ตอนที่ 26 คร็อกโคไดล์หนี สงครามสิ้นสุดลง
หลังจากกราวด์ เซคโค่สิ้นสุดลง คร็อกโคไดล์ก็หายไปแล้ว
ไป๋ซานก็คิดไว้แล้วว่าคร็อกโคไดล์จะหนีไป
เพราะเขาไม่จำเป็นต้องมาสู้กับไป๋ซานที่นี่
แต่เหมือนคร็อกโคไดล์จะทิ้งของเล่นอะไรบางอย่างให้ไป๋ซานด้วย
ห้องใต้ดินนี้ล้อมรอบด้วยน้ำ
ในขณะนี้ สภาพแวดล้อมของห้องที่เคยประสบกับการกัดกร่อนของท่ากราวด์ เซคโค่นั้นตกอยู่ในสภาพวิกฤตแล้ว
ไป๋ชานวางมุรามาสะกลับเข้าไปในฝักและกำลังจะเดินออกไป
วินาทีต่อมาทั้งห้องก็พังทลาย!
น้ำปริมาณมหาศาลพุ่งเข้ามาจากเพดาน พื้น และผนังห้อง
ท่วมทั้งห้องในทันที!
จระเข้หลายตัวค้นพบไป๋ซานในน้ำและว่ายไปทางไป๋ซาน
'ตกลงคร็อกโคไดล์ยังคงเข้าใจว่าตัวฉันเป็นผู้ใช้พลังปีศาจเลยกะจะให้น้ำท่วมฉันเหรอ?'
ไป๋ซานอยากจะหัวเราะออกมา ด้วยจระเข้เพียงไม่กี่ตัว มันไม่ส่งผลอะไรต่อเขาเลย
คร็อกโคไดล์ที่รีบวิ่งไล่ลูฟี่ก็มีความคิดแบบนั้นจริง
พลังงานบนใบดาบของไป๋ซานสามารถทำร้ายร่างกายตามธรรมชาติของเขาได้ มันอาจจะเป็นผลปีศาจหรือฮาคิ
แต่มันดูไม่คล้ายกับฮาคิ ดังนั้นคร็อกโคไดล์จึงคิดว่าไป๋ซานเป็นผู้ใช้พลังผลไม้ปีศาจโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นการทำลายพื้นที่ตรงนั้นแล้วปล่อยให้มันจมถือเป็นการพยายามที่ดี
การทำให้จมน้ำอาจเป็นการตัดสินใจที่ดี แม้จะไม่สามารถฆ่าไป๋ซานได้ แต่ก็สามารถถ่วงเวลาไป๋ซานได้เช่นกัน
แม้ว่าไป๋ซานจะบอกว่าเขาจะปล่อยคร็อกโคไดล์ไปหลังจากใช้ท่ากราวด์ เซคโค่ แต่คร็อกโคไดล์ไม่เคยเชื่อใจใครอยู่แล้ว
โรบินสามารถหักหลังเขาได้หลังจากใช้ประโยชน์จากเขา แล้วเขาจะเชื่อคำพูดของไป๋ซานได้ยังไง?
‘หึ ถ้าเด็กคนนั้นเป็นผู้ใช้ผลปีศาจจริงๆ เขาจะต้องตายแน่นอน’
คร็อกโคไดล์มองย้อนกลับไปที่คาสิโนที่พังทลาย แล้วบินจากไปโดยไม่สนใจอีกต่อไป
เขามีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำ
ในทางกลับกัน ไป๋ซานไม่ได้รีบร้อนขณะที่อยู่ในน้ำตอนนี้
ลูฟี่และคนอื่นๆ ไปเร็วกว่าเนื้อเรื่องต้นฉบับเล็กน้อยแล้ว และแผนของคร็อกโคไดล์จะต้องล้มเหลวแน่นอน
เขาสามารถหายใจใต้น้ำได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อน
มาทดสอบความสามารถในการ “ปราบปราม” ของกายเทวะสยบอเวจีกันก่อน!
ไป๋ซานโฟกัสไปที่ร่างกายของเขา และแน่นอนว่าเขารู้สึกถึงพลังงานแปลก ๆ ในร่างกายของเขา
ก่อนหน้านี้พลังงานนี้กลายเป็นเหมือนแผ่นฟิล์มบางๆ และติดอยู่กับร่างกายของเขา สามารถระงับการกัดเซาะของทรายได้
และตอนนี้เขาก็อยากจะลองใช้พลังงานปราบปรามนี้อีกครั้ง
แล้วจะทดลองปราบปรามกับอะไรดี?
พอดีกับจระเข้โง่ตัวหนึ่งว่ายเข้ามาตั้งใจจะเขมือบไป๋ซาน
'เอาล่ะ มาลองกับแกกันดีกว่า'
ไป๋ซานเหยียดมือออกและจินตนาการว่ากำลังปล่อยพลังงานนั้นออกไป
แน่นอนว่า พลังงานนั้นถูกปล่อยออกมา
สิ่งที่ไป๋ซานต้องการระงับคือความคิดในการ"อ้าปาก"ของจระเข้ตัวนี้
นี่เป็นความพยายามที่ท้าทาย หากเขาทำสำเร็จ มันจะพิสูจน์ว่าเขาสามารถระงับความคิดต่อสู้ของผู้อื่นได้โดยตรง!
ในช่วงเวลาต่อมาไป๋ซานก็ถูกกลืนเข้าไปในปากของจระเข้
แย่มาก...
ไป๋ซานค้นพบว่ากายเทวะสยบอเวจีของเขานั้นเป็นระดับเริ่มต้นจริงๆ
พลังงานนี้ปลดปล่อยออกมาได้ แต่มีระยะเพียงแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น...
ดังนั้น จระเข้จึงกลืนไป๋ซานเข้าไปก่อนที่จะทันได้ถูกระงับความคิด
ไป๋ซานที่เข้าไปในร่างของจระเข้ วางแผนที่จะฟันจระเข้โง่เขลาด้วยดาบของเขา
แต่ดูเหมือนเขาจะสััมผัสโดนก้อนอะไรแปลกๆเข้า
เดี๋ยว นี่ดูเหมือนจะเป็นมิสเตอร์ทรีรึเปล่านะ?
ก้อนเทียนสีขาวนวลนี้น่าจะเป็นมิสเตอร์ทรีที่ถูกกลืนลงไป
ก้อนกลมๆนี่คงเป็นโล่ป้องกันที่ทำขึ้นเพื่อปกป้องตนเอง
ไป๋ซานฟันจระเข้ด้วยดาบโดยตรง จากนั้นจึงเตะลูกบอลเทียนนี่ออกไป
ก้อนลอยขึ้นจากน้ำและบินขึ้นไปในอากาศ
ไป๋ซานบุคุจุตสึตามขึ้นมาโดยวางมือของเขาไว้ไม่ไกลจากลูกบอลเทียน
“ระงับความสามารถในการบินของลูกบอลนี้!”
วินาทีต่อมา ไป๋ซานรู้สึกว่าร่างกายของเขาว่างเปล่า และมีความรู้สึกว่าพลังจำนวนมากถูกพรากไปจากเขาในทันที
และลูกบอลเทียนที่กำลังบินอยู่เมื่อครู่ จู่ๆมันก็หยุดบินกระทันหัน
ก้อนเทียนร่วงลงไปที่พื้นแล้วก็แตกออก
แน่นอนว่าร่างข้างในก็โผล่ออกมาเป็นมนุษย์เทียน มิสเตอร์ทรี
“ฮ่าๆๆๆๆ ฉันรอดแล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
มิสเตอร์ทรีที่พึ่งรอดชีวิตหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนจะได้สติ
“เดี๋ยวก่อน นี่ดูเหมือนจะอยู่นอกคาสิโน…แล้วนายเป็นใคร”
ไป๋ชานไม่ได้สนใจมนุษย์เทียนคนนี้เลย อะไรจะเกิดขึ้นกับชายคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป
การช่วยชีวิตเขาออกมาก็ไม่ได้มีอะไรเหนือบ่ากว่าแรงเลย
ไป๋ซานกังวลเรื่องพลังงานในร่างกายของเขามากกว่า
เพียงแค่ระงับการบินของลูกบอลเทียนก็แทบจะดูดพลังเขาไปหมดเลย
“ระบบ เกิดอะไรขึ้น?”
“พลังที่ใช้ไปจะค่อย ๆ ฟื้นตัวเมื่อเวลาผ่านไป โฮสต์จำเป็นต้องออกกำลังกายด้วยการยกของที่มีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อพัฒนาความสามารถของกายเทวะสยบอเวจี”
ก็ยังดี ขอแค่ฟื้นตัวได้เรื่อยก็พอแล้ว
ตอนนี้ที่นี่ไม่มีอะไรให้เขาทำแล้ว งั้นก็ไปอัลบาน่าแล้วกัน
เมื่อคิดแบบนี้แล้วเขาก็ตัดสินใจบินขึ้นฟ้าทันที และขณะที่กำลังบินไปที่อัลบาน่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ค่อยๆฟื้นฟูกลับมา
เมื่อไป๋ซานมาถึงอัลบาน่า เขาพบว่าสถานที่นั้นเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายแล้ว
แม้ว่าลูฟี่และคนอื่นๆ จะมาถึงเร็วไปหน่อย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เปลี่ยนสถานการณ์มากนัก
นอกจากนี้ ใช่ว่าการมาถึงเร็วจะทำให้มีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้
นอกจากนี้ยังมีคนขององค์กรบาร็อคเวิร์คอยู่ในหมู่ทหารของอาณาจักรด้วย และคนพวกนี้ก็ประสบความสำเร็จในการแทรกแซงหลายสิ่งหลายอย่าง
แล้วตอนนี้เขาควรทำอะไรดี?
พอเขามองไปรอบๆแล้วเห็นหอระฆังเขาก็ตัดสินใจจะเอาระเบิดไปทิ้งก่อน
ไป๋ซานบินไปและพบระเบิดเวลา
เจ้าหญิงวีวี่และคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างล่างก็บังเอิญเห็นไป๋ซานด้วย
พวกเขากำลังมองหาปืนใหญ่ที่สามารถทิ้งระเบิดทั่วทั้งจัตุรัสได้
“ไป๋ซาน! นั่นไงระเบิด! คุณช่วยกำจัดระเบิดนั่นได้ไหม!”
วีวี่ตะโกนอย่างกังวลจากด้านล่าง
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน"
ทั้งสองที่พยายามหยุดไป๋ซานถูกดาบฟันร่วงลงไป
ระเบิดนี้จะระเบิดภายในอีกไม่กี่วินาที
ไป๋ซานคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสร้างกำแพงลมก่อนจะโยนระเบิดไปที่กำแพงลม
แน่นอนว่าระเบิดถูกตัดสินว่าเป็นการโจมตีระยะไกลและหายไป (สกิลกำแพงลมของยาสุโอะจะทำให้การโจมตีระยะไกลของศัตรูไร้ผล แบบหายไปเลย)
หึหึ คงคาดไม่ถึงกันหรอกว่าฉันจะแก้ปัญหาระเบิดได้ด้วยวิธีนี้
คนสองคนที่พึ่งโดนฟันล้มลงกับพื้นดูสิ้นหวังเมื่อเห็นระเบิดหายไป
"หยุดได้แล้ว ระเบิดถูกแก้ไขแล้ว!"
เจ้าหญิงวีวี่รีบปีนขึ้นไปบนหอระฆังและตะโกนจากที่สูงเพื่อขอให้นักปฏิวัติและทหารองครักษ์หยุด
แม้ว่าไป๋ซานจะเข้าไปแทรกแซงหลายๆ เรื่อง แต่เรื่องราวก็ยังคงดำเนินไปในทิศทางที่ควรจะเป็น
ต่อไปก็ ไปดูลูฟี่สู้กับคร็อกโคไดล์ดีกว่า
ไป๋ซานหายตัวไปอย่างเงียบ ๆ และบินไปยังห้องใต้ดิน
เขาอยากจะรู้ว่าอาวุธโบราณพลูตันอยู่ที่นี่ไหม
สำหรับการต่อสู้ของลูฟี่ มันเป็นการเติบโตของเขา และเขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่ง
เมื่อเขาบินไปถึง พวกนั้นก็จบการต่อสู้แล้ว
ไป๋ซานมองไปที่ลูฟี่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นพาตัวลูฟี่ คอบร้าและโรบินแล้วกระโดดออกไป