1273 - โลงศพที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
1273 - โลงศพที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“ข้าไม่เชื่อเรื่องอาถรรพ์!”
ต้วนเต๋อพยายามเปิดกล่องหินด้วยความคุ้มคลั่ง แต่ความพยายามทั้งหมดของเขากลับไร้ประโยชน์ มันไม่มีทางที่เขาจะเปิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้
โลงศพนี้แน่นเกินไป หากมองดูตามภาพรวมคล้ายกับว่าหินทั้งก้อนถูกเชื่อมต่อกันเป็นหินก้อนเดียว
หลายคนมองหน้ากัน นอกเหนือจากความเรียบง่ายแล้ว วัตถุสิ่งนี้ไม่ได้มีความผันผวนของพลังแผ่ออกมาแม้แต่น้อย
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการ!”
สุนัขสีดำตัวใหญ่วิ่งเข้ามาอย่างไม่คาดคิด ในที่สุดก็คว้าสมบัติไปจากมือของเจ้าอ้วนต้วนแล้ววิ่งหนีไป จากนั้นมันก็นอนอยู่บนพื้นก่อนจะเริ่มใช้ทั้งฟันและขาข่วนโลงศพให้เปิดออก
หลายคนหัวเราะ เห็นได้ชัดว่าสุนัขตัวใหญ่นี้ต้องการขโมยสมบัติ แต่สุดท้ายความพยายามของมันก็ไร้ประโยชน์
โลงศพถูกส่งผ่านมือของฉีลั่ว เย่ฟ่าน วานรศักดิ์สิทธิ์และคนอย่างต่อเนื่อง พวกเขาใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองเพื่อกระตุ้นบางสิ่งบางอย่างแต่กลับไม่เป็นผล
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือโลงศพเทพโบราณอย่างแท้จริง มันเป็นสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในเก้าสวรรค์ มันจะไม่มีวันพังทลายจากการโจมตีของพลังภายนอก ไม่รู้ว่าวิหารบรรพชนแห่งนี้ได้รับมันมาได้อย่างไร”
ต้วนเต๋อมองอย่างเคร่งขรึมและตรวจสอบอีกครั้ง เขาค่อยๆ พลิกกล่องหินแล้วคิดต่อไป
โลงศพมีความกว้างเพียงหนึ่งฝ่ามือ แต่เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นลวดลายของอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ดอกไม้ นก ปลา แมลง ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งที่เก่าแก่ตั้งแต่ยุคแห่งการสร้างโลก
ลวดลายทั้งหมดถูกแกะสลักขึ้นมาด้วยความปราณีตเกินขอบเขตของคนยุคโบราณจะทำได้
นี่คือสิ่งที่ต้วนเต๋อสามารถมองเห็นได้ด้วยญาณวิเศษของเขา หากไม่เห็นลักษณะที่แปลกประหลาดเช่นนี้เขาจะไม่มีทางย้อนกลับไปแย่งชิงมันกลับมาอย่างแน่นอน
สิ่งที่เรียกว่า “ถูกฝังอยู่ในเก้าสวรรค์” หมายถึง การถูกวางไว้นอกท้องฟ้า กล่าวคือนี่คือสมบัติที่มาจากนอกอาณาเขตไม่มีใครรู้ว่ามันเดินทางข้ามจักรวาลมานานกี่ล้านปีแล้ว
เนื่องจากพื้นดินไม่มีคุณสมบัติคู่ควรที่จะฝังพวกเขา เหล่าเทพกลัวว่าร่างกายของตัวเองจะเกิดมลทินขึ้นดังนั้นพวกเขาจึงบรรจุร่างกายของตัวเองใส่โลงศพและปล่อยให้ล่องลอยไปทั่วจักรวาลแทนการฝังดิน
“โลงศพสำหรับเทพที่ถูกฝังอยู่ในเก้าสวรรค์นี้เป็นเรื่องของตำนานมาโดยตลอดและไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ราชวงศ์อวี้หัวทรงพลังมาก พวกเขาสำรวจทุ่งดวงดาวไปกี่แห่งจึงสามารถนำมันมาเก็บไว้ที่นี่ได้?” ต้วนเต๋อกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ราชวงศ์อวี้หัวอันทรงพลังเช่นนี้ แต่พวกเขายังคงถูกทำลาย...” จื้อจื่อเยว่กล่าว
“ทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กันหรือไม่?”
เย่ฟ่านนึกถึงโลงศพทองแดงที่ถูกลากมาโดย “มังกรทั้งเก้าตัว” ลักษณะของพวกมันค่อนข้างคล้ายคลึงกัน นอกจากขนาดและสีสันแล้วโลงศพทั้งสองแทบจะเหมือนกันทุกประการ
“อย่าเพิ่งกล่าวถึงเรื่องอื่นเลยรีบเปิดโลงศพออก”
สุนัขสีดำตัวใหญ่นั่งนิ่งไม่ได้เหมือนไฟลนก้น มันกังวลมากกว่าว่าหากสถานการณ์ดำเนินไปในทิศทางนี้อาจมีใครบางคนแย่งชิงสมบัติของพวกเขาไป
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ เขารับมันไว้ในมือและใช้กำลังทั้งหมดทุบโลงศพ เลือดสีทองในร่างกายของเขาล้นหลาม แต่ผลลัพธ์ก็ยังไร้ประโยชน์
“บางทีเจ้าอาจเปิดมันได้โดยการหยดเลือดลงบนมัน”
จี้จื่อเยว่กล่าว นางนึกถึงแท่นบูชาโลหิต ทุกคนตกใจและพยักหน้าเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ผังป๋อและตงฟางเย่เป็นคนแรกที่ลงมือ แต่สุดท้ายทุกอย่างยังคงไร้ประโยชน์ พวกเขาไม่สามารถเปิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้
“มันอาจต้องการเลือดของเซียน”
จี้จื่อเยว่กระพริบตากลมโต นั่นก็เพราะบนกล่องหินมีเลือดของใครบางคนแต่งแต้มไว้ แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วแต่เลือดนั้นยังคงเป็นสีแดงสดใสไม่เปลี่ยนแปลง
ในที่สุด ผู้คนก็มองดูฉีลั่ว เขาอยู่ห่างจากการเป็นปราชญ์เพียงครึ่งก้าว เลือดในร่างกายของเขาน่าสะพรึงกลัว มันอาจจะมีประโยชน์มากและสามารถเปิดกล่องหินลึกลับได้
“เจ้าต้องคิดให้รอบคอบถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากเปิดโลงศพนี้” ฉีลั่วกล่าว
“ไม่เป็นไร ต่อให้มันแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ไม่มีทางปราบปรามหม้ออสูรกลืนสวรรค์ได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นก็แค่โยนมันลงไปในหม้อก็พอ” จักรพรรดิดำมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
นิ้วของฉีลั่วหยดเม็ดเลือดทีละหยด แต่ละหยดมีความสว่างและสุกใส เปล่งแสงที่น่าสะพรึงกลัวออกมาอย่างไม่รู้จบ
อย่างไรก็ตาม มันยังคงไม่ได้ผล ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เมื่อเลือดตกลงบนโลงศพ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
“บางทีอาจต้องใช้เลือดสีทองของเย่ฟ่าน ยังมีเลือดของพี่วานรศักดิ์สิทธิ์อยู่”
จี้จื่อเยว่กระพริบดวงตากลมโตของนาง เพราะสองคนนี้มีรูปร่างที่พิเศษและมีพลังโลหิตที่ท้าทายสวรรค์
“ให้ข้าลอง”
เย่ฟ่านหยิบมันไว้ในมือของเขา จากนั้นเลือกสีทองสองสามหยดก็ตกลงไปบนผิวของกล่องหิน ทันใดนั้นมีแสงแวววาวบางอย่างเปล่งประกายออกมาจากกล่องเล็กน้อย
“มากกว่านี้” จักรพรรดิดำตะโกน
เมื่อเลือดสีทองหกหยดถูกหยดลงไปที่กล่องอีกครั้งเสียง “แกรก” เบาๆ ก็ดังมาจากข้างในกล่องแล้วทำให้ผู้คนเกิดความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เย่ฟ่านรู้ดีว่าเลือดของเขายังไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงหยดเลือดลงไปอีกสิบหยด และในที่สุดฝาของโลงศพก็เปิดออกพร้อมกับปลดปล่อยหมอกสีดำเข้มข้นออกมาข้างนอก
“ถอยออกไป!” เย่ฟ่านส่งสัญญาณ
ทุกคนถอยกลับด้วยความระมัดระวัง เย่ฟ่านใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เปิดฝาโลงศพอย่างช้าๆ ปฏิกิริยาของเขาพร้อมที่จะกระโดดออกจากสถานที่แห่งนี้ตลอดเวลา
“แคร่ก!”
เมื่อฝาของโลงศพถูกเปิดขึ้น มีเพียงเสียงฝาโลงศพตกกระทบพื้น และไม่มีความผิดปกติอะไรปรากฏออกมา
ในโลงศพนี้มีหมอกแห่งความชั่วร้ายแผ่ออกมาเล็กน้อยเท่านั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ต้วนเต๋อและคนอื่นๆ ก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อสำรวจโรงศพด้วยความระมัดระวัง ในโลงศพใบนี้ยังมีโลงศพที่มีขนาดเล็กกว่าซ่อนอยู่ภายใน
เมื่อเห็นเช่นนี้เย่ฟ่านก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขารีบหยดเลือดสีทองลงไปในโลงศพขนาดเล็กนั้นทันที
เลือดสีทองสิบแปดหยดหยดลงไป และโลงศพก็ดูดซับพวกมันทั้งหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นฝาโลงศพก็ดีดตัวขึ้น
“ไม่!”
สีหน้าของต้วนเต๋อเปลี่ยนไป เพราะข้างในนี้มีโลงศพขนาดเล็กอีกชิ้นหนึ่งซุกซ่อนอยู่
“ไม่เป็นไร มาเริ่มกันอีกครั้ง!” เย่ฟ่านหยดเลือดสีทองยี่สิบเจ็ดหยดและทำให้ฝาโลงที่สามเปิดขึ้น
“เวรเอ้ย มีโลงศพอีกแล้ว!” สุนัขสีดำตัวใหญ่ดูเหมือนจะมีความคลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้ว
“มารดามันเถอะ มีโลงศพซุกซ่อนอยู่ภายในกี่ชั้นกันแน่” ผังป๋อก็สงสัยเช่นกัน
เย่ฟ่านไม่เชื่อเรื่องความชั่วร้ายและหยดเลือดลงไปไม่หยุด เขาเปิดโลงศพหกชั้นในคราวเดียว ยังมีโลงศพอยู่ในโลงศพ แต่ครั้งสุดท้ายนี้ เลือดบริสุทธิ์สีทองของเย่ฟ่านห้าสิบสี่หยดถูกใช้ไป
หลายคนเริ่มโกรธแค้นมากขึ้นเรื่อยๆ นี่มันเป็นเหมือนการเล่นกลอย่างไม่สิ้นสุด ทุกครั้งที่ความหวังของพวกเขาก่อตัวขึ้นมันก็จะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว
“มันอาจจะมีเก้าชั้นก็ได้” วานรศักดิ์สิทธิ์ดูตกใจ คล้ายกับตระหนักถึงบางอย่าง
“อย่าเปิดโลงศพนี้ มันอาจจะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น” ใบหน้าของต้วนเต๋อน่าเกลียดมาก เขากลืนน้ำลายเต็มปาก
ตงฟางเย่เกาหัวแล้วถามว่า “เจ้าเห็นอะไร”
ต้วนเต๋อกล่าวว่า “ข้าคิดว่าโลงศพนี้ถูกนำกลับมาจากเก้าสวรรค์จริงๆ แต่ซากศพที่อยู่ภายในน่าจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว แล้วตอนนี้สิ่งที่มันฟังอยู่น่าจะเป็นบรรพชนในตำนานของราชวงศ์อวี้หัว”
“เจ้าคิดว่าบรรพชนของราชวงศ์อวี้หัวเป็นหนูหรือเปล่า มันไม่มีทางที่เขาจะบรรจุร่างกายของตัวเองลงไปในกล่องเล็กๆ แบบนี้ได้” จักรพรรดิดำไม่เชื่อ
“หากนี่เป็นกล่องในตำนานนั้นจริงๆ ต่อให้เป็นเขาพระสุเมรุก็สามารถบรรจุเข้าไปภายในได้” ต้วนเต๋อกล่าว
“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ข้าหมายถึงว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีทางปล่อยให้โลงศพของเขาดูอนาถาแบบนี้ได้” จักรพรรดิดำกล่าว มันติดตามจักรพรรดิอู่ซือมานานและรู้ดีถึงบารมีอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา
“พี่วานร เจ้าดูเหมือนจะตระหนักถึงบางอย่าง?” ในเวลานี้ เย่ฟ่านเห็นวานรศักดิ์สิทธิ์อยู่ในอาการงุนงง และอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“ในสมัยโบราณ ข้าจดจำเรื่องราวบางอย่างได้ แม้ว่ามันจะค่อนข้างพร่ามัวเล็กน้อย” วานรศักดิ์สิทธิ์เคาะศีรษะของตัวเองคล้ายกับหลงลืมเรื่องราวบางอย่าง
“ข้าดูเหมือนจะเคยได้ยินตำนานโลงศพเก้าชั้นจากท่านอาของข้า เขาบอกว่าสมบัติชิ้นนี้แตะต้องไม่ได้ เมื่อพบเจอให้ส่งคืนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวทันที”
…….