ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 787 อสูรหญิง (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 787 อสูรหญิง (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
ใบมีดทรงกลมบินเข้ามาหาหลี่ฉิงซาน และทันใดนั้นมันก็ระเบิดแสงสีแดงเลือดออกมาซึ่งทำให้ใบมีดขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่าโต๊ะกลม มันหมุนวนอย่างรวดเร็วและส่งเสียงโหยหวนราวกับสามารถตัดผ่าทุกสิ่ง
หลี่ฉิงซานยืนกอดอกและหรี่ตามอง
กระดองเต่าจิตวิญญาณ!
กระจกสีฟ้าอ่อนบางๆที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนหกเหลี่ยมจำนวนนับไม่ถ้วนปิดกั้นเส้นทางของใบมีดทรงกลม
อย่างไรก็ตามการปะทะที่เขาคาดหวังไม่ได้เกิดขึ้น ใบมีดทรงกลมทะลุผ่านกระดองเต่าจิตวิญญาณด้วยแสงสว่างวาบและบินไปที่ใบหน้าของหลี่ฉิงซานโดยตรง
ดวงตาของหลี่ฉิงซานยิ่งหรี่ลง กระดองเต่าจิตวิญญาณไม่ถูกแตะต้องแม้แต่น้อย ใบมีดทรงกลมสามารถเดินทางผ่านห้วงมิติ มันทำให้การป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของเขาไร้ประโยชน์และยังสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน การโจมตีนี้อันตรายยิ่งกว่าการลอบโจมตีอย่างเงียบๆก่อนหน้านี้
ใบมีดกำลังจะถึงตัวหลี่ฉิงซานเมื่อมันชะลอความเร็วและร่วงหล่นลง
แรงโน้มถ่วง!
การปะทะระหว่างผู้แข็งแกร่งจะตัดสินในเสี้ยววินาทีหรืออาจเร็วกว่านั้น เพียงเสี้ยววินาทีก็สามารถตัดสินชีวิตและความตาย
หลี่ฉิงซานยื่นมือออกไป ทุกที่ที่รอยแตกสีดำเคลื่อนผ่าน แสงสีแดงจะแตกสลาย เขาคว้าใบมีดทรงกลมที่กำลังหมุนโดยตรง และมันก็หยุดนิ่งทันที มันทิ้งรอยแผลไว้บนมือของเขาแต่บาดแผลก็ฟื้นตัวในพริบตา
“แขกผู้ทรงเกียรติจากแดนไกล เหตุใดไม่แสดงตัวออกมาและทักทายเจ้าของสถานที่แห่งนี้?”
“เจ้าเป็นเจ้าของทุ่งอสูรกายแห่งนี้งั้นหรือ?”
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นห่างออกไปสิบก้าว ก่อนหน้านี้แม้แต่หลี่ฉิงซานก็ล้มเหลวในการตรวจจับกลิ่นอายใดๆของฝ่ายตรงข้าม นางสวมหน้ากากที่ดูน่ากลัวและมองหลี่ฉิงซานอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาสีแดงเลือด
“อสูรหญิง!”
หลี่ฉิงซานรู้สึกอัศจรรย์ใจ แต่ไม่ใช่เพราะเขารู้สึกตื่นเต้นที่เห็นผู้หญิง หลังจากทั้งหมดตลอดเวลาที่ผ่านมาอสูรทั้งหมดที่ลงมายังทุ่งอสูรกายล้วนเป็นผู้ชายซึ่งทำให้มันดูเหมือนมีความไม่สมดุลด้านเพศ แต่นั่นก็ดูสมเหตุสมผลเมื่อคิดเพิ่มเติม ท้ายที่สุดความกระหายเลือดและความหิวโหยการต่อสู้ก็เป็นลักษณะของผู้ชายมากกว่า
ตำนานเล่าว่าอสูรเพศชายน่าเกลียดน่ากลัวมากขณะที่อสูรเพศหญิงงดงามมาก หลี่ฉิงซานสงสัยว่าหน้าตาของนางจะเป็นอย่างไรภายใต้หน้ากาก ดังนั้นเขาจึงเผยรอยยิ้ม “ถูกต้อง ข้ามีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง ดังนั้นเหตุใดเราไม่มาพูดคุยกันเรื่องการยอมจำนนต่อข้า!”
“เหตุใดเราไม่พูดคุยกันเรื่องการมอบทุ่งอสูรกายให้ข้า? ด้วยวิธีนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!” อสูรหญิงเย้ยหยัน
“โอ้ ไว้ชีวิตข้างั้นหรือ? เจ้าทำอาวุธหาย แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?” หลี่ฉิงซานโบกดาบทรงกลมในมือของเขา เขาไม่รู้ว่ามันทำมาจากสิ่งใด เขาบีบมันแต่มันกลับไม่บุบสลาย
“แล้วเจ้าจะทำสิ่งใดข้าได้?” อสูรหญิงโบกมือ ดาบทรงกลมกลับไปอยู่ในมือของนาง หลังจากนั้นมันก็หายไปพร้อมกับร่างของนาง
จากการปะทะสองครั้งก่อนหน้านี้ นางสามารถบอกได้ว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าที่นางคิด แต่นั่นไม่ได้ทำให้นางกลัว นางมีทักษะการเคลื่อนไหวผ่านห้วงมิติและมีทักษะปกปิดตัวตน นางสามารถซ่อนและเคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติ
ทักษะของนางเหนือกว่าทักษะของเผ่ารัตติกาลอย่างเห็นได้ชัด ความสามารถในการเคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติทำให้ศัตรูไม่สามารถค้นพบนางไมว่าประสาทสัมผัสของพวกเขาจะแหลมคมเพียงใด แม้นางจะไม่สามารถเอาชนะเขา แต่เขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดกับนางเช่นกัน
การต่อสู้กับนางต้องอาศัยทักษะในการควบคุมห้วงมิติที่ทรงพลัง และจากการตัดสินของนาง โลกใบนี้ไม่ใช่โลกใบเล็กแต่มันเป็นโลกหลักที่สมบูรณ์แบบใบหนึ่ง แม้มันจะเป็นโลกระดับกลางที่มีเพียงผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์สามครั้งก็ตาม
ท่ามกลางผู้ฝึกตนบนโลกใบนี้ อาจมีคนไม่มากที่ครอบครองความสามารถในการควบคุมห้วงมิติและมีทักษะปกปิดตัวตนเช่นเดียวกับนาง นอกจากนั้นชายที่อยู่ตรงหน้านางก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์สองครั้ง ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะบรรลุสิ่งนั้น
อย่างไรก็ตามนางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หมัดแรกที่เขาปล่อยออกมาทำให้นางรู้สึกว่ามันสามารถสั่นสะเทือนห้วงมิติ แต่นางเชื่อว่ามันเป็นเพียงความรู้สึกที่ผิดพลาด
‘ผู้หญิงมักชอบผู้ชายที่หยาบคายเล็กน้อยเสมอ!’
หลี่ฉิงซานลูบคางและหัวเราะคิกคัก ปราณปีศาจของเขาพุ่งขึ้นสู่อากาศและร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้น
สามเมตร สิบเมตร สามสิบเมตร หนึ่งร้อยเมตร หนึ่งร้อยห้าสิบเมตร
เขายืนหยันด้วยเขาวัว กีบเท้าวัว กรงเล็บเสือ หางเสือ แผ่นหลังของเขากว้างราวกับกระดองเต่า และปีกของเขาก็กางออกเหมือนวิหคเพลิงอมตะ
‘ปีศาจ!’ อสูรหญิงลอบสั่นสะท้านอยู่ภายใน นางไม่เคยคิดว่าคู่ต่อสู้ของนางที่ดูเหมือนมนุษย์จะเป็นปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังรู้สึกว่าเขาค่อนข้างพิเศษซึ่งทำให้นางคิดถึงบางคนจากพิภพสวรรค์ด้วยเหตุผลบางอย่าง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฉิงซานแปลงร่างเป็นปีศาจหลังจากกำเนิดใหม่ด้วยวิหคเพลิงนิพพาน เขาไม่รีบร้อนจัดการอสูรหญิงผู้นี้ แต่เขากลับเรียกกระดองเต่าจิตวิญญาณออกมาสร้างกระจกบานใหญ่ขึ้นเพื่อตรวจสอบรูปลักษณ์ของตนเอง
เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของตน ในอดีตเมื่อเขาฝึกฝนปีศาจวัวและปีศาจพยัคฆ์ พวกมันเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์ซึ่งทำให้เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่ดุร้ายออกมา
แต่ตอนนี้ดวงตาที่ดูสงบนิ่งและแผ่นหลังที่ขยายกว้างของเขาทำให้เขาปลดปล่อยความรู้สึกสงบออกมา ปีกคู่มหึมาของเขาราวกับเมฆบนท้องฟ้า ขนทุกเส้นราวกับถูกควบแน่นขึ้นมาจากไฟ
กล่าวตามความเป็นจริง มันดูค่อนข้างขัดแย้งเมื่อปีกที่งดงามราวกับเทพปักษาปรากฏอยู่บนร่างปีศาจที่ดูดุร้ายและน่าเกลียดน่ากลัว มันตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง แต่มันกลับดูไม่แปลกแยก ตรงข้าม มันดูเหมือนเขาเกิดมาเพื่อเป็นเช่นนั้นและควรเป็นเช่นนั้น
รูปร่างหน้าตาของเขาแตกต่างจากมนุษย์ไปมาก แต่ภายใต้ธรรมชาติปีศาจกลับมีกลิ่นอายของความบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ หากมนุษย์เห็นร่างนี้ พวกเขาอาจรู้สึกหวาดกลัวและเคารพบูชาในเวลาเดียวกัน พวกเขาอาจคิดว่านี่คือเทพปีศาจที่มีความงามเหนือมนุษย์อย่างสมบูรณ์
“หากเจ้าไม่ยอมจำนนตอนนี้ ข้าจะเริ่มโต้กลับ ข้าเพียงกลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าโดยไม่ตั้งใจ”
เสียงเหมือนโลหะขูดกันของหลี่ฉิงซานดังก้องอยู่ในหมู่เมฆและสะท้อนไปทั่วทุ่งอสูรกาย
อสูรหญิงเคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติ นางอยู่ในโลกสีขาวที่เงียบงัน มันเป็นความว่างเปล่าที่ไร้ขอบเขตซึ่งอาจทำให้ผู้คนหลงทางอยู่ในนั้นตลอดกาล ทุกย่างก้าวต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
นางส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปที่ทุ่งอสูรกาย มันไม่ใช่เพียงการค้นหาโอกาสในการโจมตีแต่ยังเป็นการควบคุมทิศทาง มิฉะนั้นนางอาจหลงทางอยู่ที่นั่นจริงๆ
แสงสะท้อนในดวงตาของนางพร่ามัว มันไม่สามารถแยกแยะด้วยการวิเคราะห์เชิงตรรกะแต่ต้องใช้สัญชาตญาณที่แหลมคมก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง
แต่กระทั่งนางจะอยู่ที่นี่ นางก็ยังสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบาย สีสันจากเขาส่องประกายมากจนนางไม่สามารถมองดูโดยตรงได้ แต่นางยังเย้ยหยันอยู่ภายใน
‘ข้าซ่อนตัวอยู่ที่นี่ มาดูกันว่าเจ้าจะทำสิ่งใดข้าได้’
ราวกับเขากำลังตอบความคิดของนาง หลี่ฉิงซานยิ้มและส่งหมัดไปยังตำแหน่งที่นางซ่อนตัวอยู่
“ปัง!”
ทันใดนั้นเสียงดังกึกก้องก็ทำลายความเงียบของห้วงมิติ โลกสีขาวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนที่นางจะสามารถตอบสนอง พลังของแรงสั่นสะเทือนก็กลืนกินนางเข้าไปแล้ว