EP.14
“น้านา! สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีจ้ะลูก,พี่เพียงสวัสดีค่ะ” กรุณา_มารดาของซิมหุบร่มกันยูวีลง รับไหว้จากแฟนสาวของลูกชายและทักทายมารดาของเธอ
“กำลังพูดถึงลูกชายน้าอยู่เหรอ ไอ้เจ้าซิมมันทำอะไรไหนพูดสิ” มาดข้าราชการตำแหน่งใหญ่ กรุณาเป็นถึงรองผู้จัดการกระทรวงมีชื่อที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก
“เด็กๆ เขางอนกันนิดหน่อยน่ะ”
“เหรอ! ไม่เห็นซิมเคยบอกน้า”
“ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะน้านา ขิมก็แค่...” สาวเจ้าไม่รู้ว่าจะหาข้ออ้างอะไรด้วยนิสัยก็ไม่ใช่คนขี้ใจน้อย ชอบเรียกร้องอะไรจากแฟนอยู่แล้ว
“ช่วงนี้ซิมยุ่งติดทำโปรเจคจบอะแม่ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาให้ขิม” เจ้าตัวเดินโผล่มาจากด้านหลังมารดา
ซิมยกมือไหว้ป้าเพียงตามมารยาทและนั่งลงข้างมารดาพร้อมด้วยใบหน้าทะเล้นอย่างเคย
“ตอนจะพาลูกสาวเขาไปก็ยังกล้ามาขอ พอเขาย้ายไปอยู่ด้วยแล้วจริงๆ เราก็ต้องรับผิดชอบเขาด้วยรู้มั้ยฮะ”
“รู้แล้วครับ”
“แฟนดีๆ หาไม่ได้ง่ายๆ นะซิม ต้องรักษาไว้ให้ดีๆ นะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกนา”
“พี่เพียงค่ะ! นาจองขิมไว้แล้วตั้งหลายปี เราสองบ้านรู้จักกันมาตั้งนาน นาไม่ยอมให้เจ้าลูกชายจอมนิสัยเสียคนนี้เลิกกับขิมหรอก”
“ไม่เลิก! ใครจะยอมเลิกล่ะครับ”
ขิมรับรู้ได้ถึงพลังงานบางสิ่งบางอย่างของแฟนตัวเอง น่าแปลกที่จู่ๆ ซิมและน้านามาหาเธอถึงบ้านพร้อมกัน
“น้านากับซิมมาทานข้าวเหรอคะ วันนี้จะทานอะไรดีเดี๋ยวขิมทำให้”
“ของเราขอเหมือนเดิม”
“น้าขอผัดผักรวมแล้วกันจ้ะ ไม่ได้กินข้าวฝีมือขิมนานแล้วเหมือนกันเนาะ”
“รอสักครู่นะคะ”
หญิงสาวละตัวกลับเข้าไปในครัว ลูกแม่ค้าอาหารตามสั่งหยิบจับตะหลิวกระทะคล่องแคล่วว่องไว ติดไฟเปิดเตาแก๊สรอจนน้ำมันร้อนได้ที่ก็โยนกระเทียมสับลงไปเจียวให้หอมตามด้วยหมูหั่นชิ้นกำลังดีหมักด้วยซอสปรุงรส
ไม่นานกับข้าวสองสามอย่างตามด้วยข้าวสวยร้อนๆ ก็ยกเสิร์ฟบนโต๊ะภายในร้านอาหารข้างทาง ทาวเฮ้าส์สองชั้นคูหาเล็กๆ ย่านชานเมืองที่สองแม่ลูกใช้อยู่อาศัยและทำมาหากิน
“ขิม! กลับวันนี้เลยได้มั้ย”
“อะไร”
“ไปธุระกับเราหน่อย”
“ฮะ!”
วัยรุ่นหนุ่มสาวปล่อยให้คนแก่วัยใกล้เคียงนั่งคุยกัน เมื่อได้จังหวะ ฝ่ายชายก็เอ่ยปากชวนแฟนสาวกลับคอนโดทันที
“นะนะ”
“ธุระอะไร”
“เออน่ะ”
“อย่ามาเออน่ะ บอกมาว่ามีธุระอะไร” ต้องยอมรับว่าขิมยังเคืองเรื่องที่ซิมใส่อารมณ์กับคำเตือนของเธอจึงพาลใส่
คงไม่มีธุระอะไรนอกจากให้ไปเก็บกวาดบ้านช่องสินะ ไอ้ตัวทำบ้านรก
เพราะเธอไม่มีปัญญาช่วยหารค่าน้ำ,ค่าไฟ,ค่าเช่าคอนโด เต็มที่ก็แค่ของกินของใช้ภายในบ้านและเก็บกวาดทำความสะอาดเป็นการแบ่งเบา
“มีงานให้ช่วยทำ”
“งานเหรอ”
“ใช่”
“งานที่ว่าคือ...” แวบแรกขิมคิดว่างานพิเศษหารายได้แต่ดูจากสีหน้าและนิสัยซิมไม่ใช่คนประเภทนั้น คนที่ใช้เงินมือเติบหาเงินจากการเล่นพนัน ไม่ใช่คนที่จะหางานพิเศษเพิ่มรายได้ให้ตัวเอง
“เดี๋ยวเราบอกป้าเพียงว่าขิมไปช่วยเราทำโปรเจคจบ คืนนี้ขิมจะกลับพร้อมเราเลย”
.
.
.
โปรคลับ
เวลาสองทุ่ม ณ ทาวโฮมสูงสี่ชั้นติดไฟประดับประดาสวยงามเป็นรูปไม้คิวและลูกสนุกเกอร์
หญิงสาวแหงนหน้ามองขมวดคิ้วยุ่งด้วยความสงสัย
“มาที่นี่ทำไมเหรอ”
“ป้ะ! เข้าไปข้างในกัน”
ซิมก้าวลงจากรถด้วยท่าทีร้อนรน ตรงมาเปิดประตูฝั่งแฟนสาวให้ด้วยและรีบพาตัวขิมเข้าไปด้านในทันที
หลังประตูกระจกบานใหญ่สีดำสนิทมีโซฟาให้นั่งพักเรียงรายเต็มไปหมด ถัดเข้าไปอีกหน่อยมีกระจกใสกั้นเป็นอีกห้องหนึ่งที่ด้านในมีตู้เกมรูปแบบต่างๆ นานา
“ขิมนั่งรอเราแปบนะ” เธอถูกกดบ่าให้นั่งลงกับโซฟาหน้าประตู
ขิมมองบรรยากาศรอบตัว มันเหมือนในหนังเรื่องหนึ่ง แหล่งรวมตัวของนักเสี่ยงโชคและการละเล่นเสี่ยงดวง
ตู้บอล แข่งม้า ตกปลา Slot Rulet โจ๊กเกอร์ แบงก์เกอร์ ปาจิงโกะและอื่นๆ เรียงรายเป็นตับ มีลูกค้าหลายวัยตั้งแต่คนทำงานจนถึงเด็กมัธยม
แฟนหนุ่มเดินไปหาพนักงานสาวรายหนึ่งแล้วก็กระซิบคุยบางอย่าง ทั้งคู่มองกลับมาที่เธอ
“ป้ะ!”
“ไปไหน”
“ข้างบน”
ซิมจูงมือแฟนสาวแต่ขิมขืนตัวเองไว้ ในใจมันมีลางบอกเหตุไม่ดีว่ากำลังจะเกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดคนมาใหม่สองชีวิตก็ลากจูงกันมาถึงชั้นสองของทาวโฮมสี่ชั้น
“พามาจนได้นะมึง” ชายหน้านิ่งคนเดิมหันมาทักทาย โซ่มาตรวจเช็กความเรียบร้อยของธุรกิจใหม่ที่ร่วมทำกับยิมเช่นเดิม
ส่วนอีกคนกำลังหัวหมุนอยู่ในห้องกระจก แต่ยิมก็ยังไม่วายฉีกยิ้มและโบกมือทักทายคนทั้งสอง
“มึงก็พูดไป”
“หมายถึงอะไรเหรอซิม”
“ที่นี่ไง! งานพิเศษที่เราว่า”
อีกครั้งที่ขิมสำรวจสถานที่รอบตัวด้วยสายตา ชั้นหนึ่งเป็นโซนเกมตู้ส่วนชั้นสองเป็นโซนโต๊ะสนุกเกอร์ ถัดไปเป็นห้องกระจกใสมีชายหนุ่มอีกคนนับนั่งเงินเป็นกองอยู่บนโต๊ะ
“งานที่ว่าคือที่นี่เหรอ จะให้เราทำอะไร”
“ก็เป็นคนดูแลที่นี่”
“ฮะ! ทำไมเราต้องทำ” ขิมงงกับคำตอบที่ได้รับ เธอไม่อยากเอาตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหม่นแบบนี้
อาชีพลูกแม่ค้าตามสั่งมันอาจจะลำบากอยู่หน้าเตาร้อนๆ ไม่เหมือนห้องแอร์แต่มันก็ภาคภูมิใจกว่าเยอะ
“นะขิม ช่วยเราหน่อย”
“อะไรของซิมเราไม่เห็นเข้าใจเลย” ขิมเสียงแหว แฟนหนุ่มพูดอะไรไม่เห็นเข้าใจสักนิด
“ไหนมึงบอกคุยกันแล้ว” โซ่เห็นท่าทีของขิมมันไม่ตรงกับที่ซิมเล่าไว้ก่อนหน้านี้
“เออ! คุยกันแล้ว”
“เรากลับก่อนนะซิม...!!” ไม่ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าจะเป็นเช่นไรขิมไม่ขอยุ่งเกี่ยว เธอสะบัดมือแฟนหนุ่มออกแล้วรีบลงจากชั้นบนของอาคาร
“มึงไปตกลงกันมาก่อนเถอะ สรุปว่าไงแล้วค่อยมาบอกกูอีกที”
“เออๆ”
... ... ...
ย้อนไปวันก่อนที่ซิมจะพาตัวขิมมาร้านของโซ่
“มึง! กูขอยืมเงินสักห้าแสนได้มั้ย”
“เดี๋ยวนะ! ช่วงนี้มึงเสียบอลเหรอ” เท่าที่ฟังจากยิมไม่ใช่อย่างนั้น และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงโซ่ก็คงปฏิเสธไม่ให้ความช่วยเหลือ
“เปล่า...” ไม่ใช่แค่กับโต๊ะของยิมที่เขาแทง ยังมีบ่อนอื่นๆ อีกที่ซิมแวะเวียนไปเสี่ยงโชค
“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา แต่กูจะได้อะไรถ้าให้มึงยืม ห้าแสนไม่ใช่น้อยเลยนะช่วงนี้กูก็ต้องหมุนเหมือนกัน” ชายหนุ่มเตรียมบอกปัด โซ่เป็นคนแยกแยะออกระหว่างเรื่องส่วนตัวและธุรกิจอย่างชัดเจน
“ได้มั้ย! เดี๋ยวกูให้ดอกเบี้ยด้วย”
“คือกูไม่ได้จะอะไรนะ! แต่มึงจะหาจากไหนมาคืนกูวะ หลักประกันอะไรก็ไม่มี” ซิมเป็นเด็กมหา'ลัยที่เอาแต่แบมือขอเงินพ่อแม่ไปวันๆ บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก แค่อาศัยหาเงินได้จากการเสี่ยงดวงก็ยังชะล่าใจ และไอ้รถญี่ปุ่นรุ่นถูกๆ ที่ขับอยู่ ต่อให้ยึดมาขายก็ยังไม่ถึงห้าแสนด้วยซ้ำ
หลักประกัน...
เหมือนว่าคนฟังจะคิดแผนดีๆ ออกแล้ว
“มึงเพิ่งเปิดร้านใหม่ไม่ใช่เหรอ”
“แล้ว...”
“ต้องการคนเพิ่มเปล่า”
“อย่าบอกว่ามึงจะทำงานใช้หนี้”
“ไม่ใช่กูแต่เป็นขิม”
“เชี่ยอะไรของมึงเนี่ยฮะ” คนฟังถึงกับร้องฮะ
แฟนสาวมาเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องทั้งหมดนี้
“ขิมอยากได้งานพิเศษทำอยู่พอดี และขิมก็จะการันตีว่ากูจะรีบหาเงินมาคืนมึงแน่นอน”