ตอนที่ 1486 เราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ.. โปรดมากับเรา
เมืองหางโจว บนถนนแห่งหนึ่ง ใกล้กับบ้านเก่าของ หลี่ จื่อเสีย ภายในร้านกาแฟริมทาง หลี่ จื่อเสีย ได้สั่งกาแฟแก้วหนึ่ง และนั่งอยู่คนเดียว
เธอกําลังรอการมาถึงของ หลินฟาน..
เดิมทีเธอสามารถนัด หลินฟาน มาพบที่บ้านได้ แต่เธอเพิ่งพบว่าบ้านของเธอถูก หลี่ เจี้ยนสุ่ย ขายออกไปแล้ว บ้านเดิมตอนนี้ถูกครอบครองโดยคนแปลกหน้าไปแล้ว
ด้วยสิ่งนี้เพียงอย่างเดียว หลี่ จื่อเสีย ก็ไม่สามารถให้อภัย หลี่ เจี้ยนสุ่ย ได้ และเธอพร้อมที่จะคิดบัญชีกับ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ในวันพรุ่งนี้
สําหรับตระกูลหลี่ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ไม่ได้ไร้ความดีงามโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น หลี่ จื่อเสีย ที่อยู่ห่างไกลถึงประเทศอังกฤษ เพื่อหลีกเลี่ยงการตามล่า งานศพของ หลี่ หวยซาน พ่อของเธอก็เป็น หลี่ เจี้ยนสุ่ย ที่จัดการให้ ไม่ว่า หลี่ เจี้ยนสุ่ย จะทำเพื่อจุดประสงค์ใด ในจุดนี้ หลี่ จื่อเสีย ก็รู้สึกขอบคุณ
หลี่ จื่อเสีย ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักความกตัญญู เพราะอย่างนี้ หลี่ จื่อเสีย จึงไม่ได้วางแผนที่จะทําให้ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ลําบากใจมากในตอนแรก ตราบใดที่เธอได้รับหุ้นคืน เธอก็สามารถเพิกเฉยกับการกระทําบางอย่างของ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ได้
แต่หลังจากทราบว่า หลี่ เจี้ยนสุ่ย ได้ยื่นคําร้องต่อศาลอยู่หลายครั้งเพื่อตัดสินการเสียชีวิตของเธอ หลี่ จื่อเสีย ก็โกรธมาก แต่ถึงกระนั้น หลี่ จื่อเสีย ก็ไม่ได้วางแผนที่จะโต้เถียงกับ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ไปในตอนแรก
ในประการแรก หลี่ เจี้ยนสุ่ย ได้จัดการงานศพของ หลี่ หวยซาน คุณพ่อของเธอ ประการที่สอง หลี่ เจี้ยนสุ่ย เป็นลุงแท้ๆ ของเธอ อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอในโลกนี้
ตอนนี้ พอ หลี่ จื่อเสีย คิดว่าบ้านของเธอถูก หลี่ เจี้ยนสุ่ย ขายออกไป เธอก็เกิดความรู้สึกโกรธมาก ทั้งนี้เธอต้องการคิดบัญชีกับ หลี่ เจี้ยนสุ่ย สําหรับวิธีการคิดบัญชีนั้น เธอจะดูจากรายงานการจัดการของ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ที่จะส่งมันมาให้กับเธอในวันพรุ่งนี้ก่อน
มันเป็นไปได้มากว่า หลี่ เจี้ยนสุ่ย ที่สามารถขายบ้านของเธอได้ และการดําเนินการของบริษัทในก่อนหน้านี้ มันจะต้องมีเรื่องที่เขาทำ… มากกว่านี้!
เธออยากรู้มากว่า.. หลี่ เจี้ยนสุ่ย คนนี้ได้ทําอะไรลงไปบ้าง?
เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ หลี่ จื่อเสีย ก็รู้สึกทําอะไรไม่ถูกมาก ถ้าเธอไม่ได้หลบหนีไปอยู่ที่อังกฤษมาเป็นเวลาหนึ่งปีแบบนี้? แต่อย่างไรในตอนนั้นเธอก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่เธอ.. ก็โชคดีที่มี หลินฟาน!
เมื่อนึกถึง หลินฟาน อารมณ์ของ หลี่ จื่อเสีย ก็สงบลง
เธอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้พบเจอกับ หลินฟาน
หลินฟาน เป็นคนที่เปลี่ยนเธอ
หลินฟาน เป็นคนที่ช่วยเธอแก้ไขปัญหาภายในประเทศ หยุนเหมิน ไม่คิดจะตามไล่ล่าเธอ และเย่ เทียนอวี่ อีกต่อไป ในที่สุดเธอก็สามารถกลับมาประเทศได้แล้ว!
หลินฟาน ไปที่อังกฤษด้วยตัวเอง ช่วยเธอให้รอดพ้นจากวิกฤต และเข้าช่วยชีวิตเธอไว้ และทำให้ตัวเธอรักษาความบริสุทธิ์ของเธอเอาไว้ได้ นี่กล่าวได้แค่ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของเธอ…
เธอคิดแล้วว่าแม้ว่าเธอจะมอบบริษัทให้กับ หลินฟาน ไปโดยไร้เงื่อนไข ตราบใดที่เธอสามารถตอบแทน หลินฟาน ได้เพียงเล็กน้อย เธอก็เต็มใจที่จะทำมัน…
ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าซื้อกิจการของ จินอวี้ กรุ๊ป ของ หลินฟาน ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แต่เพื่อร่วมมือกับเธอ และหยงจิ่ว จะเป็นผู้จัดหาเงินทุนให้กับ จินอวี้ กรุ๊ป เพื่อช่วยให้ จินอวี้ กรุ๊ป เติบโตขึ้น ส่วนเธอจะทำหน้าที่จัดหาเทคโนโลยี กล่าวได้ว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
ตอนนี้.. เธอใกล้จะได้เจอกับ หลินฟาน แล้ว หลี่ จื่อเสีย ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
เพราะตอนนี้.. มันมีเพียง หลินฟาน เท่านั้นที่สามารถทําให้เธอยิ้มได้
ทันใดนั้น หลี่ จื่อเสีย ก็สังเกตเห็นว่ารอยยิ้มของเธอสะท้อนอยู่บนกระจกของร้านกาแฟ
หลี่ จื่อเสีย ที่ได้เห็นก็มีใบหน้าแดงก่ำขึ้นทันที รอยยิ้มนี้ แม้แต่เธอมองดูตัวเองก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา นี่มันเหมือนกับแฟนคลับสาวคนหนึ่งคิดถึงรอยยิ้มของเทพชายที่เธอคลั่งไคล้ ใช่แล้ว หรือว่านี่คือเธอกำลัง บ้าผู้ชาย…
หลี่ จื่อเสีย เคยคิดว่าตัวเองจะไม่เป็นผู้หญิงที่บ้าผู้ชายอะไรพวกนั้น เพราะตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยเจอผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงได้มาก่อนเลย แม้แต่ในสมัยเรียนมัธยมที่หญิงสาวมักชอบที่จะจินตนาการเกี่ยวกับมันมากที่สุด แต่แล้วพอเมื่อเพื่อนร่วมชั้นได้พูดคุยกันถึงรุ่นพี่ที่หล่อเหลาคนหนึ่ง เธอกลับไม่เคยคิดจะสนใจเลย..
โดยไม่คาดคิดเลยว่า เธอ.. จะมีวันนี้
แม้ว่าเธอจะรู้สึกเขินแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม มันกลับยังมีความรู้สึกหวานเข้ามาแบบที่อธิบายไม่ได้, บางที.. นี่อาจจะเป็นอย่างที่ว่ากันว่าความงดงามของ ‘ความรัก’ และบางทีนี่อาจจะเรียกได้สำหรับเธอว่ามัน ..เป็น ‘รักแรกพบ’ ใช่หรือไม่?!
ใบหน้าของ หลี่ จื่อเสีย ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิมอีก และเธอก็รู้สึกเขินอายมากจริงๆ โชคดีในช่วงเวลานี้ แขกภายในร้านมีไม่มากนัก และก็คงไม่มีใครสังเกตเห็นเธอที่กำลังทำอะไรบ้าๆ บอๆ อยู่ตรงนี้..
อย่างไรก็ตาม หลี่ จื่อเสีย ก็คิดเรื่องหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทําให้เธอรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยขึ้นทันที
เธอกำลังคิดถึง เว่ย เยว่เอ๋อร์..
เว่ย เยว่เอ๋อร์ เป็นแค่ผู้ช่วยของ หลินฟาน แต่แล้ว.. มันง่ายขนาดนี้จริงๆ เหรอ?
ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่าง หลินฟาน จะเป็นโสดไปได้อย่างไร?
และเขาคงจะมีผู้หญิงอยู่แล้วใช่ไหม?
แล้วเธอ.. มาสายเกินไปหรือเปล่านะ?
“เฮ้ออ!”
หลี่ จื่อเสีย จับแก้มของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าเธอจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จนแทบจะบ้าไปแล้ว มันเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่แอบหลงรักรุ่นพี่ และมันก็เต็มไปด้วยปัญหาที่สร้างความกังวลใจเล็กๆ น้อยๆ มากมาย
หลี่ จื่อเสีย ก็ยังคงนั่งรอ หลินฟาน ต่อไป ในเวลานี้นั้นกลับมีผู้ชายหลายคนปรากฏตัว
คนเหล่านี้ บางคนย้อมสีผม และบางคนมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า ได้ปรากฏตัวอยู่นอกร้านกาแฟ และมองเห็น หลี่ จื่อเสีย ผ่านทางกระจกของร้าน
“นั่นเธอ!”
บรรดาชายฉกรรจ์พวกนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกนักเลงอันธพาล ในหมู่พวกเขามีชายหัวทองคนหนึ่งก้มมองโทรศัพท์ของเขา และพูดออกไป ในโทรศัพท์ของเขามีรูปถ่ายของคนคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ หลี่ จื่อเสีย..
“เอายังไง เธอนั่งอยู่ในร้าน ต้องรอให้เธอออกมาก่อนแล้วค่อยลงมือดีไหม?” คนหนึ่งได้ถาม
ชายหัวทอง กล่าวว่า : “ดี ถอยก่อน!”
ดังนั้นพวกเขาจึงซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ และรอคอยโอกาสที่ว่า..
แต่พวกเขาเห็นกับตาว่ากาแฟแก้วนั้นของ หลี่ จื่อเสีย เธอดื่มหมดไปนานแล้ว แต่ หลี่ จื่อเสีย กลับไม่มีความตั้งใจที่จะออกไปเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าเธอวางแผนที่จะนั่งหยั่งรากอยู่ภายในร้านกาแฟ
นี่ทําให้คนพวกนี้วิตกกังวลขึ้นมา
“ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงยังไม่ออกมาอีก?”
“ทํายังไงดี รอแบบนี้ต่อไปคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี?”
“ถ้าเธอไม่ออกมา นี่ไม่ใช่ว่าเราต้องรอเธออยู่ที่นี่เรื่อยๆ แบบนี้เหรอไง?”
ในกลุ่มได้พากันพูดออกมาทีละคน และมองไปที่ ชายหัวทอง เห็นได้ชัดว่า ชายหัวทองคนนี้เป็นผู้นําของพวกเขา
ชายหัวทอง กัดฟัน แล้วพูดว่า : “ไม่ต้องรอแล้ว เราเข้าไปพาเธอออกมา ระวังอย่าให้เกิดเรื่องยุ่งยาก พาผู้หญิงคนนี้ออกไปให้เร็วที่สุด ไป!”
ชายหัวทองได้นำคนสองสามคนเข้าไปในร้านกาแฟ
และพวกเขาตรงเข้าไปหา หลี่ จื่อเสีย
“นี่คือ คุณ ใช่ หลี่ จื่อเสีย หรือไม่? โปรดตามมากับเราด้วย” ชายหัวทอง ได้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
หลี่ จื่อเสีย เธอตกใจมาก แขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ ดูไม่เหมือนคนดีเลย มันเกิดอะไรขึ้น?
“ฉันขอถามหน่อยว่าพวกคุณเป็นใคร แล้วพวกคุณมีเรื่องอะไรกับฉัน?” หลี่ จื่อเสีย กล่าวถาม
ชายหัวทอง กล่าวว่า : “เราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ได้รับรายงานว่าคุณกลับมาถึงประเทศแล้ว และอยากที่จะเชิญคุณไปช่วยในการสืบสวนเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของคุณ และคดีฆาตกรรมพ่อของคุณ.. โปรดมากับเรา”
“พวกคุณเป็นตํารวจ?” หลี่ จื่อเสีย มองไปที่คนสองสามคนข้างหน้า และเธอรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลย : “พวกคุณช่วยแสดงหลักฐานของพวกคุณให้ฉันดูก่อนได้ไหม?”
ชายหัวทอง พูดตะคอกไปทันที : “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คุณแค่ต้องให้ความร่วมมือกับเราก็พอ แล้วคุณคิดว่าเราจะไปหลอกคุณได้ยังไง?”
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “ถ้าพวกคุณไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนว่าเป็นตํารวจได้ ฉันจะไม่ไปกับพวกคุณ และฉันก็จะแจ้งความกับตํารวจ!”
หลี่ จื่อเสีย พูดจบเธอก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา แต่วินาทีต่อมา ก็ถูกชายหัวทองแย่งไป และพูดหัวเราะเยาะว่า : “ทำไมต้องแจ้งตํารวจ? เพราะพวกเรานี่แหละคือตํารวจ!”
เขาหันไปสบสายตากับ ชายสองคนหนึ่งซ้ายหนึ่งขวา พวกเขาต่างเข้าควบคุม หลี่ จื่อเสีย และบังคับให้เธอลุกขึ้นมา
“ปล่อย!” หลี่ จื่อเสีย ได้พยายามดิ้นรน
ความเคลื่อนไหวทางด้านนี้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ ภายในร้านทันที พนักงานเองก็พบเห็น และรีบเข้ามาถามว่า : “สวัสดี เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ชายหัวทอง ชี้นิ้วไปที่พนักงานอย่างหยิ่งผยอง : “คุณถอยออกไป อย่าได้ขัดขวางทางการ เราเป็นตํารวจ และตอนนี้ก็ตามจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว!”
พนักงานได้ตกใจกลัว จึงถอยออกไปอย่างเงียบๆ
“พวกเขาไม่ใช่ตํารวจ…” หลี่ จื่อเสีย ตะโกนขึ้น
แต่ ชายหัวทอง ไม่ได้ให้โอกาสเธอพูด และเข้าตบหน้าเธอ จากนั้นหันไปหาชายสองคน และสั่งให้พวกเขาพา หลี่ จื่อเสีย ออกไปโดยใช้กำลังบังคับพาออกไปโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ อีก
อย่างไรก็ตาม...
พวกเขายังไม่ทันได้เดินไปถึงประตูเลย
มีผู้ชายคนหนึ่งได้เข้ามายืนอยู่ที่ประตู ..ขวางทางพวกเขา
เป็นชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง
“การแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง พวกคุณกล้ามากจริงๆ!” ชายหนุ่มหล่อคนนี้ พูดด้วยรอยยิ้ม
หลินฟาน!