ตอนที่ 2 โฮสต์อ่อนจนระบบทนดูไม่ได้
“เขาคือไป๋ซาน ฉันเจอเขาที่เมืองเมืองนึงนึง ทั้งเมืองถูกโจรสลัดสังหารและเหลือแค่เขาคนเดียว” การ์ปพยักหน้า จากนั้นหันกลับไปที่ที่นั่งของเขา
“น่าเสียดาย เด็กคนนี้ดูมีวินัย แต่เขาไม่มีพรสวรรค์เลย”
เซ็นโงคุเคยเห็นไป๋ซานแอบฝึกฝนคนเดียวมาก่อน
“ไม่ๆ แกคิดผิดแล้ว” จู่ๆ การ์ปก็โต้กลับโดยไม่คาดคิด
"โอ้? แกกำลังจะบอกว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นใช่ไหม"
"การแข็งแกร่งขึ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เท่านั้น บางครั้ง การทำงานหนักและทัศนคติก็สำคัญกว่าพรสวรรค์"
ในฐานะบุคคลสำคัญในกองทัพเรือ การ์ปได้พบเห็นอัจฉริยะที่ตกต่ำมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่หายากที่จะเห็นชายหนุ่มที่ขยัน จริงจังเช่นนี้
ไป๋ชานซึ่งยังคงเสพติดการเรียนรู้แบบลับๆ ไม่รู้เกี่ยวกับการสนทนาเช่นนี้อย่างแน่นอน เพราะในช่วงเช้าวันนี้ การที่เขาได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐาน2จาก6รูปแบบทำให้เขามีความสุขมากๆ
แต่ทำไมมันถึงคาอยู่ที่ระดับเริ่มต้น 100% ทำไมไม่อัพเกรดเป็นขั้นต่อไป?
“ระบบ เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันติดอยู่แบบนี้?”
“โฮสต์ขาดการต่อสู้จริง การเรียนรู้จากการดูสามารถไปถึงแค่ระดับเริ่มต้นได้ หากคุณต้องการอัพเกรดต่อ คุณต้องหาคนมาต่อสู้ด้วย และสั่งสมประสบการณ์ในการใช้ทักษะ”
ในกองทัพเรือมีการซ้อมต่อสู้ด้วยกันเป็นเรื่องปกติ
แต่ถ้าตัวไป๋ซานทำแบบนั้น นั่นก็จะเปิดเผยความจริงที่ว่าคุณได้เรียนรู้ทักษะพวกนี้แล้ว
ไป๋ซานลังเลเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
ในช่วงบ่าย กองทัพเรือถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มเพื่อฝึกซ้อม และไป๋ซานก็เฝ้าดูด้วยความหงุดหงิด
'โอ้ยไม่สนใจแล้ว เปิดเผยความจริงแล้วไง ช่างแม่ง'
ไป๋ซานคิดคำแก้ต่างไว้ จากนั้นก็ไปพบกับนาวาเอก เคน ที่กำลังสอนการฝึกอยู่
ในขณะนี้ เคนกำลังต่อสู้กับทหารเรือธรรมดาๆ หลายคนเพียงลำพัง ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้อยู่ภายใต้ความกดดันใดๆ
ในเมื่อระบบต้องการประสบการณ์การต่อสู้ เพราะงั้นต้องหาคนที่แข็งแกร่ง และนาวาเอกเคนผู้นี้ก็เป็นคนที่รับผิดชอบการสอนเหล่าทหารเรือ เขาเป็นที่รู้จักในนาม "พรีเดเตอร์" มีความแข็งแกร่งและโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก!
ในกองทัพเรือ ยศนาวาเอกนั้นต่ำกว่าพลเรือจัตวาเพียงเท่านั้น การได้เป็นนาวาเอก นั่นหมายถึงคุณเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆอย่างแน่นอน แม้แต่สโมคเกอร์ที่มีฉายาว่า “นักล่าสีขาว” ที่แข็งแกร่งก็มียศนาวาเอกเช่นกัน
“นายคือไป๋ซานใช่ไหม มีอะไรรึเปล่า?”
“ผมขอประลองกับท่านได้ไหมครับ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เคนก็แสดงท่าทีไม่เชื่อสายตา
“ประลองกับฉัน? นายไม่แม้แต่จะใช้ทักษะ6รูปแบบได้ใช่ไหม? นายไม่คู่ควร!”
ความหมายก็คือปฏิเสธไป๋ซานนั่นเอง
"ไม่ ฉันได้เรียนรู้โซลกับดัชนีเหล็กแล้ว"
เมื่อมองดูการแสดงออกของเคนที่ดูช็อกและไม่เชื่อแล้ว ไป๋ซานไม่ได้ตั้งใจที่จะอธิบายเพิ่มเติมและตั้งท่าทางต่อสู้โดยตรง เคนไม่ใช่ญาติหรือคนสนิทของเขา เพราะงั้นเขาจะจัดเต็มแน่นอนไม่มีออมมือ!
“เคน โปรดชี้แนะ”
“ไป๋ซาน”
ทั้งสองยืนนิ่ง และในช่วงเวลาต่อมา พวกเขาก็หายตัวไปพร้อมๆ กัน
โซล!
ทั้งสองคนปะทะกัน
ครู่ต่อมา เสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจของไป๋ซาน : "ทักษะโซลของโฮสต์นั้นแตกต่างจากเคนค่อนข้างมากทำให้ระบบทนดูไม่ไหวอีกต่อไป"
"โซลได้ถูกบัพมืดเป็นครั้งแรก โซลกลายเป็นก้าวพริบตา คุณสามารถข้ามอวกาศและไปถึงจุดเป้าหมายได้ทันที”
เมื่อก่อนตอนใช้โซลจะมีดีเลย์เล็กน้อย
แต่ตอนนี้ ไป๋ซานสามารถข้ามระยะทางสั้น ๆ ได้โดยตรง โดยไม่มีเวลาให้คู่ต่อสู้ของเขาโต้ตอบ!
วินาทีต่อมา ทั้งสองก็ขยับอีกครั้ง และรอบนี้ไป๋ซานก็โผล่ข้างหลังเคนทันที!
ก่อนที่เคนจะทันตั้งตัว ไป๋ซานก็เอานิ้วจ่อไปที่เอวของเขา!
แต่ไป๋ซานระงับไว้ไม่ได้โจมตีออกไป
“ฉันยอมแล้ว” เคนรู้ดีว่าเขาต้านไม่ไหวแน่ๆ จึงยอมแพ้แต่โดยดี
“ไป๋ซาน นายนี่มันแข็งแกร่งมากจริงๆ”
ไป๋ซานยิ้มและไม่ได้พูดอะไร
เมื่อไป๋ซานกำลังจะหาคนมาประลองด้วยต่อ ก็มีเสียงปรบมือดังมาจากด้านข้าง
"เยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก" ไป๋ซานหันกลับมาและได้เห็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในกองทัพเรือแห่งนี้เดินมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
พลเรือเอกคนปัจจุบัน อาคาอินุ ซาคาสึกิ
“ขอบคุณมากครับ แต่ดูไม่ค่อยคุ้นเลย คุณเป็นใครหรอครับ?”
ไป๋ซานแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขา
“เรียกฉันว่าอาคาอินุเถอะ หนุ่มน้อย คุณชื่อไป๋ซานสินะ?”
“ใช่แล้ว ฉันชื่อไป๋ซาน คุณคือนายพล อาคาอินุ ซาคาสึกิหรือเปล่า?”
นี่ถือเป็นตัวละครสุดแกร่งที่เขาพบคนที่สองต่อจากการ์ปในโลกใบนี้ ไป๋ชานยังระมัดระวังเล็กน้อย เขาตื่นเต้นและก็ประหม่าสุดๆ
“ฉันเป็นผู้บัญชาการที่นี่และมีหน้าที่รับผิดชอบในการสอนทหารเหล่านี้ในทักษะ6รูปแบบโรคุชิกิ”
“เอ่อท่านครับ ถ้าหากท่านไม่ว่าอะไร ผมขอมาฝึกซ้อมด้วยได้ไหมครับ?”
“แน่นอน นายมาได้เสมอนั่นแหละ” อาคาอินุเห็นไป๋ซานมานานแล้ว และรู้ด้วยว่าไป๋ซานมักจะแอบฝึกฝนและเรียนรู้อยู่คนเดียว
แต่ความก้าวหน้าของไป๋ซานนั้นคาดไม่ถึงจริงๆ
เมื่อพิจารณาจากการต่อสู้ที่เขาเห็นเมื่อครู่นี้ มันแข็งแกร่งกว่าพวกหัวกะทิที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาสะอีก!
เป็นไปได้ไหมว่าไป๋ซานเคยซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อาคาอินุก็เริ่มรู้สึกชอบไอเด็กคนนี้ขึ้นมา
มาดูกันก่อน ถ้าเกิดไป๋ซานคือสุดยอดอัจฉริยะขึ้นมาจริงๆ ก็เอาเขามาอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาดีกว่า
การฝึกซ้อมในช่วงบ่ายสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว ไป่ซานประลองไปทั้งหมด8ครั้งและชนะทุกครั้ง
วิธีที่เขาชนะคือใช้ความเร็วของเขา ไม่มีใครสามารถตอบสนองความเร็วของเขาทันเลยสักคน
“ไป๋ซาน พรุ่งนี้นายก็มาฝึกซ้อมกับพวกเราที่นี่ ฉันจะไปบอกหัวหน้าของนายเองว่านายไม่ต้องทำความสะอาดอีกต่อไปแล้ว” เมื่อเห็นไป๋ซานต่อสู้ชนะเรื่อยจนถึงขั้นไม่มีใครกล้าสู้กับเขา อาคาอินุก็พูดกับไป๋ซาน
"ครับท่าน ขอบคุณมากครับ"
ไป๋ซานมากที่กำลังจะได้เป็นส่วนหนึ่งของหัวกองทัพเรือหัวกะทิอย่างเป็นทางการ
ตอนนี้ในช่วงพัก ไป๋ซานรีบทานอาหารเสร็จแล้วก็รีบกลับไปที่ห้องพักของเขา
ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว และจะแข็งแกร่งขึ้นอีก เพราะงั้นคงเปิดกล่องที่ตาแก่หนวดเฟิ้มทิ้งไว้ให้ได้แล้วใช่ไหม?
ด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวัง ไป๋ซานเปิดกล่องไม้
ข้างในมีกระดาษจดหมายและแผ่นหินบางอย่างที่เหมือนจะสลักอะไรสักอย่างไว้
ไป๋ซานไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขารู้สึกว่าเขาอาจจะพอเดาได้
‘นี่อาจเป็นโพเนกลีฟในตำนาน!’
ทำไมตาแก่จากหมู่บ้านธรรมดาถึงมีของแบบนี้?
ไป๋ชานเลิกคิดและหยิบกระดาษจดหมายขึ้นมาอ่านก่อน
“ไป๋ซาน เมื่อเธอได้อ่านจดหมายนี้ ฉันคงตายไปแล้ว”
"ตอนนี้ถึงเวลาบอกความจริงบางอย่างกับเธอ"
"ชื่อของเธอก็มีตัว D เช่นกัน ชื่อจริงของเธอคือ จารอส ดี ไป๋ซาน"
"บางทีคุณอาจยังไม่รู้ว่า D ย่อมาจากอะไร ไปค้นหามัน! เอาโพเนกลีฟไปด้วย ไปค้นหาประวัติชีวิตของคุณและความจริงเกี่ยวกับโลกใบนี้!”
เมื่อเขาเห็นข้อความเหล่านี้ ไป๋ซานก็ประหลาดใจมาก
ทั้งเรื่องที่แผ่นหิวนั่นเป็นโพเนกลีฟจริงๆ แถมเขายังเป็นคนตระกูล "ดี" อีกด้วย
ดี ย่อมาจากอะไร ไป๋ซานไม่รู้ตั้งแต่ตอนดูอนิเมะแล้ว
กลายเป็นว่าพอมาถึงโลกนี้ก็ต้องมาตามหาความหมายของมันอีกหรอเนี่ย?
พล็อตแบบนี้เขาเกือบคิดว่าเขาเป็นตัวเองไปแล้วสะอีก
แต่พูดก็พูดเถอะ ตาแก่นั่นต้องไปธรรมดาแน่ๆ
ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแค่ตาแก่ธรรมดา น่าเสียดายจริงๆ
เขาเอาของเหล่านี้ใส่ในกระเป๋าส่วนตัวของเขา จากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียงและคลิ๊กไปที่ระบบบัพมืดของเขาเงียบๆ
“หลังจากการฝึกซ้อมการต่อสู้จริง ทักษะการต่อสู้ของโฮสต์ ก้าวพริบตา และ ดัชนีพิฆาต ได้ประสบความสำเร็จในการทะลวงไปสู่ขั้นชำนาญ และความก้าวหน้าในปัจจุบันคือ 0%” ไป๋ซานครุ่นคิดอย่างระมัดระวังในห้อง และพบว่าเขาสามารถควบคุมทั้งษะทั้งสองนี้ได้อย่างละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ แม้ตัวเขาเองจะรวดเร็ว แต่ทักษะมันก็ยังดูหยาบๆอยู่ดี
เหมือนตอนใช้โซล ฉันสามารถไปถึงเป้าหมายได้ แต่เปลี่ยนการเคลื่อนไหวกลางคันไม่ได้
แต่ตอนนี้ หลังฉันใช้ท่าโซลหรือก้าวพริบตาแล้ว ฉันสามารถเปลี่ยนจุดหมายช่วงกลางทางได้แล้ว