ตอนที่แล้วตอนที่ 6 ตัวละครหลักมาถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 สะกดรอยตาม

ตอนที่ 7 กระป๋องอาหาร


เย่อันเผิงจำได้ว่าเฟิงหยูเตี๋ยคือตัวละครหลักของ’กระบี่สวรรค์แฟนตาซี’ตอนนางเดินมาคุยกับพวกเขา

จริงๆแล้ว เขาสังเกตเห็นนางตั้งแต่ก้าวแรกที่นางก้าวเข้าโรงเตี๊ยม มันยากจะไม่สังเกตเห็นผมสีเงินเช่นเดียวกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

แต่ เย่อันผิงยังมีคำถาม

ร่างสีทองน้อยๆที่ดูเหมือนกระป๋องอาหารซึ่งลอยข้างนางคืออะไร?ในเกม ไม่มีสิ่งเช่นนี้

และมันดูเหมือนว่าเพ่ยเหลียนเสวี่ยจะมองไม่เห็น ไม่งั้น นางคงเอ่ยปากถามเองไปแล้ว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง มีแค่เขาที่เห็น?

ขณะที่เย่อันผิงกินข้าว จิตใจก็พยายามนึกถึงอุปกรณ์ที่นางมีในเกม นางควรมีของชิ้นเดียวที่เรียกว่า’คัมภีร์เต๋าสวรรค์’

คัมภีร์เต๋าสวรรค์ไม่ได้มีรายละเอียดมากในเกม พล็อตบอกแค่ว่ามันอยู่ในการครอบครองของเฟิงหยูเตี๋ย และบันทึกเหตุการณ์ของภพสวรรค์โจวซิงเมื่อหมื่นปีก่อน เหมือนสารานุกรม

หรือว่ากระป๋องอาหารนี้จะคือคัมภีร์เต๋าสวรรค์?

แต่ทำไมเขาถึงเห็นมัน?

เพ่ยเหลียนเสวี่ยเห็นว่าเขาเอาแต่คีบข้าวเล่น นางจึงวางเนื้อลงจานเขา“พี่ กินเนื้อด้วยสิ เราต้องเก็บแรงไว้สู้นะ”

“อืม”เย่อันผิงได้สติและพยักหน้า

พอได้ยินคำพูดของเพ่ยเหลียนเสวี่ย เฟิงหยูเตี๋ยก็จำใจความได้และถาม“สหายเต๋า พวกเจ้าจะไปสู้เร็วๆนี้?สู้กับใคร?ให้ข้าช่วยไหม?”

ขณะพูด นางก็เหลือบมองเพ่ยเหลียนเสวี่ย ยิ่งนางมอง นางยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายสวย

เพ่ยเหลียนเสวี่ยเลิกคิ้ว“แม่นางเฟิง นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกันไม่ใช่หรือ?”

“เราเป็นสหายเต๋าที่เดินบนวิถีเซียน เราควรช่วยเหลือกันไม่ใช่เหรอ?”เฟิงหยูเตี๋ยพองแก้มและยิ้มให้“และทันทีที่เราพบกัน ข้าก็รู้สึกเหมือนข้าเคยเจอเจ้ามาก่อน น้องสาว”

“หะ?เคยเจอกันมมาก่อน?ที่ไหน?”

เฟิงหยูเตี๋ยพูด“อืม บางทีอาจเป็นในฝัน น้องสาวเพ่ยเคยฝันถึงคนเช่นข้าไหม?”

เพ่ยเหลียนเสวี่ยกะพริบตาปริบๆ“ข้าไม่คิดงั้น ผมสีเงินของพี่สาวเฟิงโดดเด่นมาก”

“ข้าเกิดมาเป็นแบบนี้”เฟิงหยูเตี๋ยยิ้ม จับผมหางม้าตัวเองไปให้เพ่ยเหลียนเสวี่ย“อยากจับดูไหม?”

เวลานี้ เย่อันผิงวางตะเกียบเสียงดัง แทนที่จะมองเฟิงหยูเตี๋ย เขาถามเพ่ยเหลียนเสวี่ยโดยตรง“น้องพี่ เจ้ากินอิ่มหรือยัง?”

“อา..’เพ่ยเหลียนเสวี่ยรีบยัดเนื้อหมูเข้าปากหลายชิ้นและพยักหน้า”อืม!”

“งั้นก็ไปกัน”

“อืม!”

เย่อันผิงเช็ดปาก นำเหรียญเงินออกมาจากแขนเสื้อ และหลังวางบนโต๊ะ เขาก็ก้มหัวให้เฟิงหยูเตี๋ยและออกจากโรงเตี๊ยมไปพร้อมเพ่ยเหลี่ยนเสวี่ย

หลังออก เขาก็มองเพ่ยเหลียนเสวี่ยทีม่เดินตามหลังเขา และถอนหายใจ ดูจากท่าทีของเพ่ยเหลียนเสวี่ย นางคงไม่รู้ว่าเฟิงหยูเตี๋ยกำลังจีบนาง

เรื่องราวรักแสนโหดร้ายของเฟิงหยูเตี๋ยมากเกินไปจริงๆ ‘ฝันถึงข้าเนี่ยนะ…”

เขาได้ยินมันมานับไม่ถ้วนตอนเล่นเกม

แต่ การถูกเฟิงหยูเตี๋ยชมพิสูจน์ให้เห็นว่าน้องสาวเขาสวยจริงๆ เย่อันผิงเลยอดมองหน้าเพ่ยเหลียนเสวี่ยใหม่ไม่ได้

บางทีคงเพราะเขาโตมากับนาง แม้เขาจะคิดว่านางสวยจริง แต่ก็ไม่ใช่ความงามแบบที่ทำให้เขาใจสั่น

“พี่ มีอะไรเหรอ?จ้องข้าทำไม?”

“ไม่มีอะไร”เย่อันผิงส่ายหัวและเปลี่ยนเรื่อง“เจ้าจำได้ไหมว่าเจ้าต้องทำอะไรต่อ?ทวนสิ”

“อืม เราจะซ่อนตัวในป่า และตอนผู้บ่มเพาะมารมา ท่านจะดึงความสนใจเขาและข้าจะฉวยโอกาสลอบโจมตี”

“แล้ว”

“ท่านจะใช้กับดักขังข้าไว้กับเขา ก่อนจะใช้อาวุธวิเศษ เขาจะปล่อยหนอนพิษ ข้าจะแกล้งทำเป็นโดนและพอเขาเข้าใกล้ ข้าจะแทงเขา!”

เย่อันผิงพยักหน้า“เกือบหมด”

“เกือบ?”

“อืม”เย่อันผิงขมวดคิ้ว“เจ้าลืมแล้วเหรอ?”

“โอ้!”เพ่ยเหลียนเสวี่ยจำได้“ข้ารู้ ฟันต่อ!!!ข้าจะต้องฟันไม่หยุดจนกว่าเขาจะขาดเป็นชิ้นๆ!”

“ใช่ อย่าลืม ชายคนนั้นแกร่ง ไม่ใชแค่ตัดเป็นชิ้นๆ แต่ยังต้องจุดไฟเผาด้วย อย่าตระหนี่กับยันต์ไฟ ขว้างยันต์ไฟห้าสิบใบที่ข้าให้ใส่เขาให้หมด”

“อืม!ไม่มีปัญหา!’

เย่อันผิงพยักหน้า พานางไปป่าด้านหลังเมือง

สถานการณ์ปัจจุบันเป็นตามคาด ปัญหาเดียวคือกระป๋องอาหารนสีทองที่ลอยตามเฟิงหยูเตี๋ย แต่วินาทีนี้ มันไม่ดูเหมือนจะส่งผลต่อแผนเขา ถ้าการดำรงอยู่ของร่างทองนั้นสามารถช่วยเฟิงหยูเตี๋ยฆ่าอู่โหยวได้โดยตรง มันจะช่วยเขาได้มาก

เฟิงหยูเตี๋ยแปลกใจที่เห็นเพ่ยเหลียนเสวี่ยตามเย่อันผิงโดยไม่เหลียวหลัง นางเพิ่งเริ่มจีบ แต่ทำไมอีกฝ่ายถึงหนีไปแล้ว?

“อา หยาบคายจังเลย”

“หยาบคายอะไร เจ้ามันหน้าด้านเอง?!”เสี่ยวเทียนตบหัวนาง“ข้าใช้ชีวิตมาตั้งหลายปี แต่ไม่เคยเห็นเด็กสาวแบบเจ้าเลย!เจ้าไม่อายบ้างหรือไง?”

“…’

“ทุกครั้งที่เจ้าเจอเด็กสาวที่สวยหน่อย เจ้าจะไปจีบทันที..”เสี่ยวเทียนกลอกตา”ถ้าเจ้าเป็นผู้ชาย ข้าจะไม่ว่าเลย!’

เฟิงหยูเตี๋ยยักไหล่ ไม่อยากพูดต่อ รอให้บริกรเอาไก่ย่างมาและเขมือบมันจนเหลือ แต่กระดูก

หลังมื้อเย็น นางอยากเดินเล่นเผื่อจะมีโอกาสเจอเพ่ยเหลียนเสวี่ยอีก แต่เสี่ยวเทียนดึงผมนางไม่หยุด เร่งให้นางหาที่ฝึกกระบี่

พอไม่มีทางเลือก นางเลยไปป่าไผ่นอกเมือง นำกระบี่ออกมาและฝึกตามคำสอนของเสี่ยวเทียน

ในป่าไผ่ มีเพียงเสียงกระบี่ฝันลม

หลังจากนั้น เฟิงหยูเตี๋ยก็ปักกระบี่กับพื้นและนั่งลงพิงต้นไผ่ มองเสี่ยวเทียน“เป็นไง?”

“อืม ไม่เลว”

“ไม่เลว แค่นั้น?”

“..”เสี่ยวเทียนมองนาง“สมกับเป็นเจ้า เจ้าฝึกฝน’วิชากระบี่เก้าสวรรค์’นี้มาไม่ถึงครึ่งปีและไปถึงระดับเก้าแล้ว”

“อืม”เฟิงหยูเตี่ยยิ้ม“ข้าคืออัจฉริยะไง”

เสี่ยวเทียนกอดอก”อย่าเพิ่งได้ใจ รากปราณกับความสามารถของเจ้าไร้เทียมทานก็จริง และจิตใจก็เฉียบแหลม แต่สุดท้าย เจ้าแค่หลอมลมปราณ เจ้าอาจสามารถจัดการกับผู้บ่มเพาะก่อตั้งรากฐานได้ แต่แล้วแก่นวิญญาณละ?’

“ข้าไม่ได้โง่”เฟิงหยูเตี๋ยยักไหล่“ข้าหนีเป็นนะ?แล้วผู้บ่มเพาะแก่นวิญญาณจะมาสู้กับข้าผู้บ่มเพาะหลอมลมปราณเพื่อ?”

“แล้วถ้าเจอกับผู้บ่มเพาะมารละ?”

“นี่คือภพลับของตระกูลเซียน จะไปมีผู้บ่มเพาะมารได้ไง?’

เปราะ

เสียงกิ่งไม้หักดังจากด้านหลัง

เฟิงหยูเตี๋ยตื่นตัว

“นั่นใคร?”

เสี่ยวเทียนไม่สังเกตอะไร แต่เพราะเสียงตะโกนของนาง เสี่ยวเทียนเลยหันไปมองตาม

“หยูเตี๋ย มีใครงั้นเหรอ?’

เฟิงหยูเตี๋ยหยุด รีบลุก ดึงกระบี่ที่ปักกับพื้นขึ้น

“สหายเต๋าตัวน้อย อย่าประม่า ข้าแค่เผอิญผ่านมาและได้ยินเสียงรำกระบี่ ข้าเลยอยากมาดูกันว่าเป็นใครที่ร่ายรำกระบี่ได้ดีขนาดนี้”

เสียงที่ดังแยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง จากนั้นชายตาม่วงก็เดินออกมา

เฟิงหยูเตี๋ยจ้องชายตาม่วงอยู่สองลมหายใจและสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายที่เขาพยายามปกปิด จากนั้นนางก็เรียกเสี่ยวเทียนด้วยหางตา

เสี่ยวเทียนเข้าใจทันที มันบินไปถุงมิติที่เอวของชายคนนั้น และเอาหัวมุดไปดู

แต่พอเห็นของในถุงมิติ มันก็บินกลับมาอย่างตื่นตระหนก“หยูเตี๋ย หนี!นี่คือปรมาจารย์ของสำนักพิษมาร!!”

“ว่าไงนะ?สำนักพิษมาร?”เฟิงหยูเตี๋ยผงะ

ชายคนนั้นแปลกใจตอนได้ยินนางพูดคำว่าสำนักพิษมาร แต่จากนั้นก็หยุดปกปิดกลิ่นอาย พลังชั่วร้ายมหาศาลไหลทะลักจากตัวเขา ปกคลุมครึ่งป่าไผ่ในพริบตาเดียว

ใบไผ่สีเขียวพอสัมผัสกับไอชั่วร้าย พวกมันก็เน่า เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตกจากกิ่ง

“หืม?เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด