ตอนที่แล้วบทที่ 136
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 138

บทที่ 137


เจี่ยงซวี่รีบใส่นาฬิกาข้อมือกลับเข้าไปในกล่องอย่างรวดเร็ว ใส่ลงในถุงแล้วยัดใส่มือของเขา

หลินอันหลานไม่อยากรับ เจี่ยงซวี่กล่าวอย่างทำอะไรไม่ถูก "นายรับไว้เถอะ ไม่ว่านายจะสวมหรือไม่ ก็รับไว้ก่อนเถอะ"

หลินอันหลานถึงได้รับถุงของเขามาอย่างไม่เต็มใจ

เจี่ยงซวี่ยิ้มให้เขาอย่างเอาอกเอาใจ เฉิงอวี้มองดูและกล่าวอย่างราบเรียบ "นาฬิกาแบรนด์ R ซีรีส์หลุมดำรุ่นใหม่ล่าสุดก็ไม่เลวจริงๆ นั่นแหละ และก็ยังไม่ได้เปิดขายในตลาดอย่างเป็นทางการด้วย แต่ว่าไม่กี่เดือนก่อน ฉันได้รับนาฬิกาซีรีส์นี้มาแล้ว ราคาก็โอเค แต่ไม่ถึงกับว่าแพง อย่างน้อย เทียบกับเรือนที่ใส่อยู่บนมือของอันอัน แล้วถูกกว่ามาก"

“นายชอบไหม” เขาถามเจี่ยงซวี่ “ถ้าชอบละก็ พรุ่งนี้ฉันจะให้ผู้ช่วยของฉันคืนให้นายหนึ่งเรือน และยังแถมเพิ่มอีกเรือนให้กับนายได้ด้วย”

เจี่ยงซวี่ "..."

เจี่ยงซวี่กัดฟัน "ไม่จำเป็น"

"งั้นก็ช่างเถอะ"

เฉิงอวี้ก้มหน้ามองดูหลินอันหลาน "นายใส่ตอนเข้าห้องน้ำก็พอ แต่อย่าใส่ตอนออกอีเวนต์นะ ฉันกลัวว่ามันดีไม่พอสำหรับสถานะของนาย"

เจี่ยงซวี่โกรธมากอยากจะไปต่อยเขา "นี่มันเจ็ดหลักเชียวนะ!!! นายอย่ามาดัดจริตที่นี่!!"

"เจ็ดหลักต้นๆ ก็นับเป็นตัวเลขเจ็ดหลักเหรอ" เฉิงอวี้ประหลาดใจ "งั้นฉันคงตั้งเงื่อนไขสูงเกินไป ขอโทษนะ ลืมไปว่าเราไม่ใช่สถานะเดียวกัน"

เจี่ยงซวี่ "!!!!"

ทันใดนั้นหลินอันหลานมาขวางอยู่ด้านหน้าของเฉิงอวี้ ไม่ให้เจี่ยงซวี่ต่อยโดนเขา

เขามองใบหน้าของเจี่ยงซวี่ที่แดงก่ำด้วยความโกรธ และกล่าวอย่างลำเอียงว่า "พอได้แล้วนาย ก่อนจะกลับนายยังอยากจะต่อยคนอีก นายนี่เก่งกาจมากจริงๆ"

“เขาว่าฉันก่อนนี่!”

"แต่เขาก็รวยจริงๆ มันก็เป็นความจริงนี่”

“เสี่ยวหลาน!” เจี่ยงซวี่ช็อก “ทำไมนายพูดแบบนี้ล่ะ!”

ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เฉิงอวี้วิ่งเร็วในตอนเกิด ไปเกิดอยู่ในตระกูลเศรษฐีล่ะ

ตระกูลเฉิงก็รวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังไปรวมกับตระกูลอวี้ตระกูลของแม่ของเขาอีก ยิ่งไม่เป็นการกองเงินเพิ่มกองเงินเหรอ ฐานะของเขาตั้งอยู่โทนโท่ ถึงแม้คำพูดจะไม่รื่นหู แต่มันก็เป็นความจริง

“ยังไงก็แล้วแต่แค่นี้แล้วกัน ฉันไปละ”

เจี่ยงซวี่ช็อกมองดูเขาจากไปพร้อมกับเฉิงอวี้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แล้วเตะไปที่กำแพงอย่างแรงด้วยความโกรธ

ใครไม่อยากรวยกันล่ะ

เงินของเฉิงอวี้ก็คือเงินของเขาเหรอ

เงินของเขาก็น่าจะมีของตัวเองส่วนหนึ่งด้วย!

เขาสามารถคุยโวโอ้อวดในตอนนี้ได้ ก็เพราะว่าเขาเป็นลูกชายของเฉิงเฟิง เฉิงเฟิงยอมรับเขาเป็นลูกชาย!

แต่ว่า…

แต่ว่า...

จู่ๆ เจี่ยงซวี่ก็เศร้าขึ้นมา แต่ว่าเขาก็อยากมีพ่อเหมือนกัน การไม่มีพ่อเป็นความผิดของเขาเหรอ

ใครไม่อยากให้พ่อของตัวเองยอมรับตัวเองบ้างล่ะ

ทำไม พ่อของเขา ถึงไม่ยอมรับเขาล่ะ!

เจี่ยงซวี่ก้มหน้าลง มองดูพื้นที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า

แสงเหนือศีรษะค่อยๆ ดับลงไป เจี่ยงซวี่ยืนพิงอยู่ข้างกำแพงอย่างอ่อนแรงท่ามกลางความมืดมิด "เสี่ยวหลาน..."

เขาร้องเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่กลับไม่สามารถเรียกอีกฝ่ายให้กลับมาได้อีก

หลินอันหลานกับเฉิงอวี้ลงจากลิฟต์ มองดูนาฬิกาแล้วถามเฉิงอวี้ว่า "เราจะกลับกันตอนนี้เลยไหม"

“กลับกันเถอะ พรุ่งนี้เช้ายังต้องถ่ายละคร กลับบ้านละก็ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”

“งั้นไปที่บ้านฉันก่อนได้ไหม” หลินอันหลานเดินเข้ามาใกล้เขา “ฉันอยากจะไปเอารูปถ่ายของฉันหน่อย”

"ได้สิ"

เฉิงอวี้หอมเขาด้วยรอยยิ้มหนึ่งฟอด คาดเข็มขัดนิรภัยให้กับเขา และขับรถมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เขาพักอยู่อาศัย

สถานที่ที่หลินอันหลานพักอาศัย อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากบ้านของพ่อแม่ของเขา ใช้เวลาขับรถเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะมาถึงในที่สุด

หลินอันหลานลงจากรถ เฉิงอวี้เข้าไปในลิฟต์พร้อมกับเขา

เปิดประตูเสร็จ หลินอันหลานก็วิ่งไปยังห้องนอนของเขาโดยไม่ลังเล

เขาค้นหาในตู้ข้างเตียงของตัวเอง และเขาก็พบอัลบั้มรูปหลายอัลบั้ม เฉิงอวี้ช่วยเขาอุ้มมันไว้ หลินอันหลานทำการพลิกดูคร่าวๆ แต่ละอัลบั้มรูปหนามากและเต็มไปด้วยรูปถ่าย

เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง หากระเป๋าเป้เจอในห้องล็อกเกอร์ แล้วเก็บอัลบั้มรูปใส่เข้าไป "ไปกันเถอะ พวกเรากลับกัน"

"โอเค"

กว่าจะกลับถึงโรงแรมก็มืดแล้ว

นักแสดงที่อายุมากหน่อยเข้านอนไปนานแล้ว ส่วนนักแสดงวัยรุ่นยังคงทานมื้อดึกเฮฮาปาร์ตี้

หลินอันหลานกับเฉิงอวี้เหนื่อยกันมาทั้งคืน แทบไม่อยากจะขยับตัว จึงอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนชุดนอน แล้วนั่งลงบนเตียง

“นายไม่เคยเห็นรูปพวกนี้ของฉันสินะ” หลินอันหลานเทอัลบั้มรูปในกระเป๋าเป้ออกมา

เฉิงอวี้ส่ายหน้า "ไม่เคย"

“พอดีเลย ฉันเองก็จำไม่ได้แล้ว เรามาดูด้วยกันเถอะ”

"โอเค"

เฉิงอวี้นั่งอยู่ข้างเขา เปิดดูอัลบั้มรูปกับเขา ดูการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของเขา หัวใจเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

เขาไม่เคยนึกเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้มานั่งอยู่ข้างๆ หลินอันหลาน เปิดดูวันเวลาที่ผ่านไปของเขาด้วยกัน

เห็นได้ชัดว่าพ่อหลินแม่หลินชอบหลินอันหลานมาก ตอนเขาเด็กๆ ได้ถ่ายรูปของเขาไว้มากมาย และได้พาเขาไปยังสถานที่ต่างๆ

เฉิงอวี้ดูหลินอันหลานในภาพที่ยิ้มอย่างน่าเอ็นดู ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความสุข พ่อแม่ของเขายืนอยู่ข้างๆ เขา อุ้มเขาไว้สูงๆ และมองเขาด้วยความรัก

ในขณะเดียวกัน เขาก็มองเห็นเจี่ยงซวี่ที่อยู่ข้างๆ หลินอันหลาน เจี่ยงซวี่ดูเด็ก และยังน่ารักด้วย

เจี่ยงซวี่ปรากฏตัวที่บ้านของหลินอันหลาน ปรากฏตัวที่โรงเรียนของหลินอันหลาน ปรากฏตัวบนถนน ปรากฏตัวในสวนสาธารณะ และปรากฏตัวในทุก ๆ ที่ที่เฉิงอวี้ไม่เคยไป อิจฉาแต่กลับเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้

พวกเขาจับมือกันถ่ายรูป และชูสองนิ้วให้กับกล้อง

หลินอันหลานค่อยๆ เจริญเติบโต พ่อหลินแม่หลินก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ เจี่ยงซวี่เองก็ค่อยๆ เติบโตเป็นรูปลักษณ์ที่เขาคุ้นเคย

หลินอันหลานพลิกเปิดดูอย่างเงียบๆ เขาหยุดชะงักอยู่ที่รูปหนึ่ง มันเป็นรูปหมู่ที่ถ่ายในสวนสาธารณะ เขาที่ดูเด็กยืนอยู่ด้านหน้ากับเจี่ยงซวี่ ด้านหลังเขาคือพ่อแม่ของเขาและผู้หญิงที่งดงามคนหนึ่ง

ผู้หญิงคนนั้นดูอ่อนโยนมาก ผมสีน้ำตาล ยาวและตรงมาก และเธอกำลังยิ้มตาหยี

หลินอันหลานเห็นเงาของเจี่ยงซวี่บนใบหน้าของเธอ

เธอน่าจะเป็นแม่ของเจี่ยงซวี่

เฉิงอวี้เห็นเขาไม่ได้เปิดดูหน้าต่อไป จึงถามเขาขึ้น "ทำไมเหรอ"

หลินอันหลานจ้องผู้หญิงในรูปภาพแล้วกล่าวเบาๆ "พ่อของเจี่ยงซวี่ไม่อยู่"

เฉิงอวี้เงยหน้าขึ้นเหลือบมองเขาอย่างไม่รู้ตัว ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

หลินอันหลานไม่ได้สังเกตเห็น ความจดจ่อของเขายังคงอยู่ที่รูปถ่าย เขาบอกว่า "ฉันดูเหมือนจะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เอามากๆ"

เขาชี้ไปที่แม่ของเจี่ยงซวี่แล้วกล่าว น้ำเสียงแผ่วเบา แฝงด้วยความสงสัยเล็กน้อย

“ทำไม” เฉิงอวี้ถามเขา

“บอกไม่ถูก อาจจะไม่ถูกชะตามั้ง” หลินอันหลานกล่าว

เฉิงอวี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด