บทที่ 16 แน่ใจนะว่านั่นพ่อผม?
วันนี้ลง 16 - 19
*วันสองวันที่ผ่านมาผมไม่สบายเลยหายไป โทษทีครับ
บทที่ 16 แน่ใจนะว่านั่นพ่อผม?
ภายในห้องถ่ายทอดสด จมอยู่ในความเงียบ
ดวงตาของผู้ชมทุกคนเบิกกว้าง สมองว่างเปล่า
ให้ตายเถอะ นี่มันอะไรกันเนี่ย! เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
ผู้เฒ่าชูเฟิงก็แค่ชกเท่านั้น แต่การชกของเขา สามารถระเบิดร่างราชาหมาป่าเงาแหลกเป็นละอองเลือดเต็มท้องฟ้า?
นี่อำกันรึเปล่า!
“เชี่ยเอ๊ย หมัดของผู้เฒ่าชูเฟิง มันน่ากลัวเกินไปไหม!”
“สารภาพตามตรง ฉันไม่เห็นด้วยซ้ำว่าผู้เฒ่าเฟิงออกหมัดยังไง”
แข็งแกร่ง ... แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
พลังรบที่ชูเฟิงแสดงให้เห็น สะกดผู้ชมทั้งหมดในห้องถ่ายทอดสดแดนมังกรได้อย่างอยู่หมัด!
ต่อหน้าชายชราผมขาวผู้นี้ สัตว์ประหลาดระดับ C .. อ่อนแอเหมือนกระดาษ!
ส่วนผู้ชมในประเทศอื่นๆ ตอนนี้อิจฉาถึงขีดสุด!
ตัวแทนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมไม่ใช่คนของประเทศพวกเขานะ!
แต่จะยังไงก็ไม่รู้แหละ ที่แน่ๆ พวกคนที่เพิ่งเข้ามาแช่งชูเฟิงและแดนมังกร ตอนนี้คงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเลือดกลบปาก!
“หมาบ้ามันมาเห่าเมื่อกี้ตายรึยัง? ถ้ายังอยู่ไหนช่วยส่งเสียงหน่อยเร็ว”
“ใช่ ใช่ ถ้าแน่จริงไปเรียกเจ้าคุโรคาวะมา แล้วลองรับหมัดท่านผู้เฒ่าดูซักหมัดไหม?”
“เมื้อกี้ยังปากแจ๋วอยู่เลย ทำไมตอนนี้หายหัวไปซะแล้วเล่า?”
เมื่อครู่ชาวแดนปลาดิบด่าทอสนุกปาก แต่ตอนนี้เงียบกริบ แทบอยากเอาหัวมุดเข้าไปในซอกหลืบบนพื้น
อย่ามาล้อกันเล่นนะ! หมัดนั่นใช่สิ่งที่มนุษย์สามารถรับมือได้หรือ?
กระทั่งอเล็กซ์ที่ได้รับเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์มา ก็เกรงว่าจะรับหมัดของตาแก่หัวหงอกนี่ไม่ไหว!
พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ ทั้งๆที่ทุกคนก็เข้าสู่สมรภูมิแห่งโชคชะตาพร้อมกัน แต่ตัวแทนของแดนมังกร เหตุใดถึงได้แกร่งขนาดนี้?
เห็นแดนปลาดิบถูกตอกตรึงอยู่บนเสาแห่งความอัปยศ ผู้คนจากประเทศอื่นพากันยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น
ก็ใครใช้ให้พวกนายไปเยาะเย้ยคนอื่นเขาก่อนเล่า?
...
ภายในสมรภูมิแห่งโชคชะตา
เป้งงงง!
ชูเฟิงซัดกำปั้น ปลดปล่อยพลังของวิชาสยบเทพคชสาร ระเบิดร่างราชาหมาป่าเงาตรงหน้าเเป็นละอองเลือดอีกตัว!
ณ ตอนนี้ รอบลานต่อสู้ว่างเปล่า ไม่เหลือสัตว์ประหลาดตนใดที่มีชีวิตอีกแล้ว
ราชาหมาป่าเงานับร้อย ทุกตนถึงแก่ความตายด้วยน้ำมือของชูเฟิงเพียงผู้เดียว!
เวลานี้ตามตัวเขา มันเต็มไปด้วยคราบเลือด ทั้งคนทั้งร่างประหนึ่งชูร่าผมขาวอาบเลือด
มองลานต่อสู้ที่ว่างเปล่าตรงหน้า ชูเฟิงถอนหายใจ “อนิจจา ลูกหมาป่าน้อยพวกนี้ช่างอ่อนแอ”
“ฉันยังอุ่นเครื่องไม่เสร็จเลย แต่ดันจบลงซะแล้ว”
ได้ยินชูเฟิงพูดแบบนั้น ผู้ชมทุกคนในในห้องถ่ายทอดสดแดนมังกร มุมปากกระตุกไม่หยุด
“ผู้เฒ่าชูเฟิง ... กำลังคิดว่าตัวเองอยู่ในฟิตเนสหรือไง?”
“หมาป่าเงาที่ดุร้ายและโหดเหี้ยมในสายตาของผู้อื่น สำหรับผู้เฒ่าชูเฟิง มันก็แค่ลูกหมาป่าน้อยเท่านั้น”
“เมื่อกี้ได้ยินที่ท่านผู้เฒ่าพูดไหม? ราชาหมาป่าเงาร้อยตัว ยังไม่พอให้เขาอุ่นเครื่องด้วยซ้ำ!”
...
ณ แดนมังกร เมืองหยานจิง
ในแผนกลับ ณ ห้องประชุมชั้นสูง
เฉินจงกั๋วสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ชูหยวน คุณเห็นแล้วใช่ไหม?”
“ตอนนี้ คุณยังคิดว่าพวกเราจำเป็ฯต้องช่วยเหลือพ่อคุณให้ออกจากสมรภูมิแห่งโชคชะตาอีกรึเปล่า?”
ในขณะนี้ สีหน้าท่าทีที่ชูหยวนกำลังแสดงออก มันด้านชาไปหมดแล้ว
สายตาเขาเหม่อลอย จับจ้องจอฉายภาพเบื้องหน้า พึมพำกับตัวเองราวกับวิญญาณหลงทาง “นี่ใช่ ... พ่อของผมจริงๆน่ะหรือ?”
มุมปากของเฉินจงกั๋วกระตุก “ถ้าเขาไม่ใช่พ่อของคุณ งั้นเขาเป็นพ่อฉันมั้ง”
ได้ยินเฉินจงกั๋วประชด ชูหยวนค่อยได้สติ รีบเอ่ยปากว่า “ผู้อำนวยการเฉิน ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ...”
“ผมแค่นึกไม่ถึง ว่าพ่อผม ... จะแข็งแกร่งขนาดนี้”
เหตุการณ์ในห้องถ่ายทอดสดแดนมังกรเมื่อครู่ ตอนนี้ยังตราตรึงอยู่ในหัวตัวเองอย่างลึกล้ำ
ไม่ว่าจะเป็นชูเฟิงที่กุดหัวราชาเงาหมาป่าในคราวเดียว หรือหมัดเดียวที่ระเบิดทั้งร่างของราชาหมาป่าเงาเป็นละอองเลือด
ภาพของชายชราหงอกขาวที่ร่ายรำอย่างดุเดือดท่ามกลางฝูงราชาหมาป่าประหนึ่งชูร่า มันทำให้เขารู้สึกว่าชูเฟิงในห้องถ่ายทอดสดกลายเป็นคนไม่คุ้นเคย
สาเหตุที่เขารู้สึกไม่คุ้นเคย เพราะก่อนหน้านี้ ชูหยวนคิดอยู่เสมอ ว่าพ่อของตนมีบุคลิกอ่อนโยนใจดี
อย่างไรก็ตาม ด้านที่ชูเฟิงแสดงออกมาในวันนี้ มันทำลายความเข้าใจเดิมที่มีเกี่ยวกับพ่อของตนอย่างสิ้นเชิง
เขาเพิ่งตระหนักได้ ว่าพ่อของตนเอง แท้จริงแล้วทรงพลังมาก!
ณ ตอนนี้ เสี่ยวหลินที่อยู่ด้านข้างเอ่ยแทรกขึ้นว่า “ท่านครับข้อมูลการสร้างแบบจำลองขอผู้เฒ่าชูเฟิง วิเคราะห์เสร็จแล้ว”
ได้ยินแบบนั้น เฉินจงกั๋วลุกขึ้นยืนทันที เอ่ยปากว่า “ขอฉันดูหน่อย”
ต่อมา เสี่ยวหลินเคาะเบาๆ สองครั้งบนหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ตรงหน้าเขา ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับชูเฟิงที่เกี่ยวข้องกับชูเฟิงถูกเรียกขึ้นมา
ดูข้อมูลที่อยู่ตรงหน้า เขาเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว “จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทราบในปัจจุบัน... พลังรบของผู้เฒ่าชูเฟิง ได้รับการจัดอันดับชั่วคราวเป็น...ระดับ S!”