บทที่ 21 เหมืองหินขั้นกลาง
บทที่ 21 เหมืองหินขั้นกลาง
สถานการณ์ในทำนองเดียวกันเกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของแดนมังกร
ภูเขาแห้งแล้งลูกแล้วลูกเล่า กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นี่คือปาฏิหาริย์ที่ชูเฟิงสร้างขึ้น!
ทรัพยากรทั้งหมดที่เขาได้รับในสมรภูมิแห่งโชคชะตา จะถูกส่งกลับไปในโลกจริงด้วยปริมาณร้อยเท่า!
หลังจากที่ชูเฟิงเข้ายึดครองลานตัดไม้ขั้นต่ําแห่งนี้ เขาไม่ได้หยุด แต่เริ่มสํารวจหมอกตรงหน้าต่อ
อย่างน้อยเขาก็ต้องหาเหมืองอีกซักแห่งสองแห่ง จึงจะสามารถสร้าง [หอคอยแสงศักดิ์สิทธิ์] ขึ้นมาได้
ด้วยการสำรวจของชูเฟิง หมอกก้อนแล้วก่อนเล่าสลายไปต่อหน้าเขา
ระหว่างทาง สัตว์ประหลาดทั้งหมดที่เขาพบ ล้วนถูกฟันตายในดาบเดียว
อย่างไรก็ตาม โชคของเขาดูท่าจะไม่ดีนัก
เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเต็ม เขาไม่พบแม้แต่หีบสมบัติ และแหล่งทรัพยากรใดๆเลย ตรงกันข้าม กลับถูกสัตว์ประหลาดโจมตีหลายรอบมาก
“ฉันรู้สึกว่าแถวนี้ไม่มีอะไรที่สามารถคุกคามผู้เฒ่าชูเฟิงได้อีกแล้ว”
“จริง ผู้เฒ่าเหมือนกำลังออกมาเดินเที่ยวเลย…”
“ดูตัวแทนจากประเทศอื่นสำรวจพื้นที่หมอก ฉันประหม่าจนหน้าตึง แต่พอดูท่านผู้เฒ่า ใจฉันมันกลับสงบลงมาก จนตอนนี้อยากหาป๊อปคอร์นมานั่งกินแล้วเนี่ย”
ณ ขณะนี้หมอกอีกก้อนจางหายไป เสียงเตือนของสมรภูมิแห่งโชคชะตา ดังก้องในหูของชูเฟิงอีกครั้ง
[ท่านเข้าสู่เขตอันตรายแล้ว ข้างในนี้ ท่านมีโอกาสเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดระดับ B ต้องการเข้าไปหรือไม่?]
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดแดนมังกร ก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนนี้เช่นกัน
“เชี่ยเอ๊ย สัตว์ประหลาดระดับ B ฟังดูน่ากลัวชะมัด!”
“พอนายพูด ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่เคยเห็นเลยว่าสัตว์ประหลาดระดับ B หน้าตามันจะเป็นยังไงกันนะ?”
“ไม่กี่ชั่วโมงก่อน อเล็กซ์ก็มาถึงเขตอันตรายแล้วเหมือนกัน แต่ใจเขาไม่สู้ เลยตัดสินใจถอยไปทางอื่น คราวนี้ไม่รู้ท่านผู้เฒ่าจะตัดสินใจยังไง”
หลังจากได้ยินเสียงของสมรภูมิแห่งโชคชะตา ชูเฟิงเลิกคิ้วขึ้น พูดกับตัวเองเบาๆ ว่า “สัตว์ประหลาดระดับ B เรอะ? ฟังดูน่าสนใจแฮะ ... หวังว่าจะเก่งกว่าราชาหมาป่าเงานะ”
จากนั้น ชูเฟิงไม่ลังเลเลย ก้าวเท้าออกทันที เดินเข้าไปข้างใน
“สมกับเป็นท่านผู้เฒ่าชูเฟิง!”
“มันแน่อยู่แล้ว เพราะในพจนานุกรมของท่านผู้เฒ่า ไม่มีคำว่ากลัว!”
“ตรงกันข้าม ไอ้ที่ต้องกลัวน่ะ คือพวกสัตว์ประหลาดในเขตอันตราย”
ภายในห้องถ่ายทอดสดของแดนมังกร เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเฮฮา ไม่มีใครกังวลเรื่องชูเฟิงกำลังเข้าสู่เขตอันตรายกันเลย
ชูเฟิงก้าวเข้ามา หมอกที่อยู่ตรงหน้าเขาก็สลายตัวไป
ในขณะนี้ สายตาของชูเฟิงถูกปากทางเข้าถ้ำที่คล้ายเหมืองดึงดูดทันที
“หืม? นั่นมัน... เหมืองหินใช่ไหม?” ชูเฟิงไม่ลังเลเลย เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
พอเขาเข้าใกล้เหมืองแล้ว เสียงเตือนของสมรภูมิแห่งโชคชะตาดังก้องในหูทันที
[ขอแสดงความยินดีกับตัวแทนแดนมังกร ท่านค้นพบ 'เหมืองหินขั้นกลาง' ได้รับหิน 100 หน่วย! ]
[ในเวลาเดียวกัน ประเทศที่คุณสังกัด จะมีทรัพยากรเหมืองหินเพิ่มขึ้นร้อยเท่า! ]
[หลังจากยึดครอง เหมืองหินจะให้หิน 2 หน่วยต่อวัน! ]
ได้ยินเสียงดังก้องข้างหู ชูเฟิงตื่นเต้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิด ว่าเหมืองหินตรงหน้า ที่แท้คือเหมืองหินขั้นกลาง
และนี่เท่ากับว่า ทรัพยากรที่จำเป็นในการสร้าง [หอคอยแสงศักดิ์สิทธิ์] มีครบแล้ว!
“ดูเหมือนว่า ภายในเขตอันตรายนี้ ไม่ใช่แค่มีสัตว์ประหลาดที่อันตรายกว่า แต่ทรัพยากรก็ดีกว่าเหมือนกัน”
ชูเฟิงพึมพำกับตัวเองประโยคหนึ่ง เตรียมยึดเหมืองหินแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ เรื่องไม่คาดฝันพลันเกิดขึ้น!
เงายักษ์สีดำสนิท จู่ๆก็พุ่งออกมาจากถ้ำเหมืองที่อยู่ตรงหน้าเขา ตรงเข้ามายังทิศทางของชูเฟิง!
ชูเฟิงขมวดคิ้ว ถอยหลังไปสองสามก้าวตามสัญชาตญาณ หลบเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างหวุดหวิด!
ต่อมา ชูเฟิงเพ่งมองมันอย่างตั้งใจ และพบว่าสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าตน มันคืองูยักษ์ที่ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยเกล็ดดำ
[อสรพิษเกล็ดดำ สัตว์ประหลาดระดับ B]
[งูยักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความมืด ชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดและชื้น เกล็ดบนตัวมันแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ ร่างใหญ่โต สามารถรัดเหยื่อจนตายได้! ]
เมื่อเห็นข้อมูลของมัน ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดแดนมังกร ทุกคนพากันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ผู้เฒ่าชูเฟิงโชคไม่ดีอีกแล้ว แค่เข้าสู่เขตอันตราย ก็ปะทะกับสัตว์ประหลาดระดับ B”
“ซู้ดดด งูนั่นตัวโคตรใหญ่เลย ขนาดมันเกือบจะเท่าอนาคอนด้าเลยมั้ง!”
ขนาดของอสรพิษเกล็ดดำตัวนี้ มันเกือบจะเท่าอนาคอนด้าจริงๆ
รู้อะไรไหมว่า อนาคอนด้าคืองูที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ ลำตัวมันมีความหนาพอๆกับผู้ชายโตเต็มวัย แค่อ้าปาก ก็กลืนคนทั้งคนได้ง่ายๆ!
ประเด็นก็คืออสรพิษเกล็ดดำมองก็รู้ว่าแกร่งกว่าอนาคอนด้าหลายขุม!
เพราะเกล็ดงูดำของมัน เปล่งประกายแวววาวเหมือนโลหะเย็น ดูแข็งมาก!
ฟ่อ--
ฟ่อ--
เมื่อเห็นว่าการลอบโจมตีไม่สำเร็จ อสรพิษเกล็ดดำก็ไม่ได้รีบเร่งไล่ตาม แต่วนเวียนอยู่รอบๆชูเฟิง ส่งเสียงขู่อย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกัน ม่านตาที่ดำสนิทและเย็นยะเยือกของมัน ก็คอยจับจ้องชูเฟิงอยู่ตลอดเวลา
เห็นได้ชัด ว่าอีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นเหยื่อ!
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของชูเฟิงกลับยังดูสงบ นั่นเพราะ เขาสามารถรู้สึกได้ ว่าอสรพิษเกล็ดดำตรงหน้า ไม่อาจสร้างภัยคุกคามใดๆแก่ตนได้
“ดูท่าว่า... ถ้าฉันอยากยึดเหมืองหิน คงต้องเชือดแกทิ้งก่อน” ชูเฟิงยิ้ม แบกดาบวิหคมังกรคิมหันต์ ก้าวเข้าหาอสรพิษเกล็ดดำตรงๆ
ทุกย่างก้าวของเขาสบายๆ ราวกับว่าไม่มีการป้องกันใด ๆ เลย
ในที่สุด เขาก็รุกคืบมาถึงรัศมีโจมตีของงูยักษ์
ณ ขณะนี้ ร่างของงูยักษ์เบื้องหน้า ขดตัวและดีดอย่างแรง พุ่งเข้าพัวพันร่างของชูเฟิง
เห็นได้ชัดว่ามันต้องการรัดเขาให้ตาย!