัดสิทธิ์และจะถูกห้ามเข้าร่วมสำนักดาวดำอีก’
“อา ผู้อาวุโสหวัง ข้าแค่พูดเล่น”เฟิงหยูเตี๋ยรีบพูด
“เห้อ..’
ผู้อาวุโสหวังถอนหายใจ และนึกถึงคำที่ว่า’คนประเภทเดียวกันมักอยู่ด้วยกัน’ แม้เขาจะเจอเฟิงหยูเตี่ยแค่สองครั้ง แต่เขาเห็นเงาของอาจารย์นางในตัวนาง
เฟิงหยูเตี๋ยขยิบตาให้เพ่ยเหลียนเสวี่ยแล้วกระซิบ“แม่นางเพ่ย รอสัญญาณข้านะ”
“ไม่กล้วว่าจะโดนจับได้เหรอ?”
“ก็จับไปสิ มากสุด ข้าจะตามเจ้ากลับสำนักร้อยดอกบัว จากนั้นเราจะฝึกฝนด้วยกันตลอดเวลา”
แม้เฟิงหยูเตี่ยจะกระซิบ ผู้อาวุโสหวังก็ยังได้ยิน แต่ครั้งนี้เขาไม่พูดอะไร ในความเป็นจริง ตำแหน่งของเฟิงหยูเตี๋ยโดนประมุขกำหนดไว้แล้ว ขอแค่นางไม่สร้างเรื่องใหญ่ พวกเขาจะยอมหลับตา
เหนือสิ่งอื่นใด ไม่เพียงนางจะมีรากปราณสวรรค์ แต่ยังเป็นศิษย์รักของปรมาจารย์ไท่สวี่และทายาทของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ถ้าพวกเขาไล่นางและนางไปหาสี่สำนักใหญ่อื่นของตระกูลเซียน งั้นดาวดำก็จะเสียหายหนัก
ผู้อาวุโสหวังได้แต่หวังว่าการกระทำของนางจะไม่เด่นเกินไป
สาวๆตามหลังผู้อาวุโสหวังผ่านคาถาเคลื่อนย้ายที่ประตูโถง และในชั่วพริบตา ทั้งสองก็มาถึงลานกว้างที่ใหญ่พอจะจุคนนับหมื่น
มีโต๊ะไม้ชั้นดีตั้งห่างกันทุกสิบก้าวในลาน ศิษย์หลายคนที่มาเข้าร่วมการสอบได้นั่งอยู่ที่โต๊ะเหล่านั้นแล้ว กำลังตอบคำถาม
เพ่ยเหลียนเสวี่ยอยากเห็นคำตอบของศิษย์หลายคนด้วยสายตาอันเฉียบแหลม แต่ดูเหมือนจะมีคาถารอบโต๊ะ ไม่ต้องพูดถึงกระดาษสอบ แม้แต่หน้าพวกเขาก็ยังมองเห็นไม่ชัด
ผู้อาวุโสหวังเดินไปแท่นสูงใจกลางลาน เดินไปหาผู้อาวุโสเคราขาวที่นั่งตรงนั้นเพื่อรับป้ายไม้สองอัน และหลังมองพวกมัน เขาก็ขยี้
ในชั่วพริบตา เพ่ยเหลียนเสวี่ยกับเฟิงหยูเตี๋ย ที่ยังยืนอยู่ด้วยกันก็ถูกส่งไปโต๊ะของตนเอง วินาทีถัดมา เสียงของผู้อาวุโสหวังก็ส่งเข้าหัวพวกเขาโดยตรง
“มันง่ายมาก ป้ายหยกบนโต๊ะมีคำถามเขียนอยู่ แค่เขียนคำตอบบนกระดาษ เวลาจำกัดคือหนึ่งชั่วโมง ถ้าเสร็จล่วงหน้าก็ให้พูดว่า’ตอบเสร็จแล้ว’ อาคมจะส่งเจ้าออกไป”
“ตอบเสร็จแล้ว?”เฟิงหยูเตี๋ยถามอย่างสงสัย
ด้วยเหตุนั้น แสงสีฟ้าจึงคลุมตัวนางและนางก็โดนส่งออกไป
“ฮึ่ม..”ผู้อาวุโสหวังได้แต่สูดหายใจลึก จากนั้นก็รีบออกไป
สามลมหายใจต่อมา เขาคว้าคอเสื้อเฟิงหยูเตี๋ย กลับเข้ามาอีกครั้งผ่านคาถาเดิม
“..”
“แหะ แหะ”เฟิงหยูเตี่ยเกาหลังหัว“อุ้ย ข้าเผลอพูดโดยไม่ตั้งใจ ฮ่าๆ..”
ผู้อาวุโสหวังมองนางเคืองๆ จากนั้นก็ถอนหายใจก่อนจะทิ้งป้ายไม้ใหม่ไว้ จากนั้นก็ส่งนางไปที่นั่งอื่น
เพ่ยเหลียนเสวี่ยพูดไม่ออก หลังถอนหายใจ นางก็หยุดสนใจเฟิงหยูเตี๋ย หยิบป้ายหยกมาและมอง
พอเห็นเนื้อหา นางก็ผงะ มีคำสองคำ’เต๋าหัวใจ’
ก่อนหน้านี้ พี่ชายยืนกรานจะสอนเต๋าหัวใจให้นาง แม้นางจะไม่ค่อยเข้าใจถึงเต๋าหัวใจของเขา เขาก็ยังขอให้นางจำให้ได้มากที่สุด
ดังนั้น นางจึงทวนมันและยังท่องมันได้อยากคล่องแคล่ว
เพ่ยเหลียนเสวี่ยหยิบพู่กันและเริ่มเติมคำ ‘สิ่งที่เราเรียกว่าเต๋าหัวใจคือการกำจัดความชั่วร้าย ทำความดี กำจัดความปรารถนามนุษย์ สงวนหลักการธรรมชาติ แสดงความเมตตา ความชอบธรรม ภูมิปัญญาและศรัทธา รวมความรู้ กระทำสิ่งที่นำไปสู่ความสำนึกรู้ในทุกสิ่ง..’
เฟิงหยูเตี๋ยมองคำว่า’เต๋าหัวใจ’สักพัก และถาม“เสี่ยวเทียน ตอบว่าไงดี?”
เสี่ยวเทียนที่ลอยเหนือหัวนางมองนาง“ข้าสงสัยว่าใครกันที่คุยโวก่อนหน้านี้?”
“โอ้ นั่นแค่เพื่อสร้างความประทับใจเฉยๆ”
“หึ”เสี่ยวเทียนเยาะเย้ย“ตอนปรมาจารย์ไท่สวี่ขอให้เจ้าท่องจำตำรา เจ้าไม่ทำ ตอนนี้เจ้าเสียใจหรือยังละ?”
“ใช่ ใช่ ข้าเสียใจแล้ว แล้วคำตอบละ?”
“เห้อ”เสี่ยวเทียนถอนหายใจ โบกมือและนำม้วนคัมภีร์เต๋าสวรรค์ออกมา นางคลี่อ่านและพูด”ข้าจะอ่านให้ฟังครั้งเดียว ‘สิ่งที่เราเรียกว่าเต๋าหัวใจคือการกำจัดความชั่วร้าย ทำความดี กำจัดความปรารถนามนุษย์ สงวนหลักการธรรมชาติ แสดงความเมตตา ความชอบธรรม ภูมิปัญญาและศรัทธา รวมความรู้ กระทำสิ่งที่นำไปสู่ความสำนึกรู้ในทุกสิ่ง..’