ตอนที่ 12 หึง
แม้กระบวนการจะหยาบไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดี
หลังเพ่ยเหลียนเสวี่ยปั้มหัวใจหลายครั้ง บวกกับเม็ดยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวฉบับทำเองของเย่อันผิง สภาพของเฟิงหยูเตี๋ยก็มั่นคง
แต่ก็แค่ตอนนี้
หลังจากนั้น เย่อันผิงก็กระตุ้นชีพจรนางอีก ตรวจสอบอย่างดี เส้นชีพจรนางขาด พลังปราณวุ่นวาย ตัวนางอ่อนแอมาก แม้คุณภาพของรากปราณจะล้ำเลิศ แต่ถ้าแผลไม่หายในเดือนหรือสองเดือน นางจะย่ำแย่ไปตลอด
แต่ เหลือเวลาอีกสองเดือนเท่านั้นกว่าจะถึงงานชุมนุมของศิษย์สำนักดาวดำ
ในสถานการณ์นี้ เฟิงหยูเตี๋ยต้องพลาดงานนี้และต้องรออีกห้าปี
ทางดีสุดตอนนี้คือพานางกลับสำนักร้อยดอกบัว ให้พ่อของเขารักษาแผลนาง ส่งนางไปดาวดำ แต่เช่นนั้น สำนักร้อยดอกบัวจะไปพัวพันกับตัวละครหลักที่มีแนวโน้มว่าจะดึงปัญหามา
ยุ่งซะจริง…
หลังคิดสักพัก สุดท้ายเย่อันผิงก็ตัดสินใจนำเฟิงหยูเตี๋ยกลับบ้าน
อนาคตของโลกนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วอยู่ดี
สำนักร้อยดอกบัวไม่ถูกทำลาย น้องสาวเขาไม่โดนจับไปใช้เป็นเตาหลอม
และยิ่งเรื่องราวเปลี่ยน อนาคตยิ่งไม่ชัดเจน
เหมือนเฟิงหยูเตี๋ยที่ควรจะถูกผู้บ่มเพาะพเนจรช่วย แต่อีกฝ่ายไม่เผยตัว มันกลับเป็นเขา ตัวประกอบที่มา
ยิ่งไปกว่านั้น บทที่ห้าของ’ตำราจันทราดำ’ของอู่โหยวยังมาอยู่ในมือเขา
ถ้าเฟิงหยูเตี๋ยพลาดการเข้าสำนักดาวดำในตอนนี้ พล็อตหลักจะเละเทะหมด
“น้องพี่ แบกนางไว้บนหลังเจ้า กลับไปสำนักร้อยดอกบัวและขอให้พ่อข้าช่วยนางกัน”
“เอ๊ะ?”เพ่ยเหลียนเสวี่ยมองเฟิงหยูเตี๋ยและถาม“ทำไมเราไม่ส่งนางไปโรงหมอในเมืองละ?นั่นไม่ดีกว่าเหรอ?”
“ถ้านางอยู่ในโรงหมอ มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือนกว่านางจะเดินได้อีก มันดีกว่าที่จะพานางกลับและขอให้ท่านพ่อรักษานาง ให้ท่านถ่ายพลังปราณแท้จริงให้ แบบนั้น นางจะหายในสามวัน’
“..”
ให้ท่านประมุขรักษานางด้วยการถ่ายพลังปราณแท้จริง?!
พอได้ยินที่พี่ชายนางพูด นางก็ไม่สบายใจมาก ทำไมเขาถึงดีกับคนคนนี้นัก?
มันเข้าใจได้ที่จะช่วยชีวิต มันไม่มีปัญหาที่สหายผู้บ่มเพาะจะช่วยเหลือกัน
แต่ทำไมเขาถึงอยากขอให้ประมุขใช้พลังปราณของเขาเพื่อช่วยนาง?
นางมองหน้าเฟิงหยูเตี๋ย และต้องยอมรับว่าสวยมากจริงๆ หรือเขากำลังจะช่วยนางเป็นข้ออ้างเพื่อขอให้นางอยู่กับเขา?
“พี่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้?!ไม่ใช่ว่าท่านก็มีข้าแล้วเหรอ?ทำไมถึงยังทำกับสาวอื่นแบบนี้..”
ในป่าไผ่ กลิ่นหึงลอยคลุ้ง
เย่อันผิงเหยียบบนกระบี่บิน“มีอะไรเหรอ?”
“พี่ไม่ได้เรื่อง”
“??’
“ฮึ่ม!”
เพ่ยเหลียนเสวี่ยจับเฟิงหยูเตี๋ยพาดไหล่เหมือนแบกกระสอบ จากนั้นก็เรียกกระบี่บินและทะยานขึ้นฟ้าไป
เย่อันผิงตกตะลึงไปสักพัก จากนั้นก็ถอนหายใจและตามนางไป
“เหลียนเสวี่ยถึงวัยกบฎแล้วเหรอ?”
..
ตอนพวกเขากลับศาลาสวรรค์ของสำนักร้อยดอกบัว สิ่งที่ทักทายพวกเขาคือใบหน้าของเย่อาวที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน
“พวกเจ้าสนุกกันพอแล้วเหรอ?ถึงยังจำได้ว่าต้องกลับมา เอ๊ะ?”
‘ท่านพ่อ..“เย่อันผิงยิ้มแห้ง”เราไม่ได้ไปเล่นสนุก ข้าทิ้งจดหมายไว้ให้แล้วนี่?”
“ใช่ ข้าเห็นแล้ว เจ้าบอกว่าเจ้าจะพาน้องสาวเจ้าไปฆ่าปรมาจารย์ของสำนักพิษมาร”
“ใช่”
เปลือกตาเย่อาวกระตุก เขาตบหัวเย่อันผิงโดยไม่ออมแรง
เย่อันผิงรีบหลบ จากนั้นก็ยกมือเพื่อหยุด”พ่อ ลูกชายของท่านเพิ่งรอดพ้นความตายมาได้ แทนที่จะกอด แต่กลับตบข้าเนี่ยนะ?’
“เจ้า…”
เวลานี้ กงยู่หลานที่กลับมาดูเหมือนจะได้ยินเสียงและพุ่งพรวดเข้ามา
วินาทีที่นางเห็นหน้าเย่อันผิง น้ำตาก็ไหลพราก อย่างกับนักวิ่งทีมชาติร้อยเมตร นางผลักเย่อาวกระเด็น ดึงลูกชายเข้ามากอด
“อ้า!!เสี่ยวผิงของข้า เจ้าเจ็บตรงไหนไหม?”นางตรวจสอบเขาทั่วตัว
“แม่ห่วงเจ้าจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตอนเจ้าบอกว่าจะไปหาปรมาจารย์ของสำนักพิษมาร แม่ห่วงจนร้องไห้ เจ้าก็รู้ ถ้าเจ้าเป็นอะไรขึ้นมา แม่คงอยู่ไม่ได้..”
เย่อันผิงโดนกงยู่หลานสำรวจตัวอยู่นานและตอบอย่างหน่ายใจ“แม่ ข้าก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ?และปรมาจารย์สำนักพิษมารก็ตายแล้วด้วย”
“จริงเหรอ?”
“จริง”
“สมกับเป็นเสี่ยวผิงของข้า เจ้าสุดยอดจริงๆ!”กงยู่หลานยิ้มหน้าบาน ลูบหัวเย่อันผิง และประดับรอยลิปสติกทั่วหน้าเขา“ดีแล้วที่เจ้ากลับมา”
เย่อาวมองแม่ลูกด้วยหางตาและถอนหายใจ“ยู่หลาน เด็กนี่แอบออกไปเล่นสนุก ถ้าเขาเจอกับปรมาจารย์สำนักพิษมารจริง เขาจะยังกลับมาได้หรือ?”
“ทำไมจะไม่ได้?”กงยู่หลานขมวดคิ้ว จ้องเขากลับ“เสี่ยวผิงของข้าทรงพลังจะตาย”
“เสี่ยวผิงของเจ้าแค่ขั้นสามอาณาจักรหลอมลมปราณ”
“ขั้นสามหลอมลมปราณแล้วไง?”
“ผู้บ่มเพาะหลอมลมปราณขั้นสามเจอกับคนในอาณาจักรแก่นวิญญาณ เขา..”เย่อาวสูดหายใจลึก“ถ้าเด็กนี่ฆ่าปรมจารย์สำนักพิษมารได้จริง ข้าจะยอมก้มกราบ30ครั้ง”
“..”
กงยู่หลานเมินเขาและถาม“เสี่ยวผิง ลูกหิวไหม?อยากกินอะไร?แม่จะทำให้”
“รอก่อนครับ”เย่อันผิงดันแม่ที่กอดเขาไม่ปล่อยออกเบาๆ จากนั้นก็เลิกคิ้วให้ตาแก่“พ่อพูดแล้วนะ”
“เอ๊ะ?”เย่อาวผงะ แต่ก็พยักหน้า“ใช่ ข้าพูดเอง แล้วไง?”
เขายิ้ม สะบัดมือขวา นำของวิเศษและป้ายตัวตนออกจากถุงมิติทีละอย่าง แสดงให้เย่อาวดู
“..”
พอเห็นของที่เย่อันผิงนำออกมา เย่อาวก็ตกตะลึง จากนั้นก็ก้าวไปหยิบมาตรวจทีละชิ้น
หลังยืนยันว่าเป็นของวิเศษที่มีผู้บ่มเพาะชั้นสูงถึงจะครอบครองได้และความถูกต้องของป้ายตัวตน สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้ว
“พวกเจ้าไปเอามาจากไหน?”
“ข้าก็บอกแล้ว จากปรมาจารย์สำนักพิษมาร”เย่อันผิงยักไหล่“คนที่ข้ากับเหลียนเสวี่ยฆ่าควรเป็นผู้บ่มเพาะที่ใกล้กับอาณาจักรวิญญาณแรกก่อตั้ง เขาคือ’อู่โหยว’ และข้าไม่รู้ชื่อจริงของเขา”
“เจ้ากับเสี่ยวเพ่ย?”เย่อาวมองเพ่ยเหลียนเสวี่ยที่รอด้านนอกด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ“พวกเจ้าสองคนทำได้ยังไง?”
“เรื่องมันยาว ข้าจะบอกทีหลัง แต่ก่อนหน้านั้น”เย่อันผิงหยุด จากนั้นก็หันไปมองเพ่ยเหลียนเสวี่ย ทำท่าให้นางนำเฟิงหยูเตี๋ยเข้ามา
เพ่ยเหลียนเสวี่ยเข้าใจ เม้มปากอย่างไม่เต็มใจ แบกเฟิงหยูเตี๋ยเข้ามา จากนั้นก็โยนมาด้านหน้าเย่อาว
ด้วยเสียงดังตุบ เฟิงหยูเตี๋ยตกกระแทกพื้นและเด้งอยู่สองครั้ง บ่งบอกถึงความแรงในการโยน
เย่อันผิงตกตะลึง สงสัยว่าทำไมน้องสาวเขารุนแรงจัง แต่ก็เมินและถาม“พ่อ ท่านช่วยใช้พลังปราณแท้จริงเพื่อรักษานางได้ไหม?”
เย่อาวขมวดคิ้ว ตรวจร่างกายของเฟิงหยูเตี๋ยด้วยจิตสัมผัสและตอนเห็นคุณภาพของรากปราณนาง เขาก็ทึ่ง
“เด็กสาวคนนี้มีรากปราณสวรรค์?”
“ใช่ นางชื่อเฟิงหยูเตี๋ย”เย่อันผิงแนะนำ“นางศึกษาภายใต้อาจารย์ชื่อไท่สวี่ ผู้บ่มเพาะในสำนักดาวดำ ไม่นานมานี้ อาจารย์นางจากไปและก่อนจาก อาจารย์นางได้ถึงจดหมายแนะนำตัวนางแก่สำนักดาวดำไว้ให้ ระหว่างทางไปสำนัก นางเจอกับปรมาจารย์ของสำนักพิษมารและถูกทำให้บาดเจ็บสาหัส..”
ขณะที่เย่อันผิงพูด ตาของเพ่ยเหลียนเสวี่ยก็แทบถลน
ทำไมเขาถึงรู้เยอะขนาดนี้?
“พ่อ งานชุมนุมของสำนักดาวดำควรจะจัดในสองเดือน นางต้องไปไม่ทันแน่ด้วยสภาพนาง โปรดใช้พลังของท่านรักษานางที’
“ไท่สวี่ สุดยอดปรมาจารย์…”เย่อาวสงสัยว่าทำไมเย่อันผิงถึงรู้ชื่อนี้ แต่จากนั้นก็คิดถึงมันและพบว่ามันสมเหตุสมผล แต่เขาก็ยังขอปฏิเสธ
ถ้านางอยู่ในสภาพร้ายแรง เขาคงช่วยถ่ายทอดพลังปราณแท้จริงให้ แต่ตอนนี้มันดูมั่นคงแล้ว
เหนือสิ่งอื่นใด พลังปราณแท้จริงไม่ใช่พลังปราณธรรมดา ทุกปีจะกักเก็บเพียงส่วนน้อย เขาไม่ใช่คนใจบุญ เขาจะไปใช้พลังปราณแท้จริงเพื่อผู้บ่มเพาะตัวน้อยที่ไม่เคยพบเจอได้ไง?
“อันผิง เจ้าควรรู้ว่าพลังปราณแท้จริงคือ..”
“ข้าจะทำเอง!”กงยู่หลานรีบขัด
เย่อาวมองนางอย่างสับสน“หะ?ยู่หลาน?”
“ก็แค่พลังปราณแท้จริงเพียงเล็กน้อย ข้าจะช่วยรักษานางเอง”
กงยู่หลานขยิบตาให้เย่อันผิงอย่างรู้ๆ แต่เหมือนนางจะเข้าใจอะไรผิดไปและพาเฟิงหยูเตี๋ยกลับเข้าห้องทันที