บทที่ 6 : ลักษณะพิเศษ
หลังจากนอนหลับสบายเฟยหลินตื่นมาด้วยความหิวเพราะไม่ได้กินข้าวมาทั้งวันตั้งแต่เมื่อวาน
เมื่ออิ่มท้องจากร้านอาหารใกล้ห้องทดลองแล้วก็ขึ้นรถม้าไป
ตอนนี้เขากำลังจะไปเยี่ยมชายที่อาจรู้วิธีค้นหาองค์กรลึกลับ
รถม้าหยุดที่หน้าสำนักงานนักสืบ หลังจากเฟยหลินเคาะประตูเพื่อขออนุญาตและเข้าไปในสำนักงานนักสืบ
มีโต๊ะใหญ่ โซฟา โต๊ะกาแฟ และสิ่งของอื่น ๆ ภายในสำนักงานนักสืบ ห้องไม่ใหญ่แต่ตกแต่งอย่างมีสไตล๋
เวลานี้มีชายอายุสามสิบเศษสวมแว่นกรอบทองนั่งอยู่ที่โต๊ะ ชายคนนี้คือแคฟฟี่ โคลอนซึ่งเจอกันไม่นานนี้
เฟยหลินคิดว่าคนที่อาจรู้วิธีค้นหาองค์กรลึกลับก็คือนักสืบแคฟฟี่
ในฐานะนักสืบ อีกฝ่ายอาจกล่าวได้ว่าเป็นคนประเภทที่มีข้อมูลรอบรู้มากที่สุด ถ้าต้องการสอบถามเกี่ยวกับองค์กรลึกลับ คงมีแต่ต้องลองดูและคนที่น่าจะรู้มากที่สุดก็คือเขาเท่านั้น
"คราวนี้มีธุระอะไรเหรอ?"
แคฟฟี่มองเฟยหลินด้วยความสงสัย
หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่างออกและพูดอย่างรวดเร็ว
"คงไม่ได้มาจ้างงานผมอีกใช่ไหม? ผมขอบอกล่วงหน้าไว้เลยว่าถ้ายังเป็นงานแบบเดิม ผม… ขอ… ไม่รับงาน… พอดีอยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกสักสองสามปี"
"คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจ้างงาน แต่มาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับข่าวบางอย่าง แน่นอนว่าจะตอบแทนให้ด้วย" เมื่อเห็นนักสืบแคฟฟี่ที่ค่อนข้างประหม่าเฟยหลินยิ้มและส่ายหน้า
"ถ้าไม่ได้มาจ้างงานก็ไม่มีปัญหา" แคฟฟี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและถาม
"งั้นคุณต้องการสอบถามข้อมูลอะไรล่ะ? ส่วนรางวัลก็แค่คำขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้ก่อนหน้าก็พอแล้ว"
"ในเมื่อมีสัตว์ประหลาดลึกลับ ก็ต้องมีองค์กรลึกลับด้วยใช่ไหม?"เฟยหลินหุบยิ้มและถามด้วยท่าทางเคร่งขรึมเล็กน้อย
"ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้?" แคฟฟี่ไม่ตอบแต่ถามกลับ
"คุณรู้ข่าวจริง ๆ ด้วย"
เฟยหลินรู้สึกตื่นเต้นจากปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสรุปได้ว่าแคฟฟี่รู้ข่าวบางอย่างเกี่ยวกับองค์กรลึกลับ
"มีองค์กรลึกลับที่เกี่ยวข้องจริง และคุณต้องตอบด้วยว่ากำลังคิดทำอะไร" แคฟฟี่ถอดแว่นขอบทองออกมาเช็ดแล้วใส่ใหม่
"ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งของมัน"เฟยหลินบอกจุดประสงค์ของตัวเองโดยตรงเพราะไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง
"เข้าร่วม?"
"ใช่… เข้าร่วม"เฟยหลินพยักหน้า
"พวกผีน่ะอันตรายเกินไป ถ้าเจอคราวหน้าคงเอาตัวไม่รอดแน่"
"ผมต้องการเข้าร่วมองค์กรลึกลับและเรียนรู้วิธีรับพลังเร้นลับ เพื่อหาทางควบคุมพลังในการต่อสู้กับพวกผี"
เมื่อเข้าใจสิ่งที่เฟยหลินกำลังคิด แคฟฟี่เอ่ยอย่างปลอบโยนว่า
"ความจริงคุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก แม้พวกผีและสิ่งอื่น ๆ จะเป็นอันตรายแต่ก็ไม่น่าจะพบเจอได้บ่อยนะ"
"ผมเป็นนักสืบมาหลายปี เมื่อคืนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เจออะไรแบบนี้"
"แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แถมผลลัพธ์ยังเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย ผมเองก็ไม่ต้องการมอบชีวิตให้กับความตายที่ไม่รู้จะมาตอนไหน"เฟยหลินส่ายหน้าและพูดอย่างจริงจัง
"ฟังดูมีเหตุผลดีนี่"
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แคฟฟี่อดไม่ได้ที่จะเห็นด้วยกับคำพูดของเฟยหลิน
แม้ความน่าจะเป็นของการเผชิญหน้ากับพวกผีจะมีน้อยมาก แต่เมื่อพบแล้วผลลัพธ์มันถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามีปืน ส่วนเฟยหลินมีทักษะนักแม่นปืน ทั้งสามคนน่าจะตายตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว
เขาสามารถเข้าใจความรู้สึกของเฟยหลินดี ว่าไม่ต้องการให้ชีวิตของตนตกอยู่ในความน่าจะเป็นที่อาจตายตอนไหนไม่รู้แบบนี้
"จะค้นหาองค์กรลึกลับและเข้าร่วมได้ยังไง?"เฟยหลินจ้องเขม็งแคฟฟี่อย่างมีความหวัง
เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองอย่างมีความหวัง แคฟฟี่ก็ได้แต่ส่ายหน้า
"ถึงผมจะรู้ว่ามีองค์กรลึกลับแบบนั้นอยู่ แต่ใช่ว่าจะรู้ที่อยู่ของมัน"
เมื่อได้ยินคำตอบของแคฟฟี่เฟยหลินรู้สึกผิดหวังทันที
แม้แต่นักสืบอย่างแคฟฟี่ก็ไม่รู้วิธีค้นหาองค์กรลึกลับ มันคงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะค้นหามันจริง ๆ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายผิดหวัง แคฟฟี่ก็พูดต่อ
"ถึงไม่รู้ว่าจะหาองค์กรลึกลับยังไง แต่ผมรู้วิธีที่จะเข้าร่วมองค์กร"
"รู้วิธีเข้าร่วมอย่างงั้นเหรอ?"
ความผิดหวังสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เฟยหลินอดไม่ได้และรู้สึกประหลาดใจ
ไม่สำคัญว่าจะไม่รู้วิธีค้นหาองค์กรลึกลับนั้น ตราบใดที่รู้วิธีเข้าร่วม
ท้ายที่สุดจุดประสงค์สูงสุดของการค้นหาองค์กรลึกลับคือการเข้าร่วม
ในเวลาเดียวกันเขามองแคฟฟี่อย่างสงสัย รู้สึกอยู่เสมอว่านักสืบจงใจพลิกกลับอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งค่อนข้างเป็นการเล่นตลกเกินไปหน่อย
เขาถามขึ้น
"ผมจะเข้าร่วมองค์กรลึกลับได้ยังไง?"
"แสดงตัวตนที่ไม่ธรรมดาไงล่ะ" แคฟฟี่พูดอย่างรวบรัด
"ต้องแสดงด้านไหนเป็นพิเศษไหม?"เฟยหลินถามพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบ
"มันอาจยาดเกินกำลังของคนธรรมดา มันต้องเป็นความสำเร็จทางเทคนิคที่มากเกินกว่าคนทั่วไป อย่างเทคโนโลยี พลังพิเศษ หรือทักษะเฉพาะตัวแบบนักแม่นปืน"
"ถ้ามีความสามารถมากกว่าคนทั่วไปในบางด้าน ถึงตอนนั้นคุณอาจถูกดึงดูดไปยังองค์กรลึกลับและมีโอกาสเข้าร่วม" แคฟฟี่อธิบาย
"นักแม่นปืนก้มีสิทธิ์ด้วยเหรอ?"
หัวใจเฟยหลินเต้นรัวและอดไม่ได้ที่จะนึกถึงนักแม่นปืนระดับชำนาญพิเศษในตอนนี้
ทักษะนักแม่นปืนในปัจจุบันถึงระดับที่ไกลเกินกว่าคนทั่วไป หมายความว่าเขาสามารถดึงดูดความสนใจขององค์กรลึกลับได้ และสามารถเข้าร่วมองค์กรผ่านการเป็นนักแม่นปืน
"โอเคผมเข้าใจแล้ว"
แคฟฟี่พยักหน้าและมองเฟยหลิน
"คุณทำให้ผมอิจฉานิดหน่อย เมื่อก่อนหลังจากที่ผมรู้ถึงการมีอยู่ขององค์กรลึกลับ ผมเองก็เคยคิดเข้าร่วมเหมือนกัน"
"น่าเสียดายสิ่งเดียวที่ผมทำได้คือทักษะนักสืบ แต่มันไม่ได้เก่งกาจเกินระดับคนทั่วไป ดังนั้นมันจึงไม่ดึงดูดความสนใจของพวกนั้น"
"แต่คุณต่างออกไป ทักษะนักแม่นปืนของคุณสูงส่งเกินระดับคนทั่วไปแล้ว ไม่แปลกที่จะมีโอกาสดึงดูดความสนใจขององค์กรลึกลับ และมีสิทธิ์เข้าร่วมได้มาก"
หลังจากได้ยินคำพูดของแคฟฟี่เฟยหลินรู้สึกตื่นเต้นและในขณะเดียวกันเขาแน่ใจว่ามันเป็นการเล่นตลกของแคฟฟี่แน่นอน
เมื่อนึกถึงมาตรฐานการรับสมัครที่แปลกประหลาดขององค์กรลึกลับ เขาถามด้วยความสับสน
"ทำไมองค์กรลึกลับถึงรับคนที่มีลักษณะพิเศษ และดูเหมือนพวกเขาจะไม่เลือกประเภทตราบใดที่มันอยู่ระดับที่สูงกว่าคนธรรมดา"
"ไม่รู้สิ ถ้าผมรู้… ตอนนี้ผมน่าจะอยู่ในองค์กรลึกลับไม่ใช่อยู่ในสำนักงานนักสืบแบบนี้" แคฟฟี่พูดด้วยความน้อยใจ
เขาเป็นผู้แพ้ แต่อีกฝ่ายมีแนวโน้มที่จะทำสำเร็จ ซึ่งทำให้เขารู้สึกอิจฉาอย่างอธิบายไม่ได้
…
สำนักงานตำรวจเมืองคอนสแตนติน ซึ่งตั้งอยู่ในอาคาร 5 ชั้นใจกลางเมือง
สถานที่แห่งนี้สามารถพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบได้ทุกที่ในอาคาร
บางคนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เสียงปลายปากกาเสียดสีกับกระดาษดังไม่หยุด
บางคนห้อยซองปืนไว้รอบเอวพร้อมออกปฏิบัติการ
บางคนกำลังถือเอกสารและกำลังเตรียมรายงานให้ผู้บังคับบัญชา
ในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีงานยุ่งเหล่านี้มีบุคคลหนึ่งดูผ่อนคลายกว่าใคร
นี่คือผู้หญิงวัยยี่สิบ มีผมยาวปานกลางสีน้ำตาล และหยักศก เธอไม่ได้สวมเครื่องแบบตำรวจแต่ใส่ชุดสีดำเข้มแทน
มีไฝใต้ตาข้างซ้าย รูปร่างหน้าตาสละสวย บุคลิกเหมือน ‘เจ้าหญิงน้อยในราชวงศ์’
เมื่อเทียบกับชุดสีดำเข้ม เธอดูเหมือนดอกกุหลาบสีดำสวยงามในเงามืด
สวยแต่ก็มีหนามแหลมคม
แถมมีตำรวจหลายนายอยากคอยมาเอาใจเธอ แทบจะประเคนทุกอย่างให้
"คุณฮาร์โลวิน นี่คือบันทึกทั้งหมดของคดีปล้นศพครับ"
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินอย่างรวดเร็วพร้อมแฟ้มเอกสารและมาหาผู้หญิงคนนี้
เขาก้มหน้าลงกลัวที่จะมองหน้าเธอ ก่อนยื่นเอกสารให้
เขาไม่กล้ามองหน้าเธอ ในแง่หนึ่งเพราะอีกฝ่ายสวยเกินไปและกลัวที่จะเขินอาย อีกนัยหนึ่งเพราะเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนของผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงคนนี้มาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหน่วยงานลึกลับที่สุดในอาณาจักร
พวกเขารู้น้อยมากเกี่ยวกับหน่วยงานนี้ แต่จากทัศนคติของระดับผู้บริหาร
ที่หน่วยงานนี้เป็นความลับแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงยังไม่กล้าเอ่ย จึงสั่งให้แค่พวกเขาร่วมมือกับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ถ้าไปขัดขาเข้าเรื่องอาจจบไม่สวย
ผู้หญิงคนนี้มาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทั้งยังเป็นบุคคลที่ไม่สามารถไปยุ่งด้วยได้
"ขอบใจ"
ฮาร์โลวินเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มแล้ววางลงบนโต๊ะข้าง ๆ พลิกดูเนื้อหาข้างในช้า ๆ
"ไม่มีรายงานระหว่างศพหายไป…"
หลังจากอ่านรายงาน เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาแสดงความประหลาดใจ
จากข้อมูลที่เธอได้รับ กลุ่มคนที่เข้าไปในสุสานช่วงนั้นมีบางอย่างน่าสงสัย
เพราะหลังจากการเสียชีวิตของเรย์ โรมาโน แม้ศพจะหายไปช่วงหนึ่ง แต่ก็ถูกพบอีกครั้งและไม่มีบันทึกเกี่ยวกับศพช่วงเวลานั้นเลย
นี่มันผิดปกติมาก ต้องมีใครสักคนปิดบังอะไรบางอย่างแน่นอน
"คนที่นำศพกลับมาคือโจซีลูกชายของผู้ตาย พร้อมกับเฟยหลินลูกศิษย์ของเรย์ และยังมีนักสืบแคฟฟี่ร่วมวงมาอีก ดูเหมือนว่าทั้งสามเป็นคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับศพมากที่สุด"
"เพราะเรื่องศพหายถูกคิดว่าเป็นผีคืนชีพขึ้นมา แต่การที่ฆ่ามันได้หรือไขคดีได้ หมายความว่าหนึ่งในสามต้องมีทักษะพิเศษ เอาล่ะ ได้เวลาหาปลาแล้ว"
เธอปิดแฟ้มเอกสารก่อนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป
สายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสำนักงานอดไม่ได้ที่จะขยับตามการเคลื่อนไหวของเธอ พลางมองอย่างลุ่มหลงในความงาม
หลายคนต่างรู้ว่านี่คือผู้หญิงที่มีอำนาจในการดำเนินงานอย่างรุนแรงโดยพวกเขาก็ห้ามไม่ได้ สำนักงานความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรไม่ต่างจากผู้มีอำนาจสูงสุดในการดำเนินคดี และเธอก็เป็นหนึ่งในพนักงานและกุหลาบหนามของสำนักงานที่ว่านั้น