SW-ตอนที่ 50 เหตุผล
หนึ่งชั่วโมงแห่งความเงียบได้ผ่านไป
อเล็กซ์ ไม่สามารถทำสมาธิได้
ร่างกายของเขารู้สึกตึงเครียดและสั่นไปด้วยความโกรธเป็นครั้งคราว
‘ฉันทำสิ่งที่พอจะทำได้ไปแล้ว’ อเล็กซ์ ยังคงพูดซ้ำกับตัวเองในใจ
เขาคุ้นเคยกับกลิ่นเลือดแล้ว แต่ อเล็กซ์ กลับหายใจเข้าทางปาก โดยไม่รู้ตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการได้กลิ่น
อาการปวดหัวที่เจ็บปวดได้เกิดขึ้นตลอดทั้งชั่วโมง
อเล็กซ์ รู้สึกเหมือนท้องไส้กำลังปั่นป่วน
‘ฉันทำสิ่งที่พอจะทำได้ไปแล้ว’
อเล็กซ์ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและจ้องมองไปที่ ชิ้นส่วนของซากศพที่อยู่รอบๆ รถลากเลื่อนของเขา
เขาทำสิ่งนี้มา 2-3 ครั้ง ในชั่วโมงที่แล้ว
มันเหมือนกับว่า เขากำลังพยายามยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่
‘ถ้าฉันไม่ทำนี่อาจจะเป็นฉันแทนที่มีสภาพอย่างนี้’ อเล็กซ์ คิดขณะมองศพแห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า อเล็กซ์ จะหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเองมากแค่ไหน มันก็เหมือนกับว่ามีบางอย่างในตัวของเขาไม่ยอมรับความคิดของเขา
‘ฉันทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว’
‘ถ้าฉันปล่อยพวกเขาหนีไป พวกเขาก็จะกลับไปเรียกโจรที่แข็งแกร่งกว่ามา’
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ อเล็กซ์ คิดเช่นนั้น เขาก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง
‘แล้วทำไมฉันถึงฆ่าแค่คนที่ถือไม้น้ำแข็งเท่านั้น?’
ภายในใจของ อเล็กซ์ ได้สั่นไหว
‘ฉันปล่อยให้พวกเขาบางส่วนหนีไป’
‘พวกโจรที่แข็งแกร่งกว่าอาจจะกำลังพยายามมาที่นี่ในทางใดทางหนึ่ง’
‘ทำไมฉันถึงไม่ตัดสินใจฆ่าคนที่เหลือ?’
‘แต่พวกเขาได้ล่าถอยไปหมดแล้ว’
‘ไม้น้ำแข็งบางชิ้นพวกนี้ เพียงพอที่จะทำลายแผนการของฉันหรือเปล่า’
ความเงียบได้เข้าปกคลุมทันที
อเล็กซ์ มองดูชิ้นส่วนของไม้น้ำแข็งที่ศพบางส่วนยังถืออยู่ในมือของพวกเขา
จากนั้น อเล็กซ์ ก็รู้คำตอบ
‘ถ้าฉันไม่ฆ่าใครอย่างน้อย 1-2 คน คนอื่นๆ ก็จะไม่ถอย’
‘การฆ่าใครสักคนไม่ได้ทำให้เกวียนของฉันถูกขโมยไปจนหมด’
ชี่—
อเล็กซ์ มองไปที่ ศพ
‘ยกเว้นสองคนแรก เสียชีวิตของคนอื่นๆ ล้วนไม่จำเป็น’
‘การตายของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนผลลัพธ์’
ชี่—
‘ฉันควรจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด’ หลังจากนั้นไม่นาน อเล็กซ์ ก็คิดได้
‘ถ้าฉันฆ่าพวกเขาทั้งหมด ความตายเหล่านี้ ก็คงไม่ไร้ค่า’
‘ฉันลืมบทเรียนที่เรียนรู้จากการอาศัยอยู่ในป่าไปแล้ว’
‘มีเพียงไปให้สุดหรือการล่าถอยเท่านั้น’
‘ฉันพยายามจะครอบครองทั้งสองสิ่งนี้ ฉันอยากจะทำให้ตัวเองปลอดภัย แต่ ฉันก็ไม่อยากที่จะฆ่าใครด้วย’
‘แต่ความไม่แน่ใจของฉัน ทำให้ฉันไม่ได้รับทั้งสองสิ่งนี้ วันนี้ฉันได้ฆ่าคนไปหลายคน อีกทั้งมันยังไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของฉันได้’
‘ฉันน่าจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด’
ชี่—
เมื่อ อเล็กซ์ มาถึงขบวนการแห่งความคิด ร่างกายที่ตึงเครียดของเขาก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขากลับแย่ลง
‘ฉันไม่สามารถทำผิดพลาดเช่นนี้อีกได้’
ชี่—
ทันใดนั้น ดวงตาของ อเล็กซ์ ก็เบิกกว้างขึ้นด้วยแววตาที่เย็นชา ขณะที่เขาได้ยินเสียงอันเงียบเชียบจากระยะไกล
ปัง!
รถลากเลื่อนของ อเล็กซ์ สั่นไปชั่วขณะ ขณะที่ เขาพุ่งตรงไปด้วยความเร็วทั้งหมดของเขา
“เดี๋ยว-”
ชิง!
ร่างสองซีกได้ล้มลงกับพื้น
อเล็กซ์ มองดูศพด้วยสายตาที่คับแคบ
‘เสื้อผ้าสีดำที่ทำมาจากหนัง มีดสั้น หน้าไม้ และ หมวก’
‘เขาเป็นโจร แต่ดูแข็งแกร่งกว่า ฉันรู้สึกได้ถึงการต่อต้านจากดาบของฉัน’
อเล็กซ์ มองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่ได้ยิน มองเห็น หรือรู้สึกถึงใครอีกเลย
‘หน่วยสอดแนม’
อเล็กซ์ หรี่ตาลง
‘ฉันไม่สามารถทำผิดพลาดเหมือนก่อนหน้านี้ได้!’
อเล็กซ์ ค่อยๆ ดึงดาบของเขากลับและซ่อนมันให้แขวนอยู่ด้านหลังของเสื้อคลุม หลังจากนั้น เขาก็เคลื่อนตัวไปอย่างเงียบๆ อย่างรวดเร็ว บนพื้นที่โล่งของเขา
อเล็กซ์ อยู่ในป่ามานาน และ เขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเงียบเชียบ
อเล็กซ์ เดินไปรอบๆ ที่โล่งของเขาเป็นวงกลมกว้าง โดยไม่เคยทิ้งเกวียนไว้นานเกินไป เพราะเขาจะต้องจับตาดูมัน
อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ ก็ไม่พบโจรคนที่สอง แม้จะค้นหานานกว่า 5 นาทีแล้วก็ตาม
ในที่สุด อเล็กซ์ ก็กลับมาที่รถลากเลื่อนของเขาและนั่งลงอีกครั้ง
เขาหวังว่าค่ำคืนนี้จะจบลงในไม่ช้า
เวลาได้ผ่านไปอย่างเงียบๆ สำหรับ อเล็กซ์
สิ่งเดียวที่เป็นเพื่อนของ อเล็กซ์ ก็คือความคิดของเขา
ขณะเดียวกัน ณ ค่ายแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร ชายวัยกลางคนที่สวมผ้าปิดตา กำลังจ้องมองไปที่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ดูรุงรัง
“ดูจากที่เขายังไม่กลับมา แสดงว่าเขาน่าจะตายไปแล้ว” ชายคนนั้นกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่
“ไรอัน เป็นหน่วยสอดแนมที่ดีที่สุดของเรา!” ชายหนุ่มตะโกนขณะที่เขาจ้องมองไปที่ชายคนนั้น “เขาผ่านเรื่องเลวร้ายมามาก! ผมแน่ใจว่าเขาจะต้องยังมีชีวิตอยู่!”
“แล้วทำไมเขาถึงยังไม่กลับมา?” ชายที่สวมผ้าปิดตากล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ผมไม่รู้!” ชายหนุ่มตะโกน “อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าเขาจะต้องมีชีวิตอยู่แน่! และนั่นคือเหตุผลที่เราจะต้องออกตามหาเขา!”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย” ชายชราส่งเสียงตวาด “นายเองก็น่าจะอยู่ในค่ายของฉันมานานพอสมควร นายก็น่าจะเดาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ถ้าเขาไม่กลับมา มันก็มีอยู่แค่สองสาเหตุ หนึ่งคือเขาออกจากกลุ่มของเราไป หรือไม่ก็เขาก็ตายไปแล้ว นอกจากนี้ พวกโจรจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกจับ และ ก็ไม่มีสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งอยู่ในบริเวณนี้ อีกทั้ง ไรอัน ยังไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งพวกเราไป”
“ดังนั้น ปล่อยวางเสียเถอะ” ชายที่สวมผ้าปิดตากล่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
กำปั้นของชายหนุ่มสั่นอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็ต้องแก้แค้น!”
ชายสวมผ้าปิดตากล่าวเยาะเย้ยชายหนุ่ม “แก้แค้น? นายแน่ใจหรือว่าตัวเองเป็นโจรจริงๆ? พวกเราจะแก้แค้นไปเพื่ออะไร?”
“พวกเราคือกลุ่มโจร!” ชายที่สวมใส่ผ้าปิดตากล่าวพูดด้วยความหงุดหงิด “พวกเราคืออาชญากร! พวกเราคือคนทรยศ! พวกเราทุกคนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อหารายได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม และ เราไม่ใช่ญาติมิตร หรือ ครอบครัว”
“พวกเราทุกคนล้วนมีครอบครัวเป็นของตัวเอง และ เราทุกคนต่างก็ต้องการเงิน พวกเราบางคนถึงกับต้องการมันสำหรับครอบครัวที่อดอยากของพวกเรา และ บางคนก็ต้องการมันเพื่อตัวของเราเอง ส่วนเหตุผลนั้นไม่สำคัญ”
“พวกเรามารวมตัวกัน ก็เพื่อทำเงิน มันก็เท่านั้นแหละ” ชายที่สวมผ้าปิดตาได้กล่าวพูดจนจบ
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ “ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็มาทำเงินกัน! ผู้ชายคนนั้นมาพร้อมกับเกวียนที่แบกไม้น้ำแข็งจำนวนมหาศาล และ นั่นไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงหรอกเหรอ?”
“นายใช้อารมณ์ตัดสินจนมองข้ามเหตุผลไปหมดแล้วงั้นเหรอ?” ชายที่สวมผ้าปิดตากล่าวถามด้วยสายตาที่คับแคบ
“พวกขอทานพยายามที่จะปล้นเขา และ พวกเขาเหล่านั้นก็ถูกฆ่าไปเกือบครึ่ง”
“นั่นแสดงให้เห็นว่าการฆ่าคนมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา”
“จากนั้น เขาก็ฆ่าหน่วยสอดแนมที่ดีที่สุดของเรา ทั้งๆที่เขามีหน้าที่แค่สอดแนมเท่านั้น ฉันรู้จักไรอันดี และ รู้ว่าเขาจะแค่สอดแนมเท่านั้น เขาจะไม่พยายามทำอะไรด้วยตัวเอง และ เขาก็ค่อนข้างฉลาด”
“แต่ไรอันกลับพลาดพลั้งจนตาย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า การรับรู้ของเหยื่อของเรานั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เขายังจัดการฆ่าไร้อันได้ คำสั่งที่ไรอันได้รับคือ ให้ล่าถอยทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย และ เขาก็มีกลอุบายมากพอที่จะหลบหนีระหว่างทาง”
“แต่ที่มันเป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าศัตรูมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าไรอัน”
“บุคคลเช่นนี้ จะต้องเป็นนักรบระดับทหารช่วงปลาย หรือ ขั้นสูงสุด เท่านั้น แม้ว่าพวกเราจะโจมตีพร้อมกัน มันก็คงทำให้พวกเราหลายคนต้องตายในการต่อสู้”
“แล้วยังไง? ตอนนี้พวกเราได้สูญเสียสมาชิกที่มากประสบการณ์คนหนึ่งไป หากพวกเราไม่ได้รับไม้น้ำแข็งเหล่านั้น ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการสูญเสียเปล่าหรอกเหรอ”
“มันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง!” ชายที่สวมผ้าปิดตาได้กล่าว
อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มกลับยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้นและรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม
“ก็ได้!” เขาตะโกนออกมา “งั้นผมจะทำเอง!”
ชายคนนั้นหันหลังกลับเพื่อออกจากค่าย
ฟุ่บ!
อย่างไรก็ตาม เท้าของเขาก็ได้หยุดลง เมื่อมีดาบมาจ่ออยู่ที่คอของเขา
“ฉันเสี่ยงให้นายเปิดเผยตำแหน่งของเราไม่ได้” ชายที่สวมผ้าปิดตากล่าวพูดด้วยความมุ่งมั่น
ชิง!
จากนั้น ดาบก็ตัดผ่านศีรษะในทันที
ชายชราที่อยู่เคียงข้างชายคนนั้น มองดูศพด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร
“ให้มาร์ธาและฮอลลี่คนละหนึ่งเหรียญทอง” ชายคนนั้นกล่าวพูดกับชายที่มีอายุมากกว่า
ชายชราพยักหน้า
มาร์ธา เป็นภรรยาของไรอัน หน่วยสอดแนมที่เสียชีวิต และ ฮอลลี่เป็นภรรยาของชายหนุ่มที่เสียชีวิตบนพื้น
“มอบเงินให้ครอบครัวขอทานที่ตายไปคนละ 10 เหรียญเงิน” ชายคนนั้นกล่าวเสริม
ชายชราพยักหน้าอีกครั้งและค่อยๆ ออกจากแคมป์
ตอนนี้ ชายที่สวมผ้าปิดตาได้ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง และ เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก
“ฉันไม่สามารถนำชีวิตของสหายเราทั้งหมดไปเสี่ยงได้” เขากล่าวพูดกับตัวเองอย่างเงียบๆ
“หากเราทุกคนตาย ครอบครัวของเราก็จะอดตายกันหมด”
“พวกเราไม่สามารถเสี่ยงได้”