บทที่ 113: ดุร้าย (4)
บทที่ 113: ดุร้าย (4)
"หือ อะไรน่ะ?"
เซเรียก้มลงและหยิบวัตถุเล็กๆที่ตกลงมาอย่างประณีตต่อหน้าเธอ
มันเป็นโน้ต
เธอคลี่กระดาษออก
[ต้องเติมมานาเพิ่ม]
เนื้อหาของบันทึกถูกเขียนด้วยลายมือที่คุ้นเคย และเป็นรายมือที่คดเคี้ยว
เธอเคยเห็นรายมือนี้มาก่อนแล้ว
'เขาต้องเขียนสิ่งนี้ด้วยมือที่เขาไม่ถนัด'
ความตั้งใจที่ชัดเจนที่จะไม่ทิ้งร่องรอยไว้ให้เธอเดาตัวตนของเขา
ความพิถีพิถันเช่นนี้
คนอื่นๆจะรู้สึกเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ใช่กับเซเรีย
เธอแค่รู้สึกขอบคุณที่ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงไม่ขาดตอน
หากมีสิ่งใดอีก ความสนใจของเธอก็จะพุ่งสูงขึ้นไปอีก
เมื่อมองไปทางที่โน้ตออกมาเซเรียพึมพำเบาๆ
"นายอยู่...ที่นั่นหรือเปล่า?"
ด้วยคำพูดของเธอ ชายคนหนึ่งในชุดสีดำที่เข้ารูปเผยให้เห็นตัวเอง
ในขณะที่ไม่ได้มีกล้ามเนื้อมากเกินไป ร่างกายของเขาก็ดูดี
เขาสวมหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าเล็กๆของเขาอย่างเต็มที่
เป็นผู้ชายคนเดียวกับที่เธอเคยเห็นเมื่อสัปดาห์ก่อน
เขาเดินเข้าไปใกล้อย่างมั่นคงและส่งโน้ตให้เซเรียอีกครั้ง
ข้อความนี้ง่ายมาก:
[ตอนนี้เธอทำเลยได้ไหม?]
แน่นอนว่าเธอทำได้ แม้ว่าเธอจะมีพันธะสัญญามาก่อน แต่เธอก็จะละทิ้งมันไป
เธอรอคอยช่วงเวลานี้มานานแล้ว
"ได้ อาจมีคนอยู่ใกล้ๆ และดูเหมือนนายจะรีบร้อน เราเข้าไปกันเลยไหม?"
ชายสวมหน้ากากพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อชี้ไปที่ประตูห้องแล็บด้วยนิ้วที่ซีดเซียว
เซเรียยิ้มอย่างอ่อนโยนและเปิดประตูไปที่ห้องทดลอง
การเติมมานาเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
มันไม่ใช่เรื่องยากหรือใช้เวลานาน
เพียงแค่วางมือเหนือเครื่องหมายของ [ตลับเวทมนตร์] และเติมมันด้วยมานา
เมื่อรู้สึกว่า [ตลับเวทมนตร์] ตอนนี้เต็มไปด้วยมานา ฉันจึงใส่เสื้อที่ถอดออกครึ่งตัวกลับไป
จากนั้น ฉันก็ส่งโน้ตที่เตรียมไว้ล่วงหน้าให้กับเซเรีย
[ขอบคุณนะ]
หลังจากตรวจสอบข้อความ รอยยิ้มจางๆก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซเรีย
"นายหมายความแบบนั้นจริงๆเหรอ?"
แทนที่จะตอบด้วยวาจา ฉันก็แสดงความขอบคุณด้วยการพยักหน้าใหญ่ๆ
"ครั้งที่แล้ว นายให้ค่าตอบแทน...วันนี้นายไม่มีอะไรจะให้ฉันเลยเหรอ?"
ในการตอบสนองฉันดึงโน้ตอีกอันออกมาจากกระเป๋า
[วันนี้ฉันไม่ได้เตรียมอะไรมาเป็นพิเศษ แต่สำหรับการชาร์จมานาเท่านั้น ฉันไม่สามารถให้ของขวัญแบบเดิมได้ อย่างไรก็ตาม หากเธอชาร์จมานาของฉันเป็นประจำฉันจะตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีค่าตอบแทนมาให้เธอ]
หลังจากอ่านบันทึกเซเรียตอบว่า
"...อย่างต่อเนื่อง เข้าใจแล้ว"
เธอยิ้มเล็กน้อยและพูดต่อ
"งั้น นายจะมาหาฉันในครั้งต่อไป และครั้งต่อไปหลังจากนั้นเหรอ?"
ฉันพยักหน้าช้าๆ
ฉันต้องการเซเรีย
หลังจากเทศกาลของสถาบัน นักเรียนชั้นปีที่ 1 ของแผนกฮีโร่จะต้องค้นหาผู้ช่วยอย่างแข็งขัน
นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายปีแรก ผลการเรียนจะได้รับการกำหนดผ่านการประเมินผลเป็นทีม
พรสวรรค์ของเซเรียเทียบเคียงกับจอมเวทอัจฉริยะแอนดรูว์
ในความเป็นจริง ณ จุดนี้ เธออาจจะเหนือกว่าเขาด้วยซ้ำ
ซึ่งแตกต่างจากสามัญชนแอนดรูว์ เธอซึ่งมีเชื้อสายขุนนางได้สัมผัสกับเวทมนตร์ตั้งแต่แรกเกิด
การเลือกแผนกเวทมนตร์ของเธอเกิดจากธรรมชาติและบุคลิกภาพของเธอ และเกิดจากความปรารถนาของพ่อของเธอด้วย
ไม่ว่าในกรณีใด การมีผู้ช่วยในทีมฮีโร่ก็เป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี
ความสำคัญของพวกเขาไม่ได้พูดเกินจริงเลย
บางทีมันอาจจะดีที่สุดที่จะคิดว่าฮีโร่เป็นหัวหน้าทีมและผู้ช่วยเป็นสมาชิกทีม
แม้แต่คนที่แข็งแกร่งอย่างนีกี้หรือปิเอลก็จะพบว่ามันท้าทายที่จะทำภารกิจให้สำเร็จเพียงลำพัง
พลังของผู้ช่วยไม่ได้เกี่ยวกับความสามารถในการต่อสู้เท่านั้น
ความสามารถโดยรวมของพวกเขามีความสำคัญตั้งแต่ทักษะการรวบรวมข้อมูลไปจนถึงเคมีของพวกเขากับทีม
แน่นอนว่า ในเมื่อฉันขาดความสามารถในการต่อสู้ มันจะดีที่สุดถ้าฉันมีผู้ช่วยที่มีความสามารถที่แข็งแกร่ง
ภายในสถาบันการศึกษาที่มีสถานการณ์พิเศษใดๆ ฮีโร่จะได้รับอนุญาตให้มีผู้ช่วยได้สูงสุดสี่คน
หนึ่งในสี่คนนั้นควรเป็นเซเรีย
ในขณะที่จมอยู่ในความคิด เซเรียก็พูดขึ้น
"ยังไงก็เหอะ ฉันก็ยังอยากได้รางวัลของฉันตอนนี้เลย"
"..."
"นายรู้ นายรู้เกี่ยวกับฉันค่อนข้างมาก แต่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายเป็นใคร ไม่เว้นแม้แต่อายุของนาย ไม่ว่านายจะเป็นนักเรียนหรือเจ้าหน้าที่ นายเป็นใครกัน?"
"..."
ฉันตอบไม่ได้
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะเปิดเผยตัวตนของฉัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันหลีกเลี่ยงที่จะให้เบาะแสใดๆเกี่ยวกับตัวตนของฉัน
พูดตามตรง 'สำหรับตอนนี้' ฉันไม่สามารถบอกให้เธอรู้ได้ว่าฉันเป็นใคร
ไม่มีใครบอกได้ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอะไรขึ้น
ดูเหมือนว่าเธอจะถูกดึงดูดไปยังบุคคลที่เป็นความลับและเป็นอันตราย
ฉันอาจจะเป็นแบบนั้นกับเธอในตอนนี้
อย่างน้อยที่สุด ฉันควรชาร์จมานาอีกสองสามครั้งก่อนที่เปิดเผยตัว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้... ฉันไม่มีค่าตอบแทนที่จะเสนอ
อะไรก็ตามที่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน เซเรียสามารถจัดหาเองได้
ท้ายที่สุดแล้ว เธอเป็นลูกสาวของปรมาจารย์หอคอยดำ เงินจึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ
รางวัลควรรู้สึกพิเศษสำหรับผู้ที่ได้รับมัน
ขณะที่ฉันครุ่นคิดเรื่องนี้และสังเกตเธออย่างเงียบๆ เธอพูดว่า
"ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรมากหรอก แค่สิ่งที่นายสามารถให้ฉันได้ในตอนนี้"
ราวกับว่าเธอได้อ่านความคิดของฉัน
ในขณะที่ฉันยังคงมองไปที่เธออย่างเงียบๆ เธอกล่าวเสริมว่า
"ฉันจะไม่ขอเห็นหน้านาย ให้ฉันได้ยินเสียงของนายหน่อยสิ"
สีหน้าของเธอเศร้าโศกเล็กน้อย
'แค่เสียงของฉัน...'
ก็นะ มันคงไม่มีอะไรเสียหายหรอก
มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะระบุตัวตนของฉันด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว
ฉันพยักหน้าและกำลังจะพูดเมื่อเธอขัดจังหวะ
"นายสามารถถอดหน้ากากออกได้บางส่วนไหม? ฉันอยากได้ยินเสียงที่ชัดเจนกว่านี้"
"ฉันทำไม่ได้"
ฉันตอบพลางส่ายหัว
ด้วยการให้เธอได้ยินเสียงของฉัน ฉันได้คำขอของเธอเรียบร้อยแล้วแล้ว
มันก็ไม่จำเป็นต้องถอดหน้ากากออกด้วย
ถ้าฉันให้ความปรารถนากับเธอทุกอย่างตอนนี้ เธออาจคิดว่าฉันเป็นคนที่แกว่งไกวได้ง่าย
ในทางหนึ่ง นี่คือการตระหนักรู้ที่ฉันได้รับ ต้องขอบคุณเซียน่าเลย
ต้องวางรากฐานของความสัมพันธ์ให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น
มันจะยากที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป
ฉันมองตรงไปที่ดวงตาที่เบิกกว้างของเซเรียและพูดต่อ
"นั่นน่าจะเพียงพอแล้ว เซเรีย ลุน เฮสเทีย"
เธอนิ่งเงียบไป ดูเหมือนจะตัวแข็งทื่อ
ก็นะ นั่นน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้
"ฉันควรไปได้แล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้ ไว้เจอกันใหม่นะ...."
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงออกจากห้องทดลองของเธอทิ้งเซเรียที่ตกตะลึงไว้ข้างหลัง
ฉันรีบกลับไปที่หอพัก
เซเรียน่าจะชาร์จ [ตลับเวทมนตร์] เต็มแล้ว
นอกจากนี้ด้วยธรรมชาติของเธอ เธอจะไม่ออกจากสถาบันการศึกษาไปไหนเลย...
พรุ่งนี้ ฉันจะต้องร่ายเวทมนตร์ [เพ่งความสนใจ] แบบไม่หยุดสำหรับน็อคตาร์และเพื่อนออร์คของฉัน
'ฮิฮิ ตั้งตารอเลย'
ฉันจะให้ความเข้มข้นที่พวกเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ฉันจะทำให้พวกเขาเป็นออร์คชั้นยอดที่แท้จริง
ด้วยความคิดนั้น ฉันกำลังจะเข้าไปในห้องเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่
...เอมี่ที่คอยทักทายฉันอยู่เสมอหายตัวไป
'มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?'
ฉันปล่อยให้เธอดูแลเจ้ากำปั้นน้อย แล้วเธอหายไปไหน?
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์และเจ้านายของมันโดยทั่วไปสามารถรับรู้ตำแหน่งของกันและกันได้
ตอนนี้ เจ้ากำปั้นน้อยอยู่ใกล้ๆ
มันไม่มีเหตุผลที่เอมี่จะหายตัวไปอย่างกะทันหัน
ฉันแอบมองไปที่ห้องของเอมี่
ประตูของเธอเปิดออกเล็กน้อย
ขณะที่เปิดเข้าไป ฉันก็ได้ยินเสียงเอมี่
"ใครเป็นเด็กดีน้าา เจ้ากำปั้นน้อย? ใครน่ารักจัง~? ฉันสงสัยว่าหนูจะเอาใครหลังจากนี้~"
ฉันไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย
มันเป็นเสียงของเอมี่อย่างไม่น่าเชื่อ
น้ำเสียงที่ร่าเริงและแหลมคม ฉันไม่เคยได้ยินจากเธอซึ่งมักจะมีสีหน้าที่แยกออกจากกัน
"หนูทำตามแม่แล้วเหรอ~?"
ปิ้ว ปิ้ว ปิ้วว!
เสียงเหมือนปลาโลมาของเจ้ากำปั้นน้อยดังก้องไปทั่ว
เขาดูค่อนข้างยินดี
ฉันไม่สามารถควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของฉันได้ ฉันเดินเข้าไปใกล้ประตูที่เปิดออกเล็กน้อย
"ไม่นะ หยุดนะ เจ้ากำปั้นน้อย~"
สายตาที่มองผ่านร้องประตูทำให้ฉันสงสัยในดวงตาของตัวเอง
ตรงนั้นมันมีเอมี่ที่มีสีหน้าเหมือนเด็กสาวอายุ 17 ปี กำลังลูบไล้เจ้ากำปั้นน้อยที่กระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของเธออย่างชื่นชอบ
'...เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่ที่นี่'
และเมื่อมองไปที่ลูกสุนัขที่ตื่นเต้นมากเกินไป
ทุกครั้งที่เอมี่ลูบไล้เขา เขาก็เข้าไปใกล้หน้าอกของเธอมากยิ่งขึ้น
ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง มองดูพวกเขา
เอมี่ดูมีความสุขอย่างแท้จริง ด้านหนึ่งของเธอที่ฉันไม่เคยเห็นในเกม
เธอต้องรักลูกสุนัขจริงๆ
เมื่อไม่รู้ว่ามีฉันอยู่ เสียงหัวเราะสดใสของเธอก็ดังขึ้น
"ฮี่ฮี่ฮี่ เจ้ากำปั้นน้อย หนูอยากอยู่กับแม่ตลอดไปไหม~?"
ปิ้ว ปิ้ว ปิ้วววว!
"..."
อืม ฉันควรกลับไปที่ห้องดีไหม?
ฉันไม่ต้องการผลการฟื้นฟูพลังกายในวันนี้
ในเมื่อทั้งคู่ดูมีความสุข ฉันก็ควรปล่อยพวกเขาไว้
ขณะที่ฉันกำลังจะถอยกลับไปที่ห้อง ฉันก็ได้ยินว่า:
"นะ... นายน้อย?"
เสียงของเอมี่ลอยออกมาจากช่องว่างของประตู
มันคงจะแปลกที่จะไม่ตอบกลับ
"ใช่ ฉันกลับมาแล้ว เอมี่"
ครืดด...
พร้อมกับเจ้ากำปั้นน้อยอยู่ในอ้อมแขน เอมี่ก็เปิดประตูและมองมาที่ฉัน
"อ้าา นายน้อยกลับมาเมื่อไหร่เจ้าคะ?"
รูม่านตาของเธอไม่ได้สั่นสะท้าน แต่ดวงตาทั้งดวงของเธอสั่นสะท้านราวกับว่าแผ่นดินไหวกำลังเกิดขึ้น