13 เขาว่าบ้านนี้ผีดุ
หลังจากกินข้าวเสร็จอารอล์ฟเดินไปส่งของให้พวกเพื่อนที่กองตรวจสอบพัสดุในทุก ๆ วัน นอกจากเขาต้องเปลี่ยนหน้าที่มาทำบัญชีแล้วยังต้องคอยประสานงานนู้นนี้ให้คนภายในค่ายแห่งนี้ ถ้าไม่นับเจ้าหนูเกรเทลที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาคุยด้วยแล้วเขาก็คิดว่าตนเองเป็นรองไม่น้อยไปกว่าเด็กนั่น งานล้นมือชนิดที่ว่าต้องสับเท้าวิ่งไปมาตลอดเวลาเหมือนหนูติดจั่น
เหนื่อยนะแต่จะบ่นก็กลัวโดนฟาดหัวจากนาย
ชายหนุ่มกำลังเอนตัวลงนอนปิดไฟหลังจากอาบน้ำอาบท่าก็ยังไม่เห็นรูมเมตตนเองกลับมาสักที ทว่าคิดได้ครู่เดียวหูได้ยินเสียงฝีเท้าเบาค่อย ๆ เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้านพัก เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นปรากฏร่างเล็กที่สะพายถุงผ้าไว้ด้านหลัง อารอล์ฟจึงเอ่ยทักทายไป
“ไงไอ้หนูกลับช้าเชียว”
เกรเทลพยักหน้าส่ง ๆให้อารอล์ฟพร้อมตอบกลับไปเสียงแผ่วเบา
“อืมโดนใช้ทำงานทั้งวันเลย พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำความสะอาดบ้านพักให้นายด้วย”
ร่างหนาที่นอนบนเตียงถึงกลับเด้งตัวลุกมานั่งทันทีทันใด จนเสียงจากเตียงดังเอี๊ยดอ๊าดเสียดหูจนเกรเทลเบ้หน้าเลิกคิ้วสงสัยว่ามันมีอะไรให้ชายหนุ่มตื่นตัวขนาดนั้น
“ห๊ะ? นายสั่งให้เจ้าไปทำความสะอาดบ้านพักเรอะเกรเทล”
“ใช่ ทำไมเหรอ”
หน้าตาตื่น ๆ ของเพื่อนชายทำเอาใจคอไม่ค่อยดีมันก็แค่ไปทำความสะอาดบ้านพักทั่วไปมิใช่เหรอ จะมีอะไรน่าแปลกใจตรงไหนกันหรือมันเป็นงานที่คนอื่นไม่อยากทำแล้วเธอได้ทำ
“เขาว่ากันว่าบ้านนายมีผีสิง”
ใบหน้าหวานหันหัวขวับตาโตเป็นไข่ห่านไปทางอารอล์ฟเมื่อได้ยินคำว่า ผีสิง เกรเทลเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสางนางไม้นักแต่ก็ใช่ว่าจะไม่กลัวเลย โดยเฉพาะการที่มนุษย์ชอบจิตปรุงแต่งเองนั่นแหละจากที่ไม่มีกลายเป็นมีเฉย
“ไม่จริงมั้งรอล์ฟใครบอกกัน”
ชายหนุ่มเขยิบตูดมานั่งตรงปลายเตียงแต่ไม่ยอมลุกออกมายืนใกล้เธอชายหนุ่มยกแขนกวักมือเรียกหยิก ๆ ทำให้เธอต้องจำใจเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะบอก อารอล์ฟเลือกที่จะลดระดับน้ำเสียงให้เบาลงจนเหมือนเสียงกระซิบจนเกรเทลต้องยื่นหูเล็กลงไปใกล้เพื่อให้ได้ยินชัดเจน
“ก็พวกป้าแม่บ้านนั่นแหละ เขาลือกันสนั่นว่าผีในบ้านโคตรดุ”
เด็กสาวขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ข่าวลือมันจะน่าเชื่อถือได้แค่ไหนกันไม่ใช่ว่ากลัวเจ้านายเลยกุเรื่องขึ้นมาแทนจะได้ไม่มีใครเข้าไปใกล้หรือเปล่า
“แล้วมันยังไง”
ทาสตัวน้อยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอะไรดุ เห็นมีแต่พูดแค่ว่าผีดุ แล้วมันดุยังไงเธอชักสงสัยจนเร่งเร้าให้อีกฝ่ายตอบเร็ว ๆ ขืนช้ากว่านี้เธอจะขาดใจ อยากเสือกก็อยากแล้วยังจะมากั๊กพูดไม่หมดอีก
“เห็นพวกป้าเล่าว่าปกติแล้วบ้านพักหลังนั้นจะมีแค่นายคนเดียวที่อาศัยอยู่ แล้วมีช่วงหนึ่งที่นายไม่อยู่บ้านออกไปทำธุระนอกค่ายสองสามวัน ป้าแม่บ้านก็เข้าไปทำความสะอาดกันตามปกติ เช้าทำความสะอาดพอสาย ๆ ก็ออกมา”
เกรเทลฟังที่เพื่อนรูมเมตพูดอย่างตั้งอกตั้งใจอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านหลังนั้นคนถึงกลัวนักกลัวหนา
“แต่มีช่วงหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือมีวันหนึ่งป้าที่ชื่อแจสเป็นเวรที่ต้องเข้าไปทำความสะอาดอยู่ ๆ ก็กรี๊ดลั่นออกมาจนคนแถวละแวกนั้นตกใจ ป้าเล่าว่าในบ้านไม่มีใครนอกจากนางอยู่ ๆ ก็มีเสียงคนเปิดปิดประตูดังมาจากชั้นสองพอขึ้นไปดูดันไม่มีใคร สักพักก็ได้ยินเสียงคนเปิดก๊อกน้ำในห้องน้ำจะเดินไปปิดก็ไม่มีน้ำไหล พอหันหน้ามาก็เจอเงาอะไรไม่รู้พุ่งเข้าใส่จนกรี๊ดหน้าตั้งออกมา”
คนเอียงหูฟังอย่างเกรเทลไม่รู้จะแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปเลย ไม่รู้ว่าอึ้งหรือขนลุกกันแน่ ความรู้สึกตีรวนเป็นก้อนกลม ๆ ขยุ้มพันกันในหัว
“แล้วมีคนเจอแบบนี้อีกไหม”
“อืมมี จากนั้นไม่นานคนที่ชื่อแจสก็ลาออกไปแล้วป้าคนอื่น ๆ ในค่ายก็เวียนกันไปทำความสะอาดต่างพูดว่าโดนหลอกไม่เหมือนกันสักคน บางคนโดนประตูล็อกถูกขังอยู่ในนั้น บางคนเจอของลอยปาใส่ บางคนโดนเป่าลมใส่ต้นคอทั้งที่หน้าต่างปิด”
เกรเทลทำตาปริบ ๆ ไม่รู้จะถามอะไรต่อดีมีความภายในใจเป็นหมื่นล้านคำแต่พูดออกมาไม่ได้ เธอก็อยากจะเชื่อเหลือเกินว่ามีผีจริง ๆ อย่างที่คนอื่นพูด แต่คนที่กำลังจะต้องเข้าไปทำความสะอาดทุกวันมันดันกลายเป็นเธอไง! พูดแบบนี้ไม่กลัวก็กระไรอยู่นะไม่ได้จิตแข็งขนาดนั้น เลยตัดสินใจเดินถอยหลังออกมาฝั่งเตียงตัวเองแทนโดยไม่พูดอะไร
“อ้าว เจ้าไม่ถามต่อแล้วเหรอเกรเทล?”
หัวทุยเล็กส่ายหน้าเป็นคำตอบแทนคว้าเอาอุปกรณ์และชุดใหม่เตรียมอาบน้ำนอน ขอไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำและทำใจคนเดียวก่อนนะอารอล์ฟ ฮือ
เช้าวันต่อมาเกรเทลตื่นมาด้วยขอบตาดำคล้ำเล็กน้อยเนื่องจากนอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งที่ตัวเองเป็นคนไม่กลัวเรื่องผีไหงคิดฟุ้งซ่านไม่เป็นอันหลับอันนอน เธอพลิกตัวไปมาทั้งคืนจนเห็นว่าอารอล์ฟยกหัวขึ้นมามองกลางดึกหลายรอบว่าเธอเป็นไรแต่ก็ไม่ได้เอ่ยทัก
ก่อนจะไปบ้านพักของอีตาหัวผักเธอไปช่วยที่ห้องครัวอย่างยกลังผักกับหั่นพวกผักผลไม้เท่าที่บาสเตียนจะให้เธอทำได้ ก่อนขออนุญาตออกไปทำความสะอาดบบ้านพักให้นายซึ่งสร้างความตกใจให้กับคนในครัวเป็นอย่างมากเพราะกิตติมศักดิ์บ้านหลังนี้เป็นที่เลื่องลือสุด ๆ ในค่ายตลาดค้าทาสโมเบียส
บาสเตียนจึงทำได้แต่ให้กำลังใจเธอและหยิบเอากล่องข้าวส่งให้พกติดตัวไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าเธอจะทำความสะอาดเสร็จตอนไหน เมื่อหิวจะได้กินเลยไม่ต้องวนกลับมาที่โรงอาหารให้เสียเวลา เกรเทลกล่าขอบคุณแล้วเดินออกมาตรงไปตามทางที่วอลล็อคเคยบอก
ร่างบางลากตัวเองมาหยุดยืนหน้าบ้านพักไม้สนตามที่อีตาหัวเขียวบอก บรรยากาศก็ดูร่มรื่นดี หน้าบ้านมีต้นวิลโลว์ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านสวยงามคาดว่ามีอายุถึงร้อยปี เธอเดินไปสัมผัสลำต้นของมันอย่างแผ่วเบารู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนที่ไม่มั่นใจเพราะตลอดชีวิตของเธอก็เห็นต้นไม้มานับร้อยต้น หน้าตามันก็คล้าย ๆ กันไปหมด
มือเรียวหอบข้าวของที่จะเอามาทำความสะอาดบ้านอย่างทุลักทุเล ขณะที่มือกำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตูบ้าน พอดีกับบานประตูเปิดอ้ากว้างปรากฏเป็นชายหนุ่มร่างสูงคนดีคนเดิมผมเผ้าสีเขียวยุ่งเหยิงสภาพเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน
“เจ้ามาแต่เช้าเชียว ดีนะข้าตื่นลงมาทันเข้ามาสิ”
คิ้วบางยกสูงทำหน้างงนิดหน่อยแต่ไม่นานก็กลับมาแสดงสีหน้าปกติ งั้นแสดงว่าเขาเพิ่งตื่นนอนได้ไม่นานสินะ แล้วเขารู้ได้ไงว่าเธอมาถึงแล้วเซนส์ของหมอนี่คงจะดีจริง ๆ แบบนี้จะนินทาหรือพูดลับหลังอะไรเขาไม่รู้หมดเลยเหรอ
เกรเทลเดินตามวอลล็อคเข้ามาด้านในพร้อมอุปกรณ์กระทบส่งเสียงดังก๊อกแก๊กเวลาเธอเดิน ร่างสูงเอียนหน้าหันมามองเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าตัวเจ้าหนูมีอยู่แค่นั้นยังยกของได้เยอะขนาดนี้ไม่ธรรมดาเสียจริง
“เจ้าเริ่มทำความสะอาดจากห้องนั่งเล่นก่อนแล้วกันตามซอกโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ไม้ บานหน้าตา ฝ้าเพดาน ชั้นวางของ พื้นพรม ส่วนห้องครัวปกติข้านาน ๆ จะใช้ที เจ้าก็ช่วยจัดระเบียบความเรียบร้อยทำเท่าที่ทำได้นะ”
มือหนาชี้ไปทางนู้นทีไปทางนั้นทีพร้อมอธิบายเนื้องานคร่าว ๆ ที่เธอต้องทำทั้งหมดอย่างละเอียดยิบ
“ห้องน้ำอย่าลืมขัดทำความสะอาดด้วย พอเจ้าทำที่ชั้นหนึ่งเสร็จแล้วก็ค่อยขึ้นไปทำความสะอาดที่ชั้นสองต่อ ข้างบนจะมีห้องนอนข้ากับห้องน้ำฝากเจ้าดูแลด้วย พอดีไม่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านนี้มาพักใหญ่แล้วอาจรกไปบ้าง”
ไม่ต้องเดาเธอก็พอรู้ว่าทำไมไม่มีแม่บ้านคนไหนกล้ามา ขนาดแค่เธอฟังจากอารอล์ฟยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ เลย พอวอลล็อคสั่งงานเธอเสร็จเขาก็เดินหนีขึ้นไปชั้นบนปล่อยเธอทิ้งไว้ตามลำพังกับความเงียบภายในบ้าน
เกรเทลสั่นหัวตั้งสติดึงสมาธิกลับมาโฟกัสที่ปัจจุบันว่าต้องทำงานตามหน้าที่ อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดก่อนย่าไปใส่ใจมันมากมิฉะนั้นงานไม่เสร็จเป็นแน่ กลัวไปก็ไม่ได้ช่วยให้งานเธอเสร็จทันเวลา
เด็กสาวเริ่มเคลียร์พื้นที่ตรงห้องนั่งเล่น ทยอยเปิดหน้าต่างและประตูให้มีลมพัดผ่านเพื่อระบายอากาศให้ถ่ายเทไม่เหม็นอับ เอื้อมมือขึ้นสูงถอดเอาผ้าม่านและพื้นพรมยกไปไว้ตรงลานหลังบ้านเพื่อเตรียมซักตาก จากนั้นปัดฝุ่นตามชั้นวางของ โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ ให้ฝุ่นลงมาที่พื้น
เกรเทลเลือกที่จะค่อย ๆ กวาดพื้นตามซอกตามมุมให้ขยะออกมา แม้ว่าก่อนหน้าจะไม่มีแม่บ้านมาดูแลทำความสะอาดในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่วอลล็อคเขาคงจะคอยปัดกวาดเช็ดถูด้วยตนเองฝุ่นหรือขยะจึงแทบไม่มีให้เธอเห็น อย่างมากก็จะเป็นพวกเม็ดหินดินทรายมากกว่าที่เยอะ
ซึ่งเธอก็ไม่ต้องเหนื่อยจัดเก็บ ถ้าให้พูดกันตามความจริงเธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นาน ๆ หรอก ฟังเจ้าอารอล์ฟพูดเยอะไปจนชักหลอน
เกรเทลหยิบเอาถังไปเติมน้ำจำนวนสองถัง ใบหนึ่งเอาไว้เช็ดโต๊ะตู้ชั้นวาง อีกใบเอาไว้ถูพื้นโดยเฉพาะ เกรเทลไล่เช็ดถูไปเรื่อยจนสะอาดหมดจด แล้วปิดท้ายด้วยการจุ่มไม้ม็อบลงไปส่งมือลงไปกำบิดให้ผ้าเปียกหมาด ๆ แล้วไล่ถูจากด้านในสู่หน้าบ้าน
ข้าวของส่วนใหญ่ถูกวางไว้เป็นที่ของมันเด็กสาวแค่ขยับนิด ๆ หน่อย ๆ ให้เรียบร้อย ส่วนภายในครัวเธอทำเพียงแค่เช็ดถูตามชั้นตู้เก็บของ จัดการล้างแก้วที่บางส่วนยังถูกทิ้งแช่เอาไว้ให้ไม่มีคราบ จัดโต๊ะเก้าอี้เข้าที่
มีกองหนังสือพิมพ์ถูกวางทิ้งไว้เกรเทลจึงหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นอักษรแปลกประหลาดซึ่งเธออ่านไม่ออก แต่ด้านข้างคอลัมน์มีภาพถ่ายประกอบดูเหมือนจะเป็นเหตุจลาจลอะไรสักอย่าง ถัดลงมาเป็นภาพเบลอ ๆ ถ่ายจากระยะไกลในภาพเป็นชายรูปร่างสูงโปร่งมืด ๆ มองไม่ออกว่าในภาพนั้นคือใคร
“ยืนอู้งานอยู่หรือ”
ร่างบางได้ยินเสียงพูดจึงหันหน้าไปมอง รอบนี้เขากลับมาในสภาพเรียบร้อยผมไม่ยุ่งแล้ว คาดว่าเขาคงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาสินะถึงหายไปนานกว่าจะลงมาชั้นล่าง
วอลล็อคแกล้งทักหยอกล้อคนตัวเล็กแก้เบื่อเพราะเขารู้ดีว่าหมอนี่มันขยันทำงานทำการที่สุด พลันลากสายตาไปมองในมือของเด็กหนุ่มเป็นแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้ นกส่งสารคงบินเข้ามาทางหน้าต่างบานไหนสักบานแล้วมาวางไว้แถวนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ทันได้สังเกตด้วย
“อ่อ เปล่าขอรับข้าแค่ดูหนังสือพิมพ์เฉย ๆ แล้วก็สงสัยว่ามันคืออะไร”
นายหัวแห่งตลาดค้าทาสเลิกคิ้วขึ้นไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด ก็เมื่อในมือมันถือหนังสือพิมพ์อยู่ก็แสดงว่าต้องอ่านอยู่มิใช่หรืออย่างไร
“ก็เจ้าอ่านอยู่ไม่ใช่เหรอเจ้าหนู”
“คือว่า…ข้าอ่านไม่ออกหรอกขอรับ”
เกรเทลทำสีหน้าไม่เข้าใจพร้อมตอบไปสั้น ๆ ว่าเธออ่านมันไม่ออกจริง ๆ ตัวขะยึกขะยือบิดไปบิดมาไม่เคยเจอในโลกของตนเองแถมไม่รู้ด้วยว่าต้องอ่านจากฝั่งซ้ายหรือขวา อ่านจากบนลงล่าง
“อืมงั้นเหรอ”
ชายหนุ่มหรี่ตามองดูแล้วท่าจะจริงเพราะบนหน้าหนังสือพิมพ์เช้าวันนี้เขากำลังพูดถึงเหตุการณ์ชุมนุมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคนวงกว้าง ซึ่งเป็นใครอ่านข่าวก็ต้องตื่นตกใจแล้วจับกลุ่มพูดคุย ผิดกับเจ้าเด็กนี้ดูไม่ประสีประสาอะไรแถมยืนทำหน้างงอีก
“ข้าอยากรู้ว่าข่าวเกี่ยวกับอะไรขอรับ”
เกรเทลบอกจุดประสงค์ภายในใจให้หัวหน้ารับรู้ไปเลย ตอนนี้เธอเหมือนกบในกะลาครอบที่ไม่รู้จักอะไรเลยนอกจากภายในตลาดค้าทาสโมเบียส ข่าวสารด้านนอกเป็นไง สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างเธอไม่รู้อะไรเลย ถ้าบอกว่าโดนปิดหูปิดตาเธอก็เชื่อ
“เช่นนั้นเอาไว้ข้าสอนให้เจ้าก็แล้วกัน”
“จริงหรือขอรับ?”
เกรเทลหูผึ่งหันไปมองด้วยตาเป็นประกายวิ้ง ๆ เธอเป็นคนรักการเรียนมากคนหนึ่งเฮลก้าจึงชอบล้อเลียนว่าเธอเป็นพวกเด็กเนิร์ดของแท้ แม้จะมีบ้างที่แอบหนีโดดเรียนแต่จนแล้วจนรอดก็คว้าเอาเกรด 4 ไม่ก็เกรด A มาครองได้อย่างสบาย ๆ เด็กสาวถือว่าหัวดีแถมขยันไม่แปลกที่เธอจะทำได้ทุกอย่างในเวลาอันสั้น
“จริง แต่ข้ามีค่าจ้างนะ”
“อ้าว”
ชายหนุ่มเห็นตาเป็นประกายนั้นได้เพียงแป๊ปเดียวพอเขาพูดคำว่าค่าจ้างปุ๊บ แววตาเจ้าเด็กนี้ก็หม่นหมองลงโดยทันที
“เอาเถอะไว้ข้าค่อยคิดทีหลังว่าจะเก็บเจ้าเท่าไรไว้จะสอนอ่านแล้วกัน”
“สัญญาแล้วนะขอรับ”
ผมสีเขียวขยับขึ้นลงพยักหน้าน้อย ๆ ให้ เกรเทลก็เลิกเซ้าซี้อีกฝ่ายหันหน้ามามองกระดาษหนังสือพิมพ์ในมือแล้วเม้มปากแน่นเสียดายที่ไม่สามารถอ่านมันออกในตอนนี้ได้ เธอชอบอ่านข่าวโดยเฉพาะอ่านจากหนังสือพิมพ์มันให้ความรู้สึกฟินเมื่อได้ยินเสียงกระดาษพลิกไปมาเหมือนหนังสือ
มือเรียววางมันลงบนโต๊ะจัดระเบียบให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมที่จะไปขัดห้องน้ำ แล้วต่อด้วยทำความสะอาดชั้นบนตามลำดับ ห้องน้ำเธอทำจนชำนาญจึงใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที ก็สะอาดเอี่ยมอ่อง ลากอุปกรณ์เดินไปตามชั้นบันไดด้วยความระมัดระวัง เมื่อเดินมาจุดบันไดก็พบว่ามีแค่สองห้องจริง ๆ คือห้องน้ำกับห้องนอนเกรเทลจัดการห้องน้ำชั้นสองก่อนแล้วค่อยย้ายไปเก็บกวาดห้องนอน
ในสายตาเด็กสาววอลล็อคเป็นคนรักความสะอาดระดับหนึ่ง ในห้องน้ำทั้งชั้นบนและล่างแทบไม่มีคราบสกปรกให้เห็น ส่วนห้องนอนรกนิดหน่อยตามประสาผู้ชายที่อาศัยอยู่คนเดียวในบ้าน มีเตียงขนาดควีนไซซ์กับตู้เสื้อผ้าที่ดูเหมือนยังไม่ได้ถูกพับเก็บวางกอง ๆ กันอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน ข้าวของในห้องมีไม่กี่อย่างแต่ดูอบอุ่นครบครัน
เธอเหลือบไปเห็นตะกร้าผ้าวางหลบมุมห้องอยู่ ใจลังเลว่าต้องเอาไปซักด้วยไหม ยืนสองจิตสองใจอยู่นานจึงตัดสินใจชะโงกหน้าออกไปทางประตูแล้วเปล่งเสียงตะโกนถามลงไป
“ตะกร้าผ้าตรงนี้ให้ข้าซักด้วยเลยไหมขอรับ?!”
ร่างหนาสะดุ้งตกใจเสียงที่ดังมาจากชั้นบนจึงก้าวเดินไปตรงตีนบันไดแล้วพูดกลับไป
“เจ้าเอาไปซักด้วย”
เมื่อได้ยินดังนั้นเกรเทลก็พยักหน้าเข้าใจแล้วกลับมารีบเคลียร์ห้องต่อ พับเสื้อผ้าเข้าตู้ให้เรียบร้อย ปัดกวาดเช็ดถูตามโต๊ะตู้ใต้เตียง แล้วต่อด้วยการดึงผ้าปูที่นอนออกมาพร้อมปลอกหมอนผ้าห่ม จับขยุ้ม ๆ เป็นก้อนกลมวางไว้ที่พื้นหน้าห้องนอนชั่วคราว จากนั้นเดินกลับไปในห้องคว้าเอาตะกร้าผ้าออกมาพร้อมก้มลงกอดก้อนเครื่องนอนลงไปซักด้วยทีเดียว
ชายหนุ่มยืนเท้าเอวมองร่างเล็กค่อย ๆ ก้าวลงบันไดอย่างใจเย็น มีข้าวของอย่างพวกผ้าห้อยพะรุงพะรังเดินลัดเลาะผ่านประตูครัวไปทางหลังบ้าน เขาเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ เฝ้าดูการทำงานของอีกฝ่าย
“วันนี้ท่านไม่มีงานทำหรือ?”
เกรเทลเห็นว่าเขาไม่ได้ออกไปไหนแต่ดันมายืนคุมงานเธอมาได้สักพักหนึ่งแล้ว เลยถามออกไปให้หายสงสัย
“ก็มีนะแต่เจ้ามาทำงานที่บ้านพักข้า แถมเจ้าเพิ่งขโมยของไป ข้าจึงต้องมาดูกับตาว่าเจ้าได้แอบขโมยอะไรไปหรือไม่”
เด็กสาวกลอกตามองบนกับประโยคเหน็บแนมของอีตาหัวเขียวที่แท้ก็มายืนจับผิดเธอนั่นแหละ ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากเรื่องขโมยของ
“ข้าก็แค่ขโมยอาหารชิ้นเดียวเอง”
เกรเทลทำปากขมุบขมิบพูดพึมพำไม่ให้เขาได้ยิน แต่วอลล็อคดันเป็นคนแปลกประหลาดหูดีผิดมนุษย์มนาจึงได้ยินเต็มสองรูหู
“นี้ ๆ ทำงานไปอย่ามัวแต่บ่น”
“ขอรับ~”
จากนั้นเกรเทลเลื่อนใบหน้ามามองกองผ้าขนาดใหญ่ ลากเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ มานั่งลงแล้วลงมือซักผ้าทั้งหมดที่มีด้วยตัวคนเดียว ไม่ว่าจะผ้าม่าน พรม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าของชายหนุ่ม เธอไม่รู้สึกกระดากอายกับพวกชุดชั้นในของผู้ชายเพราะบ่อยครั้งที่เธอต้องซักพวกชุดเสื้อผ้าให้ป๊าและพี่ฮันเซลอยู่เป็นประจำเมื่อแม่ไม่อยู่บ้าน ยิ่งพวกชุดทหาร ชุดในเครื่องแบบ ไหนจะต้องรีดผ้าให้เรียบ เย็บซ่อมชุดให้กลับมามีสภาพดี เกรเทลล้วนทำได้หมดความเป็นแม่ศรีเรือนเธอมีพร้อม
วอลล็อคยืนกอดอกพิงอบประตูหลังบ้านมองไปยังเด็กหนุ่มตัวเล็กที่กำลังขะมักเขม้นกับการซักผ้าทั้งหมดแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
…มันจะไม่หมดแรงเป็นลมไปก่อนใช่ไหมวะ?…
เขาเริ่มไม่แน่ใจเท่าไรว่ามันจะทำทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว ปกติเวลาป้าแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านพักเขาต้องหอบกันมาสามสี่คนถึงจะเสร็จ แต่นี่เขาเล่นให้มันทำคนเดียวดูจะใจร้ายไปหรือเปล่านะ ต่อมความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มทำงานหลังจากเฝ้าดูมันมาสองสามวัน การแกล้งมันก็สนุกดีหรอกแต่ถ้าเกิดเจ้าเด็กนี่ป่วยขึ้นมาเขาคงจะโดนลูกน้องในสังกัดสาปส่งทั้งค่าย
เกรเลอยู่ทำความสะอาดบ้านพักวอลล็อคเกือบทั้งวันโดยเฉพาะการซักผ้ากองมโหฬาร มีพักเบรกไปกินข้าวช่วงเที่ยงแล้วก็กลับมาซักต่อ แม้วอลล็อคจะบอกเธอเสมอว่าถ้าเหนื่อยก็พักบ้างเขาไม่ได้เร่งขนาดนั้น อีกอย่างทำอยู่คนเดียวไม่มีใครช่วยจะกินเวลานานก้ไม่แปลก
ชายหนุ่มตัดสินใจหอบเอาเอกสารและงานมานั่งทำในบ้านพักแทนเพื่อเฝ้าดูเจ้าหนูทำงานอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งตกเย็นทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดีโชคดีที่วันนี้มีแดดและลมพัดผ่านทำให้ผ้าที่ซักทั้งหมดแห้งเร็วทันใช้ เกรเทลดึงผ้าลงมาจากราวไม้สะบัดผ้าให้พวกฝุ่นหรือเศษไม้ใบที่ปลิวตกใส่ให้หลุดออกไปแล้วพับใส่ตะกร้าสานถือเข้าไปในบ้าน เธอทยอยเอาม่านไปแขวนตามหน้าต่างและเดิขึ้นชั้นสองไปพับเก็บเสื้อผ้าของชายหนุ่มเข้าตู้ให้เรียบร้อย งานวันนี้เสร็จสิ้นไม่มีอะไรต้องให้ทำที่นี่อีก
วอลล็อคเดินตรวจตราเช็กสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้าน ทุกอย่างดูสะอาดเข้าที่เข้าทางต่างจากเมื่อเช้าลิบลับถือว่าเจ้าหนูทำงานได้ดีจริง ๆ
“เจ้าทำงานดีมาก”
เขาเอ่ยชมจากใจจริงคิดเสียว่าเป็นค่ากำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้มันพอยิ้มได้
“พรุ่งนี้ก็มาทำความสะอาดเวลาเดิม”
พูดเสร็จเขาก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ที่ห้องนั่งเล่นทำงานเอกสารต่อ ส่วนเธอหอบอุปกรณ์ออกจากที่นั่นแล้วตรงไปยังโรงครัวเพื่อช่วยงานหัวหน้าพ่อครัวบาสเตียนต่อ
เมื่อร่างเล็กเดินออกไปไกลจากบริเวณบ้านพักวอลล็อคลากสายตาไปทางประตูบ้านที่อีกฝ่ายเพิ่งเดินออกไป เขาพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในบ้านที่เขาอาศัยอยู่
“เจ้าคิดว่ายังไง?”
“ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่พลังงานภายในช่างแปรปรวนแปลกประหลาด”
เป็นเสียงแหบต่ำที่ขานตอบกลับมา วอลล็อคหรี่ตาคิดวนไปวนมาในหัวเกี่ยวกับเจ้าเด็กคนนี้
“จับตาดูเอาไว้ก่อน ข้าไม่ไว้ใจมันนัก”
“แต่ท่านก็จับดูอยู่ตลอดมิใช่หรือ?”
สิ้นคำถามจาก ‘เจ้านั่น’ ชายผมสีเขียวโดดเด่นไม่พูดอะไรต่อเลือกที่จะก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารงานแทน
------
คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ
หากพบคำผิด แก้ไขติชมโปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ
***
Talk with writer
ใครกลัวผีขอให้ยกมือขึ้นสูง ๆ ค่ะ เกรเทลหนูลูกดวงสมพงษ์กับความซวยสุดแล้ว?
น้องขยันแบบนี้ใจอ่อนให้น้องบ้างยังคะพ่อ ตัวน้องก็มีอยู่แค่เนี่ย??
****
แวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัพเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่
Facebook : C.T.Tiana
X (Twitter) : @Ccttiana