ตอนที่ 16 ออกเดินทางสู่แกรนด์ไลน์!
แม้ว่าภารกิจและการเดินทางไปที่ทะเลอีสต์บลูจะประสบผลสำเร็จ แต่ดูเหมือนว่าที่กองทัพเรือจะไม่มีอะไรให้ไป๋ซานทำมากนัก
ในฐานทัพเรือ ไป๋ซานเดินเล่นอย่างสบายๆ และมองไปรอบๆ
หลังจากนี้ไม่นาน การ์ปจะเดินทางออกจากมารีนฟอร์ด และจะกลับมาพร้อมกับเคอร์บี้
พลเรือตรีในอนาคต?
อยู่ๆไป๋ซานนึกถึง กระบองเล็กอัลบิด้า, ตัวตลกบากี้และคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว
จุ๊ๆ ลองคิดดูดีๆ กลุ่มคนที่มาจากทะเลอีสต์บลูนั้นมีชีวิตชีวาดีจริงๆ
ตอนนี้ฉันอยู่ที่ฐานทัพเรือ แต่เขาไม่มีอะไรทำเลย
ในบรรดากลุ่มกองทัพเรือที่ออกไปทำภารกิจประเมินนั้น มีเพียงไป๋ซานคนเดียวที่กลับมาแล้ว ส่วนคนอื่นๆนั้นส่วนใหญ่พึ่งจะไปถึงจุดหมายภารกิจของพวกเขาเท่านั้น
และหลังจากเรียนรู้ท่าทั้งหกแล้ว คุณจะต้องพึ่งพาการฝึกฝนของคุณเองและต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
เมื่ออยู่ที่ฐานทัพเรือ อาคาอินุไม่สามารถสอนอะไรเขาได้อีกแล้ว
หากว่าเขาต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นในโลกของวันพีช ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮาคิ พลังของผลปีศาจ หรือพัฒนาความสามารถต่างๆที่มีอยู่ไม่สามารถทำได้แล้วในมารีนฟอร์ดแห่งนี้
ในกรณีนี้ ไป๋ซานตัดสินใจว่าจะออกไปผจญภัยข้างนอก!
เป้าหมายของการฝึกฝนคือการแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งพอที่จะจัดการหนวดดำล่วงหน้าได้!
ผู้ชายต้องออกไปดูโลก เขาพึ่งจะพบเพียงแค่เจ็ดเทพโจรสลัดอย่างจูราคิล มิฮอว์ค และ4จักรพรรดิ์ ร้อยอสูรไคโด ยังคงโลกอันกว้างใหญ่ของโลกใหม่รอให้เขาสำรวจ!
เมื่อคิดได้แบบนี้ ไป๋ชานก็รีบเดินไปที่ห้องทำงานของอาคาอินุ
“รายงานนายพลอาคาอินุ! ผมอยากไปทะเลคนเดียวเพื่อพัฒนาตัวเอง! การอยู่ที่นี่จะไม่ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น!”
อาคาอินุเงยหน้าขึ้นมองไป๋ชาน ก้มศีรษะลงและคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางเอกสารในมือลง
“เดิมทีนายซึ่งเป็นกองทัพเรือกลุ่มนี้ จะได้รับการประเมินหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ คนที่ผ่านการประเมินจะถูกส่งออกไปตามฐานทัพต่างๆ และผู้ที่มีผลงานโดดเด่นอาจถูกส่งเข้าสู่องค์กรซีพี เพื่อเข้าร่วมในภารกิจลับ”
“ด้วยผลงานของนายที่ผ่านมาในทะเลอีสต์บลู คงไม่มีปัญหาในการเดินทางเพียงลำพังและคงดูแลตัวเองได้ งั้นก็ออกไปได้ ฉันอนุญาติ”
อาคาอินุรู้ชัดเจนว่าไป๋ซานรับดาบของฮอว์คอายได้
ในความเห็นของเขา ไป๋ซานคงอยากไปทวีปทะเลทั้ง4เพื่อรับประสบการณ์ในการเดินทาง และต่อสู้
ภายในทะเลทั้งสี่ ความแข็งแกร่งของไป๋ซานถือได้ว่าทรงพลัง
อาคาอินุค่อนข้างพอใจกับนักเรียนคนนี้ที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือไป๋ซานกำลังหมายถึงแกรนด์ไลน์และโลกใหม่
“ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะออกไปก่อน”
ก่อนออกเดินทาง ไป๋ชานไปหาการ์ปเพื่อกล่าวคำอำลา
ตอนนี้เขากำลังจะออกไปอีกแล้ว และไม่รู้ว่าจะได้เจอกันทีอีกเมื่อไร
ไม่ว่ายังไง การ์ปก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของเขา และยังช่วยฝึกฝนเขาอีกด้วย
“ฮ่าๆๆ ช่วยไม่ได้จริงๆสินะ วัยรุ่นต้องการท่องโลกกว้าง ฮ่าๆๆๆๆ”
หลังจากที่การ์ปหัวเราะจบ ดวงตาของเขาก็แสดงความสุขที่ได้เห็นคนรุ่นต่อไปเติบโตขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะยังมีความกังวลอยู่ลึกๆ…
“โอเค ออกไปเถอะ ยังไงก็ตาม ถ้าแกเจอคนชื่อเอซ อย่าลืมช่วยฉันจับเขาหน่อย แต่อย่าทำร้ายเขานะ…เห้อ เด็กคนนั้นกลายเป็นโจรสลัดไปแล้ว” การ์ปถอนหายใจ เขาคือกองทัพเรือ ดราก้อนเป็นกองทัพปฏิวัติ ส่วนเอซและลูฟี่กลายเป็นโจรสลัด
ตระกูลนี้ทรงพลังจริงๆ พวกเขาอยู่ใน3ค่ายตรงข้ามในโลกแห่งนี้
“เอซเหรอ ผมเคยได้ยินชื่อนี้อยู่นะ แต่ว่ามีเรื่องน่าสนใจมากเรื่องนึง ตอนที่ผมไปที่ทะเลอีสต์บลู ผมเจอชายน่าสนใจคนนึงเข้า เขาอ้างว่าในอนาคตเขาจะกลายเป็นราชาโจรสลัด ชื่อมังกี้ ดี ลูฟี่” ไป๋ชานแกล้งทำเป็นพูดถึงลูฟี่แบบไม่ได้คิดอะไร
"อะไรนะ ลูฟี่? แกเจอเด็กนั่นหรอ ฮ่าๆๆ มันเป็นไงบ้าง?"
"เขาดูแข็งแกร่งดี เป็นคนที่กระตืนรือร้นและมีชีวิตชีวา เขาเอาชนะกัปตันกลุ่มโจรสลัดดอนครีกได้ด้วยตัวคนเดียว"
"อืมม งั้นก็ดีแล้ว เด็กๆยุคต่างก็อยากจะออกทะเล ไม่มีอะไรจะต้านทานแรงดึงดูดของทะเลได้...เอาล่ะ ไปเถอะไป๋ซาน ยิ่งไปเร็วเท่าไหร่นายก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น!" การ์ปนั้นคุ้นเคยกับการต้องจากลาอยู่แล้ว เพราะงั้นจึงไม่ได้แสดงออกถึงความเสียใจมากนักที่ต้องจากลากันสักพัก แต่แสดงออกถึงการเฝ้ารอดูว่าไป๋ซานจะเติบโตได้มากแค่ไหนในการออกทะเลเพียงลำพัง
ไป๋ซานไม่ได้เอาเรือไปด้วย เพราะถึงยังไง การ์ปและอาคาอินุรู้อยู่แล้วว่าเขาสามารถบินได้
และเขาได้อธิบายต่อทั้งสองว่าเขาได้พัฒนาทักษะเดินชมจันทร์ในรูปแบบของเขาเอง
สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติในกองทัพเรือ ทหารเรือบางคนจะทำการเปลี่ยนแปลงทักษะที่ใช้ตามแนวคิด ประสบการณ์ และความสามารถของตนเอง
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะได้เรียนรู้6รูปแบบ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าผู้คนต่างสามารถพัฒนารูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกันได้
ดังนั้นทั้งสองจึงยอมรับคำพูดของไป๋ชานอย่างง่ายดาย
ไป๋ซานบินขึ้นโดยใช้ทักษะบุจุตสึ จากนั้นก็มุ่่งหน้าไปยังแกรนด์ไลน์
เขาไม่รู้ว่าลูฟี่และลูกเรือไปถึงไหนแล้วตอนนี้
เพราะนี่ก็ผ่านมาสักพักแล้วที่แยกตัวกัน แถมเขายังใช้เวลาเรื่อยเปื่อยที่มารีนฟอร์ดอยู่พักนึงเลยด้วย
บางทีตอนนี้ลูฟี่อาจจะใกล้ถึงแกรนด์ไลน์แล้ว
แต่ทะเลอันกว้างใหญ่รอให้เขาไปสำรวจ เขาคงไม่อาจรอลูฟี่ได้ตลอด บางทีคงต้องไปก่อน
เมื่อคิดได้แบบนี้ ไป๋ซานก็บินตามกระแสน้ำของรีเวิร์สเมาน์เทนจนกระทั่งถึงทางเข้าแกรนด์ไลน์และเห็นวาฬลาบูน
ในร่างของวาฬลาบูนมีหมอคร็อกคัสอาศัยอยู่
ไป๋ซานบินเข้าไปโดยตรง พยายามค้นหาหมอคร็อกคัส
ต้องบอกเลยว่ามันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่ได้บินเข้ามาในร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่แบบนี้
ในตอนแรกทุกอย่างมืดลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน แสงสว่างก็ปรากฏขึ้น
จากนั้น สีหน้าของชายชราคนหนึ่งที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจที่เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งมายืนอยู่ในบ้านเขา
“สวัสดีครับ ผมอยากจะถามว่ามีกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางผ่านมาที่นี่หรือเปล่า?”
“กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”
“ถ้าพวกเขาผ่านมาที่นี่ ผมฝากคุณส่งจดหมายหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิ เอาจดหมายมาได้เลย”
ไป๋ซานสุ่มหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาแล้วเขียนว่า “ลูฟี่ ฉันจะรอนายอยู่ที่อาณาจักรอลาบัสต้า”
จากนั้นเขาก็ยื่นมันให้คร็อกคัส
“บอกเขาว่า คนเขียนจดหมายคือไป๋ซาน”
ทีนี้ ฉันก็ออกไปเดินเล่นสักพัก
เนื้อเรื่องต่อจากนี้จะเป็นกลุ่มลูฟี่ได้พบกับเจ้าหญิงวีวี่ ผ่านวิสกี้พีค ลิตเติ้ลการ์เด้น พบโทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ในอาณาจักรดรัม และเผชิญหน้ากับคร็อคโคไดล์ซึ่งเป็น7เทพโจรสลัดและกอบกู้อาณาจักรอลาบัสต้า
ตอนนี้เขาสามารถไปเดินเล่นก่อนสักพักแล้วค่อยไปพบกับลูฟี่และคนอื่นๆ ในอาณาจักรอลาบัสต้า
ดูเหมือนเอซจะอยู่ที่นั่นด้วยนี่นา คงจะดีสำหรับทุกคนที่ได้รู้จักกัน
ดังนั้น หลังจากส่งจดหมายให้คร็อกคัส ไป๋ซานก็บินตรงไปยังแกรนด์ไลน์
บางครั้งทะเลก็สงบ และบางครั้งฟ้าก็มืดลงกะทันหัน
นี่คือการผจญภัยใช่ไหม?
ไป๋ซานคิดกับตัวเองขณะที่เขาบินไป
อย่างไรก็ตาม ไป๋ซานใช้เวลาหลายวันก่อนจะนึกขึ้นได้
"เดี๋ยวก่อนนะ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีล็อกโพส...?"