EP.9
“นอนอยู่ในนี้เลยนะขิม”
“ไม่เอา”
ซิมปิดประตูห้องนอนขังคนเมาเอาไว้ซะเลย
แฟนหนุ่มลุ้นกับลูกเตะมุมว่ามันจะมุดเข้าโกลด์หรือเปล่า เหลือแค่อีกห้านาทีสุดท้ายต้องได้อีกตั้งสองประตูเพื่อไม่ให้เสียเงิน
“เชี่ย!!” ลูกหนังสีขาวสลับดำลอยปลิวข้ามคานไปแบบไม่โดนส่วนใดของผู้เล่น
นายทวารก็ลีลาท่ามาก กว่าจะตั้งบอล กว่าจะหามุมเตะ กวักมือเรียกผู้เล่นในทีมมาต่อบอลก็กินเวลาไปอีกสองนาที
“เฮ้ย! อย่านะ แม่ง!!”
ทีมฝั่งที่ซิมลงทุนเสือกใช้ศอกกระทุ้งผู้ต่อสู้เพราะถูกดึงเสื้อ
ความผิดรุนแรงมีเจตนาชัดเจนขนาดนี้ก็เจอใบแดงไปเลยสิครับ
ผู้เล่นเหลือจำนวนน้อยกว่าก็ว่าแย่ยังใจไม่สู้อีกก็จบเห่
นาทีสุดท้ายในช่วงต่อเวลาจึงโดนทะลวงหลัง ทีมรองเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ
แฟนบอลปรบมือให้แก่นักเตะที่เขารัก ผู้เล่นทั้งหมดสวมกอดก่อนจะเดินห่างเข้าไปด้านใน
เกมจบแล้ว
“อะ!” เจ้าของโต๊ะรอโอกาสนี้มานาน
โอกาสที่ซิมจะได้สแกนคิวอาร์โค้ดของยิมบ้าง หนุ่มหน้าทะเล้นรีบยื่นมือถือให้ลูกหนี้ข้างกาย
“ห้าหมื่นก่อนนะ”
“ได้!!” เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับยิมอยู่แล้ว เมื่อตัวเลขห้าหลักถูกโอนเข้าบัญชี เจ้าหนี้ก็ยกยิ้ม
“แล้วอีกแสนสี่ล่ะ”
“ส แสนสี่ ล่ะ เหรอ”
“อยู่ต่อสองลูกลบสองแสน หักเตะมุมสูงหมื่นหนึ่งเหลือแสนเก้า โอนมาแล้วห้าหมื่นเหลืออีกแสนสี่ไง”
“เอ่อใช่ๆ แสนสี่”
“เมื่อไร”
“ขออีกสักสองสามวัน”
“ซิมจะขอเวลาอีกกี่วันว่ามาเลย เราเองก็จะได้ไม่ต้องตามบ่อย”
“เราขอ...” พอเสียจากคำแทนตัวว่ากูก็เป็นคำว่าเราทันที
แสนสี่ไม่ได้จะมากันง่ายๆ แค่กดด้วยปลายนิ้วในบัญชีธนาคาร
ซิมคิดหนักเพราะเขาไม่เหลือทุนแล้ว จะเอาอะไรไปต่อยอดหาเงินมาใช้คืนยิม
“สักสามวันนะยิม”
“โอเคร๊”
เจ้าหนี้ว่าง่ายเสียยิ่งกว่าอะไรดี แต่อีกคนที่นั่งเป็นหุ้นส่วนโต๊ะคิ้วกระตุก โซ่ไม่ชอบเลยกับการทำงานที่หย่อนยานอะลุ่มอล่วย
ธุรกิจไม่ว่าจะขาว เทาหรือดำมันก็ต้องมีกฎระเบียบทั้งนั้น ไม่มีใครอยากธุรกิจล้มหรอก ยิ่งอบายมุขที่เกี่ยวกับความโลภของมนุษย์ มันพร้อมเล่นงานกลับไม่ว่าเจ้าหรือคนแทง
“ซิม..!!”
...
“ซิมเปิดประตูหน่อย..!!”
...
“ซ ซิม!!”
คนหลังประตูไม่ใช่คนที่ขิมอยากเจอ
ใบหน้าบึ้งตึงกระชากประตูเปิดพร้อมกับจ้องตาเธอเขม็ง ราวกับกำลังคิดอะไร
“สร่างรึยัง”
“ฮะ!”
“สร่างแล้วก็ออกมาใช้กรรม”
“อะไร...ว๊าย!!”
คนเมาพอได้อ้วกและล้างหน้าล้างตาก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
และการชดใช้กรรมที่ว่าก็คือซิมเมาหลับในท่าทางแสนสบาย แต่ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ ที่คนควรจะนอนหลับได้
ไม่พอแค่นั้นยังมีอีกหนุ่มนอนเกยอกซิม กอดเอวไว้แน่น
“มันเกะกะเห็นมั้ย” โซ่หันมาตวาด
ทั้งซิมทั้งยิมนอนกองกับพื้นพร้อมเศษขนม เปลือกถั่ว และขวดเบียร์กระจายเต็มพื้นที่ห้องรับแขกจนไม่สามารถเดินได้
“แต่ขิมไม่ได้ทำรกซะหน่อย”
“งั้นก็ปลุกมันขึ้นมาทำ”
“อะ...เอ้า!!”
คนเพิ่งสร่างเมานั่งเก็บขวดเบียร์ล้มระเนระนาดตั้งขึ้น โกยเอาสิ่งสกปรกใส่ถังที่อัดแน่นไปด้วยขยะ ยิ่งใส่ก็ยิ่งล้น
“เอาลงไปทิ้ง”
“ฮะ..!!”
“อะ”
“ด เดี๋ยว!!”
โซ่ยื่นคีย์การ์ดมาให้ แม้ขิมจะงงๆ แต่ก็รับพร้อมกับถุงดำใหญ่อ้วน
“เร็ว! มีคนรออยู่”
“ใครรอ”
“เถอะน่ะ”
ขิมโดนดุนหลังผลักออกจากประตูห้องพัก หญิงสาวแบกถุงขยะไปทิ้งอย่างห้ามไม่ได้
พื้นที่ส่วนกลางไว้ทิ้งขยะที่ไหนๆ ก็ไม่ต่างกัน แต่ที่สร้างความแปลกใจก็น่าจะเป็นเพราะหญิงสาวอีกคนที่ยืนแต่งหน้าทาปากรอ
“มองอะไร ไปสิ!”
มะนาว_ดาวคณะนิเทศปีการศึกษาเดียวกัน เพื่อนร่วมสถาบัน
คืนนี้มะนาวอยู่ในชุดเดรสหนังเกาะอกสีขาวอวดเนินเนื้อครึ่งเต้าและปิดก้นงอนแทบไม่มิด เด็กศิลป์เลิกคิ้วยุ่งเหยิงกับเครื่องแต่งกายของมะนาว เจ้าตัวจึงตอบให้หายสงสัย
“คือฉันเป็นMC ไง เพิ่งเลิกงาน คิดว่าฉันตั้งใจจะใส่แบบนี้มาหาผู้ชายเหรอ”
“ใช่! เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ” ชื่อเสีย(ง) มะนาวค่อนข้างดังในเรื่องควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เป็นเด็กเอ็น มีเสี่ยเลี้ยง มันจึงไม่แปลกหากในสายตาคนอื่นจะตัดสินมะนาวไปก่อนและถามว่าเจ้าตัวแคร์ไหม ก็ไม่
“แกว่าแบบนี้ฉันเซ็กซี่พอยัง” มะนาวยืนไขว้ขาบิดเอวและยกมือเท้าสะโพกราวกับขิมเป็นตากล้อง คนถูกถามไม่อินกับอะไรแบบนี้ได้แต่ตอบด้วยวิธียิ้มแห้ง
“ไม่เหรอ! หรือว่าควรดึงเกาะอกลงอีกหน่อย”
“ข้างบนมีคนอื่นอยู่ด้วยนะ” ขิมเตือนด้วยความเป็นห่วง
“แล้วไง” แต่เจ้าตัวชาชินเสียแล้ว
งานของมะนาวต้องแต่งตัวอวดเรือนร่างท่ามกลางสายตาคนมากมาย
ยิ่งมีคนมอง ยิ่งมีคนสนใจ แบบนั้นถือก็ว่าชีวิตพริตตี้,เอ็มซี คอมพลีท
“ไปเถอะ”
“อืม...”
ดาวคณะเดินนำหน้าเด็กศิลป์ตรงไปยังลิฟต์
ไม่นานหญิงสาวทั้งสองคนก็มาอยู่หน้าประตูบานเดิมที่ไม่ได้ลงกลอน
มะนาวเปิดและเดินเข้าไปก่อน รีบโผกอดโซ่ไว้แน่น แสดงความต้องการทันที
“รอนาวนานมั้ย”
“ก็ว่าจะโทรเรียกคนอื่นแทน”
“โซ่อะ!”
แสร้งทำหน้างอนได้ไม่นานเพราะผู้ชายไม่ง้อ มะนาวเบียดอกอิ่มตัวเองกับแผงอกเปลือกของโซ่อย่างสื่อความหมาย
เป้าหมายที่เธอปรารถนาอยู่ตรงนี้แล้ว
ชายหนุ่มที่สาวๆ ทั้งมอหมายปองหากเธอได้ครอบครองรับรองได้ว่าชะนีทั่วร่าต้องอิจฉาในวาสนาของเธอ
“มะนาวรับรองว่าคุ้มค่ารอแน่”
“เออ...”
^^
หนุ่มสาวจูงมือกันเข้าห้องนอนท่ามกลางสายตาขิมอย่างหน้าไม่อาย
เพียงไม่นานเกินกลั้นลมหายใจ เสียงครางหวีดหวิวราวกับเปรตขอส่วนบุญก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ นานติดกันเป็นชั่วโมง
“ซิม!...ซิม!”
อื้อออ
“เรากลับบ้านกันเถอะ” มีแค่ขิมที่เพิ่งสร่างเมาและขนลุกกับเสียงสยองของมะนาวกับโซ่ หญิงสาวจึงพยายามเรียกแฟนหนุ่มชวนกันกลับบ้าน
“เอาไป” ซิมส่งกุญแจรถให้แฟนสาว แต่ทว่า
“ขิมขับรถเป็นที่ไหนล่ะ”
“อื้อ! งั้นเช้าค่อยกลับ”
“เรากลับแท็กซี่กันก็ได้นะ”
“หนวกหูน่ะขิม”
ซิมพลิกตัวหันหนีไปอีกทางโดยมุมนั้นมียิมหลับเพราะฤทธิ์จากสุราไม่ต่างกัน ชายหนุ่มยกหมอนปิดหูและไม่สนใจขิมอีกเลย ส่วนหญิงสาวต้องนอนข่มตาทนฟังเสียงหวีดหวิดครวญครางจากคนในห้องจนเผลอหลับไปเองโดยปริยาย