EP.2
8.00 น.
“ซิมตื่น”
“ขอห้านาที”
“ห้านาทีมาสิบรอบแล้วนะ ลุก!!!”
นอกจากฐานะแฟนแล้ว ขิมต้องรับหน้าที่เป็นแม่อีกด้วย
แม่บ้าน แม่ครัว รวมไปถึงแม่ที่คอยปลุกลูกน้อยให้ลุกไปเรียนอย่างตรงเวลาในแต่ละวัน
เข้าใจว่าปีสี่ของซิมไม่ค่อยมีอะไรมาก เด็กรัฐศาสตร์จะชิวไปไหนไม่รู้
มีแต่ขิมที่ต้องวุ่นทำธีสิส หาบริษัทฝึกงาน สร้างคุณสมบัติให้ดีพร้อมเพื่อที่จะสมัครเข้าทำงานในบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ในฝัน
เด็กคณะสถาปัตย์เช่นเธอเหนื่อยตลอดทุกช่วงเวลาในชีวิต
“ไม่ไหว ขิมไปก่อนเถอะ”
“เอ้า!!!”
เด็กสถาปัตย์ปีสี่ไม่มีเรียนคาบเช้าแต่ที่ต้องตื่นไปมหา’ลัยก็เพราะมีโครงงานที่ยังไม่เสร็จ และเธออยากได้คำแนะนำจากอาจารย์ และท่านจะว่างเพียงช่วงเช้าเท่านั้น
คณะสถาปัตยกรรม
“โอ้ว..!! เหม็นกลิ่นความรัก หมั่นไส้คน In love”
“อะไรของแกนางนิว”
“ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่กับแฟน เป็นไงบ้าง...ฟินมั้ย”
‘นินิว’ ตัวป่วนประจำก๊วนร้องทัก
เรื่องย้ายเข้าคอนโดไม่เคยป่าวประกาศบอกใคร แต่ที่ข่าวรั่วไหลอาจเป็นเพราะที่ตึกมีเด็กร่วมสถาบันอยู่ด้วยไม่น้อย
และซิมเองก็ค่อนข้างฮอตในหมู่สาวๆ
“ฟินอะไรเล่า แทบไม่ได้นอนด้วยซ้ำ”
“Holy shit! มันหนักหน่วงขนาดนั้นเลย?”
“นิว! น่าเกลียดน่ะ”
“นิว,นิล เดี๋ยวเถอะ พวกแกเนี้ยนะ”
นิลหรือ ‘ปลานิล’ และนินิวต่างพากันมองขิมด้วยประกายตาวาววับมีเลศนัย
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคิดอะไรไปถึงไหน
“เล่าให้ฟังหน่อยสิ มันเป็นยังไงไอ้อาการไม่ได้นอน”
“นางนิว”
“ฟีลแบบข้าวใหม่ปลามันเหรอ”
“นิว! เราว่าอย่ามาคุยเรื่องพันธุ์นี้ตอนนี้เลยนะ”
“ทำไมอะนิล เมื่อกี้แกก็ยังอยากรู้กะฉันอยู่เลยนะ” สองสาวเริ่มเถียงกันเองเมื่อจู่ๆ ปลานิลก็หันไปเข้าข้างขิมเสียแทน
และดูหน้าแดงมีอาการเขินเสียยิ่งกว่าเจ้าตัว
“ไม่มีอะไรอย่างที่พวกแกคิดหรอกน่ะ”
“นิล! แกล่ะคิดอะไรอยู่เหรอ” นินิวหันไปแซวเป็นการหยอกล้อ
“เปล่าซะหน่อย!”
“พวกฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย แกนั่นแหละขิมที่คิด”
“พอเลยพวกแกสองคน ฉันไปซื้อน้ำกินก่อนดีกว่า”
เรื่องของซิมที่ขิมไม่อยากเล่าให้ใครฟังเพราะมันไม่ได้น่าภูมิใจ
แฟนหนุ่มเป็นนักเสี่ยงโชค ดูบอลดึกๆ ทุกวันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เวลานักเตะหวดลูกกลมๆ เข้าประตู ซิมก็ตะโกนลั่นบ้าน คนระแวงเดียวกันก็คงคอบอลเช่นกัน เสียงเฮเสียงโฮรับส่งกันทุกคืนที่มีบอลคู่ดึก
ตุ้บ
“ขอโทษค่ะ” เจ้าตัวเหม่อลอยจนเผลอเดินชนกับแผงหลังใหญ่กว้างคนข้างหน้า
ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ทำไมเธอจึงไม่เห็นก่อนที่จะชนเข้า คนถูกชนหันกลับมามองเหมือนจะพูดแต่ก็เงียบ
“แดงมะนาวโซดาแก้วหนึ่งค่ะป้า”
“จ้า”
ร้านน้ำชงเจ้าประจำที่มักสั่งกินทุกวันและเป็นร้านที่เด็กส่วนใหญ่ติดกันงอมแงม มันอร่อยและราคาสบายกระเป๋าเมื่อเทียบกับคาเฟ่แบรนด์ดังในรั้วมหา’ลัย
คิวที่เข้าแถวรอไม่ค่อยว่าง ขิมเข้าตามลำดับจนมาถึง
“ยิบห้าบาทจ๊ะ”
“ค่ะ...เอ๊ะ!!”
จำได้ว่าหยิบกระเป๋าเงินติดมาด้วยได้ไหนในมือกลับว่างเปล่า
ขิมมองรอบๆ ตัวว่าอาจจะเผลอทำหลุดมือแต่ก็ไม่เห็นว่าตกอยู่ในบริเวณใกล้ๆ
“เสร็จยังหนู ป้าจะได้ทำของคิวถัดไป”
“เดี๋ยวหนูกลับมาจ่าย...//น้ำเปล่าขวดหนึ่งครับ” ชายหนุ่มเดินแทรกมาจากไหนไม่รู้ทิศทาง
“สิบบาทจ้ะพ่อหนุ่ม”
...
“ไม่ต้องทอนให้ผม”
เขายื่นแบงก์ร้อยพร้อมกับรับขวดน้ำเย็นไว้ในมือ ส่วนเงินทอนเขาก็ไม่รับ
‘อวดรวย’
“ฮะ?”
ขิมคิดดังไปหรือชายหนุ่มคนนั้นถึงร้องว่าฮะ
“เปล่า”
ช่วงเสี้ยววินาทีนั้นขิมรู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก ดวงตาสีเข้มจ้องมองเธอสะกดให้มองเขากลับและไม่สามารถละได้
กลิ่นน้ำหอมที่ลักลอบสูดเข้าไปนั้น หอมแบบสุขุมนุ่มลึกตราตรึงจนต้องกักเก็บไว้ในปอดให้นานที่สุด
เฮือก....
ร่างใหญ่ใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์เดินจากไปพอดี มิเช่นนั้นเขาอาจจะตลกกับท่าทีงกเงิ่นของขิมเป็นแน่
หญิงสาวรีบสูดเอาอากาศหายใจเมื่อความกดดันจากคนไม่รู้จักเดินพ้นระยะสายตาไปแล้ว
“ยังไงหนู ยิบห้าบาทของป้า”
“ขอโทษนะคะ เดี๋ยวหนู...อ้าว!!” กระเป๋าสตางค์ที่แสนคุ้นเคยวางอยู่ไม่ห่างมือ
ขิมมั่นใจว่าเมื่อกี้มันไม่มีอยู่ตรงนี้แน่นอน
“อะไรวะ! เงินหายไปไหนร้อยหนึ่ง”