ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 458 - การทดสอบบนดวงดาว!?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 460 - สัตว์อสูรระดับ 4! วานรหินผา!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 459 - ราวกับเข้ามาเดินเล่น!!


ด้วยสภาพร่างกายและพลังงานที่มีอยู่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับการทดลองได้ถึง 3 ครั้ง มันไม่มีเหตุผลที่เดวิดจะรอช้าอยู่เลย เขาก้าวเดินเข้าไปที่ประตูสีดำทันทีที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีข้อมูลใหม่ ๆ ดังขึ้นมาจากปากของคนที่อยู่รอบข้างอีก

แทบจะไม่มีใครมองมาที่เดวิดเลยแม้แต่น้อย มีผู้ฝึกฝนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปรับการทดสอบอยู่เป็นระยะ เมื่อเขาพยายามผลักเปิดประตูบานที่ 3 ก็พบว่ามันไม่ขยับเขยื้อน หลังจากเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เดวิดก็เดินมุ่งไปยังประตูบานที่ 4 แทน

สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าเดวิดไม่มีคุณสมบัติ หรือมีความหมายแอบแฝงอะไรทั้งสิ้น แค่เพียงประตูบานที่ 3 มีคนเข้าไปทดสอบเต็มความจุของมันแล้วเท่านั้น หลักฐานคือประตูบานที่ 4 เปิดขึ้นอย่างง่ายดาย

เดวิดรับตาทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงดึงดูดที่ส่งออกมาจากด้านใน เขาปล่อยให้ตัวเองลอยเข้าไปในประตูโดยไม่ต่อต้าน หลังจากที่รับรู้ได้ว่าการเคลื่อนที่หยุดลง เดวิดก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

“อืม!?” เขาเอามือลูบคางอย่างครุ่นคิด ทำไมสภาพพื้นที่ด้านในถึงได้แตกต่างจากด้านนอกแบบหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ แม้ว่ามันจะเป็นทุ่งกว้างที่ไร้ต้นไม้ใหญ่เหมือนกัน แต่ตอนนี้เดวิดยืนอยู่ในทุ่งหญ้าที่สูงจนเกือบจะถึงเอว ที่นี่เป็นดาวอีกดวง!? หรือว่าแค่พื้นที่อื่นของดาวดวงเดียวกัน? หรือว่าเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา?

เขาก้มลงมองในอกเสื้อของตัวเองอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อรับรู้ว่าเจ้าฟลินท์ยังนอนนิ่งอยู่ในนั้น ก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่ากฎเกณฑ์ของสนามทดสอบจะไม่มีผลกับสัตว์อสูร เขาไม่ต้องเสียโควตาการเข้าทดสอบอย่างเปล่าประโยชน์เพื่อออกไปจัดการฝากฝังมันให้คนอื่นดูแลแทนเลย

ความคิดของเขาหยุดชะงักลงเมื่อได้กลิ่นเหม็นประหลาดลอยมาเข้าจมูก หูก็แว่วได้ยินการเคลื่อนไหวของบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างเงียบกริบ ระยะห่างในตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้น ไม่กว่าอีกฝ่ายจะเป็นตัวอะไร เขาหรือมันกำลังใช้สภาพแวดล้อมของทุ่งหญ้าแห่งนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดอยู่

เดวิดย่นจมูกเล็กน้อยอย่างไม่ชอบใจในกลิ่นที่รับรู้อยู่ตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้ปิดประสาทการรับรู้อะไรเพิ่มเติม เพราะตอนนี้มันแทบจะอยู่ในระดับต่ำสุดอยู่แล้ว เขาแค่เปิดแหวนเก็บของหยิบดาบบินเล่มที่เชื่อมโยงเอาไว้แล้วออกมา แล้วปล่อยให้มันลอยอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจอะไรนักเลย

เพราะจากคลื่นพลังที่สัมผัสได้ มันเป็นเพียงแค่สัตว์อสูรระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น ตอนที่กระต่ายปีศาจที่ดวงตาสีแดงกล่ำและมีขนาดใหญ่โตมากว่า 1 เมตรกระโจนเข้าหา เดวิดแค่พึมพำออกไปเบา ๆ

“ไป!”

ขวับ!!

เจ้ากระต่ายยักษ์ที่ดูหิวโหยขาดเป็น 2 ท่อนทันทีที่ดาบบินพุ่งผ่าน เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณพร้อมกับเสียง ‘ตุบ’ 2 ครั้งจากการที่ร่างทั้ง 2 ซีกตกลงพื้นดังขึ้นมา เดวิดใช้คลื่นสมองล้อมรอบทั่วตัวเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เลือดกระเซ็นมาเปรอะเปื้อนเนื้อตัวเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งประสาทสัมผัสไปทั่วบริเวณว่ายังมีอะไรซ่อนอยู่อีกหรือไม่?

ครึก!! แคร๊ก!!!

พื้นดินสั่นสะเทือนและแยกตัวออกอย่างฉับพลัน ห่างจากจุดที่เดวิดยืนอยู่ออกไปไม่ถึง 50 เมตรมีประตูบานหนึ่งผุดขึ้นมา เขาเดินตรงเข้าไปหาอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ที่ทุ่งกว้างแห่งนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดเหลืออยู่อีกแล้ว คู่ต่อสู้ของด่านที่ 1 เป็นเพียงสัตว์อสูรระดับ 1 เพียงตัวเดียวเท่านั้น

หลังจากที่ผลักเปิดประตูออก เดวิดก็ผ่านกระบวนการเคลื่อนย้ายแบบเดิมอีกครั้ง เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าสนามทดสอบของด่านที่ 2 ยังคงเป็นทุ่งหญ้ากว้างที่ไม่ต่างจากด่านที่ 1 เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นกลิ่นเหม็นที่รุนแรงกว่าเล็กน้อย ทำเขาเลือกที่จะส่งประสาทสัมผัสออกไประบุตำแหน่งของสัตว์อสูรด้วยตัวเอง เดวิดไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานนักเลย

นิ้วของเขาขยับแบบง่าย ๆ เมื่อระบุตำแหน่งของสัตว์อสูรระดับ 2 ที่มีอยู่เพียงตัวเดียวได้อย่างชัดเจน สัตว์อสูรโชคร้ายที่เดวิดเห็นไม่ชัดเจนด้วยซ้ำว่าเป็นตัวอะไรขาดเป็น 2 ท่อนในพริบตา มันยังไม่ทันได้ขยับตัวตอนที่ดาบบินพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

พื้นดินสั่นสะเทือนและประตูสู่ด่านที่ 3 ก็ปรากฏขึ้นมาในเวลาไม่นานนัก เมื่อเดวิดลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้พบว่าตัวเองตกอยู่ในวงล้อมของสัตว์อสูรระดับ 2 จำนวน 3 ตัวด้วยกัน ไวเท่าความคิด ดาบบินของเขาพุ่งวาบออกไปหั่นพวกมันเป็น 6 ท่อนในพริบตา เดวิดขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าด่านที่ 3 เป็นสัตว์อสูรระดับ 2 จำนวน 3 ตัว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้วที่จะมีคนไม่ผ่านการทดสอบมากขนาดนั้น ด่านถัด ๆ ไปต้องมีสัตว์อสูรระดับ 3 หรือระดับ 4 รออยู่อย่างแน่นอน!

แต่เขายังไม่ได้กังวลอะไรมากนัก จนถึงตอนนี้เดวิดยังไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ แค่ทดลองความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับกาลอากาศเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงทำให้การควบคุมดาบบินแบบธรรมดารวดเร็วและทรงพลังได้จนถึงขนาดทำลายการป้องกันของสัตว์อสูรระดับ 2 ได้ในดาบเดียว

เมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไปในสนามทดสอบด่านที่ 4 คิ้วของเขาขมวดแน่นติดกันเล็กน้อย เพราะการเคลื่อนไหวยังไม่สิ้นสุดดี แต่เดวิดก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างกำลังพุ่งเข้าใส่แล้ว เขารีบยันเท้าลงกับพื้นพุ่งฉากหลบออกด้านข้างอย่างว่องไว ปล่อยให้กงเล็บที่แหลมคมเฉียดใบหน้าไปอย่างเฉียดฉิวเลยทีเดียว

เดวิดรีบลืมตาและหันมองจ้องตามร่างที่พุ่งผ่านไป ก่อนจะต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเล็กน้อย ‘อีกาขาเดียวหงอนมงกุฎ’ สัตว์อสูรระดับ 3 ที่มีความโดดเด่นด้านความเร็ว ถ้าเทียบกับสัตว์อสูรระดับ 4 โดยทั่วไป อีกาตัวนี้ว่องไวกว่ามาก แม้จะมีขาและกงเล็บเพียงข้างเดียว แต่ความแข็งแกร่งและแหลมคมก็สูงพอที่จะกรีดตัดหินผาให้เป็นชิ้น ๆ ได้ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีของมันหลากหลายจนเกิดจะคาดเดาเลยทีเดียว

จุดอ่อนเดียวของมันคือร่างกายที่บอบบางและอ่อนแอ ถ้าตามความเร็วของมันได้ทัน สัตว์อสูรระดับ 2 ก็อาจจะเอาชนะและสังหารมันได้ แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ความเร็วของมันกลบลบจุดอ่อนไปได้จนแทบจะหมดสิ้นเลย

เดวิดยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่เคลื่อนไหว แม้ว่าอีกาตัวร้ายจะพุ่งจู่โจมตามติดมาอย่างต่อเนื่องไม่ให้ตั้งตัว เขารอจนกระทั่งกงเล็บที่แหลมคมของมันกำลังจะใกล้ถึงตัวก่อน นิ้วมือถึงได้ขยับอย่างว่องไว ส่งดาบบินพุ่งสวนออกไปใส่หน้าอกของมันอย่างแม่นยำ

แคร้ง!!!

สมกับเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ปฏิกิริยาตอบสนองของมันไม่ต่ำต้อยเลย กงเล็บเปลี่ยนเป้าหมายจากใบหน้าของเดวิดเป็นเข้าปะทะกับดาบบินเอาไว้ก่อน ปีกทั้ง 2 ข้างถูกกระพืออย่างรุนแรงยกตัวมันให้ลอยขึ้นไปบนฟ้า กงเล็บของมันมีเลือดไหลหยดออกมา เสียงร้องอย่างโกรธเกรี้ยวดังก้องออกมา เจ้านกสีดำบินโฉบเปลี่ยนทิศทางไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างโมเมนตัมสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป ดูเหมือนว่ามันจะมีระดับสติปัญญาที่สูงพอสมควรเลยทีเดียว

เหมือนเดิม เดวิดยังยืนนิ่งรอคอยอยู่อย่างสงบ เขาถึงกับหลับตาลงเสียด้วยซ้ำ ในใจกำลังทบทวนการเคลื่อนไหวของดาบบินที่ตัวเองใช้ออกไป และลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสายลม

อีกาขาเดียวพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างเงียบเชียบ กงเล็บของมันพุ่งเข้าใส่ศีรษะของเดวิดจากด้านหลัง แต่ดวงตาที่ทอประกายดุร้ายของมันก็เห็นประกายดาบบินแวบขึ้นมาก่อนที่กงเล็บจะกระทบเป้าหมาย คราวนี้มันรวดเร็วเกินกว่าที่จะหลบเลี่ยงหรือป้องกันเอาไว้ได้อีก

ฉับ!!

2 ท่อน! ชะตากรรมของอีกาขาเดียวหงอนมงกุฎไม่ได้แตกต่างจากสัตว์อสูรในด่านทดสอบก่อนหน้าเลย เลือดสาดกระจายพุ่งครอบคลุมตัวของเดวิด แต่ด้วยคลื่นสมองที่ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นม่านพลังบาง ๆ และการขยับตัวฉีกออกด้านข้างอย่างว่องไว ซากทั้ง 2 ท่อนของอีการะดับ 3 ก็ตกกระแทกพื้นอย่างรุนแรง

เดวิดไม่ได้หันไปมองซากของมันเลยด้วยซ้ำ เขาเรียกดาบบินกลับมาตรวจสอบพื้นผิวอย่างพิจารณา ดูเหมือนว่าดาบบินจะยังรับการเคลื่อนไวที่รวดเร็วระดับนี้ได้ มันไม่มีรอยขีดข่วนหรือรอยร้าวเกิดขึ้นเลย เดวิดเก็บมันเข้าไปในแขนเสื้อ ก่อนจะจับเจ้าฟลินท์ที่ตื่นขึ้นมาก่อกวนแล้วขึ้นมาวางเอาไว้บนไหล่ มันบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปลับคมเขี้ยวคมเล็บกับหูของเขาตามปกติ เดวิดได้แต่กลอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะทำอะไร แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปที่ประตูสู่ด่านที่ 5 ซึ่งผุดขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นาน

6 ท่อน! เป็นไปตามที่คาด สัตว์อสูรที่เฝ้าด่านที่ 5 มีอยู่ทั้งหมด 3 ตัว ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นอีกาขาเดียวหงอนมงกุฎที่รวดเร็วและโจมตีเข้ามาแบบไม่ให้ทันตั้งตัว แต่ในเมื่อเดวิดรู้ตัวแล้วว่าเขาสามารถลืมตาได้ตั้งแต่การเคลื่อนที่ยังไม่หยุดนิ่งสนิท การหลบเลี่ยงก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไรเลย หลังจากที่ใช้เวลานานกว่าด่านที่ 5 เล็กน้อย เดวิดก็จัดการผ่าเจ้าอีกาขาเดียวทั้ง 3 ตัวจนกลายเป็น 6 ท่อน! ก่อนจะเดินผ่านประตูเพื่อขึ้นไปสู่ด่านที่ 6 อย่างไม่ลังเล

สีหน้าของเดวิดเปลี่ยนแปลงไปในทันทีเมื่อลืมตาขึ้นมา ฝ่ามือขนาดใหญ่กำลังฟาดลงมาที่เขาอย่างไร้สุ้มเสียง ความรวดเร็วของมันแทบจะไม่เปิดโอกาสให้ตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย

ตูมมม!!!!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด