ตอนที่ 24 ดวลกับเอส, ให้แกกินดาบของฉัน!
เมื่อคนอื่นๆได้ยินว่า2คนที่พวกเขาไม่รู้ว่าแข็งแกร่งแค่ไหนจะต่อสู้กัน พวกเขาจึงห้ามปรามกัน
"จะสู้กันทำไมล่ะ เดี๋ยวก็บาดเจ็บหรอก"
"ใช่ๆ เวลาไม่มีมากพอด้วยนะ พวกเราต้องรีบแล้ว"
"อยากสู้เหรอ เพิ่มฉันไปด้วยคนสิ นายเองก็ใช้ดาบหนิไป๋ซาน?"
ทุกคนที่พยายามห้ามปรามเมินเฉยคำพูดของโซโลที่อยากเข้าไปแจมด้วย
“ไม่ต้องห่วง เรารู้ดีว่าอะไรสำคัญ เดี๋ยวแปปเดียวก็จบแล้ว”
ทะเลทรายเต็มไปด้วยพื้นที่เปิดโล่ง พวกเขาจึงไม่กลัวว่าจะเผลอไปทำลายข้าวของของใครเข้า
พวกเขาทั้งสองยืนห่างกัน และลูฟี่ก็ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน
"พร้อมนะ เริ่มได้!"
ทันทีที่เขาพูดจบ หมัดเพลิงก็พุ่งเข้าใส่ไป๋ซาน!
เมื่อไป๋ซานเผชิญหน้ากับหมัดเพลิง เขาก็ได้รับรู้ถึงพลังของผลปีศาจ เมระเมระ
เปลวไฟลุกโชนขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาใบหน้าของไป๋ซาน ไป๋ซานรู้สึกว่าในวินาทีต่อไป หน้าของเขาจะถูกย่าง
ครอบครัวของลูฟี่ล้วนมีพรสวรรค์ในการต่อสู้เป็นอย่างมาก การเผชิญหน้ากับพวกเขาต่างก็ให้ความรู้สึกกดดัน
ไป๋ซานชักดาบออกมา ‘หมัดเพลิงของนายทรงพลัง แต่ดาบปีศาจมุรามาสะของฉันก็ไม่ได้อ่อนแอ’
ด้วยการฟันครั้งนึง กำแพงลมก็ถูกสร้างขึ้น และหลังจากหมัดเพลิงเข้ามาปะทะ มันก็หายไปทันที!
“ลมนั่นมาจากไหนกัน? นายเป็นผู้ใช้พลังผลปีศาจหรือเหรอ?”
“ไม่เลย นี่น่ะเป็นเพียงทักษะดาบธรรมดาเท่านั้น”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ โซโลก็เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ ก่อนจะค่อยๆพยักหน้ารับรู้
“นี่เป็นทักษะดาบธรรมดาจริงๆ… ทักษะดาบที่เรียกลมออกมาได้ สร้างกำแพง และกำจัดหมัดไฟ… ฉันไม่เคยได้ยินทักษะดาบแบบนี้มาก่อนเลย!”
“ฮ่าฮ่า ชื่อของมันก็คือวิชาดาบวายุ! เอานี่ไปกิน เอส!”
ฮาซากิ อาเซรโย!
ไป๋ซานตวัดดาบสร้างลมพายุก่อตัวขึ้นอย่างรุ่นแรงแล้วมุ่งตรงไปที่เอส!
เอสอยากแปลงร่างเป็นไฟแล้วแยกตัวเพื่อหลบท่าดาบนี้ แต่เขากลับพบว่าร่างไฟเขาถูกลมพัดให้อยู่ในบริเวณนั้นจนต้องรับท่าดาบพายุนั้นเข้าไป!
ต่อหน้าท่านี้ของยาสุโอะ ต่อให้เป็นร่างเพลิงก็ต้องโดนพัดจนลอยขึ้นไปบนฟ้า !
ครู่ต่อมา อยู่ๆไป๋ซานก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเอส พร้อมกับลมที่รุนแรงและการจู่โจมแบบสายฟ้าแล่บ!
ในหนึ่งวินาที เอสก็ถูกโจมตีกลางอากาศจากดาบทั้งหมด7ครั้งจนร่วงลงไปที่พื้น! (อัลติของยาสุโอะ เกม LL)
หลังจากลงมาที่พื้นแล้ว ไป๋ซานก็เป่าดาบมุรามาสะ ก่อนจะเอากลับเข้าฝักดาบไป
แน่นอนว่าเขาใช้ดาบด้านที่ไม่มีคม เพราะดาลของเขาเคลือบพลังปราณไว้ ถ้าใช้ด้านคมฟันเอสขึ้นมามีหวังตัวขาดแหง
เขาไม่ได้อยากจะทำร้ายเอสจริงๆ นี่เป็นเพียงการประมือกันก็เท่านั้น
เอสไม่ได้ใช้ท่าโจมตีที่จริงจังอะไรเลย ถึงจะบอกว่าเป็นหมัดเพลิง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแค่การโจมตีธรรมดาเท่านั้น
"ฉันยอมรับเลย!"
"นายแข็งแกร่งมากจริงๆ!"
เอสปัดฝุ่นรอบตัวแล้วลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม
เขายังรู้ด้วยว่าไป๋ซานไม่ได้ใช้ด้านคมของดาบ
“แล้วตกลงใครชนะล่ะ?”
ลูฟี่มีสีหน้าสงสัยเล็กน้อย
"มันเป็นแค่การประมือหรือซ้อมมือกันน่ะ ไม่มีผลการต่อสู้หรอก เอาล่ะ ไปกันต่อเถอะ"
ไป๋ซานและกลุ่มหมวกฟางออกเดินทาง โดยลากโซโลที่ยังนั่งทำสมาธิเพื่อทำความเข้าใจในวิชาดาบที่พึ่งได้เห็นเมื่อครู่ไปด้วย มุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป
ถึงยังไงก็ตาม การเดินทางท่ามทะเลทรายและแดดที่แผดเผาเป็นเรื่องลำบากมากสำหรับพวกเขา
"โฮสต์ต้องทนทุกข์ทรมานจากการขาดน้ำ ผิวไหม้จากแดด และออกแรงทางกายภาพมากเกินไปในทะเลทราย ร่างกายของโฮสต์ได้ถูกบัพมืด และได้รับความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิสูงและความแห้งแล้ง"
'ได้รับบัพต้านทานสภาพแวดล้อมอีกแล้ว ดีจริงๆเลย' (คราวก่อนในทะเล)
หลังจากนั้นก็เป็นไปตามเนื้อเรื่อง พบกับสกอเปี้ยน ซึ่งอ้างว่าเป็นนักล่าโจรสลัด และเอสที่กำลังจะจากไป
“เอาน่า ฉันยังต้องตามล่าหนวดดำอีก ลูฟี่ เจอกันครั้งต่อไป นายจะต้องเป็นโจรสลัดที่เจ๋งกว่านี้ให้ได้เลยนะ!”
ไป๋ซานได้ยินแบบนั้นก็นึกถึงฉากที่ลูฟี่กระโจนเข้าสู่สงครามมารีนฟอร์ดเพื่อจะช่วยเหลือเอสออกมา
‘ไม่สำคัญหรอก ฉันอยู่นี่แล้ว และจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก!’
ไป๋ซานวางแผนที่จะติดตามลูฟี่ไปจนถึงเกาะจายา ที่ซึ่งลูฟี่และหนวดดำจะได้พบกันเป็นครั้งแรก
โชคชะตากำหนดให้2ผู้ไล่ตามความฝันเป็นศัตรูกัน!
ขณะกำลังยืนคิดเรื่องนี้ เอสก็เดินมาหาไป๋ซาน
"ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อรู้ว่ามีนายอยู่ข้างๆน้องชายของฉัน"
'เอิ่ม นี่หมายถึงนายยอมรับความแข็งแกร่งของฉันแล้วใช่ไหม?'
ไป๋ชานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดกับเอซ
"นายต้องอย่าประมาทหนวดดำ เจ้าหมอนั่นไม่ธรรมดา ตอนนี้มันเองก็หาพรรคพวกได้เยอะแล้ว แต่ละคนเองก็ไม่ได้อ่อนแอ ระวังตัวด้วยนะ” ไป๋ซานไม่ได้วางแผนจะบอกเอสว่าหนวดดำจะปรากฏตัวที่เกาะจายา
แม้ว่าเขาจะพูดติดตลกกับช็อปเปอร์ว่าเขาเป็นหมอดู แต่ใครจะทำนายได้แม่นขนาดนี้ล่ะ?
ถ้าเขาพูดออกไปอาจจะทำให้คนอื่นรู้สึกแปลกๆ
ยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเอสรีบไปที่นั่นจริงๆ แล้วแพ้หนวดดำก่อนเขาจะไปถึง
ตอนนี้เอสอยู่คนเดียว หนวดดำเองก็มีเวลาได้เตรียมตัวแถมรับสมัครลูกเรือไปได้ไม่น้อยแล้วด้วย
ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงขนาดนั้น เขาสามารถจัดการหนวดดำเองได้เมื่อไปถึงที่เกาะจายา
ผลยามิ ยามินั้นแข็งแกร่งมาก แต่ไป๋ซานก็เชื่อในความแข็งแกร่งของเขาเอง!
ด้วยกายเทวะสยบอเวจี การเอาชนะผลยามิยามิจึงไม่มีอะไรน่าห่วง
ความสามารถของผลปีศาจสายโรเกียเองก็แก้ได้ด้วยการโจมตีที่เคลือบด้วยพลังปราณ (แต่ผลยามิยามิของหนวดดำมันแยกธาตุไม่ได้อยู่แล้วปะ หรือแอดเข้าใจผิด)
"เข้าใจแล้ว ลาก่อน!"
ในที่สุดเอสก็จากไป
“พวกเราเองก็ไปกันเถอะ อลาบัสต้ายังรอการช่วยเหลือจากพวกเราอยู่นะ!”
ทั้งกลุ่มรีบตัดสินใจเผชิญหน้ากับคร็อกโคไดล์โดยตรง ภายใต้การนำของลูฟี่ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรนเบส
“ที่นี่แหละ”
เมื่อมองไปที่อาคารคาสิโนขนาดใหญ่ ไป๋ซานก็ชักมุรามาสะออกมา
"หือ นายจะทำอะไรน่ะ"
"ให้ของขวัญอวยพรแก่คร็อกโคไดล์ซะหน่อย"
หลังจากพูดอย่างนั้น ไป๋ซานก็ลงมือโดยตรงโดยใช้ท่าปราณวายุสลาตัน!
คร็อกโคไดล์สามารถได้รับยศเจ็ดเทพโจรสลัดได้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา และไป๋ซานเองก็ตระหนักดีถึงความแข็งแกร่งและความสามารถด้านกลยุทธ์ของคร็อกโคไดล์ดี
และตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันแถมไป๋ซานเองก็ยังไม่ชอบวิธีการบ่อนทำลายประเทศของคร็อกโคไดล์อีกด้วย!
ในอาณาจักรอลาบัสต้า ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเสียชีวิตจากภัยแล้ง
แต่ที่นี่กลับเจริญรุ่งเรือง มีน้ำพอที่เลี้ยงจระเข้ แถมยังเปิดคาสิโนได้ด้วย?
จะมีไปทำไมล่ะ พังแม่งเลย
พลังงานดาบราวกับพายุที่รุนแรงทำให้ชั้นบนสุดของเรนเบสหายไปทันที!
ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่ข้างในก็หยุดเกมการพนันต่างๆ เพราะพวกเขาได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างนอก
“ปะ ไปกันเถอะ!”
ในที่สุด คนทั้งกลุ่มก็เข้าไปติดกับดักกรงหินไคโรของคร็อกโคไดล์เหมือนกับในเนื้อเรื่องต้นฉบับ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ดิ้นรนอยู่ในกรงนี้ไปซะเถอะ!”
เมื่อคร็อกโคไดล์พูดจบ คนอื่นๆก็ทำอะไรไม่ถูก พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมองไปที่ไป๋ซาน
“แกพูดจบแล้วหรอ? แล้วแกกินข้าวรึยัง?”
อยู่ดีๆไป๋ซานก็ถามขึ้นมา
“กินเหรอ? กินอะไร?”
จระเข้สับสนเล็กน้อย
“ยังไม่ได้กินข้าวสินะ งั้นกินดาบฉันแทนแล้วกัน!”
ทันใดนั้นเขาก็ชักดาบมุรามาสะออกแล้วฟันหินไคโรทิ้งทันที!
“ของแบบนั้นป้องกันดาบมุรามาสะของฉันไม่ได้หรอก”
ไป๋ชานเตะเศษกรงหินไคโรดด้วยท่าทีที่ดูถูกเหยียดหยาม และชี้ดาบของเขาไปที่คร็อกโคไดล์ที่กำลังมีสีหน้าประหลาดใจ
“ขอโทษทีนะ ฉันไม่ใช่ผู้ใช้พลังผลปีศาจ!”