ตอนที่ 238 รอยแยกของโลกอสูรอีกครั้ง
ตอนที่ 238 รอยแยกของโลกอสูรอีกครั้ง
“เจ้านี่คือบอสที่แท้จริงของชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ B แห่งนี้ ไม่รู้ว่ามันกำลังพาฝูงไปที่ไหน แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องหาทางออกไปจากที่นี่ไปรวมกับคามิลให้ได้ แถมยิ่งเดินมาเท่าไหร่ก็ยิ่งมีฝูงแกะปีศาจมาเพิ่มไม่รู้ว่าในจำนวนเหล่านี้มีพวกแข็งแกร่งเข้ามาด้วยหรือเปล่า ยิ่งเวลาผ่านไปเราจะยิ่งหาทางออกไปจากฝูงยาก แต่ทำยังไงดี ถ้าแยกไปตอนนี้แกะปีศาจระดับ A นั้นต้องสงสัยแน่”
แกะปีศาจระดับ A มีสติปัญญาที่ไม่ต่างจากมนุษย์ บางทีมันอาจจะสงสัยว่าลุคซ่อนอยู่ในฝูงและรอเขาเผยตัวออกไปก็ได้ ซึ่งฝูงแกะเจอการโจมตีจากพรายไม้ด้วยวิธีการปลอมตัวอยู่ ๆ มันก็อาจจะสงสัยในเรื่องนี้ด้วยว่าลุคมีพลังแบบพรายไม้
แต่มันคงทำได้เพียงสงสัยว่าบางทีลุคอาจจะเป็นพรายไม้
ลุคเองก็ไม่แน่ใจ แต่เขาต้องระวังตัวทุกฝีก้าวกันเลยทีเดียว ทำให้ลุคยังไม่สามารถหาโอกาสหนีออกไปได้
เขาค่อนข้างเป็นห่วงคามิลอยู่ไม่น้อย เพราะจากการโจมตีของฮันเตอร์ปริศนาที่ลุคคิดว่ามีพวกมันอยู่อีกแน่ เพราะก่อนหน้านั้นพวกมันก็ยิงพลุสัญญาณออกไป ชัดเจนว่าเป็นการเรียกพวกมาเพิ่ม
นอกจากจำนวนที่เขาสงสัยว่ามีมากแค่ไหน ลุคยังสนใจอีกว่าพวกนี้เป็นใคร
“คนของทางการ? ไม่น่าจะใช่...” ลุคปฏิเสธความคิดนี้ทันที
“เป็นพวกฮันเตอร์หรือไม่ก็คนจากกิลด์ สัญญาลักษณ์บนชุดของพวกมันเหมือนกับค้อนและสายฟ้า มีเพียงกิลด์เดียวที่ใช้สัญญาลักษณ์แบบนี้และกลินก็มีสัญญาลักษณ์แบบนี้ที่เสื้อด้วย ไม่ผิดแน่คนจากกิลด์ค้อนสายฟ้า”
“ดูเหมือนพวกมันมาเพื่อแก้แค้นเรา แต่มาที่นี่ได้ก็หมายความว่าผู้อำนวยการวูกหักหลังเราและคามิลแล้ว”
“คอยดูเถอะแกต้องชดใช้วูก”
ลุคไม่มีเรื่องบาดหมางกับผู้อำนวยการวูกมาก่อน แต่อีกฝ่ายก็ยังหักหลังเขา ดังนั้นวูกจะต้องชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าคามิลเคยเตือนเรื่องนี้แล้วและลุคก็รู้ว่ามันมีโอกาสเกิดขึ้น
แต่ต่อให้ลุครู้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นเขาก็ยินดีที่จะเสี่ยงเข้ามาที่นี่อยู่ดี
“มีมาเพิ่มอีกแล้ว” ลุคมองดูฝูงแกะที่มีราว ๆ 50 กว่าตัวได้เข้ามารวมกลุ่มกับฝูงแกะที่เขาอยู่
ตอนนี้หลังจากผ่านไปพักใหญ่ลุคก็พอเข้าใจรูปแบบของฝูงนี้มากขึ้น ดูเหมือนว่าฝูงแกะนี้จะเป็นการรวมตัวกันของฝูงใหญ่ที่แยกตัวออกไป
การแยกตัวของพวกมันคงเดาได้นั้นคือการอาหาร
ยิ่งฝูงใหญ่ก็ยิ่งหาอาหารยากและล่อลวงพวกพรายไม้เข้ามายาก ทำให้พวกมันต้องใช้วิธีเดินทางไปและแยกฝูงเล็ก ๆ ออกไปตามรายทาง และพอฝูงเดินทางกลับก็จะมารวมตัวกันอีกครั้ง
ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นฝูงที่ลุคอยู่ นั้นอธิบายได้ง่ายมาก เพราะเจ้าแกะปีศาจระดับ A ตัวนั้น มันน่าจะเป็นราชาของพวกแกะปีศาจฝูงนี้
พอพูดถึงเรื่องของการรวมฝูงของพวกมันลุคก็นึกถึงอาหารหลังของแกะปีศาจ ดูเหมือนจะว่าเป็นพรายไม้ แกะปีศาจชอบกินพรายไม้มากและพรายไม้ที่เข้ามาโจมตีฝูงแกะปีศาจตลอดเส้นทางก็ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ ในบางแง่มุมพวกมันมีมากกว่าแมงมุมม่านหมอกซะอีก
ทำให้ลุคต้องมาประเมินใหม่ว่าแท้ที่จริงแล้วพรายไม้อาจจะมีมากกว่าที่ลุคคิดมาก เนื่องจากว่าถ้าเทียบกับขนาดของฝูงแกะแล้วมันมีเข้าไปหลักพันตัวแล้ว
จะต้องใช้พรายไม้เป็นจำนวนมากที่กว่าในการเลี้ยงแกะเหล่านี้
เวลาผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมงฝูงจากไม่กี่ร้อยก็กลายเป็นหลักพันและจากหลักพันต้น ๆ ก็รวมกันไม่ต่ำกว่า 4,000 ตัวแล้ว และดูเหมือนว่าฝูงแกะที่แยกออกไปก่อนหน้านี้จะกลับมารวมกันหมดแล้ว ฝูงของแกะจึงเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ มุ่งหน้าเข้าไปยังใจกลางของชิ้นส่วนโลกต่างมิติแห่งนี้
ตามปกติใจกลางของชิ้นส่วนโลกต่างมิติคือพื้นที่ของบอสประจำชั้น ก็หมายความว่าแกะปีศาจเหล่านี้คือบอสจริง ๆ ของชิ้นส่วนโลกต่างมิติแห่งนี้
แน่นอนว่าลุคหมายถึงแกะปีศาจระดับ A ตัวนั้น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ลุคเห็นบอสออกมานอกพื้นที่ใจกลางของชิ้นส่วนโลกต่างมิติ
เพราะตามปกติบอสมักจะชอบเฝ้าหินพลังงานและไม่คิดจะไปไหน
พื้นที่ใจกลางของชิ้นส่วนโลกต่างมิตินั้นเป็นทุ่งกว้างที่ซับซ้อนไปด้วยก้อนหินดินและต้นไม้ยืนต้นที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป นอกนั้นก็เป็นพื้นที่มืดสนิทตามปกติของชิ้นส่วนโลกต่างมิติแห่งนี้
วิ่งมาเกือบจะครึ่งค่อนวันตามฝูงแกะปีศาจมาก็ทำให้ลุครู้ว่าชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ B นั้นกว้างใหญ่อย่างแท้จริง มันไม่ต่างจากรัฐใหญ่ ๆ รัฐหนึ่งของสหพันธรัฐเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ว่านอกจากเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องที่น่ายินดีอีกอย่าง แกะปีศาจระดับ A เหมือนจะเลิกสนใจลุคแล้ว นั้นอาจจะเป็นเพราะตามปกติพวกพรายไม้คงไม่กล้ามารวมกับฝูงจริง ๆ และตามเข้าไปถึงสถานที่พวกมันอยู่ ทำให้มันคงคิดว่าลุคอาจจะเป็นหนึ่งในพวกที่เผยตัวและโดนเขมือบไปแล้ว
ตอนนี้ในที่สุดฝูงแกะปีศาจก็มาถึงใจกลางของชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ B จนได้ ที่นี่กลับมีภูเขาหินที่สูงขึ้นไปนับพันเมตรและมีเส้นทางให้แกะปีศาจเดินขึ้นไป
แต่ที่นี่ตกใจมากกว่านั้นคือมันไม่ได้มีแค่ฝูงแกะปีศาจเพียงฝูงเดียวที่ลุคแฝงตัวเข้ามา แต่มันมีฝูงแกะปีศาจมากกว่าหนึ่งฝูงและส่วนใหญ่ก็มาถึงสถานที่นี้ก่อนแล้วและกำลังเดินไปตามภูเขาหินเพื่อขึ้นไปด้านบน
ลุคเดินตามไปเรื่อย ๆ และก็ต้องตกใจยิ่งกว่าที่พบว่าทั้งภูเขานี้กลับเต็มไปด้วยหินพลังงาน
หินพลังงานจำนวนมากแทรกตัวไปมาระหว่างก้อนหินของภูเขาหินแห่งนี้ มันมีตั้งแต่ระดับ F ที่ต่ำที่สุดไปจนถึงระดับ B ที่เขาเห็นว่ามีน้อยที่สุด แต่ลุคไม่แน่ใจว่ามีหินระดับ A ด้วยหรือไม่
เพราะในเมื่อมีแกะปีศาจระดับ A ก็ควรจะมีหินพลังงานระดับ A อยู่ด้วย แต่ชิ้นส่วนโลกมิติแห่งนี้ถูกประเมินว่าเป็นเพียงชิ้นส่วนระดับ B เท่านั้นก็ไม่น่าจะมีหินพลังงานในระดับ A
เพราะหินพลังงานในระดับ A นั้นจะถูกพบได้เพียงที่โลกสมบูรณ์เท่านั้นและหินพลังงานในระดับ A ทั้งหมดที่โลกมนุษย์มีนั้นก็ล้วนแล้วแต่มาจากโลกสมบูรณ์ทั้ง 3 แห่งที่เปิดอยู่ทั้งสิ้น
นี่คืออีกเหตุผลที่สหพันธรัฐและฝ่ายปฏิวัติถึงต้องแย่งกันควบคุมโลกสมบูรณ์แห่งที่หนึ่งและสอง ส่วนแห่งที่สามยังไม่มีการค้นพบเหมืองหินพลังงานต่างมิติในระดับ A จึงยังไม่ถูกฝ่ายปฏิวัติให้ความสำคัญมากนัก ประจวบเหมาะกับสหพันธรัฐส่งกำลังมาควบคุมที่นี่ไว้อย่างแน่นหน้า ทำให้ฝ่ายปฏิวัติยังไม่คิดลงมือโจมตี
แต่ลุคคิดว่ายังมีอีกเหตุผลที่สหพันธรัฐไม่โจมตีประตูมิติโลกสมบูรณ์แห่งที่ 3 นั้นเป็นเพราะกำลังรบของพวกเขาอาจจะมีไม่มากพอ เพราะว่าต้องไปรับมือกับสหพันธรัฐและปกป้องประตูมิติโลกสมบูรณ์แห่งที่สองอยู่
แต่ไม่ว่าอย่างไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับภาพที่ลุคจะได้เห็นต่อไป
เขาเดินขึ้นมาจนถึงด้านบนสุดของฐานและภาพแรกที่ลุคเห็นกลับต้องตกตะลึง เมื่อเห็นว่าด้านบนภูเขาแห่งนี้มีอะไร
ด้านบนภูเขาเป็นพื้นที่ซึ่งเหมือนกับภูเขาที่ถูกดาบตัดยอดและเปลี่ยนให้เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ แต่ใจกลางของลานกว้างกลับมีรอยแยกเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“เวร รอยแยกมิติ ชิ้นส่วนโลกต่างมิติที่มีรอยแยกมิติซ้อนทับอยู่ด้านใน” ลุคตกใจมากซะยิ่งกว่าเจอการปรากฏตัวของแกะปีศาจระดับ A
เพราะสิ่งนี้อธิบายได้จนหมดสิ้นว่าทำไมถึงมีแกะปีศาจระดับ A
ที่แท้มันก็เห็นเพราะรอยแยกมิติ พวกแกะปีศาจระดับ A ต้องเกี่ยวข้องกับรอยแยกนั้นแน่นอน รอยแยกแบบนี้ชวนให้ลุคนึกไปถึงรอยแยกเหนือเมืองปลายฝน ซึ่งเกิดมาจากการจงใจเปิดขึ้นมาของโลกเผ่าอสูร
ชื่อของเผ่าอสูรเป็นสิ่งที่ลุคอ่อนไหวมาก เพราะเกี่ยวข้องกับเจนหรืออีกตัวตนองค์หญิงเทพอสูร
ตอนนั้นเองที่รอยแยกก็มีเสียงของมอนสเตอร์ตัวหนึ่งปรากฏขึ้นมา มันเป็นเสียงที่ลุคไม่มีวันลืม เสียงของมอนสเตอร์ราชาสิงโตอับบาส
“เจ้าราชาแกะตามข้ามา”
เสียงของสิงโตอับบาสดังลอดออกมาจากรอยแยกตรงไปยังฝูงแกะทุกตัว พวกมันพากันก้มตัวหมอบไปกับพื้นด้วยความกลัว ลุคเองก็ทำตาม อันที่จริงแรงกดดันของสิงโตอับบาสทำให้เขาไม่สามารถทนไหว
แต่ในฝูงแกะก็ยังมีแกะปีศาจที่ยืนได้อย่างมั่นคงอยู่ถึง 3 ตัว หนึ่งในสามนั้นเป็นตัวที่ลุคระบุตำแหน่งของมันตลอดเวลา มันคือมอนสเตอร์แกะปีศาจระดับ A
นั้นหมายความว่าอีกสองตัวก็ต้องเป็นแกะปีศาจระดับ A ด้วย
“แกะปีศาจระดับ A สามตัวแถมยังเกี่ยวข้องกับโลกอสูรอีกด้วย ทำไมพวกมันถึงมาที่นี่ โลกอสูรคิดจะทำอะไรกัน”
ลุคหรี่ตามองอย่างไม่เจาะจงไปที่พวกแกะปีศาจระดับ A ที่เดินหายเข้าไปรอยแยก
“พวกมันไปแล้ว” ลุคเหมือนจะฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีระดับ A เขาก็ไม่ต้องกลัวที่จะใช้กำลังหลบหนีโดยตรงอีกแล้ว ลุคค่อนข้างมั่นใจว่าระดับ A นั้นน่าจะเข้าไปที่รอยแยกจนหมด แต่ลุคก็ไม่ปักใจเชื่อจนเกินไป เพราะอาจจะมีระดับ A ถูกทิ้งให้เฝ้าที่นี่ไว้ก็ได้ แม้โอกาสจะมีน้อย แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ถึงอย่างนั้นลุคก็ต้องลองเสี่ยง ไม่รู้ว่าพวกมันไปนานแค่ไหน นี่เป็นโอกาสในการออกไปจากที่นี่เพียงครั้งเดียว เพราะถ้ารอจนกลับมามันไม่ใช่แกะปีศาจระดับ A แค่ตัวเดียวแต่มีถึง 3