ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 783 ทางเลือกของหลี่ฉิงซาน (อ่านฟรี)
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 783 ทางเลือกของหลี่ฉิงซาน (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
เฉียนเหลียงมู่กระแอมไอเบาๆ “ผู้นำนิกายหมื่นพิษ บรรพชนหมื่นพิษปรารถนาที่จะเชิญเจ้ามาเป็นผู้พิทักษ์ของนิกาย”
เผิงจิงหนี่เย้ยหยันทันที “ช่างเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยม! นี่คือความมั่งคั่งและเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่เจ้ากล่าวถึงงั้นหรือ?”
หลี่ฉิงซานจิบสุรา “ไม่เลว สำหรับผู้ฝึกตนทั่วไป ตัวตนในฐานะผู้พิทักษ์ของนิกายหมื่นพิษถือเป็นความมั่งคั่งและเกียรติที่ยิ่งใหญ่จริงๆ”
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขากล่าวบอกเป็นนัยอย่างชัดเจนราวกับเวลากลางวันว่ามันไร้ความหมายสำหรับเขา
เขาคิด ‘เจ้าต้องการดึงข้าขึ้นม้าศึกของนิกายหมื่นพิษในฐานะผู้พิทักษ์งั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสานัก! เมื่อวังหลอมรวมดาบเชิญข้าไปเป็นผู้อาวุโสนอก พวกเขาเสนอสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณในตำนานให้ข้า หากข้าประสบปัญหาใดๆ วังหลอมรวมดาบก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือข้าเพื่อรักษาชื่อเสียงของพวกเขา แต่สำหรับพวกเจ้า หากข้าไม่ถูกพวกเจ้าแทงข้างหลัง นั่นก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว!’
เฉียนเหลียงมู่เผยรอยยิ้มราวกับทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขา เขากล่าว “แล้วตัวตนในฐานะแขกของราชาแห่งอาณาจักรเยว่เป็นเช่นไร?”
อวี๋อู๋เฟิงยกคิ้วขึ้นและคิดว่า ‘มันมาถึงประเด็นสำคัญแล้ว!’
วังของราชาอาณาจักรเยว่เปิดต้อนรับแขกเสมอ โดยไม่คำนึงถึงตัวตนและต้นกำเนิดของพวกเขา ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถผ่านการทดสอบ พวกเขาก็สามารถเป็นแขกที่ได้รับการคุ้มครองจากราชวงศ์และเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์มากมาย
เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเปิดวังรับแขก ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนของมณฑลกู้โจวจะแย่งชิงโอกาสนั้นซึ่งนำไปสู่การนองเลือด
เผิงจิงหนี่อ้าปากค้าง วังดาบทะเลใต้สามารถต่อต้านนิกายหมื่นพิษ พวกเขาไม่กลัวตัวตนองค์ชายของเฉียนเหลียงมู่ แต่พวกเขาไม่กล้าวางแผนต่อต้านราชาอาณาจักรเยว่
วิธีที่ราชาอาณาจักรเยว่ใช้ในการคัดเลือกรัชทยาทผู้สืบทอดเข้มงวดยิ่งกว่าราชวงศ์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าเซี่ย เขาให้ความสำคัญกับกฎดั้งเดิม องค์ชายทุกคนต้องฝึกฝนและรับการทดสอบในสถานที่ต่างๆทั่วมณฑลกู้โจว ดังนั้นการเสียชีวิตจึงเป็นเรื่องปกติ ตราบเท่าที่ผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเช่นเจ้าวังดาบทะเลใต้ไม่พยายามไล่ล่าสังหารพวกเขาโดยตรง ราชาอาณาจักรเยว่ก็จะไม่พิจารณาเรื่องการแก้แค้น
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างมณฑลกู้โจวกับมณฑลชิงโจวอย่างชัดเจน หากราชาอาณาจักรเยว่สามารถทำให้หลี่ฉิงซานกับเสี่ยวอันสวามิภักดิ์ มันจะเหมือนกับการโจมตีมณฑลชิงโจวอย่างรุนแรง
เฉียนเหลียงมู่ชำเลืองมองเผิงจิงหนี่ด้วยรอยยิ้มซึ่งเต็มไปด้วยการยั่วยุ ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นตัวแทนของนิกายหมื่นพิษอีกต่อไปแต่เป็นตัวแทนของราชาอาณาจักรเยว่ อย่างไรก็ตามหลี่ฉิงซานยังสงบนิ่งและไม่ได้แสดงความประหลาดใจใดๆออกมาซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
“ไม่เลว นั่นถือเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่จริงๆ มีสิ่งใดอีก?” หลี่ฉิงซานจิบสุราและเผยรอยยิ้ม
เฉียนเหลียงมู่ยกคิ้วขึ้น เขาคิด ‘เขาโลภเกินไปหรือไร้สมอง?’
“แขกผู้ทรงเกียรติ!” เฉียนเหลียงมู่หรี่ตาและพ่นคำนี้ออกมาราวกับส่งมีดออกไป แสงเย็นเยียบในดวงตาเผยให้เห็นความตั้งใจที่แท้จริงของเขา
‘ฮืม ข้าอยากรูว่าตอนนี้เจ้ายังจะยิ้มได้หรือไม่!’
ดวงตาของอวี๋อู๋เฟิงหรี่ลงทันที เขาไม่เคยคิดว่าราชาอาณาจักรเยว่จะเสนอสิ่งนี้จริงๆ
เป็นที่รู้กันดีว่าวังของราชาอาณาจักรเยว่สามารถรองรับแขกที่มากพรสวรรค์ได้มากกว่าสามพันคนซึ่งแบ่งออกเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ แขกที่น่านับถือ และแขกที่ทรงคุณค่า มันขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะของพวกเขา ผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์สามครั้งสามารถเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ ผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์สองครั้งสามารถเป็นแขกที่น่านับถือ ผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์เพียงครั้งเดียวจะเป็นแขกที่ทรงคุณค่า
แม้แต่ตัวตนที่เลวร้ายที่สุดในฐานะแขกที่ทรงคุณค่าก็เพียงพอแล้วที่ผู้คนจะแย่งชิงกัน ขณะที่แขกผู้ทรงเกียรติจะได้รับการแสดงความเคารพโดยราชาอาณาจักรเยว่และถูกเรียกว่าสหาย
แม้หลี่ฉิงซานจะครอบครองฉายาราชาอำมหิต แต่เขาก็ยังไม่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์ครั้งที่สาม ราชาอาณาจักรเยว่กำลังทำลายประเพณีดั้งเดิมและมอบตำแหน่งแขกผู้ทรงเกียรติให้หลี่ฉิงซานโดยตรง ตราบเท่าที่เขากลายเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ เขาจะสามารถท่องเที่ยวไปทั่วมณฑลกู้โจวได้ตามที่เขาต้องการ และยังมีผลประโยชน์อื่นๆอีกนับไม่ถ้วน
นี่ถือเป็นเกียรติและความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากราชาอาณาจักรเยว่เสนอและแสดงความมุ่งมั่นที่จะรับเขาเข้าร่วมโดยตรง มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ
หากหลี่ฉิงซานปฏิเสธ แม้เขาจะยังอยู่บนภูเขาอำมหิต มันก็ไม่สามารถรับรองความปลอดภัยของเขา หากเขาตกลง มันจะเป็นการแยกตัวออกจากมณฑลชิงโจว
ดังที่เฉียนเหลียงมู่คาดหวัง รอยยิ้มของหลี่ฉิงซานหายไป ในทางตรงข้าม เขาเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามหัวใจของเฉียนเหลียงมู่กลับจมดิ่งลง หลี่ฉิงซานเพียงยืดตัวขึ้นเท่านั้น มันเป็นการเคลื่อนไหวง่ายๆแต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนภูเขาสูงหลายร้อยเมตรทอดเงาขนาดใหญ่ลงมาที่เขาและกดดันเขาอย่างหนัก
เขาตกใจมาก เห็นได้ชัดว่าหลี่ฉิงซานไม่ได้ตั้งใจที่จะกดดันและทำให้เขาหวาดกลัว มันเป็นเพียงการแสดงออกที่เปลี่ยนเป็นจริงจังเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เฉียนเหลียงมู่รู้สึกถึงภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ มันเหมือนมนุษย์ที่ต้องเผชิญหน้ากับเสือที่ดุร้าย แม้เสือที่ดุร้ายจะไม่สนใจที่จะล่ามนุษย์ แต่การสบตากับมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้มนุษย์รู้สึกหวาดกลัวจนสูญสิ้นสติปัญญา
ดาบกิ้งก่าเพลิงส่งเสียงดังขึ้นในมือของเผิงจิงหนี่และต้องการออกจากฝัก เผิงจิงหนี่ต้องกดด้ามดาบเอาไว้อย่างแน่นหนาและปลอบโยนจิตวิญญาณดาบที่กำลังตกใจ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจกับตัวเองอยู่ภายใน ‘แม้เขาจะไม่ได้ปลดปล่อยจิตสังหารใดๆออกมาและเป็นเพียงการเปลี่ยนการแสดงออกเล็กๆน้อยๆ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ดาบกิ้งก่าเพลิงตกใจแล้ว! เดิมทีข้าคิดว่าข้าอาจไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดท่ามกลางผู้ฝึกตนแก่นทองคำแต่ข้าก็ไม่แพ้ผู้ใดเช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนข้าจะติดอยู่ในกลาแคบๆ ศิษย์พี่บ่มเพาะมานานหลายปีและใกล้จะก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ครั้งที่สามแล้วแต่เขายังพ่ายแพ้ให้แก่คนผู้นี้ ดูเหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
หลี่ฉิงซานเข่นฆ่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ใดจะรู้ว่ามีมนุษย์และปีศาจมากมายเพียงใดที่ตกตายในกำมือของเขาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้กลิ่นอายของเขาพัฒนามาถึงจุดนี้
“โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ ผู้บัญชาการหลี่ ท่านไม่ควรละทิ้งความตั้งใจดีของราชาอาณาจักรเยว่”
เฉียนเหลียงมู่ก้มศีรษะลงและโค้งคำนับอย่างเคร่งขรึม
เดิมทีเขารู้สึกไม่พอใจที่ราชาอาณาจักรเยว่เสนอตำแหน่งแขกผู้ทรงเกียรติให้หลี่ฉิงซานโดยตรง หากหลี่ฉิงซานกลายเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ แม้แต่องค์ชายเช่นเขาก็ยังต้องแสดงความเคารพด้วยการคำนับ
แต่ตอนนี้ความไม่พอใจส่วนใหญ่ของเขาหายไปแล้ว มันยังถูกแทนที่ด้วยความตระหนักรู้บางอย่าง ‘หากเป็นการต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย ข้าคงตายในเงื้อมมือของเขา ข้าไม่สามารถหลบหนีเช่นกัน’ นี่ไม่ใช่การตัดสินตามตรรกะแต่เป็นความรู้สึกจากสัญชาตญาณล้วนๆ ความรู้สึกนี้พัฒนาผ่านการเผชิญหน้าต่อความตายมานับครั้งไม่ถ้วนและมันก็ช่วยชีวิตเขามาแล้วหลายครั้ง
แม้หลี่ฉิงซานจะยังไม่คู่ควรกับตำแหน่งราชาอำมหิตในเวลานี้ แต่เขาจะก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ครั้งที่สามและยืนอยู่ท่ามกลางบรรดาราชาไม่ช้าก็เร็วตราบเท่าที่เขายังไม่ตายระหว่างทาง
การโค้งคำนับให้กับตัวตนเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ตรงข้าม การโค้งคำนับของเขากลายเป็นการแสดงความสุภาพต่อแขกผู้ทรงเกียรติ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นการบังคับให้หลี่ฉิงซานตัดสินใจ
เขาคิด ‘เลือกซะ ราชาอำมหิต! ไม่ว่าจะเป็นมณฑลชิงโจวหรือมณฑลกู้โจว ตราบเท่าที่เจ้าก้าวผิด แม้เจ้าจะเป็นอัจฉริยะก็ยังต้องตายพร้อมกับดวงวิญญาณที่แตกสลาย!’
หลี่ฉิงซานยิ้ม “เหตุใดเจ้าต้องจริงจังขนาดนั้น?” เขาเกาศีรษะและถอนหายใจคิด ‘เห้อ เดิมทีข้าต้องการเพิกเฉยต่อมัน หรืออย่างน้อยก็ใช้เวลาตัดสินใจสักสองสามปีและรอให้สงครามเริ่มขึ้น แต่ราชาล้วนไม่ใช่ตัวตนที่สามารถรับมือได้ง่ายอย่างแท้จิรง’
‘แน่นอนข้าสามารถแสร้งรับปากก่อนจะอธิบายตัวเองกับมณฑลชิงโจว ด้วยวิธีนี้ข้าจะไม่รุกรานทั้งสองฝ่าย มันดูเหมือนเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด แต่ข้าไม่เคยเป็นคนฉลาดมาก่อน และข้าก็ไม่ชอบเสแสร้งประจบประแจง ดังนั้น...’
หลี่ฉิงซานดื่มสุราจนหมดขวดและเผยรอยยิ้ม
“ข้าปฏิเสธ!”