ตอนที่แล้ว1255 - อมิตาภะ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1257 - วิญญาณเทพนอกอาณาเขต

1256 - ตามหาหญิงงาม


1256 - ตามหาหญิงงาม

“ข้ามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าทะเลทรายตะวันตกนั้นลึกลับมาก” มีร่องรอยการเคลื่อนไหวของพระพุทธเจ้าอยู่ทั่วโลก ใครล่ะที่จะทำให้เกิดความผิดปกตินี้หากไม่ใช่อมิตาภะ” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าว

“บางทีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งพุทธะอาจจะยังนอนหลับไหลอยู่บนเขาพระสุเมรุโดยไม่ได้ตายไปแล้วอย่างที่ผู้คนคิด?” เย่ฟ่านกล่าว

ทันใดนั้น วานรศักดิ์สิทธิ์ก็สะดุ้งและกล่าวว่า “ท่านอาของข้าคือผู้ที่มีความหยิ่งผยองอย่างยิ่ง เขาคือเสมือนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขากลับยอมสยบต่อนิกายพุทธและกลายเป็นผู้พิทักษ์ธรรมรุ่นปัจจุบัน หรือว่าแท้ที่จริงแล้วเขาค้นพบความลับข้อนี้ตั้งแต่แรก?”

“ไม่น่าจะเป็นไปได้ ท่านอาของเจ้าเป็นเสมือนจักรพรรดิ ต่อให้ยืนอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ เขาก็ยังมีความสามารถที่จะต่อต้านได้ นับประสาอะไรกับการถูกกล่อมเกลา บางทีเขาอาจจะเลือกสิ่งนี้ด้วยตัวเอง” เย่ฟ่านกระซิบ

“บางทีข้าอาจจะคิดมากไป” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวกับตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ลึกเข้าไปในพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองของทะเลทรายตะวันตกและเห็นเมืองโบราณแห่งหนึ่ง มันใหญ่โตและสง่างามมากจนทำให้พวกเขาตกตะลึงเล็กน้อย

กลิ่นอายความบริสุทธิ์ที่เป็นแบบฉบับของทะเลทรายตะวันตกกระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองและทำให้ทั้งสองคนเกิดความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“ไปต่อกันเถอะ ข้าอยากเข้าไปดูข้างใน” เย่ฟ่านกล่าว

สถานที่แห่งนี้เป็นเมืองพุทธที่มีชื่อเสียงในทะเลทรายตะวันตก มันเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในยี่สิบเมืองที่มีชาวพุทธมากที่สุด

หากมีฐานการบ่มเพาะต่ำต้อยพวกเขาจะสัมผัสได้เพียงว่าเมืองแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์เท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่แข็งแกร่งเหมือนเช่นเย่ฟ่านเขาสามารถสัมผัสได้ถึงแสงแห่งพุทธะสีทองที่ส่องสว่างไปทั่วเมือง

ในขณะนั้นเย่ฟ่านก็ยืนขึ้นและกล่าวว่า “เจ้ายังจำได้ไหมว่าจักรพรรดิโบราณมีวิธีที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความเป็นอมตะโดยอาศัยความศรัทธาของผู้คนนับพันล้าน ทะเลทรายตะวันตกดูเหมือนจะเป็นวิธีการนี้เช่นกัน?”

“มีผู้คนมากมายเพียงใดตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมา คนเหล่านั้นล้วนศรัทธาในอามิตตาภะเพียงคนเดียว แล้วพลังแห่งความศรัทธาที่จักรพรรดิพุทธะคนแรกได้รับจะยิ่งใหญ่มากเพียงใด!”

วานรศักดิ์สิทธิ์สูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ หากเป็นไปตามสิ่งที่พวกเขาคาดคำนวณ บางทีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งนิกายพุทธอาจมีขอบเขตที่ทรงพลังมากกว่าสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริงหลายเท่า

“ด้วยวิธีการนี้หากจะบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้?!”

อมิตาภะยังมีชีวิตอยู่ จิตใจของวานรศักดิ์สิทธิ์และเย่ฟ่านเดือดพล่านอย่างรุนแรง ไม่น่าแปลกใจเลยที่พระพุทธเจ้าโต้วจ้านเลือกที่จะเข้าร่วมนิกายพุทธด้วยความเต็มใจ เห็นได้ชัดว่าเขาก็ปรารถนาใช้วิธีการนี้บรรลุความเป็นอมตะเช่นกัน!

“นี่เป็นเพียงความคิดของข้า ไม่สามารถจริงจังได้ หากเขายังมีชีวิตอยู่จะไม่มีร่องรอยของเขาปรากฏขึ้นในโลกได้อย่างไร” เย่ฟ่านกล่าว แต่เขายังคงมีความสงสัยมากมายอยู่ในใจ

“จักรพรรดิโบราณไม่จำเป็นต้องบรรลุความเป็นอมตะในดาวดวงนี้ บางคนมาจากนอกอาณาจักร และแม้แต่ศากยมุนีก็ยังเดินทางมาจากดาวดวงเดียวกันกับเจ้า” วานรรู้สึกหนักใจ

ดาวโบราณดวงนี้มีความลับไม่รู้จบ ตลอดยุคสมัย มีผู้คนนับไม่ถ้วนที่มาเยือนและจากไป ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งใดซุกซ่อนอยู่ที่นี่ สิ่งมีชีวิตจากนอกอาณาเขตจำนวนมากจึงแวะเวียนเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

“นั่นก็จริง”

เย่ฟ่านพยักหน้า เขาครุ่นคิดแต่ก็ยังส่ายหน้า เรื่องนี้มันน่าสงสัยเกินไป จักรพรรดิคนแรกของนิกายพุทธดำรงชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคโบราณ มันไม่มีทางที่เขาจะมีอายุเป็นล้านปีได้ เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย

“เจ้าไม่เชื่อหรือ ข้าคิดมาโดยตลอดว่าทะเลทรายตะวันตกนั้นลึกลับที่สุด ผู้คนที่อยู่ที่นี่หลายพันล้านคนต่างมีความศรัทธาต่อพระพุทธเจ้าองค์เดียว พลังแห่งความศรัทธานั้นเพียงพอที่จะยืดอายุเขาได้หลายแสนปี” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม

มีคนบูชาพระพุทธเจ้ากันมากมายและเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ใครๆ ต่างก็สรรเสริญพระนามของพระอมิตาภะ พลังแห่งความศรัทธาอันยิ่งใหญ่นั้นไม่มีจักรพรรดิโบราณผู้ใดเปรียบเทียบได้ต่อให้เป็นจักรพรรดิอมตะก็ตาม

ข้างหน้ามีเพียงเมืองโบราณและมีพระพุทธรูปจำนวนนับไม่ถ้วนแม้กระทั่งตอนนี้เสียงสรรเสริญพุทธคุณก็ยังคงดังก้องอยู่ทุกหนทุกแห่ง

หลังจากที่เข้ามาในทะเลทรายตะวันตกเสียงเรียกอมิตาภะ หลอกหลอนความคิดของเย่ฟ่านอยู่ตลอดเวลาและแม้แต่ตัวเขาก็ยังท่องคำเหล่านี้ออกมาเป็นบางครั้งโดยไม่รู้ตัว

“คำพูดของเจ้าค่อนข้างมีเหตุผล หากผู้คนจำนวนมากยังคงท่องชื่อของเจ้าอยู่ตลอดเวลาต่อให้ผ่านไปนานนับล้านปีแล้วก็ตามมันก็มีโอกาสสูงมากที่เจ้าจะยังมีชีวิตอยู่” เย่ฟ่านกล่าว

“ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าอมิตาภะยังมีชีวิตอยู่และมีจะต้องทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนสวดนามอมิตาภะอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยการเรียกชื่อของเขาซ้ำๆ แบบนี้มันจะต้องทำให้ร่างกายและวิญญาณของเขาเป็นอมตะไปแล้วอย่างแน่นอน”

“นิกายพุทธของทะเลทรายตะวันตกน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ไม่น่าแปลกใจที่ต่อให้ศากยมุนีจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้คนที่นี่ได้” เย่ฟ่านตระหนักถึงบางอย่างในใจ

“เจ้าคิดว่าเขายังอยู่บนเขาพระสุเมรุหรือไม่” วานรศักดิ์สิทธิ์มองไปทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของเขาพระสุเมรุ

เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเองว่า “จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายในสมัยโบราณคืออู่ซือ และจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนสุดท้ายในยุคปัจจุบันคือจักรพรรดิชิง พวกเขาทั้งสองบรรลุการเป็นจักรพรรดิโบราณในดาวดวงนี้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอามิตาภะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”

“แต่ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน พลังความคิดอันไร้ขอบเขตนี้สามารถทะลุทะลวงไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ดาวดวงใดสุดท้ายพลังแห่งความศรัทธาจากผู้คนในโลกนี้จะยังคงหล่อเลี้ยงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาอยู่ไม่ขาดสาย” วานรกล่าว

เย่ฟ่านกล่าวว่า “ตราบใดที่พวกเขายังเป็นมนุษย์ วันหนึ่งพวกเขาจะตาย จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ ก็แข็งแกร่งพอๆ กับอามิตาภะ หากวิธีการนี้ทำให้ผู้คนได้รับความเป็นอมตะที่แท้จริงมันก็ไม่มีเหตุผลที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆจะไม่ทำตาม นั่นแสดงให้เห็นว่าวิธีการนี้ไม่แน่ว่าจะทำให้ผู้คนกลายเป็นอมตะได้อย่างแท้จริง”

“บางทีวิธีการสร้างความศรัทธาเช่นนี้อาจยากลำบากมากกว่าการเป็นอมตะด้วยซ้ำ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หลายคนอาจรู้สึกว่าวิธีการนี้เป็นสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกวิธีการอื่น” วานรศักดิ์สิทธิ์วิเคราะห์ตามความคิดของตัวเอง

“ศาสนาพุทธเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายซึ่งลึกลับที่สุด เราไม่ควรคาดเดาใดๆ สถานการณ์ของทะเลทรายตะวันตกลึกซึ้งมากกว่าที่พวกเราจะจินตนาการได้ ในเมื่อพวกเราไม่มีความตั้งใจจะขุดค้นเรื่องนี้ก็อย่าไปแต่ต้องดีกว่า” เย่ฟ่านเตือน

วานรศักดิ์สิทธิ์พยักหน้าอย่างครุ่นคิด เพราะเขาเพียงแวะมาที่นี่ก่อนจะออกเดินทางเท่านั้น พวกเขาไม่อยากตอแยสิ่งที่ไม่ควรตอแยเพราะมันอาจทำให้หนทางข้างหน้าของพวกเขาได้รับผลกระทบได้!

เขาพระสุเมรุมีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าเย่ฟ่านและวานรศักดิ์สิทธิ์จะยังอยู่ห่างจากมันนับแสนลี้แต่พวกเขาก็สามารถมองเห็นเขาขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน

“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าคิดว่าอาของเจ้าค้นพบบางสิ่งบางอย่างแล้ว เขามองเห็นได้ชัดเจนกว่าเรา บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่ก็ได้” เย่ฟ่านปลอบใจ

“ข้าก็หวังเช่นนั้น ในอดีตตอนที่มายังทะเลทรายตะวันตกข้าไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่เมื่อฐานการบ่มเพาะสูงขึ้นมันทำให้ข้าเกิดความหวาดกลัวและไม่ต้องการมาที่นี่อีก” ดวงตาสีทองของวานรศักดิ์สิทธิ์เปล่งประกายแวววาว

พวกเขาทั้งสองเดินทางต่อไปบนถนน วานรศักดิ์สิทธิ์ต้องการไปที่วัดต้าเล่ยหยินในขณะที่เย่ฟ่านกำลังสอบถามวัดโบราณที่อันเหมียวอี้อาศัยอยู่ ข้อมูลที่พวกเขาได้รับคือมันยังคงเป็นทิศทางเดียวกัน

“นิกายพุทธเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายและปลูกฝังเส้นทางแห่งอนาคตไว้ ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงมุ่งเน้นในการทำดีและสรรเสริญพุทธคุณอยู่ตลอดเวลา เจ้าคิดว่าสักวันหนึ่งพระอมิตาภะพุทธเจ้าจะปรากฏตัวหรือไม่?” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวอย่างจริงจัง

“ใครจะบอกเรื่องในอนาคตได้?”

เย่ฟ่านยิ้มอย่างขมขื่น เขาคิดเรื่องนี้ แต่เขาไม่อยากกล่าวถึงมัน โดยเฉพาะในทะเลทรายตะวันตก เพียงแค่เขาคิดถึงคำว่าอามิตาภะจิตใจของเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแล้ว เย่ฟ่านเชื่อมั่นว่ามันเกิดขึ้นจากอำนาจของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

“แล้วเป็นไปได้ไหมที่ศากยมุนีจะเป็นพระอมิตาภะกลับชาติมาเกิดจริงๆ? หรือว่าแท้ที่จริงแล้วเขาเป็นมารอย่างที่นิกายพุทธกล่าวหา?” วานรศักดิ์สิทธิ์พึมพำ

“พอก่อน! เราจะพูดเรื่องนี้อีกครั้งหลังจากออกจากทะเลทรายตะวันตก” เย่ฟ่านหยุดเขา

วานรศักดิ์สิทธิ์ไอแห้งๆ และหยุดการสนทนาชั่วคราว

เย่ฟ่านกำลังมองหาอันเหมียวอี้โดยหวังว่าจะได้พบนางเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทาง แต่มีวิหารอยู่ทั่วทะเลทรายตะวันตกและมีผู้บ่มเพาะนิกายพุทธอยู่นับพันล้านคน

โดยฐานการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้การจะมองหาอันเหมียวอี้เพียงคนเดียวย่อมไม่แตกต่างอะไรจากการงมเข็มในมหาสมุทร

อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านยังมีเงื่อนงำในการค้นหานางอยู่บ้าง นั่นก็เพราะนิกายพุทธแม้จะนับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันแต่พวกเขาก็มีหลายคำสอน

ซึ่งแน่นอนว่าตำหนักสราญรมย์ก็เป็นหนึ่งในสาขาของนิกายพุทธเช่นกัน คำสอนของพวกเขาค่อนข้างสุดโต่งน่าตกตะลึงอย่างยิ่ง เย่ฟ่านเชื่อว่าคำสอนเช่นนี้ย่อมไม่มีทางแพร่หลายอย่างแน่นอน

เย่ฟ่านเดาว่าตั้งแต่อันเมี่ยวอี้มาถึงทะเลทรายตะวันตก นางจะต้องค้นหารากเหง้าของตำหนักสราญรมย์อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นสาขาแรกที่เย่ฟ่านค้นหาก็คือ “ศราวกาย” ซึ่งเป็นสาขาที่มุ่งเน้นศึกษาเกี่ยวกับ “อารมณ์” ดั้งเดิมของมนุษย์

……..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด