ตอนที่แล้ว1261 พายุก่อตัวขึ้นแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1263 - ทายาทแห่งเทพหยิน

1262 ความตายอันน่าสะพรึงกลัว 


1262 ความตายอันน่าสะพรึงกลัว

“จริงหรือ ข้าคิดว่าเขาต้องการยืดกล้ามเนื้อกับเราเสียอีก หากจะเล่นกันสักหน่อยข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร!” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างเข้มแข็ง

“พี่เย่ องค์ชายศักดิ์สิทธิ์ เราพบกันอีกแล้ว”

ฮั่วหลินเอ๋อยิ้มอย่างเย้ายวนใจ นางเพิกเฉยต่อคำพูดของวานรศักดิ์สิทธิ์เมื่อครู่นี้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เย่ฟ่านหัวเราะเบาๆ และไม่ได้ใส่ใจมากนัก ในแง่หนึ่งถ้ำโหวหลินนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง พวกเขามีทายาทของจักรพรรดิโบราณถึงสองคน หากหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับคนเหล่านี้ได้ย่อมเป็นการดีที่สุด

อย่างไรก็ตามฮั่วฉีจื่อเฉยเมยมากและดูเหมือนจะไม่มีเจตนาจะผูกมิตรกับกลุ่มเย่ฟ่าน เขาเพียงต้องการสมบัติที่เย่ฟ่านซื้อไปเมื่อครู่ แต่ในเมื่อมันถูกชิงไปแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องสร้างความขัดแย้งเช่นกัน

ฮั่วหลินเอ๋อยังคงยิ้มสดใสและพูดคุยกับกลุ่มของเย่ฟ่านราวกับเป็นสหายเก่ากันมานานปี

เย่ฟ่านร่างกายแข็งทื่อ และทันใดนั้นเขาก็คิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

ผู้คนที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือผู้แข็งแกร่ง พวกเขาสูญสิ้นญาติมิตรไปในยุคโบราณหมดแล้ว ดังนั้นหากพวกเขาต้องการเดินทางไปยังทุ่งดวงดาวอื่นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

และเป้าหมายของพวกเขาอาจเป็นโลกมนุษย์ก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นมันจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!

“จริงๆ แล้วเราไม่มีเป้าหมายอื่นใด มีผู้คนมากมายต้องการเข้าไปข้างในเพื่อฆ่าเจ้า แต่เราไม่มีเจตนาเช่นนั้น จะเป็นอย่างไรหาข้าเสนอว่าพวกเราทั้งสองกลุ่มจะไม่ลงมือต่อกันและกัน” ฮั่วหลินเอ๋อยื่นข้อเสนอของนาง

เย่ฟ่านไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ตอบรับ

สามวันผ่านไปในชั่วพริบตาและวันที่วิหารบรรพชนแห่งจงโจวจะเปิดขึ้นก็มาถึง

หลี่เทียน เอี๋ยนอี้ซี หลี่เหอสุ่ย อู๋จงเทียน เจียงฮ่วยเหรินทำได้เพียงรออยู่ข้างนอก นี่คือคำเตือนของฉีลั่วและคำสั่งของโจรผู้ยิ่งใหญ่ลำดับแรก ทุกคนต่างตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง เป็นการดีที่สุดที่จะไม่ไปเสี่ยงเพื่อสร้างภาระให้เย่ฟ่าน!

ในการเดินทางที่จะถึงนี้รับรองว่ามันจะเต็มไปด้วยอันตรายร้ายแรงและมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เย่ฟ่าน ผังป๋อ วานรศักดิ์สิทธิ์ ต้วนเต๋อ จักรพรรดิดำ ชายชราตาบอด ฉีลั่วและคนอื่นๆ มุ่งหน้าเข้าไปข้างในด้วยกัน พวกเขาไม่เพียงนำหม้ออสูรกลืนสวรรค์เข้าไปข้างในด้วย แต่ยังมีอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วอีกหลายชิ้น

“เดี๋ยวก่อน ข้าก็จะเข้าไปข้างในเหมือนกัน”

คนเถื่อนตงฟางเย่ปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาสุดท้าย เขาเดินทางมาจากหนานหลิงพร้อมกับอาวุธโบราณประจำชนเผ่า เมื่อรวมกลุ่มกับเย่ฟ่านมันจึงทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า

ในท้ายที่สุดจี้จื่อเยว่ก็ปรากฏตัวขึ้นและยืนกรานที่จะเข้าร่วมกลุ่มนางกล่าวกับเย่ฟ่านเบาๆ “ข้าอยากส่งเจ้าออกเดินทาง”

วิหารบรรพชนโบราณถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นมานานกว่าสองแสนปี แต่ปัจจุบันประตูทางเข้าของมันถูกเปิดออกแล้ว นอกจากทางเข้าหลักยังมีประตูอีกหลายสิบบานที่สามารถเข้าไปได้

ผู้คนต่างมุ่งหน้าเข้าไปข้างในโดยไม่มีความลังเล พวกเขาทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือระดับเซียนเทียมขั้นสองที่ทรงพลังอย่างมาก

แต่ในเวลาไม่ถึงสามลมหายใจก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีผู้คนมากมายเสียชีวิตจากกับดักที่ซุกซ่อนอยู่ภายในวิหารโบราณแห่งนี้

เมื่อกลุ่มของเย่ฟ่านก้าวเข้าไปข้างในพวกเขาก็เกิดความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด มีผู้คนไม่น้อยที่ล้มตายลงต่อหน้าพวกเขา ซากศพของคนเหล่านั้นเหี่ยวเฉาคล้ายกับตายมานานนับพันปี

เหตุการณ์นี้ทำให้ดวงตาของต้วนเต๋อเบิกกว้าง คล้ายกับตระหนักถึงบางอย่าง ริมฝีปากของเขาสั่นระรัวและไม่สามารถพูดอะไรได้

วิหารบรรพชนอวี้หัวมืดสลัวลง ทุกคนที่ก้าวเข้าไปข้างในสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

“ลอย…มันมีบางอย่างลอยอยู่ตรงนั้น!” ในที่สุดก็มีใครบางคนตัวสั่นและชี้ไปข้างหน้าด้วยสีหน้าหวาดกลัว

มันเป็นผิวหนังของมนุษย์ที่ลอยอยู่ในอากาศและตกลงมาจากประตูเหมือนใบไม้ร่วงหล่น ใบหน้าของซากศพนั้นเต็มไปด้วยความดุร้าย เห็นได้ชัดว่าเขาตายด้วยความเคียดแค้นอย่างถึงที่สุด

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนตกตะลึง ทันทีที่เข้าไปในประตูวิหาร คนกลุ่มหนึ่งก็ถูกฆ่าพร้อมกัน วิหารโบราณแห่งนี้น่ากลัวกว่าที่คิดไว้มาก

เลือดเนื้อของผู้คนนับร้อยกระจัดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง หลังจากเข้ามาไม่นานก็มีความสูญเสียเกิดขึ้นอย่างไม่อาจจินตนาการได้

ทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายของพวกเขาถูกทำลายจนหมดสิ้น มีเพียงผิวหนังเท่านั้นที่ยังคงสมบูรณ์แบบไม่มีร่องรอยของบาดแผลแม้แต่น้อย

เมื่อผ่านประตูวิหารทุกคนจะมองเห็นดวงตาขนาดใหญ่คู่หนึ่ง มันเปล่งประกายด้วยแสงสีฟ้าครามและทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ดวงตานั้นเปิดขึ้นเพียงไม่กี่ลมหายใจและหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย

หลายคนตัวสั่นและไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ นี่เป็นเพียงประตูวิหาร มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าภายในวิหารโบราณแห่งนี้จะซุกซ่อนอันตรายไว้มากมายเพียงใด

“ข้าจะไม่เข้าไปอย่างเด็ดขาด!”

หลายๆ คนตัดสินใจวิ่งกลับหลัง สมบัติที่อยู่ภายในอาจจะล้ำค่าจริงๆ แต่หากพวกเขาเสียชีวิตโดยไม่มีโอกาสได้ใช้มัน ต่อให้เป็นสมบัติล้ำค่ามากแค่ไหนทุกอย่างยังคงไร้ประโยชน์

“แม้กระทั่งราชาผู้ยิ่งใหญ่ยังถูกฆ่าตายไปด้วย!”

มีคนถอนหายใจ แม้กระทั่งเซียนเทียมขั้นสามยังถูกฆ่าตายในลมหายใจเดียว สิ่งที่ซ่อนอยู่ในวิหารนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใดสามารถจินตนาการได้

ชายชราบางคนนั่งอยู่กับพื้นและสังเกตผิวหนังของมนุษย์ด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่พบข้อบกพร่องใดๆ ผิวหนังของพวกเขาราวกับถูกลอกออกมาอย่างปราณีตไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย

“วิญญาณของพวกเขาถูกทำลายก่อน จากนั้นค่อยเป็นเนื้อหนัง” มีคนกล่าวด้วยความมั่นใจ

แม้ว่าจะมีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้น แต่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งหลายคนยังคงมุ่งหน้าเข้าไปข้างในโดยไม่หวั่นเกรงต่อความตาย อาวุธศักดิ์สิทธิ์หลายชิ้นถูกหยิบออกมา และส่องแสงแวววาวอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา

“ข้าอายุปูนนี้แล้วหากวันเกรงต่อความตายโดยไม่กล้าเดินหน้าต่อไปเกรงว่าคงไม่มีชีวิตมาจนถึงปัจจุบันด้วยซ้ำ!” ชายชราคนหนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม

จากนั้นเขาก็ได้นำกลุ่มของตัวเองเดินไปข้างหน้าอย่างองอาจกล้าหาญพร้อมกับหายตัวไปในเงามืด ไม่มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงปลอดภัยดีอยู่

จากนั้นหลายคนก็เริ่มรวบรวมความกล้าและติดตามเส้นทางของชายชราไปโดยไม่สนใจชีวิตและความตายของตัวเองเช่นกัน

“ไปเถอะ มาถึงขนาดนี้แล้วหากถอยหลังกลับคงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง”

ผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า ทุกคนรู้ดีว่าในอนาคตจะมีเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่บางอย่างเกิดขึ้น

หากพวกเขาปล่อยให้ผู้คนจำนวนมากได้รับสมบัติที่อยู่ภายใน

สุดท้ายพวกเขาก็จะกลายเป็นเพียงผู้อ่อนแอและไม่สามารถแข่งขันกับคนเหล่านั้นได้ในอนาคต

เย่ฟ่าน ผังป๋อ และวานรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีความหวั่นเกรงอะไร พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งและยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก

ที่สำคัญที่สุดในกลุ่มของพวกเขายังมีจักรพรรดิดำและต้วนเต๋อที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับค่ายกลและสุสานโบราณ แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่ใช่สุสานจริงๆ แต่มันก็มีความเชื่อมโยงกันไม่น้อย

“นี่คือโลกใบเล็กแห่งหนึ่ง มันมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล เห็นได้ชัดว่ามีเพียงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นจึงจะสามารถสร้างโลกใบเล็กเช่นนี้ขึ้นมาได้!”

หลังจากที่ต้วนเต๋อเข้ามา สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความลังเล

ภายนอกแม้ว่าวิหารนี้จะมีขนาดใหญ่โตกินพื้นที่หลายสิบลี้แต่โลกที่อยู่ภายในกลับยิ่งใหญ่มากกว่าหลายเท่า

ผู้คนต้องประหลาดใจกับความร่ำรวยของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อวี้หัวการจะสร้างโลกใบเล็กเช่นนี้ได้ไม่เพียงจะต้องมีทรัพยากรมากมายนับไม่ถ้วน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ที่สร้างมันจะต้องมีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ

“แม้ว่าโลกใบเล็กนี้จะเต็มไปด้วยอันตรายร้ายแรง แต่หากเราไม่มุ่งหน้าต่อไปเกรงว่าผู้อื่นอาจจะครอบครองสมบัติแห่งสวรรค์พิภพที่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของโลกได้เลย” ต้วนเต๋อกล่าวต่อ

พวกเขาไม่ใช่คนปัญญาอ่อนและรู้ดีว่ามีเพียงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นถึงจะสามารถสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้

ตามปกติแล้วโลกใบเล็กเช่นนี้มักจะเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ใช้เก็บตัวบ่มเพาะอย่างยาวนาน ต่อให้ไม่มีทรัพย์สมบัติของพวกเขาเก็บไว้ข้างใน แต่มันจะต้องมีร่องรอยแห่งเต๋าถูกทิ้งไว้อย่างแน่นอน

“นี่คือเขาวงกตขนาดใหญ่ หากเราเดินสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะไม่มีวันออกไปข้างนอกได้อีก!” สุนัขสีดำตัวใหญ่กล่าวเตือนทุกคนอย่างเคร่งขรึม

ข้างหน้ามืดสนิทและลานภายในก็เงียบสงบไม่มีแม้แต่คนกล่าววาจา พวกเขาทั้งหมดกลั้นหายใจและมุ่งความสนใจไปที่ชั้นสองของวิหารทีละก้าว

บนพื้นดินมีชิ้นส่วนของผิวหนังมนุษย์กระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง เห็นได้ชัดว่าเพียงการกวาดล้างครั้งเดียวผู้คนมากกว่าครึ่งก็ถูกสังหารออกไปแล้ว

…………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด