ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 465 - เอื้อมคว้าดาว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 467 - สัตว์อสูรในแหวน!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 466 - ทยอยผ่านการทดสอบ


“หือ? ผู้ก่อปฐพีชั้นสมบูรณ์ มีหนูสกปรกเล็ดลอดเข้ามาได้อย่างนั้นหรือ?”

เมื่อได้ฟังคำพูดที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ชายหนุ่มที่เพิ่งโผล่ออกมาจากประตูก็ยืนตัวแข็ง สีหน้าเคร่งเครียดเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเปิดโปงเร็วขนาดนี้ อีกฝ่ายมองทะลุการปกปิดได้ในพริบตา มันไม่ใช่เรื่องดีเลย

“ผู้อาวุโส! ผู้เยาว์ขอน้อมพบผู้อาวุ...” แม้ว่าจะพยายามเอ่ยปากทักทายแบบใจดีสู้เสือ แต่ดูเหมือนว่าชายชราเจ้าของสถานที่จะไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดจบด้วยซ้ำ

แรงกดดันที่แปลกประหลาดแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นข่ายพลังที่กดทับจำกัดการเคลื่อนไหวทั้งหมดเอาไว้ ชายหนุ่มผู้มาใหม่ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ แล้วพยายามหมุนเวียนคลื่นสมองเพื่อดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่! มันไร้ประโยชน์

“ผ-ผู้อาวุโส! ผู้เยาว์ไม่ได้มีเจตนาร้าย! ขอผู้อาวุโสปราณีด้วย!!” เสียงตะโกนร้องขอความเมตตาก้องออกมาจากปาก มันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

“หึหึ! ผู้เยาว์อย่างนั้นหรือ? เจ้าเหลืออายุไขอยู่เท่าไรกันเชียว? ช่างไร้ประโยชน์นัก!! ไม่สิ! ต่อให้แก่แค่ไหน วิญญาณที่สมบูรณ์ก็ยังใช้เพิ่มพลังได้ไม่น้อยเลย” หลังจากเสียงที่เยือกเย็นเหี้ยมเกรียมกล่าวจบ คลื่นพลังที่น่าขยะแขยงก็รวมตัวกันอยู่ที่เหนือหัวของชายชรา เปลวเพลิงสีเขียวก่อตัวลุกโชติช่วงขี้นมา ก่อนที่มันจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหัวกะโหลกที่มีเพลิงสีเขียวลุกโชนอยู่ในดวงตา

“ผู้อาวุโส ได้โปรดเมตตาด้วย! ผู้เยาว์ไม่ได้มีเจตนาร้ายจริง ๆ ผู้เยาว์เข้ามาที่นี่ด้วยความบังเอิญไม่ได้ตั้งใจบุกรุก! ผู้อาวุโส! ได้โปรดเถิด จะให้ผู้เยาว์เป็นทาสรับใช้เพื่อลบล้างความผิดก็ได้ ผู้เยาว์ยอมทุกอย่าง!” เมื่อเห็นกะโหลกที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าใส่ ผู้ก่อปฐพีขั้นสมบูรณ์คนนั้นก็ละล่ำละลักออกมาอย่างขวัญหาย

“ทาสรับใช้!? เจ้ามีเวลาอยู่แค่ไม่ถึงพระจันทร์เต็มดวงอีก 30 รอบ! ยังคิดจะมีชีวิตต่อไปอีกทำไม ตายเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันหรอก!”

แล้วกะโหลกขนาดใหญ่ก็อ้าปากกว้างออกมาเผยให้เห็นเปลวเพลิงสีเขียวที่ลุกโชนอยู่ด้านใน แรงดึงดูดอันลึกลับถูกปลดปล่อยออกมา ประกายแสงหลากสีสันลอยออกจากร่างของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว แค่เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น พลังชีวิต! วิญญาณ! ทุกอย่างก็ถูกหัวกะโหลกเพลิงกลืนหายไป

ตุบ!!!

ร่างที่เหี่ยวแห้งล้มลงกองกับพื้น ก่อนจะถูกดูดจมหายไปอย่างไร้ร่องรอย ชายชราหลับตาลงพร้อมกับพึมพำออกมาเบา ๆ “ถึงจะรสชาติไม่ดีนัก แต่ก็มีพลังงานเต็มเปี่ยมอย่างที่คาด ไม่เลว ๆ”

หลังจากสิ้นสุดคำพูดของเขา ทุกอย่างก็กลับสงบเงียบลงอีกครั้ง

เวลาผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ คลื่นอากาศก็ไหวตัวพร้อมกัน 2 จุด คราวนี้มีผู้ที่ผ่านการทดสอบเข้ามาถึงที่นี่ได้พร้อมกันทีเดียว 2 คน เป็นผู้ชาย 1 คนและผู้หญิง 1 คน ถ้าพิจารณาจากชุดคลุมบนร่างกาย พวกเขาเป็นลูกศิษย์คนละสำนักกัน

สีหน้าของพวกเขาทั้งคู่ดูสับสน ต่างพากันกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ท่าทางแม้จะไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็อยู่ในสภาพที่จะพร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อเลยทีเดียว

“ยอดเยี่ยม! ฮ่าฮ่าฮ่า! ยอดเยี่ยมมาก! อัจฉริยะรุ่นเยาว์อีก 2 คน.. ยินดีต้อนรับ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชรา เสียงกล่าวต้อนรับเต็มไปด้วยความเมตตา ความคาดหวังอย่างแรงกล้าทอประกายอยู่ในดวงตาอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน

“ท่านเป็นใคร?” ชายหนุ่มเป็นคนเอ่ยถามออกมา สายตาที่จ้องมองชายชราเต็มไปด้วยความระแวดระวัง ส่วนฝ่ายหญิงยังนิ่งเงียบดูสถานการณ์อยู่ สายตาของเธอมองจ้องที่ชายชราอย่างไม่วางตาเช่นกัน

“ข้าชื่อโอวหยางฟง! ผู้ก่อตั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้” น้ำเสียงอันอ่อนโยนดังตอบคำถามออกมาทันที

“หือ? บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์!? เป็นไปไม่ได้! ถ้าเขาไม่เสียชีวิต ก็คงจะบรรลุขอบเขตสูงสุดและทะลวงพันธนาการโลกออกไปแล้ว! ท่านเป็นใครกันแน่? บอกความจริงมา!!” หญิงสาวรักษาท่าทางอันสงบไม่ได้อีกต่อไป เธอถอยหลังออกไปก้าวใหญ่ ปากตวาดเสียงเจื้อยแจ้วออกมา พร้อมกับ 2 มือที่ยกขึ้นประกับกัน

คำพูดของเธอทำให้ชายหนุ่มตื่นตัวขึ้นมาเช่นกัน เขาตั้งท่าเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทันที ต่อให้ชายชราที่อยู่ข้างหน้าจะมีความแข็งแกร่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่ด้วยการร่วมมือกัน 2 คน โอกาสชนะไม่ใช่ว่าจะไม่มี!

“ฮ่าฮ่าฮ่า! นับว่าเป็นสาวน้อยที่มีความรู้กว้างขวางเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอายุเพียงแค่นี้ กับรู้เรื่อง ‘พันธนาการโลก’ ด้วย ไม่เลย! ตัวตนของเจ้าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนใช่มั้ย?” แววตาอันเย็นชาวาบขึ้นมาแวบหนึ่ง แต่ชายชราก็ปิดบังมันเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว น้ำเสียงของเขายังนุ่มนวลอ่อนโยนอยู่เหมือนเดิม

“สิ่งที่เจ้าพูดออกมาถือว่าไม่ผิด แต่! นั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ข้าได้พยายามทำลายพันธนาการโลกเพื่อจากไปเช่นกัน น่าเสียดาย! การทรยศหักหลังจากคนใกล้ตัวทำให้มันล้มเหลวลงในท้ายที่สุด และหลังจากการต่อสู้อย่างดุเดือด ข้าสามารถหนีเอาชีวิตรอดมาได้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ทำให้ข้าต้องหลบซ่อนอยู่แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวเองสร้างขึ้น ก่อนตาย! ข้าได้ทิ้งจิตสำนึกเอาไว้ สร้างบททดสอบขึ้นมาเพื่อหาผู้สืบทอดของทักษะระดับสวรรค์ นั่นก็คือการทดสอบที่พวกเจ้าเพิ่งผ่านมันมานั่นเอง” ชายชรากล่าวออกมาน้ำเสียงอ่อนโยน ศีรษะส่ายไปมาเบา ๆ ใบหน้าแสดงอาการเจ็บปวดและเสียดายออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

ทักษะระดับสวรรค์!? มันแทบจะเป็นสิ่งเดียวที่ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ยืนตะลึงงันอยู่ตอนนี้ได้ยิน หัวใจของพวกเขาแทบจะหยุดเต้น นี่ช่างเป็นการทดสอบที่คุ้มค่ายิ่งนัก

“ท่านกล่าวว่า ‘ทักษะระดับสวรรค์’ อย่างนั้นหรือ? มันคือของรางวัลสำหรับผู้ที่ผ่านการทดสอบใช่หรือไม่?” ชายหนุ่มเป็นผู้ที่ถามออกมาด้วยแววตาลุกโชน น้ำเสียงนั้นปิดบังความตื่นเต้นไม่มิด

“แค่ส่วนหนึ่งของรางวัลเท่านั้น” เสียงอันอ่อนโยนเอ่ยตอบกลับทันที และมันเป็นคำพูดที่ทำให้ผู้ฟังหัวใจเต้นถี่แรง ลมหายใจของพวกเขากระชั้นรัว

“แต่! พวกเจ้าจะไม่สามารถนำมันออกไปจากที่นี่ได้หรอกนะ” คำพูดที่กล่าวต่อออกมาของชายชราทำให้รุ่นเยาว์ทั้ง 2 คนชะงักลงเล็กน้อย

“แล้วถ้าอย่างนั้นจะเรียกว่ารางวัลได้อย่างไร ถ้าพวกเราไม่สามารถนำมันติดตัวออกไปได้?” หญิงสาวเป็นคนเอ่ยถามออกมาในคราวนี้ น้ำเสียงของเธอฟังดูไม่ดีเลย

“โฮ่โฮ่โฮ่! อย่างเพิ่งตื่นตระหนกไปแม่สาวน้อย พวกเจ้าไม่สามารถนำมันออกไปได้ แต่พวกเจ้าสามารถฝึกฝนมันได้ที่นั่น จะประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด นั่นก็อยู่ที่พรสวรรค์และความสามารถในการรับรู้ของแต่ละคนแล้ว แต่ข้ารับรองได้เลย ต่อให้ฝึกฝนทักษะระดับสวรรค์ไม่สำเร็จ การได้อ่านทำความเข้าใจเนื้อหาของมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้การฝึกฝนของพวกเจ้าพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด รับรองได้ว่าทักษะที่พวกเจ้าฝึกฝนอยู่ในตอนนี้จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นอย่างแน่นอน” ระหว่างที่เอ่ยคำ ชายชราก็ชี้ไปยังดวงดาวที่สว่างเจิดจ้าอยู่ ชายหนุ่มหญิงสาวทั้ง 2 คนหันไปมองอย่างตื่นเต้น แล้วพวกเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น เมื่อเห็นว่ามีร่างหนึ่งลอยค้างนิ่งอยู่กลางอากาศ ในท่าทางที่มือเอื้อมแตะอยู่ที่ประกายแสงของดวงดาว

“มีคนผ่านการทดสอบก่อนหน้านี้แล้วอย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง?” หญิงสาวอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“เธอรู้จักหมอนั่นมั้ย?” ชายหนุ่มยังจ้องมองเดวิดอยู่อย่างพิจารณาระหว่างที่เอ่ยถามออกมา

“ไม่! ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย!” หญิงสาวตอบกลับด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาดวงที่เปล่งแสงเจิดจ้าทันที มือของเดวิดแตะอยู่แค่ไม่ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ของแสงที่เปล่งประกายออกมา มันยังมีที่ว่างให้เธอยื่นมือเข้าไปแตะได้อีกมากมายนัก ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็พุ่งตามเข้าไปอย่างไม่ลังเลเช่นกัน

เมื่อพาตัวเข้าไปอยู่ใกล้กับดวงดาว พวกเขาชะงักหยุดลงพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย สายตานั้นจ้องอยู่ที่แผ่นหลังอันไร้การป้องกันของเดวิด ความคิดมากมายแล่นผ่านหัวของพวกเขา คน ๆ นี้ผ่านการทดสอบมาได้ก่อน! นั่นหมายความว่าความแข็งแกร่งต้องไม่ต่ำต้อย และจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญในอนาคต

พวกเขาเหลือบมองหน้ากันอย่างระมัดระวัง ก่อนจะตัดสินใจแยกกันออกไปทางซ้ายและขวาของเดวิด และรีบยื่นมือเข้าไปแตะแสงที่ทอประกายเจิดจ้าออกมา เช่นกัน! ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่แข็งค้างไปในทันที

แม้ว่าในใจของทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวต้องการจะกำจัดคู่แข่ง แต่ไม่มีใครกล้าลงมือกับเดวิดก่อน เพราะมันจะเป็นการเปิดช่องว่างให้อีกคนโจมตีตัวเองด้วยเช่นกัน สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำได้ คือรีบเรียนรู้ฝึกฝนทักษะระดับสวรรค์ให้ได้มากที่สุด มันเป็นทางเลือกเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้แล้ว

ใบหน้าของชายชรายิ้มกว้างออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นทั้ง 2 คนตกอยู่ในสภาพเหมือนถูกแช่แข็ง เขามีทางเลือกเพิ่มขึ้นมาอีก 2 คนแล้ว หลังจากเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบ ๆ อีกสักพัก ชายชราก็หลับตาลงยืนนิ่งเหมือนเช่นเคย

การหลับตาไปคราวนี้ต้องรอเวลาถึงอีก 2 อาทิตย์ เขาถึงได้ลืมตาขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้ถึงการสั่นไหวของอากาศ คราวนี้มันปรากฏขึ้นพร้อมกันถึง 3 จุดเลยทีเดียว

“ยินดีต้อนรับทุกคน! ไม่ต้องตื่นตระหนกไป พวกเจ้าทุกคนผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว ที่นี่คือสถานที่สำหรับการรับรางวัลตอบแทนของการทดสอบ!” น้ำเสียงของชายชรายังคงอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด