ตอนที่ 20 ช็อปเปอร์ตะลึง
“อาหารวันนี้คือกระต่ายหิมะยักษ์ต้มและแกงสตูว์”
2คน1ตัวนั่งลงและเริ่มเพลิดเพลินกับอาหารเย็น
ทักษะทางการแพทย์ของดร.คุเรฮะเมื่อเทียบกับคนทั่วไปถือว่าดี
ยิ่งไปกว่านั้น หญิงชราคนนี้ไม่เพียงแต่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันเท่านั้น ยังรวมถึงกินเนื้อสัตว์ทุกวันแบบไม่ซ้ำชนิด
ทำให้ไป๋ซานค่อนข้างพอใจ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าเขาต้องกินอะไรที่มันเป็นการรักษาสุขภาพทุกวันอย่างน้ำซุปเปล่าๆอะไรแบบนั้น
กินไปได้ไม่นาน อยู่ๆดร.คุเรฮะก็หัวเราะออกมาแปลกๆ "คุคุคุ"
“พ่อหนุ่มไป๋ซาน เรียนรู้ไปถึงไหนแล้วล่ะห๊ะ หนังสือทางการแพทย์ทั้ง200เล่มนั่นน่ะ”
เมื่อได้ยินคำถามจากดร.คุเรฮะ ไป๋ซานก็วางตะเกียบลงบนชามโดยไม่รู้ตัว กลืนอาหารในปากให้หมดก่อน จากนั้นจึงเริ่มตอบ
นี่ถือเป็นมารยาทที่ดีในการคุยกับผู้ใหญ่ กลายเป็นว่าไป๋ซานเคารพดร.คุเรฮะในฐานะผู้อาวุโสโดยไม่รู้ตัว
“ผมอ่านหนังสือทางการแพทย์ครบทั้งสองร้อยเล่มแล้ว”
“โอ้ แล้วเธอเข้าใจไหม”
ไป๋ชานพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ก็ เกือบจะเข้าใจทั้งหมดแล้ว”
เขารู้ว่าคุเรฮะคงอยากจะทดสอบบางอย่างกับเขา เขาจึงไม่ได้พูดว่าเข้าใจทั้งหมด
แต่ดูจากสีหน้าของเขาเหมือนเขากำลังบอกว่า "ผมแค่ถ่อมตัวเฉยๆแหละ อยากรู้อะไรถามมาได้เลย"
“คุคุคุ กล้าพูดออกมาจริงๆ หนังสือตั้งสองร้อยเล่ม...”
ดร.คุเรฮะหัวเราะลั่น เธอยกไวน์ขึ้นมาดื่มแล้วกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ
ด้วยความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับตัวตนของไป๋ซาน เธอคิดว่าไป๋ซานคงไม่ใช่คนโกหก
แต่จะให้เชื่อว่าคนคนนึงอ่านและพอเข้าใจหนังสือทางการแพทย์200เล่มได้ใน4วัน...
เป็นไปได้ไหมที่ฉันพบอัจฉริยะจริงๆ?
“ขอถามเธอหน่อยแล้วกัน กล้ามเนื้อหลังมีอะไรบ้าง?”
“กล้ามเนื้อทราพีเซียส กล้ามเนื้อรอมบอย กล้ามเนื้อแลททิสซิมุส ดอร์ไซ กล้ามเนื้ออีเร็คเตอร์สไปเน่” (คนแต่งเอามาจากวิกิจีนซึ่งผมแปลไม่ออก จ๊ากกก เลยหาข้อมูลไทยใส่แม่มเลยอิอิ)
ของแบบนี้จัดอยู่ในประเภทที่มือใหม่ก็รู้
คุเรฮะยังคงถามต่อโดยไม่แปลกใจ
“ในหนังสือ”ร้อยวินิจฉัยโรคบวมน้ำเหลือง“สูตรครีมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดสำหรับรักษาอาการกล้ามเนื้อบวมน้ำเหลืองคืออะไร?”
“เลือดแมงป่อง หญ้างูแดง ใบไม้จากภูเขาน้ำแข็ง... บดหญ้างูแดงก่อน แล้วจึงเติม...”
ไป๋ซานไม่เพียงแต่ท่องสูตรเท่านั้น แต่ยังอธิบายกระบวนการทำยารักษาทั้งหมดและเรื่องที่ต้องให้ความสนใจ ไม่มีอะไรผิดพลาด อธิบายได้อย่างละเอียดครบถ้วน
“ไม่เลว.. แล้วความเร็วในการแพร่กระจายของแบคทีเรียทาเกียขึ้นอยู่กับอะไร?”
นี่เป็นหัวข้อการแพทย์เชิงลึก มีเพียงผู้ที่ศึกษามาแล้วอย่างดีเท่านั้นจึงจะตอบคำถามนี้ได้
"สิ่งที่สำคัญสุดเลยก็คือ..."
ถึงกระนั้น ไป๋ชานก็ยังตอบได้แบบสบายๆ เนื้อหาก็ยังครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนเดิม
หลังจากได้ยินคำตอบสุดท้ายจากไป๋ซาน ดร.คุเรฮะก็พยักหน้าอย่างพอใจ และเอนหลังพิงกับเก้าอี้
“ไม่เลว ดูเหมือนว่าคุณจะได้เรียนรู้เรื่องพื้นฐานเกือบทั้งหมดแล้ว”
ช็อปเปอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็มองด้วยสีหน้าท่าทางที่ช็อคสุดขีด
เขารู้ดี หนังสือตำแพทย์พวกนั้นเขาเคยอ่านมาก่อน
เขารู้ดีว่าเนื้อหาในหนังสือแพทย์เหล่านั้นเข้าใจยากขนาดไหน
เขาใช้เวลาศึกษาหลายปี ส่วนไป๋ซานใช้เวลาแค่4วัน
"สุดยอดไปเลย"
ไป๋ซานหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาอีกครั้งแล้วเริ่มกินต่อ
ขณะที่กินกระต่ายหิมะ เขาชี้ไปที่จานของช็อปเปอร์แล้วพูดว่า
"ถ้านายไม่กินต่อ ฉันเอานะ"
"ห๊า!"
เมื่อได้ยินว่าข้าวของตัวเองกำลังโดนเพ่งเล็ง ในที่สุดช็อปเปอร์ก็ฟื้นคืนสติ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จนวันต่อมา ไป๋ชานก็ได้เข้าไปในโกดังเก็บวัตถุดิบทำยาของดร.คุเรฮะ
สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการฝึกฝน ต้องระบุให้ได้ว่ายาตัวไหนคืออะไร
เพราะที่เห็นในหนังสือมันก็แค่ตัวอักษร ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าหน้าตาจริงๆมันเป็นยังไง
ไป๋ซานเลือกวิธีที่ง่ายที่สุดและตรงไปตรงมาที่สุด คือการปิดฉลากมันไว้ แล้วสัมผัสมันด้วยตัวเอง ทั้งสัมผัส ดูด้วยตา ดมกลิ่น ลิ้มรสมันด้วย
แต่เปิดมาขวดแรกๆเขาก็จำไม่ได้แล้ว จำไม่ได้เลยสักขวด
แต่มันช่วยไม่ได้จริง มียาหลายสิบชนิดที่มี "ผงสีน้ำตาล มีรสขมเล็กน้อย มีกลิ่นเปรี้ยว" เขียนระบุไว้ในตำราแพทย์ที่ไป๋ซานอ่าน ทำไป๋ซานสะดุดตั้งแต่เริ่ม
พอหน้าไป๋ซานเริ่มเบี้ยว ระบบบัพมืดก็ออกมาช่วย "โฮสต์ล้มเหลวในการระบุขวดยาสมุนไพรสี่ขวดติดต่อกันซึ่งเป็นทักษะเฉพาะตัว ความสามารถในการระบุได้ถูกบัพมืด และได้รับทักษะการประเมิน"
การประเมินเหรอ นี่คืออะไร
วินาทีต่อมา การมองเห็นของไป่ซานก็มืดลง
‘ให้ตายสิ ทำไมอยู่ๆก็บอดได้วะเนี่ยย’
ไป๋ซานล้มลงกับพื้น เอามือสัมผัสดวงตาของเขา พยายามลืมตาดูเท่าไหร่ มันก็ยังมืดสนิท
‘ให้ตายเถอะ ระบบบัพมืดรอบนี้ติดบัคอะไรหรือไง หรือมีอะไรผิดปกติกับตัวยาที่เพิ่งชิมไปหรือเปล่า ไม่รู้ว่าชอปเปอร์จะรักษาได้ไหม’
ประมาณครึ่งนาทีต่อมา จู่ๆ ดวงตาของไป๋ซานก็เริ่มเห็นแสงอีกครั้ง
มาจ้าซะเหลือเกิน จ้าจนตาแทบบอด
ไป๋ซานลืมตา พยายามปรับเข้ากับแสงในดวงตา เมื่อมองไปรอบๆเขาก็พบว่ามีไอค่อนแว่นขยายบนสิ่งของต่างๆที่เขามองเห็น
ไอค่อนนี้ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเห็นได้ชัด กล่าวอีกนัยนึงคือมันอยู่ในสายตาของเขา ตามระยะการมองเห็นของเขาเอง
นี่คือการประเมินหรอ
เขาโฟกัสไปที่โต๊ะข้างๆเขา ก่อนจะคลิกไปที่แว่นขยาย จากนั้นก็มีอินเทอร์เฟซปรากฏขึ้นมา
"โต๊ะ"
"วัสดุ: ไม้ซีดาร์"
"อายุ: 17 ปี"
"รายละเอียด: โต๊ะธรรมดาต้องระวังอย่าวางของที่มีน้ำหนักมากเกินไปเพราะมันถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน “
'โอ้แม่เจ้าโว้ย ในมีทักษะประเมินงี้ก็สวยเลยสิ'
เขาลองใช้งานกับพวกขวดยาสมุนไพรดู หญ้าพระจันทร์ขาว กุหลาบตูมสามดอก…
มันเหมือนกับที่เขียนไว้ในฉลากเลย ชื่อของมัน ข้อควรระวังในการเก็บรักษา ผลของยา และอื่นๆ
โอเค ไม่ต้องฝึกละ ข้ามไปที่การปรุงยาเลย
ทันใดนั้นช็อปเปอร์ก็เดินเข้ามาเห็นไป๋ซานที่กำลังจะออกไป
“พี่ไป๋ซาน นายไม่ได้ฝึกระบุยาอยู่เหรอ?”
“ใช่ แต่ฉันฝึกเรียบร้อยแล้ว”
“อะไรนะ เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ใช่ ฉันจำวัตถุดิบยาทั้งหมดของที่นี่ได้แล้ว”
ไป๋ชานพยักหน้าอย่างไม่แยแส หนึ่งในความสุขที่สุดของเขาทุกวันนี้คือการดูช็อปเปอร์อ้าปากค้างจนคางหล่นถึงพื้นด้วยความตกใจ
นี่คือโลกของหนังสือการ์ตูนจริงๆ ปากของคนเราสามารถเปิดกว้างได้ถึงขั้นนี้เลย
แต่ทำไมฉันอ้าแล้วมันไม่ถึงฟร้ะ?
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอทดสอบหน่อยนา”
ช็อปเปอร์หยิบขวดขึ้นมาและปิดฉลากเอาไว้ แล้วให้ไป๋ซานดมกลิ่น
“นี่คือผงหญ้าพระจันทร์ขาว อย่าลืมบอกดร.คุเรฮะด้วยว่าในนี้มันชื้นไปหน่อย ไม่เหมาะกับเก็บรักษาเจ้านี่หรอก ต้องเก็บไว้ในที่แห้งกว่านี้”
ช็อปเปอร์มองดูฉลากก็เห็นว่ามันเป็นหญ้าพระจันทร์ขาวจริงๆ
“รอเดี๋ยวนะ”
ผู้ชายคนนี้จำยาทั้งหมดในนี้ได้จริงหรอ?
ช็อปเปอร์คิดแบบนั้น เขาจึงเอายา2ขวดออกมาสลับกันก่อนจะให้ไป๋ซานระบุอีกครั้ง
‘คิกคิกคิก มาดูกันว่าตอนนี้จะพูดตรงกันข้ามไหม?’
ช็อปเปอร์คิดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“นี่คือหญ้างูแดง และนี่คือกุหลาบตูมสามดอก นายสลับทั้ง2ขวดใช่ไหม อย่าลืมเปลี่ยนกลับด้วยนะ”
ห๊า ผู้ชายคนนี้สามารถระบุยาทั้งหมดได้จริงๆ เหรอ?
ช็อปเปอร์ที่ถือส่วนผสมยาสองขวดอยู่ได้แต่ยืนนิ่งกับที่