SW-ตอนที่ 44 แร่เหล็กทมิฬ
ไม้น้ำแข็ง?
เกวียนลากเลื่อนนี่ทำมาจากไม้น้ำแข็ง?
จิตใจของ อเล็กซ์ มุ่งไปที่ชาวบ้านที่เป็นมิตรทันที พวกเขาไม่เพียงแต่มอบ ไม้น้ำแข็งจำนวนมากแก่เขา แต่พวกเขายังสร้าง เกวียนลากเลื่อนที่ทำมาจากไม้น้ำแข็งให้อีกด้วย สิ่งนี้ทำให้ หนี้บุญคุณระหว่างเขากับหมู่บ้าน ถูกใช้จนหมดเกลี้ยง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่กี่วินาที อเล็กซ์ ก็ละสายตาจากเกวียนเลื่อนและหันไปมองทางลาด
อเล็กซ์ มองเห็นเลือดบนทางลาด เช่นเดียวกับ ศพสองศพ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่บางคนกำลังดึงศพไปที่ด้านข้างของทางลาด และ หลังจากที่พวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขาก็โยนศพเข้าไปในป่า
เห็นได้ชัดว่าพวกโจร ไม่ได้รับการฝังศพที่เหมาะสม
ฉากดังกล่าวดูไม่สำคัญ แต่มันทำให้ อเล็กซ์ รู้สึกจิตใจไม่มั่นคง
บนโลกของเขา แม้แต่ฆาตกรสังหารหมู่ ก็ยังได้รับการฝังศพ เพราะหลังจากที่ตายไป มนุษย์ทุกคนล้วนเหมือนกันทั้งหมด
แต่ที่นี่ โจรเหล่านี้ กลับถูกทิ้งโยนข้างถนน
นอกจากนี้ ไม่มีใครสนใจฉากนี้ แต่ อเล็กซ์ รู้สึกว่าฉากนี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างโลกนี้กับโลกที่เขาเคยอยู่ได้เป็นอย่างดี
แท้จริงแล้ว ชีวิตไม่ได้มีความสำคัญมากในโลกนี้
‘ฉันฆ่าหนึ่งในนั้นไป’ อเล็กซ์ คิดอย่างไม่สบายใจ
อเล็กซ์ รู้สึกถึงความผิดที่ปรากฏอยู่ในอกของเขา แต่มันก็ไม่ได้ท่วมท้นอย่างที่เขาคิด
มนุษย์ทุกคนจะต้องเคยคิดว่า การฆ่ามนุษย์คนอื่นครั้งแรกนั้นรู้สึกอย่างไร บางคนอาจจะคิดว่าพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ความจริงนั้นมักจะแตกต่างออกไปเสมอ
การปลิดชีวิตมนุษย์ด้วยกัน จะให้ความรู้สึกกดดัน และ ความรู้สึกที่ผิดพลาดอยู่เต็มอก
แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะเกลียดชัง คนอื่น แต่เมื่ออีกคนเสียชีวิตอย่างกระทันหัน แม้แต่คนแรก ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
และความรู้สึกนี้จะแข็งแกร่งมาก หากใครต้องมารับผิดชอบต่อการตายของพวกเขา
การอยากให้คนอื่นตาย เป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่เมื่อเกิดขึ้นจริง มันก็ยังให้ความรู้สึกไม่สบายใจ
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของ อเล็กซ์ ไม่ได้รุนแรงเท่ากับที่เขาจินตนาการเอาไว้ เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังสามารถจัดการได้
‘นี่ถือเป็นเรื่องปกติงั้นเหรอ?’ อเล็กซ์ คิด
ชี่—
‘ไม่รู้แล้ว’
“นี่! รีบนำเกวียนลากเลื่อนของเธอออกมาจากใต้ซากปรักหักพังเถอะ พวกเรายังต้องรีบทำความสะอาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าคนอื่นๆ” ทหารยามได้กล่าวพูดและดึง อเล็กซ์ ออกจากความคิดของเขา
“เอ่อ ขอโทษ” อเล็กซ์ พูดอย่างไม่ใส่ใจ
จากนั้น อเล็กซ์ ก็เดินไปที่เกวียนลากเลื่อนของเขาแล้วผลักก้อนหินออกจากเกวียนลาก หลังจากทำความสะอาดเล็กน้อย อเล็กซ์ ก็มองไปที่ เกวียนอีกครั้ง
เนื่องจากเชือกที่รัดไม้น้ำแข็งได้ขาด ทำให้ ไม้น้ำแข็งหล่นเกลื่อนกราดข้างเกวียน
ดังนั้น อเล็กซ์ จึงได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเก็บกู้ไม้น้ำแข็ง
จากนั้น เกวียนลากเลื่อนก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายอีกครั้ง
“ยังไงก็ตาม ยินดีต้อนรับสู่ เซ็นทรัลวิลด์!” ทหารยามกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม
“นั่นคือชื่อเมืองงั้นเหรอ?” อเล็กซ์กล่าวถาม
ทหารยามพยักหน้า “ใช่ ถ้าเธอต้องการไปยังโซนสตอร์มอีเกิ้ล เธอเจะต้องมุ่งหน้าไปทางประตูเมืองทางใต้ อย่างไรก็ตาม ฉันแนะนำให้เธอพักอยู่ที่นี่สักคืน เพราะ ที่นั่นอยู่ห่างไกลออกไปประมาณ 1 วัน และ นี่ก็บ่ายแล้ว”
อเล็กซ์ พยักหน้า “ขอบคุณ” เขากล่าว
จากนั้น อเล็กซ์ ก็ดึงเกวียนลากเลื่อนเข้าไปในเมือง
ทหารยามและคนของเขาเริ่มทำความสะอาดทางลาด ขณะที่ อเล็กซ์ เข้าไปในเมือง
หลังจากดึงไปได้สักพัก อเล็กซ์ ก็มาถึงประตู และ เขาได้รับอนุญาติให้เข้าไปโดยไม่ได้รับการตรวจสอบใดๆ แน่นอนว่า ทหารยาม อาจจะตรวจสอบเกวียนลากเลื่อนของเขาแล้วก่อนหน้านี้
อเล็กซ์ เห็นว่าจริงๆ แล้ว ถนน ไม่ได้มีหิมะปกคลุม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา อเล็กซ์ เดินไปข้างเกวียนลากเลื่อนและคลายเชือกที่พันรอบล้อออก ทันใดนั้น ล้อที่อยู่บนเกวียนลากเลื่อน ก็ถูกลดลงมากระแทกกับพื้น
หลังจากคลายล้อทั้งสี่แล้ว อเล็กซ์ ก็ไปที่มุมหนึ่งของ เกวียนลากเลื่อน
กริ๊ก!
อเล็กซ์ ยกมุมขึ้นแล้วขยับล้อจนคานไม้ตั้งตรง จากนั้น อเล็กซ์ ก็รักษาคานให้ตรงแล้วผูกเชือกเข้ากับคานอีกครั้ง
หลังจากทำอย่างนั้นจนครบทั้งสี่มุมแล้ว อเล็กซ์ ก็ดึงเกวียนลากเลื่อนเข้าไปในเมือง
เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้แรงในการดึงมากนัก เนื่องจากการดึงบางสิ่งที่เคลื่อนที่ด้วยล้อนั้น ง่ายกว่าการลากเลื่อนผ่านพื้นหิมะ
ขณะที่ อเล็กซ์ เดินทางผ่านเมือง หลายคนก็มองดูเขาด้วยความสนใจ แน่นอนว่าพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับความโกลาหลที่ด้านหน้าประตูทางเหนือ และ พวกเขา ก็เดาว่า อเล็กซ์ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่มีชาวเมืองคนใด ริเริ่มเข้ามาเริ่มต้นสนทนา พวกเขาแค่สนใจที่จะมองดูเท่านั้น
เมืองนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก มันอาจเป็นระยะทางเพียงแค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้น
ในที่สุด อเล็กซ์ ก็เดินผ่านตลาดแห่งหนึ่ง โดยเขาพยายามระวังให้มากที่สุด ไม่ให้ เกวียนลากเลื่อนของเขาไปสร้างความเสียหายใดๆ
ทันใดนั้น อเล็กซ์ ก็รู้สึกว่าดาบของเขาสั่นสะเทือน อเล็กซ์ หยิบดาบของเขาออกมาแล้วมองดูมันด้วยความสนใจ
พลังที่มองไม่เห็น ได้ดึงดูดความสนใจของ อเล็กซ์ ไปที่แผงลอยข้างถนน แผงขายทำมาจากไม้ และ มีขนาดค่อนข้างกว้างและลึก นอกจากนี้ อเล็กซ์ เห็น หิน อัญมณี และ เหล็ก จัดแสดงอยู่ ที่ด้านหน้า อีกทั้งเขายังสามารถเห็นแร่หลายชนิดที่ด้านหลังของแผง
อเล็กซ์ จำได้ว่าเขาสามารถเพิ่มพลังของดาบของเขาด้วยแร่ได้ และ เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ดาบของเขาสั่น
“มีอะไรให้ช่วยมั้ย?” พนักงานบนแผงกล่าวถามหลังจากเห็นว่า อเล็กซ์ จับตามองดูร้านของเขาอยู่
อเล็กซ์ หยิบดาบของเขาออกมาอย่างใจเย็นและวางมันลงบนแผง “คุณมีแร่หลอมอาวุธที่มีประโยชน์สำหรับนักรบในอาณาจักรแม่ทัพบ้างหรือไม่” อเล็กซ์ กล่าวถาม
อเล็กซ์ อยู่ในอาณาจักรพลังที่หนึ่ง ซึ่งถูกเรียกว่าอาณาจักรทหารสำหรับนักสู้ทางกายภาพ ส่วนอาณาจักรแม่ทัพ คืออาณาจักรพลังที่สอง
อเล็กซ์ รู้ว่าอาวุธของเขาอาจมีประโยชน์สำหรับนักรบในอาณาจักรทหาร ดังนั้น ถ้าเขาต้องการเพิ่มพลังของมันด้วยแร่ เขาจะต้องทำให้มันมีพลังอยู่ในอาณาจักรพลังที่สอง
เมื่อ พนักงานขายได้ยินคำพูดของ อเล็กซ์ รอยยิ้มที่สดใสก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “พวกเราค่อนข้างเชี่ยวชาญเรื่องแร่ และ แร่เหล็กทมิฬ ถือเป็นแร่ที่นักรบในอาณาจักรแม่ทัพเลือกใช้” ชายคนนั้นกล่าว
อเล็กซ์ พยักหน้า “แล้วจะต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่ ถึงจะหลอมดาบด้วยแร่เหล็กทมิฬได้?” เขากล่าวถาม
“พวกเราไม่ได้รับหลอมอาวุธ” ชายคนนั้นกล่าว
“ผมรู้ แต่ผมหมายถึง ว่าจะต้องใช้แร่เหล็กทมิฬเท่าไหร่ในการหลอมดาบ?” เขากล่าวถาม
ชายคนนั้นมองไปที่ดาบบนโต๊ะ
“40 เหรียญทอง” เขากล่าว “พวกเราได้รับแร่เหล็กทมิฬมาจากเหมืองในท้องถิ่น ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงถูกมาก ปกติแล้ว ท่านจะต้องจ่ายเงินมากกว่า 50 เหรียญทองเพื่อซื้ออะไรแบบนี้”
ดวงตาของ อเล็กซ์ เบิกกว้าง
“โอเค เข้าใจแล้ว ไว้เจอกันใหม่” เขากล่าว
พนักงานขาย รู้สึกท้อแท้ ที่ อเล็กซ์ ไม่ได้ซื้ออะไรเลย ดังนั้นเขาจึงกล่าวคำว่า ‘ไว้มาใหม่’ อย่างไม่มีแรงจูงใจ
“ดูเหมือนว่าแกคงจะต้องรอไปก่อน” อเล็กซ์ กล่าวพูดเบาๆ กับดาบของเขา
น่าแปลกที่ อเล็กซ์ รู้สึกเหมือนดาบของเขาสั่นเล็กน้อย
อเล็กซ์ รู้ดีว่าดาบของเขาไม่ใช่ดาบธรรมดา แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสามารถของดาบ
เขาอาจจะต้องรอจนกว่าเขาจะมีเงินมากพอในการอัพเกรดเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
หลังจากดึงเกวียนลากเลื่อนไปได้สักพัก อเล็กซ์ ก็มาถึงประตูทางใต้และเขาก็ผ่านไป
เจ้าหน้าที่บอกว่า อเล็กซ์ ควรค้างคืนที่นี่ แต่ อเล็กซ์ ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น
ก่อนอื่น อเล็กซ์ ไม่มีเงิน และ เขาไม่สามารถจ่ายเป็นไม้น้ำแข็งได้ นอกจากนี้ มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะใช้เวลาทั้งคืนในเมือง ในเมื่อเขาสามารถนอนบนพื้นได้
ประการที่สอง นี่ยังเป็นตอนบ่ายอยู่ และ อเล็กซ์ สามารถเดินทางได้หลายชั่วโมงในแต่ละวัน
ประการที่สาม อเล็กซ์ คุ้นเคยกับการนอนในป่า
ดังนั้น อเล็กซ์ จึงตัดสินใจเดินทางต่อโดยตรง