บทที่ 13 เรียกหาบิดา
บทที่ 13 เรียกหาบิดา
การโยนมีดสั้นครั้งนี้ มันทำให้เตียวเหยียงประหลาดใจและสับสนเล็กน้อย:อู๋จวงจู๊ผู้นี้มาจากไหน?
แม้แต่หวังเย่ก็ยังชื่นชมเขางั้นเหรอ?
【คะแนนกิจกรรม +500】
อู๋ฉีรู้สึกตลกในใจมากในเวลานี้: พี่ชาย…คุณเงยหน้าขึ้นมองฉันสิ! ทักษะของฉันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คุณคิด!
ปรากฎว่าหวู่ฉีค้นพบตอนที่เขาทำภารกิจมือใหม่ก่อนหน้านั้น ทุกครั้งที่เขาทำการโจมตี ระบบจะเพิ่มความสามารถของเขาตามนั้น
มันทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก!
เพียงแค่ชกหนึ่งหมัด ระบบจะให้ความสามารถในการต่อย +5 หรือทำให้เกิดการโจมตีคริติคอล +10
หรือเขาขว้างก้อนหิน ระบบจะให้ความสามารถในการขว้าง +5 อะไรแบบนี้
เช่นเดียวกับขวาน ดาบ หอกและอื่นๆ ที่คล้ายกัน ถ้ามีเขาใส่ถั่วลงในถุงผ้าแล้วขว้างใส่ใครสักคน ระบบจะถือว่ามันเป็นโซ่ค้อนทันที
เพราะดาบสังหารมังกรคือดาบที่เขาฝึกฝนมากที่สุดในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เขาจะใช้ดาบทุกครั้งที่ไม่มีอะไรทำ เขาได้พัฒนาทักษะด้านดาบให้อยู่ในระดับที่สูงมากและทำให้เกิดคุณสมบัติใหม่:
เขามีคุณสมบัติ: ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธ
【ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธนั้นคล้ายคลึงกับทักษะเสริม ซึ่งมันจะปรับปรุงการเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านอาวุธ ระดับสูงสุดคือห้าดาว
ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธดาบหรือมีดในปัจจุบันของโฮสต์คือห้าดาว ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้โฮสต์สามารถใช้อาวุธอย่างดาบหรือมีดอย่างเชี่ยวชาญแล้ว แต่มันยังเพิ่มพลังโจมตีและอัตราคริติคอลอย่างมากเมื่อสวมใส่ดาบหรือมีด
ในทางกลับกัน หากโฮสต์ไม่มีคุณสมบัติ: ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธของอาวุธที่โฮสต์ใช้ มันจะมีการลงโทษในด้านพลังโจมตีและอัตราคริติคอลเมื่อใช้อาวุธที่โฮสต์ไม่เชี่ยวชาญ]
ดังนั้นอู๋ฉีจึงประกาศอย่างภาคภูมิใจได้ว่า: ไม่มีใครรู้จักมีดดีไปกว่าฉัน!
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าอู๋ฉีสามารถเอาชนะหวังเย่ ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสามารถทรมานกวนอูด้วยกระบี่ได้ เพราะไม่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะเขาได้หรือไม่นั้น มันไม่ได้ถูกกำหนดโดยความเชี่ยวชาญด้านอาวุธเพียงอย่างเดียว มันยังมีความแข็งแกร่ง ความคล่องตัว ประสบการณ์การต่อสู้ ทักษะพิเศษ การปรับตัวด้านสิ่งแวดล้อม...มันมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
อู๋ฉีไม่มีความมั่นใจในการเอาชนะหวังเย่เลยจริงๆ
แต่ถ้าเราแค่พูดถึงการแสดงทักษะดาบและการแสดงทักษะที่เป็นเอกลักษณ์... ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันได้เห็นผลลัพธ์แล้ว และแม้แต่หวังเย่ยังหมดความมั่นใจ
ในตอนนี้ อู๋ฉีเพิกเฉยต่อความคิดของพวกเขาทุกคน และยังคงรักษาเล่าหงต่อไป
เขาหยิบแท่งไม้จากมือของเตียวเสี้ยน แล้วยัดเข้าไปในปากของเล่าหง
“ของข้า(แท่งไม้)มันใหญ่มาก โปรดอดทนเล็กน้อย!” อู๋ฉีบอกออกมา
เขาเปิดปากของเล่าหง
หลังจากนั้น...
อู๋ฉีหันหลังกลับและจากไป
เตียวเหยียงรู้สึกประหลาดใจ: "อู๋จวงจู๊ เจ้าจะไปไหน?"
อู๋ฉีหันมาและตอบว่า "ข้า…อู๋ฉี ข้าพยายามอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งชีวิต แล้วทำไมข้าจะต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย"
(ประโยคนี้ อู๋ฉีเอามาจากคำพูดของพระเอกในเรื่องRebirth Of The Urban Immortal Cultivatorนะครับ ผมเห็นมีแปลไทยอยู่ ลองไปหาอ่านดูครับ)
เตียวเหยียง “?”
【ตรวจพบว่าผู้เล่นใช้วลีเด็ดจากนิยายชื่อดัง คะแนนสุดท้ายของกิจกรรมจะถูกตัดสินโดยการคูณด้วยสอง! 】
อู๋ฉี "ข้าจะไปซื้อส้ม เจ้าอยู่ที่นี่และอย่าเดินไปมาล่ะ"
เตียวเหยียง “???”
เขาเห็นความเร็วในการเดินของอู๋ฉีเพิ่มขึ้น และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา!
เตียวเหยียงคิดว่า: ชายผู้มั่งคั่งคนนี้ อู๋ฉี...เขาอาจคิดได้ว่า เขาไม่สามารถรักษาฝ่าบาทให้หายขาดได้...
เขากำลังยอมแพ้ใช่ไหม? !
เอ่อ นี่...
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเขาก็กระตุกทันที
ทว่าเขาไม่โกรธอีกแล้ว
เหตุผลที่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะโกรธ เพราะว่าเขายังมีความหวังที่จะช่วยเหลือเล่าหงอยู่
ตอนนี้แม้อู๋ฉีดูเหมือนว่าจะยอมแพ้ ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่า เตียวเหยียงจะยอมแพ้อย่างสมบูรณ์...
แต่ใครจะรักษาฝ่าบาทได้ล่ะ?
เอ่อ……
ถ้าจักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ความมั่งคั่งและอำนาจในการปกคลุมท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียว เขาที่อยู่เหนือคนนับหมื่นแต่อยู่ภายใต้บุคคลเพียงผู้เดียว..ทั้งหมดจะสลายหายกลายเป็นฝุ่น
ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร อู๋ฉีก็เดินไปไกลแล้ว เมื่อเขากำลังจะไปถึงทางเข้าลานบ้าน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเรียก...
"爸(ปา)……爸(ปา) (บิดา)!"
อู๋ฉีตกใจ เขาหันกลับไปและเห็นว่าเป็นเตียวเหยียงที่พูดอย่างนั้น!
เขาตะโกน "爸爸(ปาปา)" มาทางเขาจริงดิ!
อะไรวะเนี่ย!?
ทันใดนั้น อู๋ฉีก็มีความสุขและยิ้มอย่างเต็มที่ให้กับเตียวเหยียง: "เห้ย! ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้! ข้าแค่ล้อเล่นเจ้าเท่านั้น"
“ฮะ?”เตียวเหยียงรู้สึกสับสน
เดิมทีเตียวเหยียงตระหนักถึงอนาคตอันเยือกเย็นของเขาแล้วถอนหายใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทันใดนั้นการรู้แจังบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
เขามองไปที่ร่างที่จากไปของอู๋ฉีแล้วถอนหายใจ:
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!”
อู๋ฉีหันมา คิดว่าฉันจะเล่นตลกกับคุณเหมือนเรื่อง "บิดา" ของจูจื่อชิง เมื่อคุณเรียกฉันว่าพ่อจริงๆ งั้นเหรอ?
ไม่สิ เขาซึ่งเป็นคนโบราณจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
เป็นไปได้ไหมว่า...
ชายชราผู้นี้ก็เป็นนักเดินทางข้ามเวลาด้วยงั้นเหรอ?
“อู๊จวงจู๊?” หัวใจของเตียวเหยียงที่จมอยู่ก็ลุกขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาได้ยินอู๋ฉีกล่าวว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น เขาก็ถามอย่างมีความหวังว่า "ท่านมีวิธีที่จะช่วยฝ่าพระบาท(ปี่เซี่ย)ได้หรือไม่?"
อู๋ฉีงุนงง "หืม? อะไรนะ? นายน้อยของเจ้าชื่อไป๋เซี่ย?"
เตียวเหยียง: "เอ่อ...อ่า…นั่น...ใช่แล้ว!"
อู๋ฉีไม่สงสัยอะไร เขาโบกมือแล้วพูดว่า "แน่นอนอยู่แล้ว ข้าย่อมช่วยได้!"
“อา เยี่ยมมาก!”เตียวเหยียงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ในตอนนี้เอง มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น!
ทันทีที่อู๋ฉียกมือขึ้น วัตถุที่ไม่รู้จักก็ถูกโยนออกมาจากมือของเขา และตรงไปที่เตียวเหยียง!
“กงกง ระวัง!” หวังเย่วรีบเตือน
เตียวเหยียงมองเห็นไม่ชัด แต่หวังเย่มองเห็นได้อย่างชัดเจน... แม้ว่าเขาจะมองเห็นได้ชัดเจนเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็เห็นอู๋ฉียกมือขึ้นเพื่อขว้างปา ซึ่งมันเป็นท่าทางแบบเดียวกับที่เขาขว้างมีดทุกประการก่อนหน้านี้!
เขาขว้างมีดออกและมันสามารถทะลุกำแพงหินได้ ไม่ว่าครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อมันกระทบหน้าของ เตียวเหยียง มันคง...
หวังเย่วรู้สึกว่า แม้เตียวเหยียงจะมีผิวหน้าที่หนา แต่เขาคงไม่หนากว่ากำแพงหิน!
เนื่องจากมีชีวิตและความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง หวังเย่วจึงยื่นมือออกทันทีและดึงเตียวเหยียงออกไปข้างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมันอย่างหวุดหวิด
ทว่ามันเป็นเพียง...
วัตถุที่ถูกขว้างหลังจากตกไปยังตำแหน่งที่เตียวเหยียงยืนอยู่เมื่อครู่ มันชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นค่อย ๆ ปลิวลงกับพื้น...
มารดาเจ้า มันคือผ้าเนี้ยนะ!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่าผ้าชิ้นนี้จะโดนเตียวเหยียง แต่มันก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ กับเขา
แม่งเอ้ย…สัญญาณเตือนที่ผิดพลาด!
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้หวังเย่ชื่นชมอู๋ฉีมากยิ่งขึ้น…
เจ้ารู้ไหม การขว้างมีดไม่สำคัญ ใครๆ ก็ทำได้ แม้ว่าหลายคนจะเจาะกำแพงหินไม่ได้ก็เถอะ
แต่การขว้างผ้าที่เบาและฟู จนมันสามารถบินออกไปเป็นเส้นตรงและเร็วเหมือนของหนัก มันต้องใช้ทักษะที่สูงมาก สิ่งนี้ไม่สามารถบรรลุได้ด้วยการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งเลย หากไม่มีทักษะหรือวิชาชั้นยอด แม้จะฝึกฝนมาเป็นร้อยปี มันก็ทำไม่ได้
ผู้เชี่ยวชาญ!
ปรมาจารย์!
สุดยอดปรมาจารย์!
ทักษะของสุดยอดปรมาจารย์ที่แท้จริง!
หวังเย่วรู้สึกประทับใจมากจนเขาตกเริ่มหลุมรักอู๋ฉีมากยิ่งขึ้น
“ท่านปรมาจารย์หมู่บ้านตระกูลอู๋มีทักษะยอดเยี่ยมยิ่งนัก หวังเย่เต็มใจที่จะด้อยกว่า!” หวังเย่แสดงความเคารพอู๋ฉีอย่างมาก!
【คะแนนกิจกรรม +4,000】
อู๋ฉีโบกมือแล้วยิ้ม: ไม่มีใครรู้จักการขว้างได้ดีไปกว่าฉัน!
【ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธขว้างปาของโฮสต์ในปัจจุบันคือห้าดาว โฮสต์สามารถใช้เทักษะการขว้างที่ซับซ้อนต่างๆ ได้】
อู๋ฉีอธิบายให้เตียวเหยียงอีกครั้ง "ข้าแค่เห็นว่าเจ้าเหงื่อออก ข้าจึงส่งผ้าให้เจ้าเช็ด ดูสิ! เจ้าหวาดระแวงไปทำไม?"
“เอ่อ...ขอบคุณ จวงจู๊!” ตอนนี้เตียวเหยียงเสียอารมณ์ไปกับอู๋ฉีไปอย่างสิ้นเชิง
อู๋ฉีเพิกเฉยต่อเขา เขามองไปที่ปากที่เปิดกว้างของเล่าหง เขากะระยะห่างด้วยสายตา หลังจากนั้นหยิบถั่วออกมาจากแขนของเขา
ก่อนที่ใครจะทันโต้ตอบ อู๋ฉีโบกมือแล้วถั่วก็ตกลงไปในปากของเล่าหงอย่างแม่นยำ
“เอาล่ะ ข้ารักษาเสร็จแล้ว!” อู๋ฉีปรบมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“นี่คือ...รักษาแล้วเหรอ?” จู่ๆ พวกเตียวเหยียงทั้งสามคนก็รู้สึกสงสัย พวกเขาสงสัยว่าอู๋ฉีกำลังพยายามเล่นตลกอะไรอีก?
หวังเย่ก็งงมากเช่นกัน: มีนักต้มตุ๋นเร่ร่อนมากมายในโลกที่ชอบใช้วิธีการแปลกๆ ในการรักษาโรค เห็นได้ชัดว่าพวกเขารักษาไม่ได้หายขาด แต่พอถามหาวิธีให้หายขาด พวกเขาก็วิ่งหนีไป
อู๋จวงจู๊ผู้นี้คงไม่...
ไม่ ไม่ บุคคลระดับสุดยอดปรมาจารย์แบบนี้ เขาไม่ควรจะหลอกลวง!
เมื่อทั้งสามคนเกิดความสงสัยและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป จู่ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียง...
“หืม ทำไมข้าถึงมานอนที่นี่ล่ะ อาฟู(บิดา) พวกเราอยู่ที่ไหน?”
(เล่าหงเรียกเตียวเหยียงเป็นพ่อบุญธรรมนะครับ)
เสียงของเล่าหง!
และที่สำคัญคือ...
เสียงของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง!
เตียวเหยียงหันกลับมาทันที "ฝ่าบา...เอ่อ นายน้อย!"
เขาตื่นเต้นมากจนเกือบจะเรียกผิดอีกครั้ง
เขาเห็นเล่าหงในเวลานี้มีผิวที่แดงก่ำและดวงตาที่สดใส เขาลุกขึ้นจากเสื่อฟางแล้วมองเตียวเหยียงด้วยความสับสน
เตียวเหยียงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและรีบวิ่งไปหาเขา เขาสำรวจซ้ายสำรวจขวาและในที่สุดก็ได้รับการยืนยัน...
เล่าหง...หายขาดแล้วจริงๆ!
มันไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เขาหายแล้วจริงๆ!
เตียวเหยียงระล่ำระลัก "นี่...นี่...นี่มันสุดยอดมาก!"
องครักษ์ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญว่า "อู๋จวงจู๋ช่างล้ำเลิศมากด้านการแพทย์ เขาสามารถรักษาโรคได้ด้วยโอสถเพียงเม็ดเดียว นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน!"
【คะแนนกิจกรรม +10,000】
อู๋ฉียิ้มและไม่พูดอะไร: ไม่สำคัญ ไม่มีใครรู้ทักษะทางการแพทย์ดีไปกว่าฉัน!
หลังจากนั้น เขาก็ตะโกนออกมาผ่านความคิดของเขา "ระบบ..."
(ตอนนี้งงๆ นะครับ ไม่รู้ว่าเตียวเหยียงเรียกพระเอกเราว่า 爸爸(ปาปา) บิดาทำไม เหมือนมันอาจมีความหมายอื่น ใครรู้ก็บอกทีนะครับ)