ตอนที่ 22 ส่วนลด20%
“ไป่เยวี่ยซิน..ไป่เยวี่ยซิน..”
หลังออกมา เย่อันผิงก็ค้นหาสถานที่เหมาะสมเพื่อตั้งร้านขณะที่พึมพำชื่อ
หลังคิดสักพัก สุดท้ายเขาก็จำได้ นางคือคนที่รับผิดชอบการทดสอบวิชากระบี่และอาคมของศิษย์ใหม่นี่?
ในเกม มีส่วนหนึ่งของการฝึกสอนการต่อสู้มือใหม่สำหรับผู้เล่นที่เลือกเข้าร่วมสำนักดาวดำ พวกเขาสามารถเลือกรับภารกิจ’ปลอบประโลมศิษย์พี่ไป่’
ภายในสำนักดาวดำ ไป่เยวี่ยซินจะรับผิดชอบการทดสอบกระบี่ระดับพื้นฐาน กล่าวอีกนัยหนึ่ง นางจะสู้กับพวกที่อยากเข้าร่วมสำนัก
ในระดับก่อตั้งรากฐานขั้นกลาง ฝีมือกระบี่นางไม่แย่ แต่น่าเสียดาย ครั้งนี้ นางต้องรับกลุ่มเฟิงหยูเตี๋ย
ตอนเฟิงหยูเตี๋ยมาทดสอบกระบี่ ไป่เยวี่ยซินเห็นรอยยิ้มขี้เล่นและคิดว่าอีกฝ่ายอวดดีที่มีรากปราณสวรรค์และดูถูกนาง นางเลยเยาะเย้ยกลับ
ผลลัพธ์คือใช้การทดสอบกระบี่มาชี้วัด เฟิงหยูเตี๋ยเอาชนะนางและหุบปากนาง และเพราะการทดสอบจัดขึ้นต่อหน้ากลุ่มผู้อาวุโส ศิษย์ใหม่ และศิษย์สายในนับร้อย ทั้งสำนักจึงรู้ว่านางแพ้ให้กับเด็กสาวระดับหลอมลมปราณ
หลังจากนั้น ไป่เยวี่ยซินก็ขังตัวเองในห้องนอน กอดตัวเองใต้ผ้าห่ม ร้องไห้อยู่หลายวัน ถึงขั้นตั้งคำถามชีวิตตัวเอง นั่นเป็นที่เข้าใจได้สำหรับคนที่ฝึกฝนอย่างหนักมาหลายสิบปีแต่เจอกับคนที่ฝึกมาไม่ถึงสิบปีเอาชนะง่ายๆ
ช่องว่างระหว่างพรแสวงกับพรสวรรค์แทบจะไร้สิ้นสุดในโลกของผู้บ่มเพาะเซียน
พอคิดแบบีน้ เย่อันผิงก็หยุดและมองเหลียวหลัง เขาอยากกลับไปช่วยนางสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตล่วงหน้า
แต่หลังคิด เขาควรปลอบนางภายหลังกว่า ในเกม ถ้าผู้เล่นปลอบนางได้ พวกเขาจะได้รับส่วนลด20%ทุกการซื้อในตลาดดาวดำ
ในเมื่อเขาคิดจะทำเงินจากการกายภาพบำบัดและซื้อยาบ่มเพาะที่จำเป็นและตำราเพื่อเพ่ยเหลียนเสวี่ยกับตัวเขาเอง ส่วนลดนี่ก็จะช่วยประหยัดได้มาก
ดังนั้น เย่อันผิงเลยหยุดคิดถึงไป่เยวี่ยซินและเริ่มพิจารณาแผนต่อไปสำหรับร้าน
ตัดสินจากปฏิกิริยาของไป่เยวี่ยซินหลังได้รับการกดจุดไป ควรไม่มีปัญหากับกายภาพบำบัดนี้ มันคงรักษาผู้บ่มเพาะที่ต่ำกว่าวิญญาณแรกก่อตั้งได้ง่ายๆ แต่ในเวลาเดียวกัน ปฏิกิริยาของนางก็แสดงให้เห็นว่ากายภาพบำบัดยังเป็นสิ่งใหม่ที่นี่
ปัญหาหลักคือการให้ชายแปลกหน้าแตะเท้าเปล่าและหลังคนถือว่าไม่เป็นไรต่อผู้ชาย แต่กับผู้หญิง มันรับไม่ได้
แม้กระทั่งไป่เยวี่ยซินก็ตกลงจะให้เขาแตะเท้าเพราะเขาคือเด็กชายวัย15
เพื่อแก้ปัญหานี้ เขาควรรับสมัครผู้บ่มเพาะหญิงมาเป็นศิษย์ แต่สาวคนไหนจะเต็มใจมาทำงานกับเขา?
นอกจากนี้ เขาไม่ชอบขอให้คนช่วย
“อืม..นี่เป็นปัญหา”
เย่อันผิงคิดสักพักจนกระทั่งเห็นร้านเสื้อผ้าไม่ไกล และเขาก็รีบเดินไป
หญิงสาวในร้านมองเขา จากนั้นก็เดินมาและถาม“นายน้อย ท่านอยากสั่งชุดหรือเจ้าคะ?”
“อืม”
“งั้น ท่านมีวัสดุหรือแบบที่ต้องการไหม?เราสามารถทำได้ทุกสิ่งที่โรงชุดแดงของเรา ไม่ว่าจะเป็นชุดงานเลี้ยง ชุดแต่งงาน ชุดงานศพหรืออื่นๆ”
“ข้าไม่รู้มากเกี่ยวกับแบบและวัสดุ ข้าแค่อยาก..”เย่อันผิงกวาดมอง สังเกตเห็นชุดบนตัวผู้ขายและพูด“เหมือนกับที่เจ้าสวม”
“อา?”หญิงสาวมองกระโปรงตัวเองอย่างสับสน“นายน้อย ข้ากำลังสวมชุดผู้หญิงนะ?”
“อืม ข้าไม่ได้บอกซะหน่อบว่าอยากได้ชุดผู้ชาย”
..
ในขณะเดียวกัน ด้านนอกโถงหลักของสำนักดาวดำ
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเอามือกุมหน้า ลากเท้าไปทีละก้าวและสุดท้ายก็มาถึงจุดสิ้นสุดของถนนภูเขา
เปลือกตานางกระตุกขณะที่ก้มหัว และมองเฟิงหยูเตี๋ยที่ยังเกาะขานางไม่ยอมปล่อย
เพ่ยเหลียนเสวี่ยไม่รู้ว่าเฟิงหยูเตี๋ยคิดบ้าอะไร นางแกล้งเป็นสุนัขในที่สาธารณะ และเกาะขานางมาตลอดพันขั้นบันได ตลอดนี้ นางเอาแต่นอนหมอบกับพื้นและใช้พุงถูขั้นบันได
“..”
พอเห็นสายตาของเพ่ยเหลียนเสวี่ย เฟิงหยูเตี๋ยก็ยิ้ม
“โฮ่ง!โฮ่ง”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยนปิดปาก จากนั้นก็ถอนหายใจ“เจ้าอยากได้อะไร?ปล่อยข้าได้แล้ว!”
“ข้าแค่อยากให้เจ้ามีความสุข และเห็นเจ้ายิ้ม”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยกำหมัดและจากนั้นก็ยกเท้าที่ว่างเตะนางออก แต่เฟิงหยูเตี๋ยไวมาก นางหลบและพลิกตัวกอดขาอีกข้างแทน
พอเห็นแบบนี้ เพ่ยเหลียนเสวี่ยก็พยายามเตะนางเพิ่ม แต่เฟิงหยูเตี๋ยสามารถหลบได้หมด
เพ่ยเหลียนเสวี่ยจนปัญหา พอเห็นว่าศิษย์ดาวดำที่กำลังทักทายศิษย์ใหม่มองมา นางก็รีบกุมหน้าและถาม“เจ้าต้องการอะไรถึงจะยอมปล่อยข้า?”
“แค่ยิ้ม ข้าจะปล่อยเลย”
“..”เพ่ยเหลียนเสวี่ยกัดฟันและยิ้มแข็งๆ“พอใจยัง?”
เฟิงหยูเตี๋ยเม้มปาก ส่ายหัว“มันไม่หวานพอ เอาใหม่”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยทนไม่ไหวอีก นางสะบัดข้อมือขวา เอากระบี่ออกมาและฟาดใส่หลังของเฟิงหยูเตี๋ย
เฟิงหยูเตี๋ยตกใจ รีบปล่อยขาของเพ่ยเหลียนเสวี่ย กลิ้งตัวหลายตลบบบนพื้นเพื่อหลบ
นางลุกขึ้น มองกระบี่ของเพ่ยเหลียนเสวี่ยนที่ทิ้งรอยไว้บนพื้นและถาม“แม่นางเพ่ย จะฆ่าข้าเลยหรือไง?”
“ฮี่ม”เพ่ยเหลียนเสวี่ยเก็บกระบี่
“ก็ได้ ก็ได้”เฟิงหยูเตี๋ยก้มหัว เอามือไพล่หลัง“ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไม่ทำอีก แต่ไหนเจ้าบอกว่าเจ้าจะมีความสุขถ้าข้าทำเป็นสุนัขไม่ใช่เหรอ?เจ้าไม่ยิ้มเลยตลอดทาง ถึงแม้เจ้าจะดูดีมากตอนยิ้มก็ตาม แม่นางเพ่ย”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยไม่คิดตอบ และตอนนี้ ศิษย์ของดาวดำก็มาทักทายพวกเขา
ตอนนี้ที่เฟิงหยูเตี๋ยอยู่ในสภาพนี้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ชุดเต็มไปด้วยฝุ่นและใบไม้ เขาจึงคิดว่านางเป็นสาวใช้ของเพ่ยเหลียนเสวี่ย“ผู้บ่มเพาะตัวน้อย เจ้ามาเพื่อสมัครเข้าใช่ไหม?”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยรีบประสานมือ จากนั้นก็ชี้เฟิงหยูเตี๋ย“สหายเต๋าเข้าใจผิดแล้ว ข้าเป็นสหายของนาง”
“หะ?”ศิษย์คนนั้นตกตะลึง จากนั้นก็มองเฟิงหยูเตี๋ย ถามด้วยสีหน้าประหลาด“แน่ใจนะ?”
“ใช่ ใช่”เฟิงหยูเตี๋ยกะพริบตา“ข้ามาเพื่อสมัครเข้า”
“สำนักเรารับแต่ศิษย์ที่มีรากปราณเดี่ยวและรากปราณพิเศษหรือคนจากตระกูลเซียน”
“ให้ทั้งสองคนนั้นมา!”เสียงของผู้อาวุโสหวังดัง
เขาหันไปและก้มหัว“ขอรับ ผู้อาวุโส”
ผู้อาวุโสหวังเดินมา และพอเห็นสภาพของเฟิงหยูเตี๋ยเขาก็ถาม“เจ้าเป็นอะไร?”
“ข้ากอด..”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยรีบขัด“นางเผลอกลิ้งตกบันไดตอนเราขึ้นเขา”