1284 - กุญแจ
1284 - กุญแจ
ต้วนเต๋อกำลังนั่งสมาธิเช่นกันโดยจ้องมองไปยังงานแกะสลักบนผนังหินเพื่อช่วยเหลือจักรพรรดิดำในการถอดรหัสค่ายกลนี้
ผนังทั้งสี่มีการแกะสลักหลายร้อยรูป ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวส่องแสงระยิบระยับ
จักรพรรดิดำและต้วนเต๋อกดไปยังตำแหน่งดวงดาวหลายดวงพร้อมกันและทำให้ค่ายกลสว่างไสวขึ้นทันที
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากมุมหนึ่งและประตูหินก็โผล่ออกมาจากกำแพง นี่คือห้องลับที่ซ่อนอยู่นั่นเอง
“เจอแล้ว มันจะนำทางพวกเราไปสู่ค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลหรือไม่?” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตื่นเต้นเป็นคนแรกที่รีบเข้าไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กระโดดเข้าไปจักรพรรดิดำก็กรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ให้ตายเถอะ มันเป็นซากศพ ไม่ทราบว่าซากศพเหล่านี้กองสุมอยู่ที่นี่มาแปดชั่วอายุคนแล้วหรือไม่!”
เย่ฟ่านและผังป๋อเดินไปข้างหน้า นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา แม้ว่าจะเป็นภูเขากระบี่และทะเลเพลิงพวกเขายังคงต้องเดินเข้าไปสำรวจอยู่ดี
“นี่คือกระดูกของเซียน ทำไมเลือดเนื้อของพวกเขาถึงเน่าเปื่อยได้?” ฉีลั่วตกใจ
แม้ว่าเซียนโบราณจะตายไปร่างกายและเลือดเนื้อของพวกเขาจะไม่เน่าเปื่อย แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้คืออะไรพวกมันเป็นกองเนื้อที่สุมรวมกันและเน่าเปื่อยจนมีกลิ่นเหม็นโชยออกมาอยู่ตลอดเวลา
“แม้ว่าจะเป็นเซียนแต่ร่างกายของพวกเขาก็เน่าเปื่อยได้ ขอเพียงใช้เวลายาวนานเพียงพอเท่านั้น” ฉีลั่วกล่าว
หลายคนอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่ามีร่างกายของเซียนกี่ร้อยคนที่ถูกสับรวมกันกลายเป็นเนื้อบดกองอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ไม่มีใครสัมผัสกับเลือดเนื้อของเซียนเหล่านี้ เพราะเลือดเพียงหยดเดียวของเซียนก็สามารถเผาผลาญร่างกายปรมาจารย์สกิดให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้อย่างง่ายดาย
ห้องหินนี้มีขนาดเพียงสองวา ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเกี่ยวกับห้องนี้และมันไม่มีคุณค่าอะไรเลย
“มีบางอย่างซ่อนอยู่ใต้กองเหนือของเซียนโบราณเหล่านั้น”
ต้วนเต๋อปล้นสุสานมาหลายปีและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานที่แบบนี้ค่อนข้างมาก ดังนั้นเขาจึงกระแทกฝ่ามือและผลักเลือดเนื้อที่เน่าเปื่อยของเซียนจำนวนมากออกไป
“มันงดงามมาก!”
จี้จื่อเยว่อุทาน เพราะทันทีที่เลือดเนื้อของเซียนถูกโยนออกไปมันก็มีแสงสาดส่องขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นแผนที่ของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอย่างไม่ต้องสงสัย
ในหมู่พวกมัน ดาวสี่ดวงมีความพิเศษมาก มันสว่างกว่ามากที่สุด และเป็นประกายราวกับดวงอาทิตย์
“นี่คือแผนที่ที่แท้จริงของทะเลดวงดาว มันมีความเฉพาะเจาะจง หากจดจำแผนที่นี้ได้พวกเจ้าจะไม่มีวันหลงทางอยู่ในจักรวาลอันมืดมิด!” แม้แต่ฉีลั่วก็ยังประหลาดใจ
ดวงตาของเย่ฟ่านและผังป๋อจับจ้องไปที่ดาวพิเศษสี่ดวง และพวกเขาก็ถูกดึงดูดโดยหนึ่งในนั้น พวกเขาไม่สามารถละสายตาจากดาวเคราะห์สีฟ้าดวงนั้นได้
แสงสีฟ้าเหล่านั้นเป็นตัวแทนของมหาสมุทรหรือเปล่า พวกมันกินพื้นที่ประมาณเจ็ดในสิบส่วนของพื้นผิวโลก จากที่เห็นภายนอกนั่นมันโลกของพวกเขาชัดๆ!
พวกเขาเชื่อว่านี่คือความลับที่พวกเขากำลังมองหา ราชวงศ์อวี้หัวต้องมีต้นกำเนิดในโลกเดียวกันกับพวกเขา อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้อพยพมาที่โลกอำพรางสวรรค์เพื่ออะไร!
มีดาวพิเศษอีกสามดวงซึ่งหนึ่งในนั้นมีขนาดใหญ่มากและส่องแสงสีม่วง เย่ฟ่านรู้ได้ทันทีว่านั่นคือทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ย เพราะเขาเคยไปที่นั่นมาแล้ว
อีกสองดาวไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าเป็นดาวดวงไหน และไม่รู้ว่ามันมีชีวิตด้วยหรือเปล่า มันดูลึกลับและบริเวณโดยรอบไม่ได้มีลักษณะคล้ายทุ่งดวงดาวเป่ยโต้วที่ดาวดวงนี้ตั้งอยู่
“นี่คือกุญแจสำคัญในการเปิดใช้งานแท่นบูชาห้าสี มันน่าจะให้เราเลือกตำแหน่งในการเคลื่อนย้ายไป!” สุนัขสีดำตัวใหญ่เห่า
เมื่อเย่ฟ่านได้ยินคำพูดนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย เขาก็รีบวิ่งไปข้างหน้าและคว้าดาวสีฟ้าไว้ในมือ มือของเขาสั่นเทาเพราะนี่คือความหวังในการกลับบ้าน
ในเวลาเดียวกัน สุนัขสีดำตัวใหญ่ก็รีบวิ่งไปหาดาวสีม่วงและกลืนลงไปในท้องโดยไม่ลังเล
ในอีกด้านหนึ่ง วานรศักดิ์สิทธิ์ ตงฟางเย่ และคนอื่นๆ ก็เริ่มเลือกดาวพิเศษอีกสองดวง เห็นได้ชัดว่าพวกมันเป็นกุญแจที่จะทำให้พวกเขาเดินทางข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนั่นเอง
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามของมังกรดังก้องสวรรค์พิภพ ในเวลาต่อมาเงามังกรดำได้พุ่งเข้ามาในห้องโถงด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
หม้ออสูรกลืนสวรรค์สั่นไหวด้วยตัวของมันเอง จากนั้นมันได้ปลดปล่อยคลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกไปกวาดล้างมังกรดำเหล่านั้นให้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
“บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว!”
เย่ฟ่านเก็บดวงดาวสีฟ้าเข้าไปในหม้อปรานณปฐพีต้นกำเนิดด้วยความระมัดระวัง จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปข้างนอกเพื่อประจันหน้ากับหม้อสีดำสนิทซึ่งลอยอยู่กลางห้องโถง
หม้อใบนี้เป็นหม้อสามขาที่ดูโบราณอย่างยิ่ง ตัวหม้อมีสีดำสนิทก็จริงแต่มันกลับเปล่งประกายออกมาด้วยแสงสีทอง เห็นได้ชัดว่าหม้อใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากทองคำเซียนแห่งความมืดอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ให้ตายเถอะ!”
ตงฟางเย่สาปแช่ง ดาวสองดวงที่เขาและวานรศักดิ์สิทธิ์กำลังจะได้รับได้ถูกเจ้าของหม้อใบนั้นแย่งชิงไปแล้ว และมันทำให้เขาเกิดความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
โชคดีที่ดาวสีม่วงถูกจักรพรรดิดำกลืนไปแล้วไม่เช่นนั้นมันจะเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของพวกเขา
“เหยากวงเจ้ากล้าที่จะสู้กับข้าตัวต่อตัวหรือไม่?”
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้า เส้นผมสีดำสนิทของเขาโบกสะบัด เขาจ้องมองไปยังหม้อสีดำสนิทที่ลอยอยู่กลางห้องโถง
ไม่มีใครตอบเขา ห้องโถงเงียบงัน ยกเว้นระลอกคลื่นที่แผ่ออกมาจากหม้อมังกรสวรรค์ซึ่งทำให้ภายในห้องโถงมีเสียงสั่นสะเทือนคล้ายกับน้ำเดือดดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เย่ฟ่านไม่เกรงกลัว เขาก้าวเข้าหาหม้อมังกรสวรรค์พร้อมกับหม้ออสูรกลืนสวรรค์ที่ลอยอยู่บนศีรษะ
“การต่อสู้ด้วยอาวุธเต๋าสุดขั้วเป็นสิ่งที่ไร้สาระ ข้าไม่ต้องการทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน”
บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงกล่าวอย่างสงบเห็นได้ชัดว่าปฏิเสธคำท้าทายของเย่ฟ่าน
“ช่างมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นเหลือเกิน แต่ถ้าเจ้ามีเมตตาอย่างนั้นจริงเจ้าทำทุกอย่างนี้เพื่ออะไร?” เย่ฟ่านมีสีหน้าเรียบเฉยและก้าวเข้าหาหม้อมังกรสวรรค์ต่อ
“ข้าสนใจอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมาก หากเจ้าไม่ว่าอะไรข้าคิดว่าเราควรออกเดินทางพร้อมกัน?”
บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเปิดเผยเจตนาของตัวเองออกมาแล้ว อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้พูดอะไรมากกว่านั้นเย่ฟ่านก็กระตุ้นให้หม้ออสูรกลืนสวรรค์ของเขาโจมตีอย่างรุนแรง
โครม!
การปะทะกันของอาวุธเต๋าสุดขั้วทั้งสองชิ้นทำให้เกิดคลื่นระเบิดที่กวาดออกไปรอบทิศทาง อาคารโบราณอันยิ่งใหญ่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดภายใต้การต่อสู้ของอาวุธแห่งจักรพรรดิ
เย่ฟ่านปลดปล่อยอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวของหม้ออสูรกลืนสวรรค์ให้กวาดเข้าหาหม้อมังกรสวรรค์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง เขาเชื่อมั่นว่าในโลกนี้ไม่มีอาวุธเต๋าสุดขั้วชิ้นใดจะเทียบกับอาวุธของจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยมได้
ในขณะนี้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงตามสั่นสะท้านด้วยความกลัว แม้ว่าพวกเขาจะเกิดความไม่พอใจที่มีคนกล้าใช้อาวุธเต๋าสุดขั้วในสถานที่แห่งนี้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ในขณะเดียวกันผู้ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วอีกหลายชิ้นก็ปลุกอาวุธของตัวเองให้ตื่นขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับอันตรายที่ปรากฏออกมา
“เฮ้อ!”
หม้ออสูรกลืนสวรรค์มีเสียงถอนหายใจของหญิงสาวดังขึ้น จากนั้นหม้อมังกรสวรรค์ก็ถอยกลับด้วยความหวาดหวั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ลวดลายมังกรที่สลักอยู่บนตัวหม้อส่งเสียงคำรามดังก้องคล้ายกับมีความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด!
“ไม่ว่าหม้อมังกรสวรรค์จะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่มันก็ยังขาดจิตวิญญาณของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่ทรงพลังเหมือนเช่นหม้ออสูรกลืนสวรรค์” ฉีลั่วถอนหายใจ
“หม้ออสูรกลืนสวรรค์ถูกสร้างขึ้นจากร่างของจักรพรรดินีผู้โหดเหี้ยม นอกเหนือจากพลังที่คาดเดาไม่ได้แล้ว มันยังมีลักษณะบางอย่างที่อาวุธเต๋าสุดขั้วชิ้นอื่นไม่อาจเปรียบเทียบได้” จักรพรรดิดำกล่าว
“มันไม่ได้แข็งแกร่งมากกว่ากันถึงขนาดนั้น เพียงแต่หม้อมังกรสวรรค์ดูเหมือนจะไม่ยอมสยบต่อผู้ควบคุมอย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้!” ผู้อาวุโสตาบอดกล่าว
……..