ตอนที่แล้ว1266 - วิญญาณปราชญ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1268 - กองทัพสวรรค์ที่แข็งแกร่ง

1267 - อาวุธสวรรค์


1267 - อาวุธสวรรค์

ทุกคนเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวังและมาถึงโลกของวิหารบนชั้นสามสิบ พวกเขาค้นพบเบาะแสบางอย่างและหลังจากพูดคุยกันอย่างรอบคอบแล้ว พวกเขาก็คาดว่าสี่ราชวงศ์และดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงน่าจะมาถึงที่นี่ตั้งนานแล้ว

“พวกเขาจะกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดเลยหรือไม่?”

“ไม่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหยุดอยู่ที่นี่และไม่ลึกลงไป”

ต้วนเต๋อหยิบกระจกวิเศษของเขาออกมา หลังจากขัดเกลามันเล็กน้อยในที่สุดภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ปรากฏออกมา

พวกเขามองเห็นร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทยืนอ้อยอิ่งอยู่ในบริเวณนี้ชั่วคราวก่อนจะหายตัวไป

“ดังนั้น อันตรายที่แท้จริงจะอยู่ที่หกชั้นสุดท้ายของวิหารโบราณ แม้พวกเขาจะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ยังสามารถยืมความชั่วร้ายของวิหารนี้สังหารเราได้” เย่ฟ่านวิเคราะห์

ประตูหินที่นำไปสู่ชั้นสามสิบเอ็ดยังคงปิดอยู่ ทุกคนก้าวไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวังเพื่อพยายามเปิดประตู

“นั่นไม่ถูกต้องนัก”

พวกเขาครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นถอยห่างออกไปก่อนจะใช้ก้อนหินขนาดใหญ่กระแทกประตูให้เปิดออก

ด้านหน้าเป็นโลกอันมืดมิดมีเสียงฝนรินอยู่เล็กน้อย นี่ยังคงเป็นโลกใบใหญ่อีกแห่งที่มีร่างสีดำพร่ามัวกระจัดกระจายอยู่รอบทิศทาง

“มีสิ่งมีชีวิตอีกแล้ว แต่พวกมันคือตัวอะไร!”

ด้านในนี้แปลกมาก แม้กระทั่งดวงตาศักดิ์สิทธิ์ยังไม่อาจมองทะลุได้ และดูเหมือนว่าจะมีห่วงโซ่แห่งกฎเต๋าอันทรงพลังพาดผ่านท้องฟ้าอย่างพร่ามัว

ฝนกำลังเทลงมาอย่างต่อเนื่องและสายฟ้าสีเลือดหลายสายพันกันบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แสงที่ส่องสว่างออกจากสายฟ้าเหล่านั้นเต็มไปด้วยความลึกลับอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้น”

ในสายฝนยามค่ำคืนที่สว่างไสวด้วยสายฟ้าสีเลือด บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลน พวกเขาเห็นชุดเกราะสีดำมากมายยืนกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่พร้อมกับถืออาวุธไว้ในมือ

“นั่นเป็นอาวุธและชุดเกราะสวรรค์ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อวี้หัวเมื่อสองแสนปีก่อน สิ่งนี้ถูกเรียกรวมๆ กันว่ากองทัพสวรรค์!” จี้จื่อเยว่กล่าว

ดวงตาที่งดงามของนางเปล่งประกายด้วยรูปลักษณ์ที่น่าทึ่ง ก่อนที่จะมาที่นี่นางได้ศึกษาข้อมูลของราชวงศ์อวี้หัวเป็นจำนวนมากและรู้ว่าชุดเกราะที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่คืออะไร

“เจ้าสังเกตไหมว่าสิ่งที่เราเห็นเมื่อเราเข้ามาล้วนเป็นสิ่งมีชีวิต? เป็นไปได้ไหมว่าอาวุธเหล่านั้นก็เป็นสิ่งมีชีวิตด้วย…”

“มีบางอย่างผิดปกติ มีบางอย่างผิดปกติมาก” ต้วนเต๋อส่ายหน้าแล้วเดินไปรอบๆ ก่อนจะกล่าวว่า

“ข้าเคยเข้าไปในสุสานโบราณขนาดใหญ่หลายแห่ง ข้าพบบันทึกแปลกๆ บอกว่าราชวงศ์อวี้หัวล่มสลายด้วยตัวเองโดยไม่มีใครต่อต้านพวกเขาได้ เรื่องนี้ต่อให้เป็นคนปัญญาอ่อนก็รู้ว่าไม่จริง?!”

คำพูดของต้วนเต๋อทำให้ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่เช่นนี้จะล่มสลายด้วยตัวเองไปได้อย่างไร ต่อให้เกิดการต่อสู้ภายในครั้งใหญ่ขึ้นมันก็ไม่มีทางที่ลูกหลานทั้งหมดของพวกเขาจะถูกฆ่าตายได้

“ไม่มีใครเกิดทันยุคนั้นนี่เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ สิ่งที่พวกเขาแสวงหาคือขอบเขตอันยิ่งใหญ่เหนือกว่าจักรพรรดิ หากพวกเขาทำสำเร็จพวกเขาจะมีบรรพชนที่เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริง เมื่อถึงตอนนั้นมีแต่พวกเขาจะปกครองโลกทั้งใบอยู่ในกำมือ!”

ต้วนเต๋อกล่าว

“ข้าคิดว่าเจ้ามีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าจักรพรรดิดำด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถคิดข้อสรุปดังกล่าวออกมาได้” เย่ฟ่านกล่าวยกย่อง

“เหตุใดจักรพรรดิคนนี้ถึงไม่น่าเชื่อถือ” สุนัขสีดำตัวใหญ่คำรามด้วยความโกรธ

“ข้าไม่ได้บอกว่ามันต้องเป็นความจริง ข้าแค่เสนอความเห็นของตัวเอง”

ต้วนเต๋อพูดจบก็หยิบสิ่งของจำนวนมากออกมา พวกมันล้วนเป็นยันต์ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ก็อาวุธที่ใช้ปราบวิญญาณหยินทั้งนั้น

พวกเขารู้ว่าการทดสอบที่แท้จริงกำลังจะเกิดขึ้น วิหารบรรพชนนี้มีสามสิบหกชั้น ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาพวกเขายังไม่ได้พบอันตรายที่แท้จริง

และแน่นอนว่าอันตรายที่แท้จริงจะต้องเป็นวิญญาณชั่วร้ายของลูกหลานแห่งราชวงศ์อวี้หัวอย่างไม่ต้องสงสัย

“ระมัดระวังด้วย” ชายชราตาบอดกล่าวอย่างใจเย็น

หลังประตูหินนั้นมีโลกที่ไม่อาจเข้าใจได้ ในคืนที่ฝนตกและเต็มไปด้วยความมืดมิด สายฟ้าสีเลือดส่องประกายไปทั่วท้องฟ้าเป็นครั้งคราว

และเป็นไปตามที่คาดคำนวณไว้ ชุดเกราะที่ถืออาวุธเหล่านั้นเหมือนจะมีชีวิตจิตใจเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีร่างของสิ่งมีชีวิตอยู่ภายใน แต่พวกมันก็เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและเดินไปมาทั่วลานกว้างแห่งนี้ราวกับได้รับคำสั่ง

“ถูกต้อง นั่นคือชุดเกราะของกองทัพสวรรค์แห่งราชวงศ์อวี้หัว” ชายชราตาบอดก็พยักหน้าเช่นกัน

เมื่อสายฟ้าฟาดลงมา ความแวววาวก็ส่องไปที่ชุดเกราะและอาวุธเหล่านั้น บนชุดเกราะยังมีอักขระเต๋าสลักอยู่มากมาย ในขณะเดียวกันชุดเกราะแต่ละชิ้นก็มีลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไป

เห็นได้ชัดว่าชุดเกราะเหล่านี้มีสถานะที่แตกต่างกัน

กองทัพสวรรค์เป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่มาก มันยังแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อวี้หัวที่ต้องการจะรวมสวรรค์พิภพเข้าเป็นหนึ่งเดียว

แม้ว่าพวกเขาจะปกครองจงโจวได้สำเร็จแต่มันก็เป็นเพียงดินแดนที่มีมนุษย์อาศัยอยู่มากที่สุดเท่านั้น

สุดท้ายพวกเขามีความปรารถนาที่จะขยายอำนาจของตัวเองไปสู่ตงหวงที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตโบราณ ที่ราบแดนเหนือซึ่งเป็นสถานที่อยู่อาศัยของยักษ์น้ำแข็ง หนานหลิงดินแดนที่เผ่าอสูรสถาปนาอำนาจขึ้นมา รวมทั้งทะเลทรายตะวันตกซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับ

หากพวกเขารวบรวมทั้งห้าภูมิภาคเข้าด้วยกันได้จากนั้นก็ดูดกลืนร่างกายและวิญญาณของผู้บ่มเพาะทั้งหมด พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตอมตะที่ฝืนกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้ขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

“ข้าก็เชื่อว่าสิ่งที่โจรปล้นสุสานกล่าวจะเป็นเรื่องจริง” ฉีลั่วกล่าว เมื่อจ้องมองไปที่อักขระเต๋าบนชุดเกราะ

ในเวลาเดียวกัน เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ก็ใช้วิธีการของตนเองในการตรวจดูชุดเกราะและอาวุธเหล่านั้นด้วยความสงสัย และสิ่งที่พวกเขาได้รับก็คือไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในชุดเกราะเหล่านี้จริงๆ

แต่พวกเขาไม่ได้เกิดความตกใจมากนัก เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็นเรื่องสมเหตุสมผลอย่างมาก

ในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอมตะอีกต่อไปแล้ว นั่นหมายความว่าต่อให้ผู้ที่ควบคุมชุดเกราะเหล่านี้จะเป็นภูตผีจริงๆ แต่สุดท้ายพวกเขายังคงต้องตายหลังจากผ่านไปนานหลายแสนปี

และการที่ชุดเกราะเหล่านี้ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระย่อมแสดงให้เห็นว่าพวกมันไม่ได้ถูกควบคุมโดยสิ่งมีชีวิตอย่างแน่นอน

ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อวี้หัวต้องการทำอะไร? ทุกคนในโลกบอกว่าพวกเขาถูกทำลายไปแล้ว แต่จากสิ่งที่พวกเขาใช้ปกป้องวิหารแห่งนี้ต่อให้เป็นราชวงศ์ของสิ่งมีชีวิตโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเทียบความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้

เป็นไปได้ด้วยหรือที่จะมีใครทำลายพวกเขาได้จริงๆ?

“ไปดูที่อื่นกันเถอะ”

จากนั้นทุกคนก็ออกลาดตระเวนไปทั่วลานกว้าง มีวิหารมากมายที่นี่เกือบทั้งหมดเชื่อมต่อกับชั้นถัดไป หลังจากเดินไปหลายแห่งพวกเขาก็ตระหนักว่ามี “อาวุธสวรรค์” ที่ยังมีชีวิตอยู่บนชั้น สามสิบเอ็ดนับร้อยตัว

เมื่อพวกเขาเดินไปถึงจุดหนึ่งก็เห็นกลุ่มยอดฝีมือหลายคนกำลังต่อสู้อยู่ด้านหน้า

ในความเป็นจริงผู้คนไม่ต้องการหยุดที่นี่และกลัวว่าจะมีใครไปถึงจุดสูงสุดของวิหารบรรพชนก่อน อย่างไรก็ตามนี่เป็นช่วงท้ายของการเดินทางแล้วและอันตรายทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ก็ระดมออกมาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะนี้ผู้คนจำนวนมากกำลังต่อสู้อยู่กับชุดเกราะและอาวุธสวรรค์ เสียงคำรามและเสียงกรีดร้องดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา

กลุ่มผู้คนที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นล้วนมาจากเผ่าพันธุ์โบราณทั้งสิ้น ทุกคนที่เข้ามาในนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือผู้แข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจที่จะคว้าหม้อทองเหลืองใบนั้นมาให้ได้

เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาจึงเป็นกลุ่มแรกๆ ที่มาถึงชั้นสามสิบเอ็ด

ฝนตกหนักหนักมีสายฟ้าส่องสว่างไปทั่ว เมื่อมีคนเห็นว่าเผ่าพันธุ์โบราณกำลังจะทะลวงเข้าสู่ชั้นที่สามสิบสองพวกเขาก็คำรามด้วยความโกรธและรีบเข้าร่วมการต่อสู้ทันที

อาวุธและชุดเกราะสวรรค์ทุกชิ้นแม้จะมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก แต่ในทางกลับกันพวกมันกลับไม่มีทักษะการโจมตีใดๆ เลย นั่นทำให้กลุ่มสิ่งมีชีวิตโบราณสามารถรับมือได้โดยไม่กินแรงมากนัก

ปัง!

แต่ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังคิดว่าสิ่งมีชีวิตโบราณจะออกเดินทางต่อไปได้อย่างง่ายดาย กระบี่สีดำซึ่งเป็นอาวุธสวรรค์ชิ้นหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากพื้นโดยไม่มีผู้ควบคุม

มันฟาดฟันเข้าหากลุ่มสิ่งมีชีวิตโบราณหลายสิบคนและทำให้เกิดคลื่นระเบิดครั้งใหญ่ทันที

การโจมตีของกระบี่นี้น่าสะพลึงกลัวอย่างยิ่ง มันนำพาทะเลสายฟ้าสีเลือดให้โหมกระหน่ำเข้าหากลุ่มยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์โบราณอย่างรุนแรง

แม้ว่ากลุ่มสิ่งมีชีวิตโบราณเหล่านั้นจะเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสายฟ้าสีเลือดที่ระเบิดออกมาด้วยพลังทำลายล้างไม่สิ้นสุด

เพียงไม่กี่ลมหายใจกลุ่มสิ่งมีชีวิตโบราณมากกว่าสามสิบคนก็ถูกกวาดล้างออกไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด