บทที่ 15 พรุ่งนี้ข้าน่าจะออกไปนอกหมู่บ้านกับท่านได้ใช่ไหม?
บทที่ 15 พรุ่งนี้ข้าน่าจะออกไปนอกหมู่บ้านกับท่านได้ใช่ไหม?
ในเวลานี้เฉินฟานยืนนิ่งห่างจากเป้ายิงธนู 50 เมตร มือขวายืนออกไปหยิบลูกธนูออกมาจากตะกร้าลูกธนูที่หลังแล้ววางลงบนสาย
"หือ…?"
เฉินกัวตงอุทานอยู่ในใจพร้อมกับดวงตาของเขาเบิกกว้าง เป็นไปได้ไหมว่าเขาต้องการยิงเป้าจากระยะไกลขนาดนั้น?
เขาไม่รอให้เฉินกัวตงต้องคิดอะไรมาก เพียงได้ยินเสียง "ฟิ้ว" พร้อมกับแสงวาบที่ปลายลูกศรสีดำและมันก็หายวับไป จากนั้นเขาเห็นเป้าธนูที่อยู่ห่างไกลสั่นอย่างรุนแรงพร้อมกับลูกธนูที่ปักอยู่กลางอย่างแม่นยำ และปลายหางที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงได้ยินเสียงกระแทกทื่อดังมาเข้าหูของทุกคนที่อยู่ที่นี่
"หือ..!!!"
ทันใดนั้น ลูกตาของเฉินกัวตงราวกับกำลังจะถล่นออกมาจากเบ้า นี่ลูกชายของเขากลับสามารถยิงเข้ากลางที่อยู่ห่างออกไป 50 เมตร? นี่เขากำลังฝันอยู่หรือป่าว?
ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเธอก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อเช่นกัน
ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฉินฟานยื่นมือขวาออกมาอย่างใจเย็น แล้วหยิบลูกธนูลูกที่สองออกมาจากตะกร้าลูกธนู แล้ววางลงบนสาย
"ฟิ้ว!"
เสียงแหลมดังขึ้นชัดเจนในคืนอันเงียบสงบ
"ปั้ก!"
ลูกธนูลูกที่สองก็โดนกลางเป้าและอยู่ถัดจากลูกธนูลูกแรกเล็กน้อย
เฉินกัวตงอ้าปากกว้างจนกรามของเขาแทบจะล้มลงกับพื้น
ครั้งหนึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญได้ แต่สองครั้งล่ะ? เขาหันมองไปที่เฉินฟานดูเหมือนว่าลูกชายของเขายังอยากจะยิงต่องั้นเหรอ?
เฉินฟานยังคงไม่พูดอะไรสักคำ ใบหน้าของเขาสงบราวกับน้ำนิ่ง เขาหยิบลูกธนูดอกที่สามออกมา ขึ้นสายธนูแล้วน้าวสุดแขนแล้วปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว
"ปั้ก!"
ดอกที่สามก็โดนกลางเป้า
แม้ว่าแต่ดอกที่สี่และดอกที่ห้าก็โดนกลางเป้าเหมือนกัน
เฉินกัวตงและภรรยาของเขามีเหงื่อออกที่หน้าผากโดยไม่รู้ตัว พวกเขาไม่เชื่อในตอนแรก แต่ตอนนี้พวกเขาก็ตกตะลึงและยืนอ้าปากค้างอยู่กับที่ ตอนนี้พวกเขามึนงงจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาแล้ว
จากนั้นไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ หวังปิงและคนอื่นๆก็มาที่นี่ด้วย และเมื่อเห็นฉากนี้พวกเขาทั้งหมดก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วยความตกใจและพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะเดาได้ว่าทักษะการยิงธนูของเฉินฟานจะต้องดีมากอย่างแน่นอน แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่ามันจะดีจนยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้!
นี่มันเป็นการยิงที่สมบูรณ์แบบเลยไม่ใช่หรอ?
ชายพิการยืนอยู่ข้างๆ มุมปากของเขากระตุกสองครั้ง เด็กคนนี้กล้าพาครอบครัวมาที่นี่เพื่อแกล้งทำเป็นโอ้อวดพวกเขางั้นหรือ? ให้ตายเถอะ..ดูเหมือนเขาจะยังเป็นเด็กน้อยอยู่
ในเวลานั้นเอง เฉินฟานหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเขา “พ่อ พรุ่งนี้ข้าควรจะสามารถออกไปล่าสัตว์กับพ่อได้ใช่ไหม?”
เสียงนั้นดังขึ้นและบริเวณโดยรอบก็เงียบลงอีกครั้ง คราวนี้ทุกคนรวมทั้งชายพิการด้วย พวกเขาต่างแสดงอาการตกใจอย่างมากออกมา
เฉินกัวตงยิ้มอย่างเบี้ยว ในตอนนี้เขาจะพูดอะไรได้อีก? ระดับการยิงธนูที่แม่นยำขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่าพี่น้อยแซ่เว่ยเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าเฉินฟานฝึกฝนเพียงสองหรือสามวันเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเช่นนี้ได้
ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ อ้าปากค้าง และไม่รู้จะพูดห้ามอะไรได้แล้ว
“ข้าคิดว่าเราควรพิจารณาให้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้”
เสียงของชายพิการดังขึ้น เขามองไปที่เฉินฟานอย่างเคร่งขรึมและพูดว่า: "ถิ่นทุรกันดารไม่เหมือนการอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ต้องพูดถึงอันตรายและพวกสัตว์อสูรนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่พรั่งพร้อมไปด้วยสัญชาตญาณและไม่ใช่เรื่องง่ายจัดการ เจ้าควรฝึกยิงธนูไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน หลังจากนี้อีกหลายวันค่อยออกไปข้างนอกก็ได้”
"ใช่แล้วๆ"
เมื่อหญิงสาวได้ยินเช่นนั้น เธอก็รีบสนับสนุนทันที
เหตุผลหลักก็คือเฉินฟานบอกว่าจะออกไปก็จะออกไปทันที เธอไม่มีเวลาสำหรับการเตรียมจิตใจเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาของเฉินกัวตงขยับเล็กน้อย และเห็นได้ชัดว่าเขามีความตั้งใจแบบเดียวกัน
เฉินฟานส่ายหัวและพูดอย่างหนักแน่น "ลุงจาง เข้าเข้าใจความเมตตาของท่าน แต่เมื่อพูดถึงการฝึกข้ายังสามารถฝึกฝนทักษะการยิงธนูในป่าได้ใช่ไหม? ข้าคิดว่าฝึกในสถานการณ์จริงมันอาจดีกว่าด้วยซ้ำ"
ชายพิการตกตะลึงและเขาก็พูดอะไรไม่ออกเล็กน้อย
ใช่ การฝึกต่อสู้จริงจะสามารถพัฒนาได้เร็วกว่าการฝึกซ่อมประจำวันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการยิงธนูหรือการต่อสู้ ในกรณีนี้เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้
“ส่วนเรื่องอันตราย ที่ไหนบ้างล่ะจะไม่อันตราย?”
เฉินฟานพูดอะไรบางอย่างออกมา และมองเฉินกัวตงด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟราวกับจะพูดว่าพ่อ ตอนนี้คุณไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธข้าแล้วใช่ไหม?
"ดี"
เฉินกั๋วตงดูเหมือนจะรวบรวมความกล้าที่จะพูดคำนี้ "พรุ่งนี้เช้า เจ้าสามารถออกไปกับพวกเราได้"
“กัวตง!”
ผู้หญิงคนนั้นอุทานออกมา
เฉินกัวตงส่ายหัวให้เธอ มองที่เฉินฟานแล้วพูดว่า "พรุ่งนี้เราจะออกไปข้างนอก คืนนี้อย่าฝึกซ้อมหนักเกินไปล่ะ กลับไปพักผ่อนเร็วหน่อยนะ"
"อืม"
เฉินฟานตอบรับพร้อมรอยยิ้ม
จากนั้นเฉินกัวตงก็พาครอบครัวของเขากลับไป
ระหว่างทางกลับ หญิงคนนั้นบ่นว่า “ทำไมท่านถึงตกลงให้เขาไปง่ายนักล่ะ เขายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาออกไปข้างนอก”
เฉินกั๋วตงถอนหายใจ "ข้าก็จะต้องออกไปกับเขาด้วยเหมือนกัน ทักษะการยิงธนูของเสี่ยวฟานเจ้าก็เห็นมาแล้ว ถ้าเขาออกไปข้างนอกจริงๆ เขาสามารถยิงเหยื่อได้หนึ่งหรือสองตัวอย่างแน่นอน ซึ่งมันสามารถช่วยหมู่บ้านบรรเทาความกดดันได้มาก"
"..."
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า
“ถ้าอย่างนั้นท่านต้องรับรองความปลอดภัยของเขา”
“อย่ากังวลเรื่องนั้น..จนกว่าข้าจะตาย”
เฉินกัวตงพูดออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว
ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีมากนัก
ดังที่ชายพิการจางเหรินได้กล่าวไว้ สัตว์อสูรดุร้ายในป่าไม่ใช่แต่เป้าที่มีชีวิตอย่างเดียว พวกมันยังรู้จักหลบหนีเมื่อรู้สึกถึงอันตราย และความเร็วนั้นเร็วมากจนคนธรรมดาไม่สามารถตามทันได้
และแน่นอนว่าบางตัวก็ไม่ยอมหลบหนีเช่นกัน สิ่งนี้หมายถึงอันตรายอย่างมาก เพราะเมื่อพวกมันสู้กลับก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นเหยื่อหรือเป็นผู้ล่าแล้ว
เสี่ยวฝานสามารถยิงโดนเป้าจากระยะ 50 เมตรได้ แต่ในป่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่ราวกับม้าคลั่ง เขายังสามารถยิงมันโดนได้หรือป่าว?
แต่ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร การมีเฉินฟานอยู่ในทีมล่าก็ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจได้มาก ถึงแม้จะพลาดแต่ทุกอย่างก็เป็นประสบการณ์ที่จะทำให้เฉินฟานแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
ภายในบริเวณโกดังนั้น
ชายพิการมีดวงตาที่ซับซ้อน “เจ้าหนู เจ้าอยากออกไปล่าสัตว์ ทำไมเจ้าไม่บอกข้าก่อนล่ะ?”
เฉินฟานเกาหัวและพูดอย่างเขินอาย "ลุงจาง ข้าก็ตัดสินใจในวันนี้เหมือนกัน ข้าคุยกับข้าที่โต๊ะอาหารเย็นเลย ทำให้ข้าไม่มีเวลาบอกท่าน"
“เจ้ายังหุนหันพลันแล่นเกินไป” ชายพิการส่ายหัว “ฝึกฝนอีกสองสามวันเจ้าก็น่าจะมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ไม่ดีกว่าหรือ?”
“ลุงจาง เรามีเวลาไม่มากขนาดนั้น”
เฉินฟานไม่มีทางเลือกนอกจากพูดออกมาตรงๆ
ดวงตาของชายพิการก็หรี่ลงทันที
แม้แต่บรรยากาศก็กลายเป็นเคร่งขรึม
เฉินฟานไม่ชอบเห็นคนอื่นขมวดคิ้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกิดจากคำพูดของเขาเอง เขายิ้มออกมาและพูดว่า "ลุงจาง โปรดช่วยข้าฝึกฝนต่อไป"
“ได้อยู่แล้ว” แม้ว่าเฉินฟานจะไม่อธิบายต่อ แต่ชายพิการก็พอจะเข้าใจอะไรได้อยู่
หลังจากที่ชายพิการพูดจบ เขาก็เดินกะโผลกกะเผลกออกไปในระยะไกล เขาสามารถบอกได้ว่าเฉินฟานกำลังเปลี่ยนหัวข้อ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนกันเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากของหมู่บ้าน
สิ่งที่เขาทำได้คือช่วยเขาอย่างเต็มที่ในระหว่างการฝึกซ้อมเท่านั้น
หลังจากสี่หรือห้าชั่วโมงผ่านไป ทั้งชายพิการและทั้งทุกคนต่างเหนื่อยล้า แม้จะเป็นอย่างนี้แต่ก็ไม่มีใครบ่นถึงความทุกข์ทรมานหรือความเหนื่อยล้า พวกเขาผลัดกันช่วยเฉินฟานฝึกยิงธนูต่อไปเรื่อยๆ
ในหมู่พวกเขา บางคนต้องการออกไปข้างนอกเหมือนกับเฉินฟาน แต่พวกเขาก็รวบรวมความกล้าไม่ได้
พร้อมกับเสียงทื่อของหางธนูที่สั่นไหว กระแสน้ำอุ่นไหลผ่านร่างกายของเขาและทักษะ [การยิงธนูขั้นพื้นฐาน] ก็ได้รับการอัปเกรดแล้ว
ในที่สุดเฉินฟานก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นเขาก็เรียกแผงคุณสมบัติขึ้นมา
【การยิงธนูขั้นพื้นฐาน: ระดับ 4 (0%) คุณสมบัติเฉพาะ: ความแข็งแกร่งทางกายภาพระดับ 4 ความแข็งแรงระดับ 4 ความแม่นยำระดับ 4 การยิงเป้าเคลื่อนที่ระดับ 2 】
การยิงเป้าเคลื่อนที่ระดับ 2 หมายความว่าเมื่อเขาเล็งไปที่เป้าหมายที่กำลังเคลื่อนที่ อัตราการโจมตีโดนของเขาจะสูงถึง 60% ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับเขาได้อย่างมากในขณะที่จะออกไปล่าสัตว์ข้างนอกในวันพรุ่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
และความแม่นยำถึงระดับ 4 ซึ่งทำให้เขาสับสนเล็กน้อย
ด้วยคุณสมบัตินี้การเล็งไปที่เป้าหมายที่อยู่กับที่ทำให้อัตราความแม่นยำมีถึง 120% และการที่มันเกิน 100% ไปเช่นนี้หมายถึงอะไร? อัตราความแม่นยำมันไม่คงที่งั้นเหรอ?
ไม่..ไม่ถูกต้อง
เขาขมวดคิ้ว บางทีอัตราความแม่นยำนี้เป็นเพียงค่าทางทฤษฎีบนแผงคุณสมบัติเฉยๆ ไม่ใช่ค่าที่แท้จริงหลังจากที่เขาปล่อยลูกธนูออกไปจากสายแล้ว