ตอนที่แล้วตอนที่ 26 คร็อกโคไดล์หนี สงครามสิ้นสุดลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 เข้าไปในหมอกสีรุ้ง เหตุการณ์สุดแปลกประหลาด

ตอนที่ 27 หมดสิ้นภัยคุกคามในอลาบัสต้า


ไป๋ซานแบกลูฟี่และโรบินไว้

ส่วนราชาคอบร้านั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก เขาสามารถเดินได้ด้วยตัวเอง

“ขอบคุณมาก”

คอบร้ากล่าวขอบคุณไป๋ซานอย่างจริงใจ เขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้และลูฟี่เป็นเพื่อนกัน ดังที่เจ้าหญิงวีวี่กล่าวไว้ในจดหมาย

“ท่านควรรอจนกว่าผู้ชายคนนี้จะตื่นขึ้นมาแล้วบอกกับเขาด้วยตัวเอง พวกเขาคือคนที่ช่วยชีวิตอลาบัสต้าไว้ และฉันไม่กล้าที่จะรับความดีความชอบหรอก”

ไป๋ชานรู้สึกเสียใจเล็กน้อย โพเนกลีฟที่อยู่ใต้ดินนั้นกล่าวถึงการดำรงอยู่ของอาวุธโบราณพลูตัน

แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ถึงแม้จะเป็นไป๋ซานก็ยากที่จะลงไปตรวจสอบอีกครั้ง แถมตอนนี้ยังต้องพาลูฟี่ไปพักผ่อนก่อน

เมื่อพวกเขากลับมาถึงราชวัง ก็เป็นตอนที่สงครามสิ้นสุดแล้ว

ฝนที่ตกลงมาอย่างกะทันหันจากท้องฟ้าฟื้นสติอันบ้าคลั่งของทุกคน

ในฐานะกษัตริย์ คอบร้ายืนอยู่บนแท่นสูงแล้วพูดออกมา

"นี่คือความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ โดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย"

"แต่เรายังคงต้องเดินหน้าต่อไป! อลาบัสต้า ผ่านพ้นวิกฤตแล้วว!"

" ไม่ว่าจะเป็นกองทัพปฏิวัติ ประชาชนหรือทหารของอาณาจักร ตราบใดที่เราร่วมมือกัน เราก็จะประสบความสำเร็จ!"

ขณะที่ทุกคนส่งเสียงเชียร์ ไป๋ซานก็เดินแบบเงียบๆไปหาพวกสมาชิกองค์กรบาร็อคเวิร์คในคราบทหาร ที่เขาพอจะระบุตัวตนได้

ตอนนี้ก็เหลือพวกองค์กรบาร็อคเวิร์คที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มทหารอาณาจักรและกลุ่มกบฏไม่มากแล้ว

การที่ยังเหลือคนพวกนี้ไว้โดยไม่จัดการให้เด็ดขาดเป็นเรื่องอันตราย

ในองค์กรบาร็อคเวิร์คมีน้อยคนที่จะเป็นคนดี

ไป๋ซานวางแผนที่โอกาสในการจัดการกับคนเหล่านี้และป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างปัญหาอีกครั้ง

ดังนั้น หลังจากที่ทุกอย่างสงบลงอย่างสมบูรณ์ เหล่าทหารยามก็กลับมาที่วัง ในขณะที่กองทัพปฏิวัติก็เริ่มซ่อมแซมอัลบานาที่เสียหายจากสงคราม

ไป๋ซานบอกคอบร้าและเจ้าหญิงวีวี่เกี่ยวกับสายลับ จากนั้นจึงวิ่งตรงไปยังค่ายทหารและนำตัวสายลับที่เขาระบุได้ออกมา

หลังจากถูกจับมาไว้ในห้องขังและสอบปากคำ ไป๋ซานก็ใช้พลังของกายเทวะสยบอเวจีโดยตรง

เขาชี้มือข้างหนึ่งไปที่สายลับตรงหน้าแล้วคิดในใจ

'ระงับความสามารถของเขาในการโกหก!' (พลังเว่อไปเป่าาา)

เมื่อพลังงานในร่างกายของเขาหมดลง สายลับอยู่ตรงหน้าเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงอาการไม่สบายแปลกๆ

สายลับแปลกใจที่พบว่าเขาไม่มีความคิดที่จะโกหกในใจเลยแม้แต่น้อย!

‘นี่มันอะไรกัน? ฉันรู้สึกว่าตัวฉันจะต้องพูดแต่ความจริงและพูดโกหกไม่ได้เลย!’

“เอาล่ะ บอกมาตามตรงเลยว่ามีใครอีกบ้างในกองทัพของอาณาและกองทัพปฏิวัติที่เป็นคนขององค์กรบาร็อคเวิร์ค แล้วพวกนายติดต่อกันยังไง แล้วแผนต่อไปคืออะไรพูดมาให้หมดเลย”

ไป๋ซานเคาะโต๊ะด้วยนิ้วเป็นจังหวะ "ต่อก ต่อก ต่อก"

นี่เป็นเทคนิคการสอบสวนทั่วไปที่ใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ถูกสอบปากคำ เพื่อไม่ให้มีสมาธิกับการสร้างเรื่องโกหกที่ละเอียดและสมบูรณ์

ไป๋ซานยังคงกังวลเล็กน้อย โดยกลัวว่าความสามารถในการปราบปรามของเขาจะไม่บังเกิดผล

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือไม่เพียงแต่ชายคนนี้จะพูดโกหกไม่ได้ในตอนนี้ แต่เพราะไป๋ซานไม่ได้ควบคุมพลังในการระงับของเขาเอง จึงกลายเป็นว่าพลังของเขาส่งผลให้สายลับคนนี้พูดโกหกไม่ได้ตลอดชีวิต

“ฉันรู้จักแค่คนเดียวที่เป็นคนคุมปืนใหญ่บนกำแพงเมือง เราไม่ค่อยได้สื่อสารกัน จะมีก็แต่พวกระดับสูงกว่าเราริเริ่มติดต่อกับพวกเราเองเพื่อมอบหมายภารกิจ ทั้งการยิงปืนใหญ่เมื่อกองทัพปฏิวัติมาถึง และยิงโคซาเพื่อก่อสงคราม”

หลังจากที่ได้พูดทุกอย่างหมดเปลือก สายลับก็รู้สึกสิ้นหวัง โดยไม่รู้เลยว่าทำไมตัวเขาถึงพูดโกหกไม่ได้เลย หรือชายตรงหน้าทำอะไรกับเขา

ไป๋ซานเดินเข้ามาตบไหล่เขา

"ขอบคุณที่พูดความจริงนะ ส่วนชะตากรรมของแกขึ้นอยู่กับการพิจารณาคดีทางกฎหมายในอลาบาสต้า"

พูดจบไป๋ซานก็พาตัวสายลับโยนเข้าไปในห้องขังและล็อคเอาไว้

เมื่อไป๋ชานออกมา เขาก็เดินไปจนเห็นโรบินที่กำลังเดินตรงมาทางเขา

“สวัสดีคุณโรบิน มีอะไรรึเปล่า?”

ไป๋ซานมองดูโรบินหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เห็นได้ชัดว่ากำลังตามหาเขา

“ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังมองหาคนที่เหลือจากองค์กรบาร็อคเวิร์ค ใช่ไหม?”

ไป๋ชานยิ้ม “เพื่อกำจัดเสี้ยนหนามที่อาจก่ออันตรายในอนาคต พวกนั้นต้องได้ชดใช้กรรมของตัวเอง”

“งั้นก็ดีเลย ฉันช่วยคุณติดต่อพวกเขาได้”

‘โอ้ ฉันลืมไปเลยว่าโรบินเคยเป็นพวกระดับสูงของกลุ่มนี้’

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องขอรบกวนเธอให้ออกคำสั่งลับเพื่อเรียกรวมตัวพวกเขาไว้ที่ไหนสักที่ทีนะ”

ไป๋ชานไม่ได้อธิบายอย่างละเอียด โรบินเป็นคนฉลาดและเธอรู้ว่าต้องทำอะไร

“คืนพรุ่งนี้ล่ะเป็นไง?”

“โอเค”

“งั้นก็รอไปก่อนก็แล้วกัน”

โรบินหันหลังแล้วจากไป

คืนถัดมา พวกที่เหลือทั้งหมดของ องค์รบาร็อคเวิร์ค ที่ได้รับให้มารวมตัวกันที่ลานหน้าพระราชวัง

ข่าวที่พวกเขาได้รับคือหัวหน้าสามารถควบคุมพวกระดับสูงของอาณาจักรอลาบัสต้าได้สำเร็จ และการสงบศึกครั้งก่อนนี้เป็นเพียงแผนลวง

ต่อไปพวกเขาจะทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง

เดิมทีคนพวกนี้ยังพอได้รับข่าวสารอยู่บ้างจากองค์กรบาร็อคเวิร์ค

ตอนนี้องค์กรบาร็อคเวิร์คล่มสลายลงไปแล้ว ทำให้พวกเขาเหมือนคนตาบอดหูหนวกที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

ยังไม่ชัดเจนด้วยซ้ำว่าทำไมสงครามครั้งก่อนถึงสิ้นสุดลงกะทันหัน

ตอนนี้จู่ๆ พวกเขาก็ได้รับคำสั่งจากโรบิน ทุกคนจึงคิดว่านี่เป็นโอกาส ดังนั้นพวกเขาจึงรวมตัวกันที่จัตุรัสโดยไม่ขาดแม้แต่คนเดียว

ไป๋ซานและโรบินกำลังนั่งอยู่บนแท่นสูง มองดูฝูงชนด้านล่าง และอดหัวเราะไม่ได้

“ใคร! ใครอยู่บนนั้น!”

ไป๋ซานกระโดดลงไปบนพื้น

"สวัสดีทุกคน เศษซากขององค์กรบาร็อคเวิร์ค"

"แกเป็นใคร ทำไมแกถึงได้รู้!"

พวกเขาคิดว่าสงครามจบลงแล้ว และพวกเขาสามารถซ่อนตัวอยู่ในตัวตนปัจจุบันต่อไปได้ และจะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา

“ฮ่าฮ่า แกคิดว่าพวกแกมาที่นี่ทำไมล่ะ?”

ไป๋ซานโบกมือ “ไป จับพวกมันไว้!”

จู่ๆ ยามจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นรอบๆ ลานและรุมเข้ามาจับกุมคนเหล่านี้ที่ไม่มีแม้แต่อาวุธสักชิ้นเดียว

"ทำได้ดีมาก"

โรบินหันหลังและจากไป เธอไม่มีความรู้สึกอะไรต่อคนพวกนี้เลย

ท้ายที่สุดเธอและคร็อกโคไดล์ก็มีความสัมพันธ์แบบใช้ประโยชน์จากกันและกัน

ไม่ต้องพูดถึง คร็อกโคไดล์ยังหักหลังเธอในตอนท้าย

“เอาล่ะ คนเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกจับเข้าคุก และจะรอวันถูกพิจารณาคดี”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งไป๋ซานก็พูดต่อ

“ตราบใดที่พวกเขายังไม่ตายด้วยความกระหาย เราก็จะไม่ให้น้ำแก่เขา คนเหล่านี้ชอบความแห้งแล้ง เพราะงั้นเราก็จะจัดให้เขา”

ใบหน้าของผู้ที่ถูกจับกุมด้านล่างซีดเผือด

ทหารจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวและพาพวกเขากลับเข้าไปในห้องขัง

และตามคำแนะนำของไป๋ชาน พวกเขาไม่ได้รับน้ำดื่มเลย

อาจกล่าวได้ว่าพวกทหารเกลียดสายลับเหล่านี้มากที่สุด

ตอนนี้อันตรายที่แฝงอยู่ในอาณาจักรก็หมดไปแล้ว ได้เวลาตามลูฟี่ไปที่เกาะจายาแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด