ตอนที่ 609 การคาดเดาของฮิอาชิ

“มันควรจะเป็นความจริง นายก็ได้เห็นไปแล้ว ดวงตาของหลี่ฟานได้เปลี่ยนจากเนตรสีขาวเป็น ‘เนตรจุติ’ สีทองคู่นี้!”

“ใช่แล้ว! ถ้าเนตรจุติไม่ใช้เนตรที่พัฒนามาจากเนตรสีขาว พวกมันจะปรากฏในดวงตาของหลี่ฟานในเวลาเดียวกันได้ยังไง?”

“ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ ปรากฎว่าเนตรสีขาวของเรา สามารถพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้”

“ตระกูลอุจิวะอาศัยเนตรของพวกเขา ในการเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของโคโนฮะ และตอนนี้เนตรสีขาวของพวกเราก็สามารถพัฒนาต่อไปได้ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าพวกเขาจะยังเย่อหยิ่งต่อหน้าพวกเราในอนาคตอีกไหม!”

“ยังไงก็ตาม เราต้องทำยังไงให้เนตรสีขาวของพวกเรา พัฒนาไปสู่อีกขั้นหนึ่งได้?”

“ในตระกูลของเรา เคยมีบันทึกที่สมาชิกในตระกูลเบิกเนตรที่แตกต่างขึ้นบ้างหรือเปล่า?”

“ดูเหมือนว่า... มันจะไม่มี เพราะหากมีเนตรแบบนั้นปรากฏขึ้นจริงๆ บรรพบุรุษตระกูลฮิวงะของพวกเราก็จะต้องบันทึกมันไว้อย่างแน่นอน”

เหล่าผู้เฒ่าของตระกูลฮิวงะยังคงพากันพูดคุยกันต่อไป

ฮิอาชิซึ่งนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหัวหน้าบ้านหลักของตระกูลฮิวงะ ก็กำลังคิดเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

หลังจากนั้นไม่นาน เขามองไปที่น้องชายของเขา ฮิวงะ ฮิซาชิ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขา

“ฮิซาชิ นายคิดยังไงกับเรื่องนี้”

“ขอโทษครับท่านพี่ ถ้าแม้แต่สมาชิกของบ้านหลักยังคิดคำตอบไม่ได้ ผมก็คงจะคิดคำตอบไม่ได้เหมือนกัน” ฮิซาชิส่ายหัว

จากนั้นฮิซาชิก็มองขึ้นไปที่หลี่ฟาน ซึ่งดูเหมือนกำลังจะเล่นกับคางูยะอยู่ในรายการทองคำ

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาหลี่ฟานเล็กน้อย

‘ถ้าฉันสามารถมีพลังของเนตรจุติได้ ฉันก็จะสามารถกำจัด ‘กรงนก’ ที่หน้าผากของบ้านสาขาได้ใช่ไหม…’

เนื่องจากคาถาผนึกที่หน้าผากของเขา ฮิซาชิจึงไม่สามารถตัดสินใจใดๆ ตามเจตจำนงของเขาเองในชีวิตได้

ดังนั้นเมื่อเห็นพลังที่หลี่ฟานแสดงออกมา ‘เนตรจุติ’ ฮิซาชิก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาเขา

“เพียงแต่ ผมพอเดาเรื่องบางอย่างได้” หลังจากหยุดไปชั่วคราว ฮิซาชิก็ได้พูดต่อ

ได้ยินคำพูดของฮิซาชิ ไม่เพียงแต่ฮิอาชิเท่านั้น แต่ผู้เฒ่าของตระกูลฮิวงะที่อยู่รอบๆ ก็พากันหันมาสนใจฮาซาชิทันที

“เรื่องอะไร พูดออกมาสิ ฮิซาชิ” ฮิอาชิให้กำลังใจน้องชายของเขา

“ใช่! พูดสิ ฮิซาชิ แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนของบ้านสาขา แต่ตอนนี้มันก็เป็นเวลาระดมความคิด ดังนั้นเจ้าสามารถพูดมันออกมาได้เลย”

ผู้เฒ่าคนหนึ่งชักชวนให้ฮิซาชิพูด

ฮิซาชิพยักหน้า “ประวัติศาสตร์ของตระกูลฮิวงะของพวกเรา สามารถสืบย้อนไปถึงยุคสงครามที่วุ่นวายได้เท่านั้น”

“แต่ก่อนยุคสงคราม มันไม่มีบันทึกใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”

“ผมกำลังคิดว่า เนตรสีขาวของตระกูลฮิวงะ… ไม่ใช่สายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดของตะกูล”

“หลี่ฟานที่กำลังต่อสู้อยู่ในรายการทองคำ อาจจะมีสายเลือดที่บริสุทธิ์มากกว่าพวกเรา”

“ดังนั้นจึงมีเพียงหลี่ฟานที่มีสายเลือดบริสุทธิ์กว่าพวกเราเท่านั้น ที่มีเงื่อนไขหรือวิธีการที่จะเบิกเนตรจุติได้”

ได้ยินคำพูดของฮิซาชิ ใบหน้าของเหล่าผู้เฒ่าก็เต็มไปด้วยความตกใจ

ฮิซาชิใช้มือแตะหน้าผากของเขาและพูดต่อ

“มันก็เหมือนกับที่ตระกูลฮิวงะของพวกเรา ก่อตั้งบ้านหลักและบ้านสาขาขึ้น เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของสายเลือด”

“ดังนั้นเมื่อเทียบกับตระกูลของหลี่ฟานแล้ว ตระกูลฮิวงะของพวกเราก็อาจเป็นได้เพียงบ้านสาขา”

“บ้านหลักคือตระกูลที่มี ‘เนตรสีขาว’ ที่บริสุทธิ์ที่สุดเหมือนกับตระกูลอุจิวะ เมื่อตอนที่เนตรของพวกเขายังไม่ตื่น ดวงตาของพวกเขาก็จะเป็นสีดำ”

“แต่เมื่อเนตรของพวกเขาตื่นขึ้น ดวงตาก็จะกลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เหมือนกับดวงตาของตระกูลอุจิวะ ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงและปรากฏโทโมเอะขึ้น”

“การพัฒนาอีกครั้งของเนตรสีขาว มันก็เหมือนกับที่ ‘เนตรวงแหวน’ พัฒนาเป็น ‘เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา’ ไม่สิ… บางทีอาจจะพูดได้ว่าพัฒนาเป็น ‘เนตรสังสาระ’”

“เช่นเดียวกับการที่ ‘เนตรวงแหวน’ พัฒนาการเป็น ‘เนตรสังสาระ’ ถ้าตระกูลของหลี่ฟานสามารถพัฒนาเนตรได้อีกครั้ง มันก็จะสามารถพัฒนาเป็น ‘เนตรจุติ’ ได้”

“สำหรับโอซึซึกิ คางูยะ บางทีเธออาจจะเป็นคนของตระกูลที่ก่อตั้งขึ้น หลังจากการรวมตัวกันของตระกูลที่อยู่เบื้องหลังหลี่ฟาน”

“ดังนั้นสายเลือดของตระกูลโอซึซึกิ จึงอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสายเลือดของตระกูลฮิวงะของพวกเรา”

“แต่ลักษณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลโอซึซึกิ ก็คือเนตรที่ปรากฏขึ้นบนหน้าผาก และเนตรนั้นก็ควรจะเป็นขีดจำกัดสายเลือดของตระกูลโอซึซึกิ ”

“ผมเดาว่าปากุระน่าจะเป็นสายเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดของตระกูลโอซึซึกิ ดังนั้นเธอจึงไม่มีเนตรสีขาว และมีเพียงเนตรที่ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเธอเท่านั้น”

เหล่าผู้เฒ่ามองไปที่ฮิซาชิด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าสิ่งที่ซาชิพูดจะดูเกินจริงไปเล็กน้อย และอาจจะเป็นถึงภาพลวงตาได้ก็ตาม

แต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้!

“ก็... มันมีความเป็นไปได้ในเรื่องนี้จริงๆ” ฮิอาชิพยักหน้า

“ยังไงก็ตาม หากนายต้องการยืนยันความคิดเห็นในเรื่องนี้ นายก็คงต้องไปถามเรื่องนี้กับปากุระหรือไม่ก็หลี่ฟาน”

“แต่ก่อนหน้านั้น พวกเราต้องตื่นตัวให้มากกว่านี้กับตระกูลอุจิวะ”

“ถ้าสิ่งที่หลี่ฟานพูดเป็นความจริง ตระกูลอุจิวะก็น่าจะเป็นสายเลือดของเซียนหกวิถี”

“หากมีคนในตระกูลของพวกเขาเบิก ‘เนตรสังสาระ’ ขึ้นมาได้จริงๆ สถานการณ์ของตระกูลฮิวงะของพวกเราก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก”

…